“หวังเฟย นายท่านไม่มีทางทำเช่นนี้อย่างแน่นอน มันเป็ไปได้อย่างไรกัน? ท่านลองถามทุกคนดูสิเพคะว่าผู้นำตระกูลใดกันที่อนุญาตให้บุตรสาวที่ออกเรือนแล้วกลับมาดูแลเื่ของตระกูล?”
ฮูหยินสวี่ตอบโต้หานอวิ๋นซีด้วยการเยาะเย้ย ทุกคนรอบตัวต่างพูดถึงเื่นี้เช่นกัน ฮูหยินสวี่มองไปที่อี้ไท่เฟย และถามอีกครั้งอย่างจริงจังว่า “อี้ไท่เฟย ท่านเชื่อข้อแก้ตัวนี้หรือไม่เพคะ?”
“ฮูหยินสวี่ ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านสงสัยข้าอย่างนั้นหรือ?” หานอวิ๋นซีถามด้วยความโกรธ
“ใช่!” ฮูหยินสวี่ทุ่มสุดตัว
เื่มาถึงจุดนี้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องทุ่มสุดตัว มิฉะนั้น เื่นี้ไม่เพียงจะทำให้เป้าหมายของนางล้มเหลว แต่จะทำให้ชื่อเสียงของหานอวิ๋นซีดียิ่งขึ้นไปอีก
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้นางไม่เพียงต้องได้กุญแจห้องเก็บของเท่านั้น แต่ยังต้องได้พบกับนายท่านด้วย หากได้พบนายท่าน ความจริงก็จะถูกเปิดเผยและหานอวิ๋นซีจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน!
ฮูหยินสวี่ไม่เพียงตอบคำถามของหานอวิ๋นซีต่อหน้าเท่านั้น ทว่ายังถามคำถามซ้ำอย่างจริงจังในตอนนี้ด้วย “อี้ไท่เฟย ท่านเชื่อหรือไม่?”
ต่อหน้าทุกคน นี่เป็จังหวะที่บังคับให้อี้ไท่เฟยตอบแม้ว่านางจะไม่อยากตอบก็ตาม ต้องรู้ว่าอี้ไท่เฟยมีสถานะพิเศษและปฏิกิริยาของนางต่อคำถามนี้อาจจะเป็ศิลาหนึ่งก้อนก่อเกิดระลอกคลื่นนับพัน[1]
นางไม่ชอบฮูหยินสวี่คนนี้แม้แต่น้อย หานอวิ๋นซีเองก็เพิ่งจะช่วยนางกู้หน้า แต่ในเวลาแบบนี้ นางยังคงยืนอยู่กับฮูหยินสวี่
หากหานอวิ๋นซีแทรกแซงเื่ของตระกูลตัวเองโดยไม่มีเหตุผลและโลภทรัพย์สินจริงๆ ละก็ ความผิดนี้ก็ไม่ใช่เื่เล็กน้อย และเป็ข้อแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉินอ๋องในการหย่า
อี้ไท่เฟยมองไปที่หานอวิ๋นซีจากนั้นมองไปที่ฮูหยินสวี่โดยแสร้งทำเป็ลังเลและไม่ตอบเป็เวลานาน ทุกคนรอบๆ พวกเขาเฝ้าดูอย่างเงียบๆ และรอ
ความลังเลใจของอี้ไท่เฟย ไม่ดีต่อหานอวิ๋นซีอย่างมาก มีแต่จะทำให้ทุกคนสงสัยในตัวนางมากขึ้น
มู่หรงหว่านหรูที่ยังคงยืนอยู่ข้างกายอี้ไท่เฟยมาตลอด ดูบอบบางอ่อนแอและไร้เดียงสา นางจับแขนของอี้ไท่เฟยและจงใจลดเสียงลงเล็กน้อย “หมู่เฟย ข้าว่าเื่มาถึงจุดนี้แล้ว ปล่อยมันไปเถอะเพคะ ท้ายที่สุดมันเป็เื่ของตระกูลหาน ให้พี่สะใภ้คืนกุญแจห้องเก็บของให้พวกเขาเถอะเพคะ”
แม้ว่านางจะลดเสียงลง แต่การลดเสียงลงเพียงเล็กน้อยนี้ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะให้ทุกคนรอบตัวได้ยิน
นางไม่พูดเสียยังดีกว่า พอพูดออกมา ความน่าสงสัยของหานอวิ๋นซีก็ยิ่งมากขึ้น เช่นนี้แล้วไม่ได้หมายความว่าหานอวิ๋นซีร้อนตัวและหวาดกลัวหรอกหรือ?
จากที่บริเวณโดยรอบเงียบสงบ ก็เกิดเสียงกระซิบกระซาบขึ้นทันที หานอวิ๋นซีที่เห็นทุกอย่างตรงหน้า ก็เย้ยหยันอยู่ในใจ มู่หรงหว่านหรู นี่เป็แผนของเ้าสินะ?
ดีมาก วันนี้ข้าจะแสดงแผนซ้อนแผนให้ดู!
ก่อนที่อี้ไท่เฟยจะได้อ้าปาก หานอวิ๋นซีก็พูดขึ้นมาก่อนว่า “หมู่เฟย แม้ว่าท่านจะเชื่อข้าในเื่นี้ก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรผู้คนก็มาโวยวายที่หน้าประตูแล้ว ข้ารับปากนางว่าจะพาไปพบท่านพ่อของข้า เช่นนั้นก็ไปกันตอนนี้เลยก็แล้วกัน! ไปเรียกคนอื่นๆ ในตระกูลหานมาด้วยล่ะ”
ไม่มีใครคาดคิดว่าหานอวิ๋นซีจะเด็ดขาดขนาดนี้ โดยเฉพาะฮูหยินสวี่ ในตอนที่หานอวิ๋นซีพูดว่าอีกสิบวัน นางก็ไม่เชื่อหานอวิ๋นซีอยู่แล้ว รู้สึกว่าหานอวิ๋นซีแค่ยืดเยื้อเวลาไป เมื่อวานเองก็ไม่เจอใครเลย นางจึงยิ่งแน่ใจว่าหานอวิ๋นซีโกหก
ใครจะรู้ว่าวันนี้นางจะกล้าไปศาลต้าหลี่ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้?
เป็ไปได้หรือไม่ว่านางมีวิธีจัดการเื่ต่างๆ ในศาลต้าหลี่อย่างนั้นหรือ?
ฮูหยินสวี่ขอร้องท่านพ่อของนางหลายครั้งให้ศาลต้าหลี่ผ่อนปรน และให้นางพบกับหานฉงอันอย่างลับๆ ก่อน แต่ศาลต้าหลี่ไม่เห็นด้วย เห็นได้ชัดว่านางกลัวหานอวิ๋นซี!
เมื่อคิดเช่นนี้ ฮูหยินสวี่ก็ไม่กล้าประเมินศัตรูต่ำไป พูดอย่างร้อนรนว่า “อี้ไท่เฟย หม่อมฉันอยากจะเชิญท่านให้ไปกับหม่อมฉันด้วยเพคะ”
“ทำไมล่ะ ท่านกลัวว่าข้าจะทำอะไรท่านหรือไร?” หานอวิ๋นซีเย้ยหยันอย่างเ็า
ฮูหยินสวี่เองก็ไม่เกรงใจ พูดอย่างประชดประชันว่า “ฉินหวังเฟยสามารถขัดขวางให้ตระกูลหานของข้าไม่ไปเยี่ยมที่คุกได้ ยังมีอะไรที่ทำไม่ได้ในศาลต้าหลี่อีกล่ะ?”
ไม่ว่าหานอวิ๋นซีจะมีสิทธิพิเศษมากเพียงใดในศาลต้าหลี่ ตราบใดที่อี้ไท่เฟยถูกเชิญไปด้วย ฮูหยินสวี่ก็ไม่เชื่อว่าหานอวิ๋นซีสามารถปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว[2]ได้อย่างแน่นอน!
“ฮูหยินสวี่ โปรดพูดกับข้าอย่างสุภาพด้วย!” หานอวิ๋นซีแสร้งทำเป็โกรธ
เมื่อเห็นเช่นนี้ อี้ไท่เฟยเลยคิดว่านางกำลังร้อนตัว จึงพยักหน้าตกลง “ตกลง เพื่อความยุติธรรม ข้าจะไปกับเ้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ บริเวณโดยรอบก็มีเสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาทันใด
“อี้ไท่เฟย ท่านต้องให้ความยุติธรรมแก่ตระกูลหาน! ตระกูลหานจะตกไปอยู่ในมือของคนนอกไม่ได้!”
“ไท่เฟย หม่อมฉันเชื่อว่าท่านจะจัดการเื่นี้อย่างเป็กลาง โปรดให้ฉินหวังเฟยอธิบายด้วยเพคะ!”
“ไปกันเถอะ เราไปรอที่ประตูศาลต้าหลี่กัน ความจริงจะเปิดเผยในไม่ช้า จะได้ไม่ใส่ร้ายคนดี และจะปล่อยคนเลวทรามไร้ยางอายเ่าั้ไปไม่ได้!”
…
คำพูดเหล่านี้มาจากหลากหลายทิศทาง สร้างแรงจูงใจขึ้นมาอย่างมาก ผู้พูดต่างล้วนซ่อนอยู่ในฝูงชนที่ถูกจัดแจงไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว
คำพูดไม่น่าฟังเช่นนี้ไม่ว่าใครก็โกรธทั้งนั้น แต่หานอวิ๋นซีไม่โกรธ ไม่มีใครรู้ว่านางรอคอยให้ความจริงที่ถูกเปิดเผยมากกว่าฮูหยินสวี่เสียอีก
อี้ไท่เฟยออกคำสั่งให้เตรียมรถม้าทันที และไปที่คุกของศาลต้าหลี่พร้อมกับหานอวิ๋นซีและฮูหยินสวี่
อี้ไท่เฟยที่มาด้วยตนเอง ใต้เท้าโอวหยาง เ้าหน้าที่คนใหม่ของศาลต้าหลี่ก็รีบนำผู้คนไปต้อนรับนางที่ประตู
เมื่อได้ยินว่าอี้ไท่เฟยมาเพื่อเื่ของตระกูลหาน ใต้เท้าโอวหยางก็รู้สึกไม่สบายใจ ฝั่งหนึ่งคือฉินหวังเฟยผู้ช่วยชีวิตไท่จื่อ ส่วนอีกฝั่งก็คือลูกสาวของสวี่ซ่างชูผู้มีพระคุณ เขาไม่คาดคิดฮูหยินสวี่จะทำให้เื่นี้กลายเป็เื่ใหญ่จริงๆ ตอนนี้เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งสองฝ่าย
อี้ไท่เฟยเป็ผู้สูงส่ง จะเดินเข้าไปในคุกโสโครกได้อย่างไรกัน?
ใต้เท้าโอวหยางต้อนรับพวกเขาที่หน้าที่ทำการของศาลต้าหลี่ จากนั้นก็สั่งให้คนรับใช้ของเขาพาหานฉงอันมาที่นี่
อี้ไท่เฟยนั่งลงบนที่นั่งสูง ใต้เท้าโอวหยางนั่งทางฝั่งซ้าย หานอวิ๋นซีและมู่หรงหว่านหรูนั่งทางขวาเรียงไป ส่วนฮูหยินสวี่ยืนอยู่คนเดียว
ก่อนที่หานฉงอันจะถูกพาตัวออกมา คนของตระกูลหานก็รีบมาทันทีเมื่อได้ยินข่าว คุณชายใหญ่หานอวี้ฉี อี๋เหนียงสามและคุณหนูรองหานรั่วเสวี่ย อี๋เหนียงเจ็ดและหานหยุนอี้เองก็มาเช่นกัน
หลังจากทำความเคารพอี้ไท่เฟยแล้ว ทุกคนต่างยืนอยู่ข้างๆ อาการาเ็ที่บั้นท้ายของหานอวี้ฉีนั้นหายเป็ปกติแล้ว และเขาก็ยังดูเหมือนชายหนุ่มอ้วนท้วมลูกคนรวยที่วันๆ ไม่ทำอะไร และดูเหมือนจะมั่นใจสำหรับเื่ในวันนี้ เขาก้าวออกมากระซิบกับฮูหยินสวี่และไม่ลืมที่จะเตือนหานอวิ๋นซี
หานอวิ๋นซีที่ไม่้ายุ่งกับคนไร้สมอง นางมองไปที่อี๋เหนียงเจ็ดและเสี่ยวอี้เอ๋อร์
เห็นได้ชัดว่าสองแม่ลูกไม่เคยเจอเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้มาก่อน โดยเฉพาะอี๋เหนียงเจ็ดที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดด้วยใบหน้าหม่นหมอง กอดเสี่ยวอี้เอ๋อร์ไว้แน่น ขดตัวเหมือนลูกสะใภ้ตัวน้อย
ในบรรดาคนกลุ่มนี้ สองแม่ลูกอี๋เหนียงสามหลี่ซื่อเป็คนที่วางตัวดีที่สุด ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ ก้มศีรษะลงเงียบๆ
หานอวิ๋นซีแอบมองไปที่อี๋เหนียงสาม นางนึกไปถึงนักฆ่าหญิงสวมหน้ากากชื่อชิงอี และรู้สึกว่ามีรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน ยิ่งมองไปก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าหลี่ซื่อคือนักฆ่าคนนั้น
แน่นอนว่าสัญชาตญาณไม่สามารถใช้เป็หลักฐานได้ หลังจากตรวจสอบกระป๋องชาแล้วเท่านั้นจึงจะจับตัวนางได้
ในขณะที่ครุ่นคิด หานอวิ๋นซีก็มองไปที่คุณหนูรองหานรั่วเสวี่ยที่เป็ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในตอนแรก เมื่อพบกระป๋องชา หานอวิ๋นซีก็มั่นใจมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยว่าคนที่วางยาต้องเป็นาง
พิษงูหมื่นตัวคงถูกส่งจากคุณหนูรองไปยังมู่หลิวเยวี่ย จากนั้นจึงส่งไปที่จวนแม่ทัพ
แต่หานรั่วเสวี่ยรู้วิชาพิษด้วยหรือ? รู้ศิลปะการต่อสู้ด้วยหรือ? ทว่านักฆ่าหญิงที่ชื่อเฮยซาคนนั้นไม่เหมือนหานรั่วเสวี่ยแม้แต่นิดเดียว
เกิดความโกลาหลขนาดนั้นนอกจวนฉินอ๋องเมื่อครู่ ทว่าหลงเฟยเยี่ยกลับไม่ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว แน่นอนว่าหานอวิ๋นซีไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมากอบกู้สถานการณ์ แต่นางแค่อยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้!
ในเวลานี้ ฉู่ชีเฟิงคงจะส่งรายงานการตรวจสอบกระป๋องชาให้กับหลงเฟยเยี่ยแล้วใช่หรือไม่? หากได้รับการยืนยันว่ามีพิษ ทั้งยังมีปี้ลวี่เป็พยาน เชื่อว่าคงสามารถจับกุมได้ในไม่ช้า
ตอนนี้ในเมืองหลวง แม้ว่านักฆ่าหญิงในชุดเขียวจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยากที่จะหลบหนีจากมือของหลงเฟยเยี่ย
หานอวิ๋นซี้าค้นหาความจริงและค้นหาผู้กระทำผิดจริงๆ ในใจก็เฝ้ารอหลงเฟยเยี่ยให้ลงมืออย่างเงียบๆ!
แน่นอน ตอนนี้เวลานี้ในห้องโถงศาลต้าหลี่ หานอวิ๋นซีไม่มีทางแหวกหญ้าให้งูตื่นทำให้อี๋เหนียงสามใ อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาอีกสามวันก่อนจะจบการเดิมพัน ดังนั้นนางจึงสามารถแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้านางได้อย่างสบาย
ระยะทางจากคุกถึงห้องโถงต้องรอสักพักหนึ่ง
การรอคอยนี้ดูยาวนานสำหรับทุกคน ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบ
ทันใดนั้น หานอวิ๋นซีก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ใครก็ได้ ไปหาเก้าอี้ให้คุณชายเจ็ดแห่งตระกูลหานนั่งหน่อยสิ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนในตระกูลหานก็มองไป คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ รู้สึกอึดอัดอย่างมาก พวกเขามองไปที่อี้ไท่เฟย จากนั้นมองไปที่ใต้เท้าโอวหยาง ไม่รู้ว่าควรจะให้ที่นั่งหรือไม่
ท้ายที่สุดแล้ว อี้ไท่เฟยก็มีสถานะสูงสุด เมื่อครู่นางก็ไม่ได้เชิญนั่ง การที่ฉินหวังเฟยทำเช่นนี้ในตอนนี้ มันไม่เหมาะสมไม่ใช่หรือ?
เมื่อเห็นว่าอี้ไท่เฟยเงียบ ใต้เท้าโอวหยางเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกัน ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนคนรับใช้เองก็ไม่ขยับตัวเช่นกัน
“ใต้เท้าโอวหยาง เ้าหยิ่งยโสจนไม่ฟังคำสั่งข้าแล้วสินะ?” หานอวิ๋นซีพูดอย่างไม่พอใจ
ใต้เท้าโอวหยางมองไปที่อี้ไท่เฟยอีกครั้ง แต่อี้ไท่เฟยก็ยังคงนิ่งเฉย ใต้เท้าโอวหยางที่ไม่มีทางเลือกก็ได้แต่ดุคนใช้ด้วยความโกรธว่า “โง่หรือไร? ไม่ได้ยินที่หวังเฟยสั่งหรือ? ยังไม่รีบไปหาที่นั่งอีก!”
พวกคนชั้นสูงนี่รับใช้ยากเหลือเกิน! คนรับใช้ใจนเหงื่อแตกพลั่ก รีบเลื่อนเก้าอี้ให้เสี่ยวอี้เอ๋อร์โดยไม่รอช้า
เสี่ยวอี้เอ๋อร์แอบดีใจ เขาผละจากมือมารดา ก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับอย่างสง่างาม “ขอบพระทัยอี้ไท่เฟย ขอบพระทัยหวังเฟย!”
ในขณะนี้ อี้ไท่เฟยจึงจะมองไป ทว่าก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ดื่มชาและพลิกดูเอกสารการพิจารณาคดีบนโต๊ะด้วยความสนใจอย่างมาก
“ไม่เป็ไร นั่งลงเถอะ” เสียงของหานอวิ๋นซีนุ่มนวลขึ้นเล็กน้อย เสี่ยวอี้เอ๋อร์เองก็ทำตัวดีไม่ได้ทำให้นางเสียหน้าแต่อย่างใด
เสี่ยวอี้เอ๋อร์นั่งลงอย่างมีความสุข มีสมาชิกตระกูลหานมากมาย แต่เขาเป็คนเดียวที่นั่งอยู่และเขายังเป็รุ่นน้องของลูกอนุคนอื่นๆ ในโลกที่มีลำดับชั้นเข้มงวด นี่เป็การตบหน้าคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย!
หานอวี้ฉีรีบกระซิบในทันที “ท่านแม่ หานอวิ๋นซีหมายความว่าอย่างไร! ทำเกินไปแล้วหรือไม่ ท่านไม่ได้บอกว่าอี้ไท่เฟยกำลังช่วยพวกเราหรือไร?”
ฮูหยินสวี่เองก็โกรธเช่นกัน นางขยิบตาให้มู่หรงหว่านหรู เมื่อมู่หรงหว่านหรูจ้องกลับมา นางก็มองไปอีกครั้งและขยิบตาอีกที หากยังเป็เช่นนี้ต่อไป ต้องถูกจับได้อย่างแน่นอน
มู่หรงหว่านหรูที่ไม่พอใจอย่างมาก ทว่าก็ไม่สามารถตำหนิได้ ดังนั้นจึงได้แต่ทำตามความปรารถนาของฮูหยินสวี่
“หมู่เฟย จะปล่อยให้เด็กนั่งในขณะที่ผู้าุโยืนอยู่ได้อย่างไรกันเพคะ? ข้าว่า พวกเขาควรได้นั่งทั้งหมดหรือไม่เพคะ?” มู่หรงหว่านหรูพูด
ในขณะเดียวกัน อี้ไท่เฟยก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างเกียจคร้าน ทว่าแค่เหลือบมองไปที่ตระกูลหานโดยไม่พูดอะไร
อี้ไท่เฟยมาที่ศาลต้าหลี่เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับตระกูลหาน แต่ความจริงแล้วนางมาเพราะหานอวิ๋นซี นางไม่ได้สนใจตระกูลหานเลยแม้แต่น้อย ั้แ่คนของตระกูลหานเข้ามาจนถึงตอนนี้นางก็ไม่เหลียวมองเลยสักนิด
---------------------------------------
[1] ศิลาหนึ่งก้อนก่อเกิดระลอกคลื่นนับพัน เป็อุปมาว่า การกระทำแม้เพียงเล็กน้อยสร้างผลกระทบมากมาย
[2] ปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว เป็อุปมาว่า ปิดบังความจริงทุกอย่างไว้โดยไม่ให้ใครรู้
