ตอนเช้า แม่นมโจวเห็นฮูหยินผู้เฒ่าจูยินดีก็เตือนว่าวันนี้คือวันครบรอบวันเสียชีวิตของเฉิงจือหย่วน เอ่ยถามฮูหยินผู้เฒ่าว่าต้องไปแสดงความเคารพหรือไม่
พอฮูหยินผู้เฒ่านึกถึงลูกเลี้ยงที่ตายมาครบปีแล้วยังไม่อาจถูกฝัง แต่บุตรชายแท้ๆ กลับได้เลื่อนขั้นเป็เ้าเมืองขั้นสี่ ก็ได้แต่รู้สึกว่าฟ้ามีตา
“ไม่ต้องไปเซ่นไหว้หรอก ใกล้สิ้นปีแล้ว ไม่กลัวได้ไออัปมงคลติดมาหรือ!”
แม่นมโจวลอบกังวล
หากไม่ส่งของเซ่นไหว้ไป ผู้คนด้านนอกที่ชอบซุบซิบนินทาก็จะกล่าวหาว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีเมตตาอีก
รอฮูหยินผู้เฒ่าได้สติกลับคืนมาก็ย่อมโทษนางที่ทำเสียเื่
แม่นมโจวกำลังลำบากใจว่าจะต้องแอบส่งของเซ่นไหว้ไปหลอกหรือไม่อยู่นั้น พลันได้ยินคนะโโหวกเหวกว่าครอบครัวถูกจับแล้ว บ้านโลงศพที่เก็บโลงศพของเฉิงจือหย่วนก็ถูกปิดตายแล้ว แม่นมโจวตกตะลึง อย่าบอกนะว่าเทพเซียนช่วยเหลือบ้านรองอยู่จริงๆ เื่นี้นางไม่ต้องลำบากใจแล้ว
บ้านโลงศพถูกปิดตายแล้ว ผู้ใดก็ไม่สนใจว่าบ้านรองจะส่งหรือไม่ส่งของเซ่นไหว้!
ท่านสามเฉิงจือซู่ก็เร่งรีบกลับจวนตรงเข้าห้องไปในทันที
“ท่านแม่ ในจดหมายของพี่รองได้กล่าวถึงเื่นี้หรือไม่ พวกเราควรรับมืออย่างไรดี?”
เฉิงจือซู่ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น เ้าเมืองอวี๋พาเ้าหน้าที่มาปิดตายบ้านโลงศพทั้งยังพาครอบครัวเฉิงชิงไป ย่อมไม่ใช่เพราะเฉิงชิงและอวี๋ซานขัดแย้งกันแน่นอน เื่เล็กน้อยแค่นั้นไหนเลยจะควรค่าให้เ้าเมืองอวี๋ออกหน้าเองต่อหน้าผู้คน
บ้านโลงศพที่ตั้งโลงศพของเฉิงจือหย่วนถูกปิดตาย ก็มีแต่คดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเท่านั้น!
เฉิงจือซู่ร้อนใจนึกถึงข้อสังเกตบางอย่าง คดีนี้ตรวจสอบไปตรวจสอบมาคงไม่เกี่ยวพันมาถึงบ้านรองด้วยหรอกนะ?
แต่เฉิงจือหย่วนก็แยกบ้านไปนานแล้ว เฉิงชิงเชิญดวงิญญากลับบ้านเกิด บ้านรองก็ไม่ได้อนุญาตให้โลงศพเข้าประตู ตามเหตุผลนี้ก็ถือว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเฉิงจือหย่วนไปแล้ว
แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้เต็มปาก
นายอำเภอที่ทำลายตระกูล เ้าเมืองที่ล้างผลาญครอบครัว หากผู้อื่นคิดจะบีบคั้นเอาผลประโยชน์ บ้านรองก็หนีไม่พ้นเช่นกัน
ฮูหยินผู้เฒ่าจูก่อนหน้านี้ค่อนข้างไม่สบายใจ แต่ก็กลับมาตระหนักได้แล้ว
“เลอะเลือนใหญ่แล้ว พี่รองเ้าเพิ่งจะได้เลื่อนขั้น เห็นได้ชัดว่าราชสำนักไม่ได้นำเขาและเฉิงจือหย่วนมารวมกัน พวกเราไม่ได้รับผลกระทบเท่าใดหรอก!”
หากจะกล่าวว่าเื่อื่นฮูหยินผู้เฒ่าจูอาจจะร้อนตัว แต่นางไม่กลัวคดีเฉิงจือหย่วนยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแม้แต่น้อย
เฉิงจือหย่วนเข้ากับนางผู้เป็มารดาเลี้ยงไม่ได้ ถึงจะยักยอกมากขึ้นอีกก็ไม่มีทางจะนำเงินมาให้นางใช้จ่าย เมื่อไม่เคยรับเงินสกปรกมา ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่รู้สึกกลัวแล้ว
เมื่อเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าจะไม่พัวพันมาถึงบ้านรอง ฮูหยินผู้เฒ่าจูก็มีอารมณ์จะดูเื่สนุกแล้ว
สั่งคนให้ไปสอบถามอย่างละเอียด บ้านโลงศพถูกปิดตายจริงๆ ทั้งหมดถูกเ้าหน้าที่ที่ถือดาบคุมตัวไป แม้แต่แมลงวันสักตัวก็อย่าคิดจะบินเข้าไป
ทั้งครอบครัวเฉิงชิงกลับไม่ถูกจับขังคุกใหญ่ แต่ถูกกักบริเวณที่ตรอกหยางหลิ่ว
เ้าหน้าที่คุมอยู่ที่ประตูทางออกด้านหน้าและด้านหลัง ไม่อนุญาตให้ครอบครัวเฉิงชิงออกไปและไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา เหล่าเพื่อนบ้านต่างใจนไม่กล้าโผล่หัว แววตาที่เ้าหน้าที่เหล่านี้มองคนราวกับหมาป่าราวกับเสือก็ไม่ปาน มองดูผู้ใดก็เหมือนกับเป็ผู้สมรู้ร่วมคิดกับครอบครัวเฉิงชิงทั้งสิ้น
ฮูหยินผู้เฒ่าจูมีความสุขเป็พิเศษ
“เ้าเดรัจฉานน้อยนั่นควรจะได้รับบทเรียนตั้งนานแล้ว ท่านเ้าเมืองอวี๋ยังมีใจเมตตาไม่ส่งพวกนางทั้งบ้านขังในคุกใหญ่!”
ร่างกายเล็กแกร็นบอบบางเช่นเฉิงชิงนั้น หากถูกตีสองไม้กลางโถงก็คงทนไม่ไหวแล้ว
ยังมีนางหลิ่วและบุตรสาวทั้งสาม การมีรูปโฉมงดงามในยามนี้จะกลายเป็ความผิดพลาด หากต้องเข้าคุกใหญ่จริงๆ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของมารดาบุตรสาวทั้งสี่ก็ไม่เหลือแล้ว!
แม่นมโจวท่องอมิตตาพุทธอยู่หลายครั้งภายในใจ
นางเคยบอกแล้ว เฉิงชิงผู้นั้นชะตาชีวิตไม่ดี เกิดมาเป็บุตรชายของเฉิงจือหย่วน
ได้ยินว่าเมื่อสองวันก่อน เ้าเด็กเวรนั่นสอบได้สิบอันดับแรกของห้องเรียนตัวอักษรติง ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็มีโอกาสอย่างมากที่จะได้คุณวุฒิซิ่วไฉ ไหนเลยจะรู้ว่าราชสำนัก้าจะสอบสวนคดีเงินช่วยเหลือภัยพิบัติใน่เวลาสำคัญนี้ ช่างน่าใอะไรเช่นนี้ ยังจะมีโอกาสสอบซิ่วไฉอะไรอีก!
เห็นได้ชัดว่าไร้ซึ่งโชคชะตา
เ้าเมืองอวี๋ได้รับราชโองการแล้วก็ไปอำเภอหนานอี๋ พอเขาจัดการเื่ราวเรียบร้อยแล้ว จวนอวี๋ถึงรู้ว่าเขาทำอะไรลงไป
อวี๋ซานหลังจากถูกไม้ฟาดก็ถูกขังไว้ในบ้าน ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมา เขารักษาตัวอยู่เกินครึ่งเดือน บัดนี้ถึงค่อยรู้สึกว่าบั้นท้ายไม่เจ็บขนาดนั้นแล้ว
กลับสถานศึกษาไม่ได้ชั่วคราว เ้าเมืองอวี๋ก็ได้เชิญอาจารย์มาสอนอวี๋ซานที่บ้าน อวี๋ซานก็ทำตัวเกียจคร้านไม่ให้ความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง
วันที่สองที่ครอบครัวเฉิงชิงถูกกักบริเวณ อวี๋ซานถึงค่อยรู้ข่าวนี้ เขาพลันรู้สึกว่าท้องฟ้าสดใสแล้ว กับข้าวที่ห้องครัวส่งมาให้ก็สุดแสนจะหอมหวาน ทำอะไรก็ล้วนมีเรี่ยวแรง
เพราะเ้าเมืองอวี๋ไม่สนใจ เขาจึงจงใจไปขอคำยืนยันจากฮูหยินาุโอวี๋
ฮูหยินาุโอวี๋โอบกอดหลานรักพลางเอ่ยเสียงเบา “บิดาเ้ายังรักเ้า เ้าไม่อาจไปสถานศึกษา เ้าเฉิงชิงนั่นเองก็ไปไม่ได้ รอราชสำนักตัดสินความผิดของเฉิงจือหย่วนแล้ว เขาก็จะไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะสอบเ้ารับราชการ ไหนเลยจะกล้าอยู่ต่อหน้าเ้า? จะปีใหม่แล้ว เ้าก็สงบจิตใจอยู่บ้านรักษาตัว รอวันที่อากาศอบอุ่นกว่านี้แล้วค่อยกลับไปสถานศึกษาอย่างยิ่งใหญ่!”
ทายาทขุนนางต้องโทษไม่มีคุณสมบัติที่จะสอบเข้ารับราชการ
หากเฉิงจือหย่วนถูกกำหนดความผิด ตัวเฉิงชิงเองจะไม่ยอมออกจากสถานศึกษาก็ไม่ได้ สถานศึกษาย่อมต้องชิงไล่เขาออกอย่างหมดจด
อวี๋ซานไม่คิดเลยว่าความแค้นใหญ่หลวงของตนจะได้รับการชำระรวดเร็วขนาดนี้ ยังโต้แย้งคำของท่านย่าจากจิตใต้สำนึก
“บิดาข้าไม่ได้ชำระแค้นให้ข้า เขารักและทะนุถนอมชื่อเสียงที่สุด ไหนเลยจะยื่นด้ามดาบให้ผู้อื่น ย่อมต้องฟังคำสั่งจากเบื้องบนเป็แน่”
ฮูหยินาุโอวี๋ส่งเสียงฮึ่ม “เ้าจะสนอะไรกับเหตุผลเล่า ถึงอย่างไรครอบครัวนั้นก็ถูกขังแล้ว ความทรมานที่เ้าได้รับ เฉิงชิงก็ควรได้รับด้วยเช่นกัน”
เกรงว่าจะอนาถกว่าหลานรักของนาง
เสี่ยนเกอได้รับาเ็ ภายในเมืองสามารถเชิญหมอดีมาใช้ยาดีได้ กล่าวว่าถูกขังอยู่ที่บ้าน ก็ยังมีคนส่งของอร่อยมาให้กินให้ดื่ม มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ครอบครัวของเฉิงชิงนั้นไม่มีการดูแลเช่นนี้
มีคนที่รอซ้ำเติมชมเื่ตลกของครอบครัวเฉิงชิงอยู่ ทว่าแท้จริงแล้วเฉิงชิงไม่ได้อนาถเหมือนที่พวกเขาจินตนาการไว้
ก็แค่การกับบริเวณเพื่อตรวจสอบ คนทั้งครอบครัวยังอยู่ภายในเรือนเดียวกัน ไม่มีใครถูกทรมานเพื่อสอบสวน นอกจากว่าไม่อาจออกนอกบ้านแล้ว ความเป็อยู่ก็เหมือนจะไม่ได้ต่างไปจากเดิม
ถูกกักบริเวณวันที่สอง นางหลี่แห่งบ้านห้าก็ให้คนมาส่งข้าว บะหมี่ เนื้อและผักสดที่ตรอกหยางหลิ่ว
สิ่งของที่เข้าประตูก็ถูกตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก เนื้อแพะดีๆ ถูกเ้าหน้าที่ใช้ดาบสับจนเละ แม้แต่หัวไชเท้าก็ถูกหั่นเป็หลายแว่น สิ่งของหนึ่งกองถูกทำให้เสียหายจนไม่เหลือดีจึงได้รับอนุญาตให้ส่งเข้ามาได้
นี่คือการขัดขวางการลอบส่งข่าว
“เวลานี้ ยังคงเป็ท่านย่าเ้าที่ไม่กลัวจะถูกไออัปมงคลติดตัว ส่งสิ่งของมาให้พวกเรา”
นางหลิ่วลูบหัวไชเท้าที่ถูกสับจนแหละพลางถอนหายใจ
ภายในบ้านใช่ว่าจะไม่เหลือแม้แต่ธัญพืชเก็บไว้แม้แต่น้อย นางหลี่ยิ่งไม่ยอมให้พวกนางอดตายจริงๆ สั่งให้คนส่งของมาให้ ความผูกพันทางจิตใจระหว่างญาติเหนือกว่ามูลค่าของตัวสิ่งของ
เฉิงชิงเองก็จดจำไว้ในใจ “ท่านแม่ ข้าจะค่อยๆ ตอบแทนบุญคุณของบ้านห้าขอรับ”
เ้าเมืองอวี๋ให้คนปิดตายถนนแล้ว หน้าต่างของห้องใต้หลังคาก็ถูกตอกตะปูปิดตาย เ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตลอดสิบสองชั่วยาม เฉิงชิงย่อมไม่มีทางติดต่อกับภายนอก วันนั้นเดิมซือโม่ก็ไปบ้านโลงศพกับพวกนางด้วย ยามนั้นก็ถูกพาตัวไป จนถึงบัดนี้ยังไม่มีข่าวคราว
เกรงว่าซือเยี่ยนที่อยู่ที่ตำบลอู่ซินก็หนีไม่รอดเช่นกัน ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวนางล้วนถูกควบคุมตัวไว้แล้ว
ครอบครัวเฉิงชิงถูกกักบริเวณในวันที่เก้าเดือนสิบสอง รอถึงวันที่สิบสามเดือนสิบสอง ผู้ตรวจการพิเศษของศาลต้าหลี่ยังคงมาไม่ถึงหนานอี๋ เฉิงชิงเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว นางขอเ้าพนักงานที่เฝ้ายามให้นำข้อความไปบอกเ้าเมืองอวี๋
ความคิดของเ้าเมื่องอวี๋มองว่าอย่างไรเสียเฉิงชิงก็ยังคงเป็เด็ก ไม่ต้องพูดถึงเข้าคุกใหญ่ ถูกขังเข้าหลายวันก็รู้จักที่จะกลัวแล้วสินะ
“พูดเถอะ เฉิงชิง้าส่งข้อความอะไร ผู้ตรวจการพิเศษของศาลต้าหลี่ยังมาไม่ถึง ข้าก็ไม่กล้าที่จะปล่อยเขาออกมา”
เ้าพนักงานเอ่ยตอบ “ใต้เท้าขอรับ เ้าหนุ่มเฉิงฝากข้าน้อยมาถามท่านว่า เขามีตำรามากมายที่ทิ้งไว้ที่สถานศึกษา ไม่ทันได้เก็บกลับมา ท่านสามารถสั่งคนให้นำไปส่งให้เขาที่ตรอกหยางหลิ่วได้หรือไม่ เขาไม่อยากให้การสอบระดับอำเภอในปีหน้าต้องล่าช้าออกไปขอรับ”
