ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ฟักเชื่อมหวานเจี๊ยบราวกับอมน้ำผึ้งทั้งโหลไว้ในปาก

        หลังถูกยัดฟักเขียวใส่ปากสองชิ้น พวงแก้มผอมตอบของเซวียเสี่ยวเหล่ยก็ตุ่ยออกสองข้าง สีหน้าคล้ายยิ้ม แต่ก็คล้ายร้องไห้ในคราวเดียวกัน หัวคิ้วขมวดราวกับคนแก่

        เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นแล้วก็หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง

        "เสี่ยวเหล่ย เป็๞อย่างไร ฟักเชื่อมอร่อยหรือไม่"

        เซวียเสี่ยวเหล่ยหน้าเสียอยู่บ้าง ตามเหตุผลแล้ว กล่องฉวนเหองามวิจิตรเช่นนี้ ของด้านในควรเป็๲ของอร่อยมากถึงจะถูก แต่ทว่า...

        "พี่สาว จะว่าอร่อยก็อร่อยอยู่ขอรับ เพียงแต่หวานไปหน่อย"

        เหมือนอย่างคำกล่าวของพี่สาว หวานจนน้ำตาแทบไหล

        อูหลันฮวาตามอยู่ด้านหลังเซวียเสี่ยวหรั่น เห็นกล่องฉวนเหอก็กลืนน้ำลาย แต่ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบ

        นางเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน สาวใช้ของผู้อื่นหากเ๽้านายไม่ขยับ หรือออกคำสั่ง ก็จะไม่ทำสิ่งใดส่งเดช นางต้องฝึกให้ชิน

        "หลันฮวา เ๯้าชิมสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นส่งฟักเชื่อมเข้าปากนาง

        "เ๽้าค่ะ" อูหลันฮวายิ้มร่า ต้าเหนียงจื่อให้เองกับมือ ย่อมต้องรับตามความเหมาะสม

        พอชิมไปได้หนึ่งคำ ไอ้หยา... หวานจริงๆ หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งป่าหลังเขาที่นางเคยกินเสียอีก

        "อร่อยไหม?" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพลางเอ่ยถาม

        "อร่อย" อูหลันฮวาตอบอย่างหนักแน่น

        ความชอบระหว่างบุรุษกับสตรีต่างกันมาก

        ยามเซวียเสี่ยวหรั่นส่งฟักเชื่อมให้ให้เหลียนเซวียน เขาขมวดคิ้วพลางสั่นศีรษะอย่างรังเกียจ

        เห็นปฏิกิริยาของเขาแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็หัวเราะคิกคัก หยิบใส่ปากชิมชิ้นหนึ่ง หลังจากนั้นก็เบ้ปาก นี่ก็ไม่ใช่รสชาติที่เธอชอบเหมือนกัน

        "ยาเย็นแล้ว ดื่มก่อนเถอะ" เหลียนเซวียนเคาะโต๊ะ เตือนให้นางดื่มยา

        "ข้าเพิ่งกินของหวานเสร็จ..." เขาก็จะให้กินของขมเสียแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นทำตาเขียวใส่

        "กินยาเสร็จค่อยกินของหวาน ไม่ดีหรือ" เหลียนเซวียนไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกว่ากัน

        เอาเถอะ จ่ายเงินซื้อยาแล้วก็ต้องกิน เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่งอแง ดื่มอึกๆ เข้าไปคำเดียว

        "ต้าเหนียงจื่อ กินน้ำตาลเ๯้าค่ะ" อูหลันฮวารีบยกกล่องฉวนเหอให้นางเลือกผลไม้แห้งที่ถูกใจ

        เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบพุทราเชื่อมใส่ปาก ดับความขมเฝื่อนในปากลงไป

        "ของหวานเช่นนี้เหมาะที่จะกินเวลาแบบนี้ล่ะ"

        เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ชอบผลไม้แห้งหวานจัดประเภทนี้สักเท่าไร

        "ต้าเหนียงจื่อ อันนี้ก็ร่อยมาก" อูหลันฮวาแปลกใจอยู่บ้าง ของอร่อยขนาดนี้ ต้าเหนียงจื่อกลับไม่ชอบกิน

        "เ๽้าชอบ ก็เอาไปกินสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นรินน้ำชาใส่ถ้วยให้ตัวเอง

        "ชาเย็นแล้ว" เหลียนเซวียนมุ่นคิ้ว

        "เย็นสิถึงจะดี" เซวียเสี่ยวหรั่นดื่มเข้าไปรวดเดียว ขับรสชาติหวานเลี่ยนลงไปจนหมด

        "สตรีไม่ควรดื่มของเย็น" เหลียนเซวียนถลึงตาใส่นาง แต่ละเดือนนางปวดท้องใช่เบาเสียเมื่อไร

        "นี่ก็อุ่นปรกติ ไม่เห็นจะเย็นตรงไหนเลย" เซวียเสี่ยวหรั่นแย้งอย่างไม่เห็นด้วย

        แค่ของเย็นก็กินไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว

        "พยายามดื่มน้ำอุ่น ถึงจะเป็๲วิถีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมของสตรี" พอเห็นนางไม่เชื่อฟัง เหลียนเซวียนก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม

        เซวียเสี่ยวหรั่นค้อนใส่เขา "คนขี้บ่น..."

        เหลียนเซวียนหน้าเขียวสลับแดง จากแดงก็กลับไปเขียวอีกรอบ

        เซวียเสี่ยวเหล่ยเห็นเช่นนั้นก็จูงอาเหลย พร้อมกับขยิบตาให้อูหลันฮวา แล้วรีบย่องออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

        อูหลันฮวายังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทว่าเซวียเสี่ยวเหล่ยก็เป็๲สหายในแนวรบของนางตลอดมา เมื่อเขาให้นางออกไป ย่อมจะมีเหตุผลส่วนตัว ดังนั้นจึงรีบตามออกไปอย่างเงียบเชียบ พลางถือกล่องฉวนเหอใบใหญ่ติดมือไปด้วย

        "มีอะไรหรือ" อูหลันฮวากระซิบถาม

        "ชู่" เซวียเสี่ยวเหล่ยทำมือให้เงียบ แล้วดึงแขนเสื้อนางไปข้างห้อง "ไม่เห็นหรือว่าหลางจวินกำลังโมโห"

        "หา? เหตุใดถึงโกรธเล่า" อูหลันฮวานึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างละเอียด "เพราะต้าเหนียงจื่อหาว่าเขาขี้บ่นหรือ"

        เซวียเสี่ยวเหล่ยยักไหล่แบมือสองข้าง พี่สาวกล้าว่าหลางจวินขี้บ่น เขาไม่โกรธสิ ถึงจะแปลก

        แท้จริงแล้ว ทันทีที่เอ่ยปากออกไป เซวียเสี่ยวหรั่นก็นึกเสียใจภายหลัง เห็นเซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวาออกไปแล้ว ก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็๞ยิ้มแย้ม

        "ข้าผิดไปแล้ว ท่านเป็๲ผู้ใหญ่ใจกว้าง อย่าถือสาหาความกับดรุณีน้อยคนหนึ่งเลยนะ"

        แม้แต่ถ้อยคำที่บ่งบอกว่า 'ท่านแก่แล้ว' ยังยกมาใช้ เหลียนเซวียนถลึงตาใส่นางที่พยายามยิ้มประจบเอาใจ

        "ข้าแค่ปากไวไปหน่อย ไม่ได้ตั้งใจจะว่าท่านขี้บ่นจริงๆ นะ"

        ในใจของเซวียเสี่ยวหรั่นไม่เคยรู้สึกว่าเขาขี้บ่น ปรกติเหลียนเซวียนเป็๞คนเงียบๆ แค่พูดเยอะขึ้นสองสามประโยคก็ว่ายากแล้ว ไหนเลยจะเรียกว่าเป็๞คนพูดมาก

        เอ่อ... ดูเหมือนจะไม่ใช่ ยามเขาอบรมเธอ ก็พูดมากอยู่

        เซวียเสี่ยวหรั่นลอบมองสีหน้าเขา

        เหลียนเซวียนเม้มริมฝีปากบางไม่พูดไม่จา คิดจะเมินใส่นาง

        ถูกสตรีที่ชอบบ่นหาว่าขี้บ่น เหลียนเซวียนหาใช่คนใจกว้างที่จะไม่โกรธแม้แต่น้อย

        เซวียเสี่ยวหรั่นแลบลิ้น เห็นเขาหยิบพู่กันก็รีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยฝนหมึกอย่างเอาอกเอาใจ

        "เหลียนเซวียน ท่านช่วยเขียนตำรับยาที่ใช้จัดการกับพวกอันธพาลคราก่อนอีกสักฉบับได้หรือไม่ ยาที่สูดดมแล้วทำให้คนมึนงง มือเท้าอ่อนแรงนั่นน่ะ"

        พอเห็นเขาจับพู่กัน เซวียเสี่ยวหรั่นก็นึกถึงเ๱ื่๵๹สำคัญ

        มือของเหลียนเซวียนหยุดชะงัก ช้อนตาขึ้นมองนาง

        แม้ไม่เปล่งเสียง แต่เซวียเสี่ยวหรั่นอยู่กับเขาขณะที่ตามองไม่เห็นปากพูดไม่ได้มานาน การกระทำและสายตาของเขา เซวียเสี่ยวหรั่นย่อมเดาความหมายออกเจ็ดแปดส่วน

        ดังนั้นแม้เขาจะไม่พูดไม่จา เซวียเสี่ยวหรั่นก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไร

        "พวกเราเตรียมเดินทางกันอยู่ จากที่นี่ไปแคว้นฉีต้องใช้เวลาสิบกว่าวัน ภายในแคว้นหลีไม่สงบ ระหว่างทางมีโอกาสสูงมากที่จะเจอกับพวกโจรป่า เตรียมป้องกันไว้ก่อนจะได้ไม่ผิดพลาด หากพวกมันมากันเป็๲กลุ่ม โปรยใส่ทีเดียวล้มระเนระนาด ต่อให้หมดสติไปเพียง๰่๥๹สั้นๆ ก็ยังมีเวลาหลบหนีทัน"

        เซวียเสี่ยวหรั่นพูดแผนการของตนเองเป็๞ฉากๆ

        เหลียนเซวียนนิ่งคิด นี่ก็เป็๲วิธีการที่ไม่เสียหาย ถึงแม้พวกเขาจะมีขบวนสินค้านำหน้าและมีผู้คุ้มกันติดตาม แต่เมื่อพบกับโจรป่า ใครจะว่างมาใส่ใจพวกเขา

        เขาหยิบกระดาษขึ้นมาลงมือเขียนอย่างช้าๆ

        สีหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นเผยแววยินดี "อีกประเดี๋ยวข้าจะออกไปซื้อกับอูหลันฮวา จะได้แวะซื้อผงพริกห่อใหญ่กลับมาด้วย หากเจอโจรป่าจริงๆ ผงพริกก็ทำให้พวกมันร่วงได้เหมือนกัน"

        มือที่กำลังเขียนอักษรชะงักอีกหน เงยหน้าขึ้นมองนางด้วยแววตาซับซ้อน

        เซวียเสี่ยวหรั่นกลับยืดอก เอ่ยวาจาฉาดฉานอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม "มีคำกล่าวว่าอันการศึกมิหน่ายเล่ห์กล ตราบใดที่ล้มคนได้ จะพริกหรือยาสลายกำลังก็ไม่ต่างกัน"

        "อืม... มีใครสักคนว่าไว้ ไม่ว่าแมวดำหรือแมวขาว ขอแค่จับหนูได้ก็คือแมวดี ขั้นตอนไม่สำคัญ สำคัญที่ผลลัพธ์"

        เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นเขายังคงจ้องมาที่ตนเอง ก็เลยยิ่งพล่ามต่อยืดยาว

        เหลียนเซวียนมุมปากกระตุก เหตุผลบิดเบี้ยวสารพัด ไม่รู้ว่าไปร่ำเรียนมาจากไหน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้