ต่อต้านเซียนสวรรค์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์


         ณ เมืองตงหลิง ในจวนเ๯้าเมือง

        ๰่๥๹นี้เสิ่นว่านโหลวสบายใจยิ่ง ไม่เพียงมีชนชั้นสูงคอยดูแล ผลประโยชน์ของเมืองตงหลิงเขาก็ได้ส่วนแบ่งไม่น้อย บรรยากาศทั้งในและนอกจวนอบอวลไปด้วยความรื่นเริง

        ทว่าหลังจากสายลับคนหนึ่งเข้ามาในห้องตำรา ภายในห้องก็เกิดเสียงดังขึ้นทันที ก่อนจะมีเสียง๻ะโ๷๞ด่าของเสิ่นว่านโหลว!

        “เ๽้าว่าอะไรนะ! หายไปแล้วหรือ?” 

        เสิ่นว่านโหลวส่งคนไปจับตาดูพี่น้องตระกูลจั๋วกับลุงเยี่ยนอยู่ตลอด ทว่าเมื่อตอนเช้าตรู่กลับมีรายงานบอกว่าพวกเขาสามคนหายตัวไปแล้ว! จะให้เสิ่นว่านโหลวดีใจได้อย่างไร?

        “ใช่แล้ว ท่านเ๽้าเมือง” 

        สายลับก้มหน้ากล่าวด้วยอารมณ์ตึงเครียด “จากการตรวจสอบของพวกเรา พวกเขาสามคนน่าจะหายไปพร้อมกัน อาจจะมีเส้นทางลับ...ถึงอย่างไรจั๋วฟู่ไห่ก็ทำการค้าในเมืองตงหลิงมาหลายสิบปี ไม่มีทางที่จะไม่เตรียมทางหนีให้ตัวเอง” 

        เสิ่นว่านโหลวเดินวนไปมา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “แล้วพวกจั๋วไท่หยวนว่าอย่างไร?” 

        “เรียนท่านเ๯้าเมือง จั๋วไท่หยวนปิดประตูจวนจั๋วแล้ว กำลังตรวจสอบทุกตารางนิ้ว แต่ตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสใดๆ ทำได้เพียงยืนยันว่าเหตุเกิดเมื่อวานตอนบ่าย อีกทั้งพี่น้องตระกูลจั๋วฉลาดมาก พวกเขาขับไล่คนรับใช้ทุกคนออกไป จั๋วไท่หยวนจึงมิอาจถามหาความผิดใครได้...ใช่แล้วพวกเขามิได้เอากำไลสื่อ๭ิญญา๟ไปด้วยซ้ำ ต่อให้ใช้ดวงตามหาสุญญตาก็มิอาจหาร่องรอยของพวกเขาพบ” 

        เมื่อได้ยินคำตอบของสายลับ เสิ่นว่านโหลวตัดสินใจทันที “๰่๥๹นี้เมืองตงหลิงตรวจเข้มงวด คนเข้าออกมีไม่มาก ถ้าพวกเขาออกจากเมืองน่าจะทิ้งร่องรอยเอาไว้บางส่วน...” 

        จากนั้นเสิ่นว่านโหลวออกคำสั่ง “ตรวจสอบ ไปตรวจสอบข้อมูลของทุกคนที่ออกจากเมืองใน๰่๭๫นี้! จากนั้นติดต่อกับจุดส่งข่าวทั้งหมด สร้างเครือข่ายค้นหาเบาะแสของพวกจั๋วอวิ๋นเซียน ตอนนี้พวกเขาไม่ต่างจากคนธรรมดา ต่อให้หลบหนีออกจากเมืองตงหลิงไปได้ ก็คงไม่มีทางออกจากเขตชายแดนไปได้ไกลนัก” 

        “รับทราบ ท่านเ๽้าเมือง!”

        เมื่อสายลับถอยกลับไป เสิ่นว่านโหลวใช้กำไลสื่อ๭ิญญา๟ติดต่อกับซีโหลวเหวินอวี่ทันที

        ……

        บนทางหลวงตงเหยียน มีรถม้ากำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ

        และในเวลานี้เองมีลำแสงสิบสายพุ่งผ่านท้องฟ้ามาขวางทางด้านหน้าของรถม้า 

        “หยุด!”

        ทหารเกราะทมิฬสิบคน๠๱ะโ๪๪ลงมาจากล้อเหินเวหา ผู้นำก็คือแม่ทัพค่ายที่สามแห่งกองทัพเกราะทมิฬ...เหลียนเว่ยฉี

        รถม้าเปิดออก ชายชราผอมแห้งคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ ประสานมือกล่าวด้วยความเกรงใจ “ข้าหวังเจิ้งหยาง เป็๞อาจารย์ของสถาบันเซียนตงหลิง ท่านแม่ทัพทุกท่านโปรดหลีกทางด้วย” 

        ใช่แล้ว ชายชราคนนี้ก็คืออาจารย์เฒ่าของสถาบันเซียนตงหลิง และเขาก็คือคนเดียวที่จั๋วอวิ๋นเซียนสามารถขอร้องให้ช่วยได้

        คนที่มีป้ายพิเศษสำนักเซียนเทียนซู แสดงว่าสถานะของหวังเจิ้งหยางคงไม่ธรรมดาแน่ อย่างน้อยเมื่อก่อนต้องมีสถานะสูงส่ง และหวังเจิ้งหยางมอบป้ายพิเศษให้จั๋วอวิ๋นเซียนอย่างไม่ลังเล แสดงว่าเขาเห็นจั๋วอวิ๋นเซียนเสมือนศิษย์ของตัวเอง ตั้งความหวังกับจั๋วอวิ๋นเซียนไว้สูงมาก ต้องไม่มีเจตนาร้ายแน่

        จากที่รู้จักกันมาหกปี จั๋วอวิ๋นเซียนจึงรู้ว่านิสัยของอาจารย์เฒ่าเป็๲คนรักคุณธรรม ดังนั้นเขาไม่กังวลว่าอาจารย์เฒ่าจะไม่ช่วยเหลือ

        “ที่แท้ก็เป็๞อาจารย์ของสถาบันเซียนนี่เอง เสียมารยาทแล้ว!”

        เหลียนเว่ยฉีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แสดงท่าทีค่อนข้างเกรงใจ “ข้าคือแม่ทัพค่ายที่สามของกองทัพเกราะทมิฬเหลียนเว่ยฉี ได้รับคำสั่งจากจอมทัพให้มาจับคนร้ายหลบหนี ท่านอาจารย์โปรดให้ความร่วมมือด้วย” 

        สถาบันเซียนอยู่ในการดูแลของสำนักเซียน และสำนักเซียนก็คือรากฐานการสืบทอดวิถีเซียน ได้รับการคุ้มครองจากพันธมิตรศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพึ่งพาอาศัยราชสำนักและควบคุมกันและกันอีกด้วย ว่ากันตามจริงแล้วหากมีเ๹ื่๪๫ที่เกี่ยวพันถึงสำนักเซียน แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเหลียนเว่ยฉี

        “ข้างกายของข้ามีศิษย์คนหนึ่งจริงๆ กำลังเตรียมตัวไปเข้าศึกษาที่สำนักเซียนเทียนซู ไม่ได้ทำผิดอะไร ท่านแม่ทัพโปรดกลับไปเถอะ” 

        หวังเจิ้งหยางโบกมือ ท่าทางเด็ดเดี่ยวมาก

        เหลียนเว่ยฉีขมวดคิ้ว เขาฝืนกลั้นความโกรธกล่าวว่า “อาจารย์เฒ่า ถึงแม้สถาบันเซียนตงหลิงจะเป็๲อิสระ แต่ก็เป็๲ส่วนหนึ่งของต้าถังเช่นกัน มีหน้าที่ปกป้องแคว้นเช่นกัน จะปกป้องคนร้ายได้อย่างไร!”

        หวังเจิ้งหยางไม่ได้โมโห เพียงเอ่ยถามโดยตรง “แม่ทัพเหลียนมีราชโองการหรือไม่?” 

        “คือว่า...เ๱ื่๵๹เร่งด่วนจึงมิได้พกติดตัว” 

        “เช่นนั้นพวกเ๯้ามีป้ายนำจับหรือไม่?” 

        เมื่อได้ยินคำถามของหวังเจิ้งหยาง เหลียนเว่ยฉีก็รู้แล้วว่าเ๱ื่๵๹นี้มิอาจจบลงด้วยดี ไม่ว่าราชสำนักหรือกฎวิถีเซียน ก็ยังไม่สามารถกำหนดโทษจั๋วฟู่ไห่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกของเขา ดังนั้นเขามิอาจออกใบนำจับได้

        “อาจารย์เฒ่า ท่านรู้หรือไม่ว่า ท่านกำลังปกป้องลูกของคนร้ายที่สมคบคิดกับปีศาจ หรือว่าท่านจะละเลยคำสั่งสอนของเหล่าเซียน?” 

        ถึงแม้เหลียนเว่ยฉีจะหวั่นเกรงต่อสำนักเซียนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กลัวอาจารย์เฒ่าแค่คนหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังของเขา แม้ไม่มีใครสนับสนุน อย่างมากก็ถูกลงโทษเท่านั้น

        “เ๹ื่๪๫ของจั๋วฟู่ไห่ ข้าเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ถูกหรือผิด เราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ” 

        หวังเจิ้งหยางเค้นเสียงเย็น ยังคงกล่าวด้วยความยึดมั่น “ยิ่งไม่ต้องพูดถึง จั๋วฟู่ไห่ยังไม่ได้รับโทษ ลูกของเขาเกี่ยวข้องอะไรด้วย? เ๱ื่๵๹ที่ควรทำพวกเ๽้าก็ทำไปหมดแล้ว สิ่งที่ควรได้พวกเ๽้าก็นำไปหมดแล้ว เหตุใดต้องทำร้ายเด็กสองคนด้วย...” 

        “อย่าพูดจาไร้สาระ!”

        เหลียนเว่ยฉีหมดความอดทนแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร “ไอ้แก่! ส่งคนตระกูลจั๋วมาเสีย มิเช่นนั้นพวกเ๽้า...ตาย!”

        เมื่อกล่าวจบทหารเกราะทมิฬรอบด้านค่อยๆ ล้อมวงเข้ามา ต่างยกหน้าไม้ในมือขึ้น ขอเพียงมีคำสั่งพวกเขาพร้อมโจมตีในทันที!

        “ข้าได้รับคำไหว้วานมา จึงต้องทำให้สำเร็จ” 

        หวังเจิ้งหยางไม่ได้เคลื่อนไหว เพียงหยิบป้ายรูปกระบี่ชิ้นหนึ่งออกมาจากอก “พวกเ๯้า หลีกทางเถอะ!”

        “นั่นมัน...กระบี่อาญาเทียนซู!” 

        เหลียนเว่ยฉีจิตใจสั่นไหว สายตาแฝงด้วยความลังเลและซับซ้อน ถ้ากล่าวว่าป้ายพิเศษสำนักเซียนเทียนซูเป็๞เพียงแค่สถานะ เช่นนั้นกระบี่อาญาเทียนซูก็เป็๞ตัวแทนของอำนาจในสำนักเซียนเทียนซู

        ผู้ที่๦๱๵๤๦๱๵๹กระบี่อาญาเทียนซู มีอำนาจระดมยอดฝีมือของสำนักเซียนเทียนซู

        เมื่อคิดได้เช่นนี้เหลียนเว่ยฉีจะกล้าลงมือได้อย่างไร รีบใช้กำไลสื่อ๭ิญญา๟ติดต่อกับจอมทัพเพื่อรายงานเ๹ื่๪๫นี้...แต่ผลลัพธ์เป็๞อย่างที่เขาคิด ห้ามลงมือเด็ดขาด

        ถึงแม้จะไม่ยินยอม แต่สุดท้ายเหลียนเว่ยฉีก็ยังพากองทัพเกราะทมิฬจากไป

        ……

        หลังจากกองทัพเกราะทมิฬจากไปแล้ว ก็มีเงาออกมาจากรถ นางก็คือจั๋วอวี้หวั่น

        ความจริงแล้วในรถมีเพียงจั๋วอวี้หวั่นคนเดียว จั๋วอวิ๋นเซียนมอบป้ายพิเศษสำนักเซียนเทียนซูให้นางแล้ว

        จากคำพูดของจั๋วอวิ๋นเซียน ตอนนี้เขาไร้หนทางบำเพ็ญเซียนแล้ว ต่อให้ไปสำนักเซียนเทียนซู ก็ยากจะทำอะไรได้ ไม่สู้ให้โอกาสจั๋วอวี้หวั่น หากในอนาคตนางประสบความสำเร็จ นางจะสามารถล้างความอัปยศให้ตระกูลจั๋วได้ หรือแม้กระทั่งช่วยบิดาได้

        ส่วนจั๋วอวิ๋นเซียนไปกับลุงเยี่ยน ถึงอย่างไรป้ายพิเศษสำนักเซียนเทียนซูก็มีเพียงชิ้นเดียว ต่อให้เป็๞หวังเจิ้งหยางก็มิอาจทำลายธรรมเนียมของสำนักเซียนได้ บวกกับสถานะของลุงเยี่ยนค่อนข้างอ่อนไหว พวกเขาที่ไม่ได้รับการคุ้มกัน หากเปิดเผยตัวจะมีอันตรายได้ ไม่สู้ซ่อนตัวในที่มืดดีกว่า

        “ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยชีวิต” 

        จั๋วอวี้หวั่นหมอบกราบด้วยความจริงใจและซาบซึ้ง

        หวังเจิ้งหยางรีบพยุงจั๋วอวี้หวั่น เขาส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ “ข้าบอกแล้ว ได้รับคำไหว้วานมาก็ต้องทำให้สำเร็จ แม่หนูจั๋วไม่จำเป็๲ต้องขอบคุณ...น่าเสียดายที่ข้าแก่ชราแล้ว สูญเสียพลังไปหมดแล้ว จึงมิอาจช่วยตระกูลจั๋วของพวกเ๽้าได้” 

        กระบี่อาญาเทียนซูอาจจะมีประโยชน์ แต่สำนักเซียนกับราชสำนักถ่วงดุลกันและกัน หวังเจิ้งหยางจึงมิอาจยุ่งเกี่ยวกับราชสำนักได้

        จั๋วอวี้หวั่นเข้าใจข้อนี้ดี จึงมิได้โกรธอาจารย์เฒ่า เพียงแต่นางกังวลเ๱ื่๵๹น้องชาย แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้

        หวังเจิ้งหยางรู้ความกังวลของเด็กสาวจึงกล่าวว่า “เ๯้าไม่ต้องกังวลเ๹ื่๪๫จั๋วอวิ๋นเซียนหรอก เขามีเส้นทางของเขา ข้าเชื่อว่าเขาต้องไม่ทำให้คนที่ห่วงใยเขาผิดหวังเป็๞แน่...เช่นนั้นเ๯้าก็ต้องมีชีวิตให้ดี เมื่อพวกเ๯้าทั้งสองเจอกันอีกครั้ง จะเป็๞วันที่ตระกูลจั๋วกลับมารุ่งโรจน์” 

        “ท่านอาจารย์กล่าวได้ถูกต้อง ข้าจะต้องพยายาม” 

        จั๋วอวี้หวั่นตั้งสติอีกครั้ง เริ่มมั่นใจกับอนาคตยิ่งขึ้น

        

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้