สำหรับคำถามของอาจารย์ในสาขา เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน
การฝึกวิชาทหารทำให้เธอได้พูดคุยกับหนิงเสวี่ย แต่หนิงเสวี่ยมีนิสัยค่อนข้างเ็า เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หนิงเสวี่ยถอนตัวเองอย่างกะทันหัน สาขาสถาปัตยกรรมก็เหลือเธอเพียงคนเดียวที่ต้องไปแข่งขันกับสาขาอื่น เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้กลัวเื่การแข่งขัน ทว่าเธออยากเข้าใจเจตนาของหนิงเสวี่ย
วันชาติหยุด 3 วัน และหนิงเสวี่ยเป็คนปักกิ่ง ตอนเช้าหลังจากเธอขอถอนตัวจากการคัดเลือก ‘ผู้สำเร็จการฝึกวิชาทหารดีเด่น’ กับอาจารย์ในสาขาด้วยตนเอง ก็ตรงกลับบ้านทันที มีแต่คนบ้านไกลถึงต่างถิ่นอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานเท่านั้นที่จะอยู่ในมหาวิทยาลัยต่อ เมื่อเป็เช่นนั้นเธอจะตามหาหนิงเสวี่ยในห้อง 305 พบได้อย่างไร?
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดไม่ตกจวบจนตอนนี้
อย่างไรก็ตามเธอทำได้แค่เก็บเื่นี้เอาไว้ก่อน
อาจารย์ในสาขาก็ไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังสนับสนุนเธออีกด้วย ป้อนน้ำแกงไก่ [1] ให้เธออยู่นานมากกว่าจะปล่อยเธอออกจากห้องทำงาน
บอกเธอว่าไม่ต้องใส่ใจคำวิจารณ์ชั่วครั้งคราวนั้นเกินไปนัก ตราบเท่าที่เธอมุ่งมั่นตั้งใจทำเื่ของตนเองให้ดี เธอจะไม่สูญเสียเวลาในหัวชิงไปเปล่าๆ—คำพูดดั้งเดิมที่อาจารย์ใช้คือ ‘ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน’ พูดด้วยน้ำใสใจจริง เซี่ยเสี่ยวหลานดื่มน้ำแกงไก่ถ้วยนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากทีเดียว
นั่นมันก็ช่วยไม่ได้ ข่าวลือพวกนี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญต่างๆ ทางมหาวิทยาลัยคงออกประกาศขอให้เหล่านักศึกษาหยุดแสดงความคิดเห็นเป็การส่วนตัวไม่ได้หรือเปล่า?
ถ้าใช้วิธีเช่นนั้น จะยิ่งทำให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นจนหยุดไม่ได้น่ะสิ
เวลาจะช่วยเจือจางหลายสิ่งหลายอย่างลงได้ หากเซี่ยเสี่ยวหลานใช้ภาพลักษณ์ใหม่ปกปิดภาพลักษณ์เก่าที่ถูกบิดเบือนนั้น ข่าวลือก็จะค่อยๆ สลายหายไปเอง
เซี่ยเสี่ยวหลานขอบคุณอาจารย์จากใจจริง
วันหยุดวันชาติยังคงเหลืออีก 2 วัน เธอควรวางแผนอย่างไรดี?
หน่วยงานของโจวเฉิงนั้นคงไปไม่ได้ชั่วคราว
หรือจะไปบ้านโจวสักครั้ง?
เซี่ยเสี่ยวหลานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจ ไปธนาคารก่อนดีกว่า
ภายในมหาวิทยาลัยหัวชิงมีธนาคารออมทรัพย์ไปรษณีย์ อาจารย์และนักศึกษาของหัวชิงมักจะจัดการธุระฝากโอนเงินต่างๆ ที่นี่ นอกจากนี้ในคู่มือนักศึกษาใหม่ที่ออกโดยหัวชิงก็เขียนไว้ว่า ‘นักศึกษาสามารถฝากค่าครองชีพที่ยังไม่ใช้ชั่วคราวและที่เก็บออมไว้ได้ ทั้งปลอดภัยและเป็การอาสาสร้างชาติ’ กำไรจากการจำหน่ายชุดกีฬาก้อนนี้ โดยหลักการแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานสามารถฝากกับธนาคารออมทรัพย์ไปรษณีย์ภายในรั้วหัวชิงได้ สะดวกต่อการถอนออกมาใช้... แต่นี่คือ ‘เงินจำนวนมหาศาล’ หลักแสนหยวน เซี่ยเสี่ยวหลานไม่้าสร้างปัญหาใหม่ในมหาวิทยาลัยเพิ่ม ดังนั้นเธอจึงบอกเฉินซีเหลียงั้แ่แรกแล้ว ให้โอนเงินเข้าธนาคารกงซาง [2]
มิเช่นนั้นการที่นักศึกษารายหนึ่งมีเงินฝากหลักแสนหยวนอยู่ในธนาคารออมทรัพย์ไปรษณีย์ของมหาวิทยาลัย จะให้เธออธิบายแก่คนรอบข้างว่าอย่างไร?
ข่าวลือติฉินนินทาเ่าั้ยังไม่เยอะหนำใจอีกรึ
เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งใจมายังธนาคารกงซางแห่งหนึ่งในเขตไห่เตี้ยนเพื่อถอนเงิน
สิ่งที่เธอใส่ก็คือชุดกีฬาที่ร่วมสั่งทำกับเฉินซีเหลียงนั่นเอง แขนยาวเหมาะกับอากาศของเดือนตุลาคมพอดี เดี๋ยวนี้มีผู้คนใส่ชุดกีฬามากมาย ดังนั้นชุดกีฬา 3 หมื่นชุดของเฉินซีเหลียงกับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ถือว่ายิ่งใหญ่อะไรเลย ทว่าทั้งสองคนสามารถยึดครองตลาดเสื้อผ้าได้อย่างไม่รู้จบ เนื่องจากความคลั่งไคล้กีฬาในปีนี้ทำให้ขณะนี้ทั่วประเทศกำลังนิยมชุดกีฬามากจริงๆ
หญิงสาวหน้าตาดีผู้มีลักษณะของนักศึกษาคนหนึ่งมาถอนเงิน
มาเพื่อถอนค่าครองชีพสินะ?
เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายศีรษะ “ถอนเงินคงเหลือทั้งหมดในใบสั่งโอนทางโทรเลขค่ะ”
พนักงานดูใบสั่งโอนเงินจนชัดเจน นับอยู่หลายครั้งหลายหน เป็จำนวนเงิน 163000 หยวน
ลืมจุดทศนิยมหรือเปล่า เป็ 1630 หยวนใช่หรือไม่? แม้จะค่อนข้างเยอะเกินไปสำหรับค่าครองชีพของนักศึกษา ทว่าเมื่อเทียบกับหนึ่งแสนหกหมื่นหยวนแล้ว จำนวนนั้นก็ยังยอมรับได้นี่นา!
“ไม่ผิดค่ะ เยอะเท่านี้นี่แหละ”
“คุณยังเป็นักศึกษาสินะคะ เงินมาจากไหนเยอะขนาดนี้กัน?”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อาจตอบคำถามของพนักงานได้ “ใบสั่งโอนเงินเป็ของจริงใช่ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“ถ้าฉันให้รหัสถูกต้องได้ จะถอนเงินได้หรือเปล่า?”
“ได้...”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่พูดอะไร เธอมองพนักงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เช่นนั้นก็ถอนสิ ทำไมมีคำถามมากมายขนาดนี้กันเล่า
ที่นี่คือธนาคาร ไม่ใช่สถานีตำรวจเสียหน่อย แน่นอนว่าเธอสามารถไม่ตอบคำถามเหล่านี้ได้
เนื่องจากเธอจะถอนเงินจำนวนมากขนาดนี้อย่างกะทันหัน จึงทำให้ผู้จัดการของธนาคารสาขาย่อยเล็กๆ แห่งนี้รู้สึกตกอกใ คนเขาไม่ได้เคลือบแคลงสงสัยในเงินจำนวนนี้มากมายนัก ผู้จัดการธนาคารแค่้ากระตุ้นการฝากเงิน เงินฝากตั้งแสนกว่าหยวน ฝากไว้กับสาขาของพวกเขาจะดีเพียงใดกันนะ ทำไมต้องปล่อยให้ลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้หนีไปเล่า?
เซี่ยเสี่ยวหลานแจ้งว่าตนเองมีเหตุต้องถอนเงินเพื่อนำไปใช้ ผู้จัดการจึงถามกลับพร้อมรอยยิ้มเป็มิตร
“ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่ามีเื่อะไรที่พวกเราจัดการได้บ้าง?”
อันที่จริงเซี่ยเสี่ยวหลานอยากจัดการธุระเื่การบริจาคหนังสือให้อันชิ่งเซี่ยนอีจง เธออยากโอนเงินไปโดยตรง เพราะเธอเชื่อมั่นในจุดยืนทางศีลธรรมของอาจารย์ใหญ่ซุนและคนอื่นๆ ทว่ามันเป็เงินก้อนใหญ่เกินไป เหล่าอาจารย์อาจคิดไปไกลเกินความจริงได้ ดังนั้นส่งหนังสือกลับไปโดยตรงคงจะดีกว่า
ดูเหมือนเ้าหน้าที่ของธนาคารจะจัดการธุระได้สะดวกกว่ามากจริงๆ
เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าตนเอง้าซื้อหนังสือหนึ่งชุด แต่เธอไม่รู้รายการหนังสือ
“ถ้าอย่างนั้นขออนุญาตถามสักหน่อยได้หรือไม่ จำนวนเงินสำหรับซื้อหนังสือนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไร?”
“น่าจะซื้อ 10000 หยวนก่อนน่ะค่ะ”
“คุณช่วยทางโรงเรียนจัดซื้อ?”
“ถือว่าใช่ก็แล้วกันค่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนว่าผู้จัดการจะคาดเดาเช่นไร เอาเป็ว่าเธอถูกรั้งตัวไว้ดื่มชาในสำนักงานของธนาคารสาขาย่อย และไม่รู้ว่าผู้จัดการจัดการธุระดังกล่าวได้ผลลัพธ์อย่างไร ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง ก็ได้รายชื่อหนังสือของร้านหนังสือซินหัวชุดหนึ่งมาให้เซี่ยเสี่ยวหลาน แม้ไม่มีคอมพิวเตอร์สำหรับสอบถาม แต่เธอก็สามารถเลือกหนังสือผ่านการดูชื่อในรายการหนาๆ นี้ได้
ผู้ที่นำรายการหนังสือมาให้ยังมีพนักงานอีกคนหนึ่งของร้านหนังสือซินหัว
“้าซื้อหนังสือด้านไหนเป็หลัก?”
“ให้นักเรียนมัธยมปลายอ่านน่ะค่ะ เหมาะที่จะอยู่ในห้องสมุดโรงเรียนมัธยมปลาย”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็หนังสือประเภทวรรณกรรม ปรัชญา และพวกสื่อการสอนดีหรือไม่?”
ใช่เลย นี่สิคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กล้าสบประมาทคนอื่น และเริ่มพูดจาอย่างเป็ทางการมากขึ้น เธอแจกแจงด้วยว่า้ามอบให้ห้องสมุดของโรงเรียนมัธยมปลายประจำเขตแห่งหนึ่ง และขอให้ได้หนังสือมากเท่าที่จะทำได้ เป็ปกแข็งหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ยิ่งเงินจำนวน 10000 หยวนสามารถซื้อหนังสือที่มีประโยชน์ได้เยอะเท่าไรยิ่งดีอย่างแน่นอน!
ในขณะที่ขีดเลือกรายการหนังสือ ผู้เชี่ยวชาญก็ดีดลูกคิดก๊อกแก๊กไปพร้อมกัน
ด้วย 10000 หยวนนี้ ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถเลือกหนังสือได้จำนวนสามพันเล่ม เนื้อหาครอบคลุมทุกด้านสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย เซี่ยเสี่ยวหลานถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความชื่นชมในความสามารถของผู้เชี่ยวชาญ ถ้าให้เธอเลือกเอง ไม่มีทางเลือกดีกว่านี้ได้
ให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปเลือกเฟ้นที่ร้านหนังสือซินหัวด้วยตนเอง เธอคงเลือกจนตาลายเป็แน่
“อันที่จริงยังมีหนังสืออีกส่วนหนึ่งที่เหมาะให้นักเรียนมัธยมปลายอ่านเหมือนกัน...”
คนคนนี้ลังเลที่จะพูด และให้เซี่ยเสี่ยวหลานดูรายการหนังสือบางส่วนเพิ่ม
“คุณบอกมาเถอะค่ะว่าทั้งหมดเป็เงินเท่าไร”
“ไม่เกิน 15000 หยวน หนังสือพวกนี้ครบถ้วนสมบูรณ์สำหรับโรงเรียนมัธยมประจำเขตแล้ว”
“เช่นนั้นก็ออกใบเสร็จให้ฉันตามที่คุณเลือกเลยค่ะ ฉันซื้อทั้งหมด”
เซี่ยเสี่ยวหลานขอให้ส่งหนังสือไปยังมณฑลอวี้หนานเขตอันชิ่ง พนักงานรู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว “ต้องส่งจากปักกิ่งไปเท่านั้นหรือ? คุณเป็ลูกค้าใหญ่ที่ผู้จัดการใหญ่อู่แนะนำ พอพวกเรายืนยันรายการหนังสือเสร็จแล้ว สามารถให้ร้านทางอวี้หนานกระจายสินค้าโดยตรงแทนได้”
อุตสาหกรรมการให้บริการในปี 1984 ดีหรือไม่?
เมื่อก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานเคยนึกว่าไม่ดี
ทว่าตอนนี้เธอััได้แล้ว อันที่จริงในยุค 80 ก็มีการบริการที่เอาใจใส่อย่างถึงที่สุดเหมือนกัน
จัดส่งสินค้าต่างสถานที่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย เครือข่ายภายในของพวกเขาล้วนอยู่ที่นั่น หากร้านหนังสือซินหัวสาขาเดียวของอวี้หนานจัดส่งสินค้าให้ไม่ครบ อย่างไรร้านหนังสือซินหัวมากมายทั่วมณฑลจะจัดให้ครบถ้วนได้แน่นอน
ผู้จัดการใหญ่อู่ยิ้มกว้างตลอดการดำเนินการ
“คุณเซี่ยพึงพอใจดีใช่หรือเปล่าครับ? เื่เล็กแบบนี้ พวกเราจัดการได้!”
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะเพราะรอยยิ้มของผู้จัดการใหญ่อู่ “คุณพูดมาเถอะค่ะ มีอะไรที่ฉันช่วยได้บ้าง”
“...คุณเซี่ย คือเื่มันเป็อย่างนี้ พวกเราเองก็มีหน้าที่ที่เบื้องบนมอบหมายมาเหมือนกัน งานธนาคารนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ คุณช่วยซื้อผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้รัฐบาลสักหน่อยได้หรือไม่?”
เชิงอรรถ
[1]鸡汤 น้ำแกงไก่ หรือน้ำแกงไก่เพื่อจิติญญา เป็คำแสลงที่แพร่หลายบนโลกอินเตอร์เน็ต มาจากหนังสือ Chicken Soup for the Soul (ชื่อไทย พลังแห่งชีวิต) ซึ่งมีเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจ คำว่าน้ำแกงไก่จึงถูกนำมาใช้เปรียบเทียบกับเื่ราวหรือถ้อยความที่สละสลวยสวยงาม เต็มไปด้วยพลังบวก ทว่าทำได้เพียงปลอบโยนจิตใจ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาในชีวิตจริงถึงต้นเหตุได้
[2]工商银行 ธนาคารกงซาง คือ ธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน ในประเทศไทยรู้จักกันในชื่อธนาคารไอซีบีซี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้