หลังจากที่เสี่ยวเทียนพ่นไฟออกไปแผดเผาหมาป่าทมิฬหลายตัวแล้ว มันก็สะบัดหางออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง หางขนาดใหญ่ฟาดใส่หมาป่าทมิฬสามตัวอย่างแรง ทำให้ร่างของพวกมันปลิวกระเด็นออกไปไกลหลายสิบเมตร แรงกระแทกนั้นแรงมากเสียจนทำให้อวัยวะภายในและกระดูกของพวกมันแตกละเอียด ก่อนจะจบชีวิตลงในที่สุด
ทว่าหลังจากนั้น หมาป่าทมิฬมากกว่าสิบตัวก็กระโจนเข้ามาโจมตีเสี่ยวเทียนพร้อมกัน และมีบางตัวที่ะโขึ้นไปบนหลังของเสี่ยวเทียน ก่อนจะใช้กรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมกัดข่วนลงไปบนเกล็ดของมันจนมีรอยแผลจากเขี้ยวเล็บปรากฏให้เห็น
แต่พลังป้องกันของเสี่ยวเทียนนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เสี่ยวเทียนเลื้อยสะบัดร่างไปมาจนหมาป่าทมิฬตัวนั้นปลิวกระเด็นออกไป ก่อนที่เสี่ยวเทียนจะกางกรงเล็บและตวัดไปยังร่างของหมาป่าทมิฬตัวนั้นทันที ผ่าร่างของมันจนขาดเป็สองท่อน
หมาป่าทมิฬหลายตัวกระโจนออกมาข้างหน้า พวกมันพุ่งเข้าไปกัดขาและกรงเล็บของเสี่ยวเทียนทันที ก่อนจะเริ่มกัดแทะและฉีกกระชากเกล็ดซึ่งเป็ดั่งเกราะหุ้มร่างของเสี่ยวเทียนหจนมีเืไหลออกมา เสี่ยวเทียนแผดเสียงร้องออกมาด้วยความเ็ป จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปกัดหมาป่าพวกนั้นด้วยความเดือดดาล
ด้านไป๋จื่อเยว่ก็กำลังเหวี่ยงกระบี่ยาวสีขาว ปล่อยลำแสงสีครามออกมาอย่างต่อเนื่อง หมาป่าทมิฬตัวหนึ่งถูกลำแสงกระบี่ตัดร่างจนขาดออกเป็หลายส่วน และเมื่อเขาตวัดกระบี่ออกมาอีกครั้ง หมาป่าทมิฬอีกตัวที่กำลังจะพุ่งตัวเข้ามากัดเขาก็ถูกคมกระบี่ตัดร่างจนขาดเป็สองส่วน อวัยวะภายในของมันไหลทะลักออกมาทันที
มู่ขวงแผดเสียงออกมาอย่างดุดัน เวลานี้ร่างกายของเด็กหนุ่มกำลังถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยโล่พลังสีขาว ในมือของเขาถือดาบที่มีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งร้อยจิน เพียงเขาเหวี่ยงดาบในมือออกไป ก็สามารถสังหารหมาป่าทมิฬที่กำลังพุ่งเข้ามาได้โดยตรง ทว่าทันใดนั้นก็มีหมาป่าทมิฬกระโจนเข้ามาหาเขาพร้อมกันถึงสามตัว และหนึ่งในนั้นก็กัดเข้าที่แขนของมู่ขวงเต็มแรง แต่มันก็ถูกโล่พลังขวางกั้นเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถกัดเข้าเนื้อของเขาได้
มู่ขวงคว้าจับปากของหมาป่าทมิฬด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะกระแทกร่างของมันลงบนพื้นอย่างแรง และแรงกระแทกนี้ก็ะเืไปถึงอวัยวะภายในของหมาป่าทมิฬ ทำให้มันเสียชีวิตลงทันที
ทางด้านศิษย์คนอื่นๆ ของตระกูลมู่ พวกเขาจับกันเป็กลุ่มและช่วยกันฆ่าหมาป่าทมิฬที่จู่โจมเข้ามา
แต่เนื่องจากฝูงหมาป่าทมิฬนั้นมีจำนวนมากเกินไป อีกทั้งยังไม่หวาดกลัวต่อความตาย ดังนั้นพวกมันจึงกระโจนเข้าใส่อย่างไม่คิดชีวิต
“ะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยา! ไฟกัลป์!”
คราวนี้มู่เฟิงได้ปล่อยหมัดที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลวเพลิงสีแดงออกไปอย่างดุดัน หมัดนี้พุ่งทะยานไปทางหมาป่าระดับจื่อฝู่ขั้นเจ็ดตัวหนึ่ง
เปรี้ยง...!
เมื่อหมาป่าทมิฬตัวนั้นถูกหมัดเปลวเพลิงกระแทกเข้าเต็มๆ ร่าง ร่างกายของมันก็ถูกบดขยี้จนล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ก่อนจะกระอักเืออกมา
“ฆ่ามัน!”
จากนั้นเด็กหนุ่มก็ทะยานร่างขึ้น หอกในมือของเขาพลันกลายเป็สายฟ้าสีม่วงสายหนึ่งที่กวาดออกไปตัดหัวของหมาป่าทมิฬทั้งสามตัวพร้อมกัน
แต่ในตอนนั้นเองหมาป่าทมิฬตัวหนึ่งก็กระโจนเข้ามาจากด้านข้าง กรงเล็บของมันตวัดไปที่แขนของมู่เฟิงและฝากรอยแผลบาดลึกเอาไว้บนแขนของเขา
มู่ขวงเข้ามาคว้าคอหมาป่าทมิฬตัวนั้นและใช้พละกำลังบีบคอของมันจนหัก จากนั้นเขาก็เหวี่ยงร่างของมันไปทางกลุ่มหมาป่าทมิฬ ใช้แรงกระแทกผลักพวกมันให้กระเด็นออกไปไกล
“อ๊าก…!”
เสียงหวีดร้องของศิษย์ตระกูลมู่ผู้หนึ่งพลันดังขึ้น เด็กหนุ่มผู้นั้นถูกหมาป่าทมิฬตัวหนึ่งกัดเข้าที่แขนก่อนจะถูกลากเข้าไปในฝูงหมาป่า จากนั้นหมาป่าทมิฬหลายตัวก็พุ่งเข้ามากัดลำคอ แขน และขาของเด็กหนุ่มผู้นั้นอย่างรวดเร็ว กรงเล็บของพวกมันแทงลงไปยังหน้าท้องของเขา ฉีกกระชากลำไส้และอวัยวะภายในออกมา
“มู่เย่”
มู่ขวงแผดเสียงร้องออกมาด้วยความเสียใจ เขาทำได้เพียงมองดูมู่เย่ถูกฝูงหมาป่าฉีกกระชากร่างกาย และกลืนกินชิ้นส่วนของเด็กหนุ่มลงท้อง
“เ้าพวกเดรัจฉาน!"
มู่เฟิงแผดเสียงออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำจนสามารถมองเห็นเส้นเืที่กำลังปูดได้ เขากระโจนร่างะโไปยังกลุ่มของหมาป่าที่กำลังกัดกินร่างของมู่เย่ในทันที
หมัดที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีแดงปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งทะลวงเข้าใส่หมาป่าพวกนั้นและะเิออกมา
ปัง…!
หมาป่าทมิฬจำนวนเจ็ดถึงแปดตัวถูกพลังหมัดอัดกระแทกจนร่างกระเด็นออกไป เปลวเพลิงจากกำปั้นก็พลันปะทุขึ้น ในพริบตาคลื่นพลังความร้อนก็แผ่ขยายปกคลุมพื้นที่ในรัศมีเจ็ดถึงแปดเมตรอย่างรวดเร็ว ทำให้มีหมาป่าถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนตายไปหลายตัว
“โฮก…!”
ทันใดนั้นเองเงาดำของร่างร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นก่อนจะกระโจนเข้ามาจากระยะไกลและพุ่งทะยานเข้าหามู่เฟิงอย่างรวดเร็ว มันคือจ่าฝูงหมาป่าที่มีความยาวกว่าหกเมตรและมีความสูงเท่ากับมนุษย์สองคน
จ่าฝูงหมาป่ากางกรงเล็บของมันออก ตบใส่ทรวงอกของมู่เฟิงอย่างแรง
ปัง...!
มู่เฟิงรู้สึกราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้ากลางอกจนกระเืออกมา แต่ขณะที่ร่างของเขากำลังลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตรนั้น เสี่ยวเทียนก็บินเข้ามารับร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว เวลานี้เกล็ดที่อยู่บนร่างกายของเสี่ยวเทียนถูกกัดดึงออกไปไม่น้อย ทำให้ร่างของมันเต็มไปด้วยาแที่มีเืไหลออกมา
จ่าฝูงหมาป่าเงยหน้ามองร่างของงูเจียวที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะหอนออกมา จากนั้นมันก็ทะยานร่างขึ้นสูงหลายสิบเมตร หมายจะตะปบกรงเล็บใส่ร่างของมู่เฟิงอีกครั้ง
พลังของจ่าฝูงหมาป่าตัวนี้อยู่ในระดับหนิงกังขั้นสี่
“อัสนีบาตย่ำแปดทิศ!”
มู่เฟิงแผดเสียงร้องคำรามออกมาอย่างดุดัน แหล่งกำเนิดสายฟ้าภายในร่างของเขาพลันปะทุขึ้นในทันที จากนั้นพลังสายฟ้าจำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลเข้าสู่เส้นลมปราณ และในเวลาชั่วพริบตาพลังปราณภายในร่างของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นจากเดิมเป็สามเท่า
“ย๊าก”
มู่เฟิงตะเบ็งเสียงพร้อมกับเหวี่ยงหอกในมือออกไปทันที
“โฮก…!”
เงาร่างของพยัคฆ์สายฟ้าสีทองตัวหนึ่งกระโจนเข้าหากรงเล็บของาาหมาป่า ทำให้กรงเล็บอันแหลมคมของมันถูกทำลายลงในทันที
“อ๊าก…!”
เสียงหวีดร้องโหยหวนดังขึ้นจากด้านล่าง ศิษย์ผู้หนึ่งของตระกูลมู่กำลังถูกฝูงหมาป่ารุมกัดทึ้ง
เมื่อมู่เฟิงเหลือบไปเห็นก็รีบให้เสี่ยวเทียนบินลงไปด้านล่างทันที เขายืนขวางหน้าฝูงหมาป่าทมิฬเพื่อปกป้องศิษย์ตระกูลมู่
ส่วนร่างของจ่าฝูงหมาป่าก็ร่วงตกลงมากลางฝูงของพวกมัน ก่อนที่มันจะสั่งการให้หมาป่าทมิฬที่เหลืออยู่นั้นสู้ต่อ
“พี่เฟิง พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี”
มู่ขวงถามขึ้นขณะที่ใช้ดาบสังหารหมาป่าตัวหนึ่ง
“ที่อยู่กลางฝูงหมาป่าคือจ่าฝูงหมาป่า ต้องสังหารมันให้ได้เราถึงจะมีโอกาส อีกเดี๋ยวข้าจะเข้าไปจัดการกับจ่าฝูงหมาป่าตนนั้นเอง ถึงเวลานั้นฝูงหมาป่าที่อยู่รอบๆ ก็คงจะพุ่งเป้ามาที่ข้าผู้เดียว ส่วนพวกเ้าให้ต่อสู้ภายใต้การคุ้มครองของเสี่ยวเทียนและพยายามออกห่างจากวงล้อมของพวกมันมาให้ได้”
มู่เฟิงสั่งการขณะปล่อยหมัดออกไปสังหารหมาป่าทมิฬตัวหนึ่ง
“ไม่ ครั้งนี้พวกเราจะไม่ปล่อยให้ท่านต้องสู้คนเดียวอีกแล้ว ข้าจะอยู่กับท่านพี่เฟิง”
ไป๋จื่อเยว่ตวาดกลับ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความกังวล
“ข้าด้วย”
มู่ขวงรีบเอ่ยสนับสนุนอย่างรวดเร็ว
“พวกเ้าอย่าได้ลืมว่าข้าสามารถบินได้ ดังนั้นข้าย่อมไม่มีปัญหาในการหลบหนี ส่วนพวกเ้าต้องรีบออกมาจากวงล้อมของพวกมันให้ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเ้าจะกลายเป็ภาระให้ข้าต้องดูแลเพิ่ม”
มู่เฟิงตวาดกลับ ไป๋จื่อเยว่กับมู่ขวงพลันตระหนักถึงตัวตนอีกตัวตนหนึ่งของมู่เฟิงได้ทันที
“ตกลง พี่เฟิง ท่านต้องระวังตัวให้มากนะขอรับ”
พวกไป๋จื่อเยว่ยอมทำตามคำพูดของมู่เฟิงในที่สุด
‘สายเืชูร่า จงตื่นเถิด!’
มู่เฟิงแผดเสียงคำรามในใจ ฉับพลันนั้นพลังแห่งสายเืก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่เฟิงในทันใด
พรึ่บ...!
กล้ามเนื้อแผ่นหลังของมู่เฟิงฉีกขาดออกจากกัน ก่อนที่ปีกสีแดงโลหิตคู่หนึ่งจะงอกออกมา ส่วนเส้นผมสีขาวก็พลันกลายเป็สีแดง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายโลหิต ส่วนวรยุทธ์ของมู่เฟิงก็ไต่ระดับขึ้นไปสู่ระดับหนิงกังอย่างรวดเร็วแล้ว
“ดาบโลหิตชูร่า!”
หยกเทพชูร่าภายในร่างของมู่เฟิงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็ดาบโลหิตชูร่าขนาดใหญ่ จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวดาบดูน่าสะพรึงเป็อย่างยิ่ง และเมื่อมู่เฟิงกระพือปีก ร่างของเขาก็กลายเป็ลำแสงโลหิตพุ่งทะยานเข้าหาจ่าฝูงหมาป่าที่อยู่ท่ามกลางฝูงของมันทันที
“พี่เฟิง นั่นคือ…”
บรรดาศิษย์ตระกูลมู่ที่ยังไม่เคยเห็นมู่เฟิงในสภาพนั้นมาก่อนต่างก็ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า
“พี่เฟิงไปจัดการกับจ่าฝูงของมันแล้ว ทุกคนตามข้ามาฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้”
มู่ขวงตะเบ็งเสียง จากนั้นก็วิ่งนำศิษย์ตระกูลมู่ที่เหลือไปยังอีกทิศทางหนึ่งของฝูงหมาป่าอย่างรวดเร็ว
มู่เฟิงบินทะยานไปยังตำแหน่งของจ่าฝูงหมาป่า พร้อมกับตวัดดาบในมือปล่อยลำแสงสีโลหิตที่มีอานุภาพอันน่าพรั่นพรึงออกมาทันที
“โฮก”
อานุภาพพลังของดาบนี้ทรงพลังเป็อย่างมากจนจ่าฝูงหมาป่าต้องร้องคำรามออกมาด้วยความหวาดหวั่น ทันใดนั้นหมาป่าสองตัวก็รีบเอาตัวเข้ามาขวางการโจมตีเอาไว้
ฉัวะ!
หมาป่าทั้งสองตัวถูกคมดาบผ่าร่างจนขาดออกเป็สองส่วน ทว่าพลังโจมตีของมันกลับไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังพุ่งทะยานเข้าไปโจมตีจ่าฝูงหมาป่าต่อในทันที
จ่าฝูงหมาป่าอ้าปากกว้างปลดปล่อยพลังปราณที่ก่อตัวเป็เกราะป้องกันสีดำออกมา เมื่อพลังโจมตีของดาบปะทะเข้ากับเกราะป้องกันระดับหนิงกัง พลังของมันก็สลายหายไปในทันที
มู่เฟิงไม่รอช้ารีบตวัดดาบออกไปอีกครั้ง คมดาบสีโลหิตที่ถูกบรรจุไว้ด้วยพลังมหาศาลและถูกห่อหุ้มไว้ด้วยสายฟ้าพลันพุ่งทะลวงไปทางจ่าฝูงหมาป่าอย่างรวดเร็ว การโจมตีนี้สามารถทำลายเกราะป้องกันของจ่าฝูงหมาป่าได้ ทั้งยังโจมตีโดนมันเข้าอย่างจังอีกด้วย
“โฮก...”
จ่าฝูงหมาป่าถูกคมดาบเฉือดจนเกิดรอยแผลลึกที่มีเืไหลทะลักออกมา มันแผดเสียงคำรามให้ลูกสมุนของมันปล่อยบรรดาศิษย์ตระกูลมู่ทิ้งไป และเข้ามารุมโจมตีมู่เฟิงแทน
เมื่อเห็นว่าฝูงหมาป่าทมิฬเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีมู่เฟิง ศิษย์ตระกูลมู่ที่เหลืออยู่ ต่างก็กัดฟันทั้งน้ำตาพยายามฝ่าวงล้อมออกไปภายใต้การคุ้มครองของเสี่ยวเทียน ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในป่าลึกอย่างรวดเร็ว
เมื่อมู่เฟิงถูกห้อมล้อมอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า ั์ตาสีโลหิตของเขาก็กวาดมองพวกมันอย่างเ็า ก่อนจะเลียริมฝีปากที่กำลังแห้งผาก
“เข้ามาเลย!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้