ฝูซินหยวนพาน้องชายคนรองเดินเข้ามาในห้องแล้ว ทั้งสองยืนมองกันสักพัก ก่อนที่ฝูซินหยวนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนของน้องชาย
“ฝูซินอี๋ เื่ที่นายตัดสินใจจะไปชนบทเป็เพราะเด็กตระกูลจ้าวคนนั้นหรือเปล่า”ฝูซินหยวนถามน้องชายคนรองออกไปตรงๆ
ฝูซินอี๋ที่ถูกถามไม่ยอมตอบคำถามของพี่ชาย กลับยืนก้มหน้าเงียบๆ
ฝูซินหยวนที่เห็นน้องชายไม่ยอมตอบคำถาม เขาก็เข้าใจแล้วว่าเป็เพราะเด็กตระกูลจ้าวจริงๆ“อาอี๋…นายเป็ผู้ชายนะ!ถ้าพ่อแม่รู้เื่ที่นายชอบผู้ชายด้วยกัน รู้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้น!”
“พี่!การที่ฉันชอบผู้ชายมันผิดมากเลยเหรอ?” ฝูซินอี๋คนเดินที่นิ่งเงียบ เงยหน้าขึ้นมาถามพี่ชายคนโตดวงตากลมสวยที่นอกไปด้วยน้ำตา จนดวงตาแดงก่ำ ทำให้คนมองถึงกับสงสาร
ฝูซินอี๋ที่ถูกพี่ชายจับไปที่ไหล่ของตัวเองจนแน่น ก็ร้องไห้ออกมามากขึ้น อย่างไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไงแล้ว"ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว!ไม่รู้ว่าจะตัดใจไม่ให้รักได้ยังไง ฮือ…พี่ใหญ่ พี่พูดกับพ่อแม่ให้ฉันหน่อยนะ ให้ฉันไม่จากปักกิ่ง ฉันคิดว่าหากฉันไปอยู่ในที่ห่างไกล ไม่ได้เจอกับจ้าวมู่อีก ฉันอาจจะตัดใจได้"
ฝูซินอี๋ที่ถูกพี่ชายจับไปที่บ่าและบีบเอาไว้ก็ร้องไห้ออกมา อย่างไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไงแล้ว"ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว!ไม่รู้ว่าจะตัดใจไม่ให้รักได้ยังไง ฮือ…พี่ใหญ่ พี่พูดกับพ่อแม่ให้ฉันหน่อยนะ ให้ฉันไม่จากปักกิ่ง ฉันคิดว่าหากฉันไปในที่ห่างไกล ไม่ได้เจอกับจ้าวมู่อีก ฉันอาจจะตัดใจได้"
ฝูซินหยวนเห็นว่าน้องชายคนรองกำลังร้องไห้ออกมาเหมือนกับเมื่อตอนเป็เด็ก ก็อดดึงน้องชายเข้ามากอดไม่ได้ ฝูซินหยวนกล่าวว่า"อาอี๋…นายอยากไปก็ไปเถอะ พี่ใหญ่จะพูดกับพ่อแม่ให้เอง"
“พี่ใหญ่~~ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เข้าใจผม”ฝูซินอี๋กล่าวและกอดพี่ชายร้องไห้ พระพายที่กำลังดูความทรงจำที่เกิดขึ้นของเ้าของร่าง ก็รู้สึกถึงความเ็ปจากการแอบรักอยู่ข้างเดียว
….
ฝูซินหยวนและฝูซินอี๋ใช้เวลาอยู่ในห้องเป็ครึ่งวัน ทำให้พ่อแม่และน้องชายที่รองอยู่นอกห้องเป็ห่วง ไม่รู้ว่าทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันเลยอะไร ก่อนที่หม่ายี่หรานจะไปเรียกลูกชายทั้งสองในห้อง ให้ออกมากินข้าวเที่ยง เด็กทั้งสองคนก็พากันออกมาพอดี
หม่ายี่หรานกำลังจะถามลูกชายคนโต กลับเห็นว่าตาของลูกชายคนรองบวมแดง นางจึงหันไปมองลูกชายคนโต และถามลูกชายว่า"ซินหยวน ลูกดุอะไรน้องหรือเปล่า ทำไมอาอี๋ถึงได้ร้องไห้จนตาบวมแบบนี้!"
ฝูซินหยวนที่ถูกคุณแม่ถาม"ผมไม่ได้ดุน้องครับ คือว่าฝุ่นมันเข้าตาน้องนะครับ น้องเลยร้องไห้"
“ฝุ่นที่ไหนเข้าตาน้องรองของลูก บอกแม่มาว่าน้องเป็อะไร!”หม่ายี่หรานไม่เชื่อที่ลูกชายคนโตบอก
ฝูซินหยวนมองน้องชายคนรองเล็กน้อย ก่อนจะบอกแม่ว่า"จริงๆที่น้องร้องไห้และอยากไปชนบทแทนผม เป็เพราะว่า…"
ฝูซินอี๋ใที่เห็นว่าพี่ใหญ่กำลังจะบอกพ่อแม่ว่าเขาชอบผู้ชาย และยังเป็ลูกชายคนข้างบ้านอีก
“พี่ใหญ่!…พี่ห้ามพูดนะ!”ฝูซินอี๋ะโบอกพี่ชายและพยายามเข้าไปยกมือปิดปากพี่ชายคนโตที่สูงกว่าตัวเอง
“ฝูซินอี๋!” เสียงคุณแม่หม่ายี่หราน เรียกชื่อลูกชายคนรองเสียงดัง ทำให้ฝูซินอี๋ที่กำลังห้ามพี่ชายฝูซินหยวนใ กับเสียงของแม่
“แม่…อย่าดุพี่รองสิครับ พี่ใหญ่พี่จะบอกอะไรแม่นะ”ฝูซินหรงรีบเข้ามาห้ามและถามพี่ชายคนโตแทนผู้เป็แม่
“จะบอกว่าที่อาอี๋ร้องไห้เป็เพราะถูกคนอื่นหักอกมาและทำใจไม่ได้ เลยอยากจะไปชนบทเพื่อหนีไปทำใจนะ”ฝูซินหยวนรีบบอกเื่ที่จะบอกพ่อแม่ ฝูซินอี๋ที่ยังใไม่หาย พอได้ยินที่พี่ชายบอกพ่อแม่ก็โล่งใจขึ้น
“จริงครับพ่อแม่ ผมอกหักและก็ทำใจที่จะเจอกับคนคนนั้นไม่ได้ เลยอยากจะไปจากปักกิ่ง”ฝูซินอี๋บอกพ่อแม่
“ฝูซินอี๋ใครๆ ก็อกหักได้ การที่ลูกจะหนีไปชนบทในฐานะยุวชนมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลยนะ ลูกไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอยู่ที่ปักกิ่งอีกเมื่อไหร่ ลูกอย่าไปเลยนะ” ฝูเจิ้นห่าวกล่าวกับลูกชายคนรอง
“พ่อแม่ ผมตัดสินใจแล้ว ผมไม่้าที่จะอยู่ที่ปักกิ่งในที่ที่ ต้องมองเห็นคนคนนั้นอีกต่อไปแล้ว” ฝูซินอี๋กล่าวและไม่ยอมเปลี่ยนใจทำให้คนในบ้านได้แต่จำยอมและช่วยกันเตรียมของที่จะให้ลูกชายคนรองเอาติดตัวไปด้วย ระหว่างเดินทาง