อักษรลับเก้าตะวันหมุนวนทั่วร่าง มือทั้งสองข้างของหยวนจุนเกิดพลังจากการใช้ร่างเปลี่ยนปราณทันที พลังโอสถรุนแรงทำให้เขาทรมาน เหงื่อไหลเป็ทางั้แ่ศีรษะลงมา
ความทรมานเช่นนี้เขาเคยััมาก่อน ประหนึ่งเืทุกหยดในร่างกายกำลังถูกแทรกจากพลังโอสถ
“พลังโอสถของยาต้าฮ่วนรุนแรงมาก! แม้ข้าจะใช้ร่างเปลี่ยนปราณแล้ว ก็ยังััได้ถึงความรุนแรงจากพลังโอสถ! หากข้ามีเส้นปราณเป็ของตนเอง แค่เพียงครึ่งชั่วยาม ข้าคงถูกทำลายเส้นปราณจนตายไปแล้ว!”
หยวนจุนควบคุมจิต เมื่อเืดูดซับพลังโอสถแล้ว พลังโอสถก็แพร่ผ่านกระดาษสีแดง แปรเปลี่ยนเป็ปราณดาราบริสุทธิ์ที่ซ่อนอยู่ในกระแสปราณ
แม้เขาจะััได้ว่าอวัยวะภายในมีการเปลี่ยนแปลง แต่กระนั้นร่างกายก็แข็งแรงกว่าก่อนหน้านี้เป็อย่างมาก
“ต้องบรรลุ!”
หยวนจุนบรรลุผ่านขอบเขตถึงขีดจำกัด กระแสปราณแผ่ขยายจนไม่สามารถบีบอัดได้อีก เขาหยุดดูดซับพลังโอสถของยาต้าฮ่วน แค่ความพยายามเพียงครั้งเดียวสามารถเข้าสู่ระดับดาราวงแหวนใหญ่ขั้นสอง!
ในที่สุดก็ผ่านวงแหวนเล็กแล้ว!
ผลที่เกิดขึ้น แม้แต่เขาเองก็ยังประหลาดใจ เพียงแค่ดูดซับพลังโอสถของยาต้าฮ่วน ทำให้เขาสามารถบรรลุผ่านไปถึงระดับดาราวงแหวนใหญ่ขั้นสอง หากเล่าออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ
อย่างไรก็ดี การบรรลุผ่านของนักยุทธ์ไม่ใช่เื่ง่าย แม้เป็ขั้นเดียวกัน แต่ก็มีช่องว่างระหว่างวงแหวนเล็กและวงแหวนใหญ่พอควร เปรียบดั่งฟ้ากับเหว
ซึ่งเป็เื่ยากหาก้าบรรลุผ่านช่องว่างระหว่างขั้น
“วงแหวนใหญ่ขั้นสองมีพลังมากกว่าวงแหวนใหญ่ขั้นหนึ่งถึงสิบเท่า ในตอนนี้ข้าคงจะสามารถฆ่านักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นสองจนถึงวงแหวนเล็กขั้นสามได้แล้ว”
ขณะที่อักษรลับเก้าตะวันหมุนวนรอบหยวนจุนอีกครั้ง เขาพบว่ามีความทรงจำของการฝึกฝนนี้ขึ้นมา ทั้งตัวอักษรลับยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“วิถีตะวันทรงกลดวงที่หนึ่ง!”
เมื่อเห็นตัวอักษรเรียงอัดแน่น หยวนจุนดีใจในทันที ไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ระดับดาราวงแหวนขั้นสอง และวิถีตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งได้สำเร็จ
“เก้าตะวันก่อเกิด ควบคุมระดับทั้งเก้า เมื่ออยู่ระดับวงแหวนขั้นเก้าแล้วจึงจะเข้าใจตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งอย่างกระจ่างแจ้ง ยิ่งการบ่มเพาะของนักยุทธ์สูงเท่าไร ยิ่งทำให้แต่ละวงของตะวันทรงกลดเกิดเร็วขึ้น แม้ข้าอยู่ระดับวงแหวนใหญ่ขั้นสองก็บรรลุวิถีตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งได้แล้ว นับว่าข้าก็มีความสามารถในระดับหนึ่ง”
“หากเป็นักยุทธ์ธรรมดา ต้องรอถึงระดับวงแหวนใหญ่ขั้นเก้าก่อนจึงจะสามารถบรรลุได้!”
หลังจากยินดีอยู่พักหนึ่ง หยวนจุนก็เร่งทำตามวิถีบ่มเพาะพลัง โดยการเตรียมภายในััตะวันทรงกลดวงที่หนึ่ง
กลุ่มปราณดาราพุ่งไปตามสันหลังแล้วขึ้นสู่ศีรษะ จากนั้นก็ค่อยๆ ไหลลงมาจากศีรษะสู่ดวงตา ผ่านเส้นเื จนเกิดกระแสปราณก่อตัวเป็วงกลม
วงโคจรนี้ ใช้เวลาหมุนรอบเกือบทั้งคืน
อย่างไรก็ตาม แม้จะเข้าใจวิถีการบ่มเพาะแล้ว แต่เขาก็ไม่อาจกลั่นพลังวิถีตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งได้ในคืนเดียว ถึงผลจะเป็เช่นนี้ หยวนจุนก็ไม่รู้สึกผิดหวัง
หากกล่าวว่าการกลั่นวิถีตะวันทรงกลดวงที่หนึ่งเป็เื่ง่าย เช่นนั้นคงถูกหลอกลวงแล้ว
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม มีเสียงหงุดหงิดดังขึ้นหลังเคาะประตู “นี่ เ้าจะนอนไปถึงเมื่อไร?”
หยวนจุนเปิดประตูไม้ เสี่ยวเมิ่งมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ครั้นหันหลังกลับ นางบิดเอวบางจนเกือบหัก ดูแล้วเป็ธรรมชาติ มิใช่ตั้งใจกระทำ
“ดวงอาทิตย์จะตกดินแล้ว ยังไม่เข้าเมืองอีก!”
เขานึกขึ้นได้ว่า วันนี้ถูกบังคับให้ไปขายของในเมือง
ส่วนของอะไรนั้น หยวนจุนไม่อาจรู้ได้ เพราะของทั้งหมดอยู่ในแหวนมิติของเสี่ยวเมิ่ง
ก่อนออกไป ปู่ของเสี่ยวเมิ่งตั้งใจกระแอมกระไอต่อหน้าหยวนจุน ใบหน้าดุบ่งบอกจุดประสงค์ชัดเจน คือ ้าเตือนหยวนจุนว่าอย่าทำอะไรโง่เขลา มิฉะนั้นเขาจะไม่มีวันรอด
เมื่อเห็นหยวนจุนออกไปกับหลานสาวแล้ว ชายชราก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “เมื่อวานเ้าหนุ่มนี้เพิ่งบรรลุผ่านวงแหวนใหญ่ขั้นสอง แต่เช้านี้กลับไม่รู้สึกถึงพลังปราณภายใน เขามีความลับอะไรปิดบังอยู่กันแน่?”
เมื่อมาถึงในเมือง ถนนคับคั่งไปด้วยผู้คน พ่อค้ามากมายจับจองทำเลดีๆ ไปหมดแล้ว เสี่ยวเมิ่งจึงต้องเดินหาทำเลที่ไกลออกไป พร้อมกับเหลือบมองหยวนจุนด้วยความอารมณ์เสีย “เพราะเ้าตื่นสาย”
หยวนจุนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงจึงทำได้แค่กางมือผายออกเท่านั้น ปล่อยให้เสี่ยวเมิ่งแตะแหวนมิติอย่างที่เคยทำ ไม่นานแผงด้านในที่วางของก็ปรากฏขึ้น
เมื่อเห็นผลึกอสูรกับหินแร่วางอยู่ หยวนจุนตาเป็ประกาย ทำให้เข้าใจทันทีว่าของที่พวกเขาขายคืออะไร
วัตถุแร่ผลึก!
แน่นอนว่าคนทั่วไปไม่ใช้วัตถุแร่ผลึกพวกนี้ แต่สำหรับนักยุทธ์ ของพวกนี้มีค่ามาก วัตถุแร่ผลึกดีๆ มีค่ายิ่งกว่ายาขั้นสูงเสียอีก
“นอกจากแม่นางจะมีพลังจิตแล้ว ยังเป็นักสร้างด้วยหรือ?” แม้หยวนจุนจะไม่เชื่อว่าเพียงอายุเท่านี้ก็เป็นักสร้างแล้ว แต่เขาก็อดที่จะถามไม่ได้
“นี่เป็ความลับ ข้าไม่บอกเ้าหรอก”
แม้เสี่ยวเมิ่งจะตอบอย่างขอไปที แต่จากประโยคนี้หยวนจุนก็สามารถบอกได้แปดเก้าส่วนว่านางคงเป็นักสร้างจริงๆ
นักสร้างเป็อาชีพที่ได้รับการเชิดชูในมหาภพหลิงเทียน พวกเขาสามารถกลั่นแร่ให้เป็อาวุธอันทรงพลังของนักยุทธ์ ทั้งนี้มีนักยุทธ์มากมายที่พยายามประจบสอพลอเพื่อให้ได้อาวุธนั้น แต่ทั้งหมดก็เป็เพียงความเพ้อฝัน
อาชีพนี้แตกต่างจากช่างทั่วไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับวิธีการเผาและการกลั่นแร่แล้ว วิธีการของนักสร้างมีความโดดเด่นกว่ามาก
ตราบใดที่สามารถรวมวัตถุจำเป็ที่ใช้ในการกลั่นได้ ภาพอาวุธที่้ารวมกับฝีมือของนักสร้าง จะทำให้ได้อาวุธพลังยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้พลังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
และนักสร้างก็เหมือนนักยุทธ์ มีการแบ่งตามระดับ
มี 6 ระดับ คือ นักสร้างธรรมดา นักสร้างระดับปรมาจารย์ นักสร้างระดับจ้าว นักสร้างระดับาา นักสร้างระดับมหาปราชญ์ และนักสร้างระดับจักรพรรดิ แต่ละระดับจะแบ่งเป็ 2 ขั้น คือ ขั้นทั่วไป และขั้นยอด ซึ่งเหมือนกับระดับวงแหวนเล็กใหญ่ของนักยุทธ์
ระดับของนักสร้างต่างกัน ระดับอาวุธจากการหลอมธาตุจึงต่างกันด้วย ยิ่งนักสร้างระดับสูงเท่าไร ระดับและคุณภาพของอาวุธก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
อาวุธของนักสร้างต่างจากอาวุธทั่วไป แบ่งออกเป็ 9 ระดับ คือ ระดับ 1 ถึงระดับ 3 เรียกว่าอาวุธระดับิญญา ระดับ 4 ถึงระดับ 6 เรียกว่าอาวุธระดับาา และระดับ 7 ถึงระดับ 9 เรียกว่าอาวุธระดับมหาปราชญ์
หาก้าเป็นักสร้าง ใช่ว่าจะสำเร็จโดยง่าย เนื่องจากต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย
ต้องเป็นักยุทธ์ที่เชื่อมประสานปราณธาตุดาว ได้รับพลังควบคุมธาตุไฟ ทั้งยังต้องมีวิถีการบ่มเพาะพลังจิตที่แข็งแกร่ง จึงจะมีคุณสมบัติเป็นักสร้างได้
ว่าไปหยวนจุนก็เคยใฝ่ฝันอยากเป็นักสร้าง เพียงแต่ชาติที่แล้วเขาทุ่มเททั้งหมดให้กับการเป็นักยุทธ์ แม้ว่าเขาจะเข้าใจพลังจิตอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ััการกลั่นแร่
ขณะที่ไม่รู้จะทำอะไร เขาก็นำหินแร่สองสามก้อนขึ้นมารวมกับพลังจิตภายใน ความรู้สึกแผดเผาที่ไหลผ่านมือ ทำให้เขาโยนหินแร่ลงบนพื้นทันที
“นี่ เ้าทำอะไรน่ะ!” เสี่ยวเมิ่งมองเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจ และก้มลงเก็บหินแร่ขึ้นมา ครั้นได้มองหินแร่นางก็ประหลาดใจ เพราะพบว่าหินแร่สามชนิดที่แตกต่าง กำลังผสานกันอย่างน่าอัศจรรย์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้