ท่านลุงสี่ไปในตัวเมืองแต่เช้าซื้อเนื้อหมูมาสองจิน ปลาอีกหนึ่งตัว และสุราหนึ่งไห เมื่อเห็นสามีตัวเองใช้เงินไปมากอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนท่านป้าสี่จึงเอ่ยถามด้วยความใ “นี่ตาแก่ เ้าเป็บ้าอะไรกัน ทำไมถึงซื้ออาหารมาเยอะขนาดนี้!”
ท่านลุงสี่กล่าวด้วยความตื่นเต้น“เซียวยวี่กลับมาแล้ว ข้าเชิญเซียวยวี่มากินข้าวมื้อหนึ่ง คุยกันไว้แล้ว”
พอท่านป้าสี่ได้ยินชื่อเซียวยวี่รอยยิ้มบนใบหน้าพลันหายไปทันที “เ้าเชิญเขากินข้าวทำไม? ”
ท่านลุงสี่ฟังไม่ออกว่าน้ำเสียงภรรยาตัวเองแฝงเร้นด้วยความไม่พอใจกล่าวต่อด้วยความตื่นเต้น “เซียวยวี่ออกเดินทางไปสามเดือนกว่า กลับมาทั้งที ข้าย่อมต้องเชิญเขามากินข้าวในอนาคตหากเป็ท่านซิ่วไฉแล้ว ไม่แน่ว่าเชิญเขามา เขาอาจไม่อยากมาแล้วก็ได้! ”
ท่านป้าสี่พึมพำ “หากเขาสอบเป็ซิ่วไฉได้คอของข้าก็คงบิดเป็เกลียวได้”
ท่านลุงสี่หันมาเอ่ยถามนาง“แม่ิจู เมื่อครู่เ้าพูดอะไรนะ? ”
“เปล่า ไม่ได้พูดอะไร!” ท่านป้าสี่รีบส่ายหน้า
“เ้าช่วยข้านำเนื้อหมูไปตุ๋นก่อนข้าจะไปฆ่าปลา ฆ่าปลาเสร็จข้าจะไปเชิญเซียวยวี่มากินข้าว ต้องไปเชิญแต่เช้าถึงจะดูจริงใจ!” ท่านลุงสี่หัวเราะอย่างมีความสุข หิ้วปลาออกจากห้องครัว ท่านป้าสี่มองเนื้อหมูสองจินบนเตาปรุงอาหารรู้สึกอึดอัดจนถอนหายใจอีกครั้ง
ไม่ได้ จะปล่อยให้ิจูพบเซียวยวี่ไม่ได้
ท่านป้าสี่พุ่งพรวดออกจากห้องครัว กำลังคิดจะหลอกให้ิจูกลับบ้านท่านยายเซียวิจูหิ้วถังไม้ที่ใส่เสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วเดินเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าขึ้นสีแดง
น่าจะได้ยินเื่ที่เซียวยวี่จะมากินข้าวแล้ว
เซียวิจูแสดงสีหน้าเขินอายไม่สนใจท่านป้าสี่ โยนถังไม้ไว้ก็วิ่งออกไปข้างนอก “ท่านพ่อ ท่านฆ่าปลาเถอะเ้าค่ะข้าจะไปตามพี่อายวี่เอง”
ท่านป้าสี่ะโเสียงดังด้วยท่าทางดุดันอยู่ข้างหลัง“เซียวิจู เ้ากลับมาประเดี๋ยวนี้...”
เซียวิจูวิ่งไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
ท่านป้าสี่จะวิ่งออกไปจับนางกลับมา ท่านลุงสี่เอ่ยถามด้วยท่าทีสงสัย“ิจูไปตามมาก็ได้นี่นา ยายแก่ เ้าเป็อะไรไป? ”
ท่านป้าสี่รู้สึกอัดอั้นอยู่ในใจแทบอยากกระอักเืออกมา
ไม่กี่วันก่อนนางเพิ่งย้ำกำชับกับเซียวิจูว่าอย่าพบเซียวยวี่อีกพริบตาเดียวสามีตนเองก็ชักศึกเข้าบ้าน เท่ากับเอาชีวิตนางไม่ใช่หรือ!
ท่านป้าสี่ไม่อาจตามเซียวิจูกลับมาได้ทำได้เพียงจ้องท่านลุงสี่ด้วยท่าทางดุร้าย ท่านลุงสี่โดนจ้องก็รู้สึกฉงน “นี่ยายแก่เ้าเป็อะไรกันแน่? ทำไมถึงมองข้าเช่นนั้น? ”
ท่านป้าสี่พยายามกล้ำกลืนฝืนทนความโมโห“เ้าเชิญแขกก็ไม่รู้จักปรึกษากับข้าก่อน”
ท่านลุงสี่รู้สึกงงงวยยิ่งนัก“วันที่ข้ารู้ว่าเซียวยวี่กลับมาก็บอกเ้าแล้วนี่ ข้าบอกว่าอีกสองวันจะเชิญเซียวยวี่มากินข้าวตอนนั้นเ้าก็ขานตอบอย่างดี ข้านึกว่าเ้าตอบตกลงแล้วเสียอีก! ”
วันนั้นท่านป้าสี่กำลังคิดเื่หาคู่ครองดีๆให้ิจู จะตั้งใจฟังได้อย่างไร
อาหารก็ซื้อมาแล้ว ทั้งยังไปตามคนแล้วดูท่าคงต้องเลี้ยงอาหารมื้อนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ท่านป้าสี่โมโหแทบตาย เช่นนี้เท่ากับชักศึกเข้าบ้านไม่ใช่หรือนางหนูเซียวิจูจะตัดใจได้อย่างไร
“เ้าเป็คนเชิญข้าไม่ได้เชิญเสียหน่อย ใครเชิญคนนั้นก็ทำอาหาร ข้าจะไปรดน้ำในแปลงผักแล้ว! ”
กล่าวจบ ก็ออกจากประตูบ้านไปด้วยอารมณ์โมโห
มือของท่านลุงสี่เต็มไปด้วยเกล็ดปลาและเืปลาะโเรียกสองที รู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก “สองแม่ลูกนี่เป็อะไรไป แต่ละคนเหมือนกินดินะเิมาอย่างไรอย่างนั้น”
เขาไม่ได้คิดมาก เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็เพราะอะไรคิดว่าสองแม่ลูกมีเื่ผิดใจกันอีก จึงกลับไปฆ่าปลาต่อด้วยความยินดี
เซียวิจูวิ่งไปถึงบ้านเซียวยวี่พอคิดว่าอีกประเดี๋ยวจะได้พบเซียวยวี่แล้ว นางตื่นเต้นจนหัวใจแทบหลุดออกจากช่องอก
เมื่อเห็นบ้านเซียวยวี่อยู่ใกล้แค่คืบเซียวิจูจึงหยุดฝีเท้า
นางมองดูเสื้อผ้าบนกายตัวเองเมื่อครู่ไปซักเสื้อผ้าริมแม่น้ำ แขนเสื้อและชายกระโปรงเปียกหมด เสื้อบนกายก็มีรอยยับไม่น้อยรีบเอื้อมมือไปดึงเสื้อตัวเองให้เรียบ จัดเส้นผมของตัวเองที่ไม่ยุ่งแม้แต่น้อย เตรียมตัวเสร็จแล้วแต่กลับยังรู้สึกหงุดหงิดนัก!
ถ้าเป็เวลาปกติ เซียวิจูย่อมไม่รู้สึกอะไรแต่คนที่กำลังจะไปพบ คือเซียวยวี่!
หากนางแต่งตัวไม่เด่นพอจะทำให้พี่อายวี่สังเกตนางได้อย่างไร?
พอคิดว่าในบ้านเซียวยวี่ยังมีสตรีรูปโฉมงดงามไร้ที่ตินั่นเซียวิจูก็ทั้งรู้สึกเศร้าและรู้สึกโกรธ
หากไม่ใช่เพราะมารดาของนางคอยจับจ้องนางอยู่ตลอดนางต้องแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างเต็มที่แน่
อย่างไรนางก็ไม่ได้พบเซียวยวี่มาสามเดือนกว่าแล้วควรจะให้เซียวยวี่ได้เห็นนางใน่ที่ดูดีที่สุด
เซียวิจูยืนอยู่หน้าประตูบ้านเซียวยวี่ด้วยความลังเลไม่รู้ว่าควรเข้าไป หรือควรกลับไปแต่งตัวให้ดีค่อยมาใหม่ แต่ก็เกรงว่ามารดาของนางจะคอยจับจ้องนางอยู่ที่บ้าน
หากกลับบ้านแล้วโดนท่านแม่จับได้คิดจะออกมาอีกก็ยากเสียยิ่งกว่าอะไร
เมื่อตัดสินใจไม่ได้ จึงยิ่งรู้สึกร้อนใจเซียวิจูเดินวนอยู่หน้าประตูมารอบหนึ่ง ประตูบ้านเซียวยวี่ถูกเปิดออกดัง “เอี๊ยด”
เซียวิจูเงยหน้ามองไปทางประตูใหญ่เดิมทีใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี พอเห็นคนที่ออกมา ก็ชักสีหน้าทันที
เซี่ยยวี่หลัวเป็คนเปิดประตูหิ้วถังไม้ ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ มองเซียวิจูด้วยความสงสัย “เ้ามีธุระงั้นหรือ? ”
นางไม่มีจิตปรปักษ์ต่อเซียวิจูดังนั้นจึงเอ่ยถามด้วยวาจาเรียบสงบ แต่เซียวิจูได้ฟังวาจาของนาง กลับรู้สึกว่าช่างระคายหูนัก
เซียวิจูคิดถึงสิ่งที่ซินแสสวี่บอกกับนางครั้งก่อนเพียงส่งเสียงเย็นทีหนึ่ง กล่าวด้วยอารมณ์โมโห “ไม่เกี่ยวกับเ้า! ”
กล่าวจบ ก็พุ่งพรวดเข้าไปในบ้านประตูใหญ่ไม่ได้กว้างมากนัก เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่หน้าประตู ตอนเซียวิจูพุ่งพรวดเข้าไปจึงชนใส่ไหล่ของเซี่ยยวี่หลัวอย่างรุนแรง
เซี่ยยวี่หลัวไม่ทันตั้งตัวโดนชนจนถอยหลังไปสองก้าว ชนเข้ากับบานประตูดัง “ตึ้ง” จึงทรงตัวได้
ถังไม้ที่หิ้วอยู่ก็ร่วงลงบนพื้นดัง“ตุ้บ” ยังดีที่ในนั้นมีเสื้อผ้าเยอะ ถังไม้จึงไม่พลิกคว่ำ
เซียวยวี่ออกมาพอดี เห็นกับตาว่าเซียวิจูพุ่งพรวดเข้ามาด้วยอารมณ์โมโหและชนเซี่ยยวี่หลัวเขาขมวดคิ้วทันที
เซียวิจูพุ่งพรวดเข้าไปเห็นเซียวยวี่ออกจากห้อง ก็แย้มรอยยิ้มราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน “พี่อายวี่ ท่านกลับมาแล้วงั้นหรือเ้าคะ? ”
เซียวยวี่ขานตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบไม่ได้กล่าวอะไร
ท่าทีของเซียวิจูที่ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาทำให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เซี่ยยวี่หลัวไม่หันมองทางเซียวยวี่ด้วยซ้ำแสยะยิ้มพร้อมส่ายหน้าด้วยความปลงอนิจจัง เซียวิจูนะเซียวิจู เ้าแค้นผิดคนแล้วจริงๆหากหนังสือหย่านั่นมีผล ตอนนี้นางกับเซียวยวี่ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว นอกจากนั้นสตรีที่อยู่ครองคู่กับเซียวยวี่ไปชั่วชีวิต เป็คนที่มีประกายแสงเจิดจรัส ชาติตระกูลดีมีฐานะรูปโฉมงดงามมีความสามารถ หญิงชาวบ้านจากชนบทอย่างพวกนางจะเทียบได้อย่างไร!
เซี่ยยวี่หลัวก้มตัวหิ้วถังไม้ข้างเท้าตัวเองขึ้นเดินออกไปโดยไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้