ณ เมืองแห่งสายฝน ภายในคฤหาสน์ตระกูลกู่ ในห้องลับพิเศษที่มีเพียงคนในตระกูลเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้ กู่เทียนนอนอยู่บนเตียงที่ถูกออกแบบมาเป็พิเศษเพื่อเร่งการฟื้นตัวและเสริมพลังให้กับร่างกาย
กวงเยว่ กู่หลง และกู่โม่ยืนล้อมเตียงอยู่ภายในห้องรับรองพิเศษ กู่โม่ร่ายเวทสร้างมิติพิเศษขึ้นมาเพื่อป้องกันการสอดแนม ส่วนกวงเยว่เปิดแหวนมิติแล้วดึงกระเป๋าพิเศษออกมา
ทั้งสามกัดนิ้วโป้งของตัวเองก่อนจะแตะเืลงบนกระเป๋า จากนั้นจึงลากนิ้วไปมาบนพื้นผิวของมัน รหัสที่พวกเขาเขียนลงไปไม่เหมือนกันเลยแม้แต่ตัวเดียว เมื่อตัวเลขสุดท้ายถูกเขียนลงไป กล่องพิเศษก็เปิดออก เผยให้เห็นขวดน้ำยาสีแดงสดที่บรรจุของเหลวปริศนา
กวงเยว่หยิบถุงมือพิเศษขึ้นมาสวมก่อนจะหยิบน้ำยาขวดนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเธอเอียงขวดและค่อย ๆ เทของเหลวสีแดงลงไปในปากของกู่เทียน
ทันทีที่น้ำยาเข้าสู่ร่างกาย พลังงานอันมหาศาลก็เริ่มปะทุขึ้นจากร่างของกู่เทียน ออร่าสีดำสลับแดงแผ่กระจายไปทั่วห้อง ระดับพลังของกู่เทียนพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากคนธรรมดากลายเป็ระดับเพชรสูงสุดภายในพริบตา
กู่หลงจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตะลึง "เมื่อไม่กี่วันก่อน ไอ้ตัวแสบนี้ยังอยู่ที่ระดับเงินอยู่เลยรึเปล่านะ หรือว่าฉันจำผิด?"
กู่โม่พยักหน้า "ไม่น่าจะผิดหรอก ฉันมั่นใจว่าเขายังอยู่ระดับเงินแน่ ๆ"
กวงเยว่ที่มองลูกชายตัวเอง รู้สึกทั้งดีใจและใในเวลาเดียวกัน
ลูกชายของเธอเพิ่งใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก็แซงหน้าพวกเขาทุกคนในวัยเดียวกันไปไกลแล้ว เธอใช้เวลากว่า 20 ปี กว่าจะมาถึงระดับมรกต แต่กู่เทียนใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทะยานขึ้นสู่ระดับเพชรได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้พร์ของเขาจะอยู่ในระดับ SSS ซึ่งแตกต่างจากพวกเธอที่มีเพียงระดับ S ในตอนนั้นมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้กู่เทียนก้าวไปได้ไกลขนาดนี้ เป็เพราะความฉลาด ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับความมีวินัยที่ยิ่งใหญ่กว่าและความเด็ดขาดในการตัดสินใจของเขา
หลังจากที่พลังงานเริ่มสงบลง กู่เทียนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาสีดำของเขาเป็ประกายเจิดจ้า
"ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ?" น้ำเสียงของเขายังแหบแห้งเล็กน้อย
กู่หลงพยักหน้า "เรียบร้อยแล้ว"
กู่โม่รายงานความคืบหน้า "ตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผน มหาวิทยาลัยถูกสร้างขึ้นแล้วและจะเปิดรับนักเรียนในอีก 3 วันข้างหน้า หน่วยลับต่าง ๆ ก็มีคนเข้ามาเพิ่มและเซ็นสัญญาแห่งความตาย วัตถุดิบหายากถูกซื้อมาต่อเนื่อง และการวางรากฐานของเราก็เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วเกือบ 85%"
กู่เทียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เราต้องเร่งมือให้เร็วขึ้น ตอนนี้หนึ่งในสามตระกูลระดับจักรพรรดิอย่าง ตระกูลโอวหยาง กำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่ส่งผลดีต่อเรามากนัก"
กวงเยว่ กู่โม่ และกู่หลงสบตากันก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
"เข้าใจแล้ว" กู่โม่กล่าว
กู่เทียนพยักหน้า สิ้นสุดคำพูดของเขา ดวงตากู่เทียนก็ค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้ง เขากลับเข้าสู่ห้วงนิทราเพื่อพักฟื้นร่างกายและปรับสมดุลพลังของตัวเอง
กู่โม่คลายม่านพลังที่ปกคลุมห้องไว้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะพยักหน้าตอบรับแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
สามวันผ่านไป เสียงร้องขอชีวิตของชายชราดังสะท้อนก้องไปทั่วตระกูลหนึ่ง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเขาสั่นระริกเมื่อมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านอยู่กลางลานปะาในตระกูลของเขา
"ได้โปรดนายน้อยอู๋ ได้โปรดไว้ชีวิตตระกูลของข้าด้วย!" ชายชรากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ นี่คือหนึ่งในตระกูลของสมาชิก 1 ใน 6 คนของทีมดาบศักดิ์สิทธิ์ เขาคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าชายหนุ่มร่างสูงในชุดดำ
เืไหลนองไปทั่วพื้นก่อนที่เสียงอันเ็าของอู๋ซวงจะดังขึ้น "ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว"
สิ้นคำสั่งของเขา เสียงกรีดร้องของคนในตระกูลนี้ก็ดังขึ้นร่างของคนในตระกูลล้มลงทีละคนอย่างไร้ความปรานี บ้านเรือนที่เคยรุ่งเรืองของตระกูลนี้ถูกเปลวเพลิงเผาผลาญไปอย่างไม่เหลือซาก
อู๋ซวงมองดูภาพเบื้องหน้าด้วยความนิ่งเฉย นี่คือตระกูลสุดท้ายที่เขาจัดการ หลังจาก 3 วันที่ผ่านมา เขาได้ทำการไล่ล่าสังหารทุกตระกูลของสมาชิกทีมดาบศักดิ์สิทธิ์ไปจนหมดสิ้น ไม่มีใครรอด ไม่มีใครเหลือ
สองเดือนผ่านไป
ใน่เวลาสองเดือนที่ผ่านมา กู่เทียนได้คัดเลือกสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับครอบครัวของเขา รวมถึงใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดิสัตว์ร้าย ซึ่งมันถูกดัดแปลงและปรับปรุงโดยกู่เทียนทำให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทรัพยากรจากแหล่งอื่นๆ ประกอบกับพื้นที่จิติญญาเพื่อเร่งพัฒนาคนในตระกูลให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนในตระกูลกู่ ทั้งกู่หลง กู่โม่ กวงเยว่ และกู่เทียน ทุกคนต่างก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายกันหมดแล้ว
แต่ถึงแม้ว่ากู่เทียนจะสามารถช่วยให้ทุกคนในตระกูลแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่กู่เทียนกลับยังมีสัตว์ร้ายเพียงห้าตัวเท่านั้น เพราะเขายังไม่สามารถหาสัตว์ร้ายตัวใหม่ที่ตรงตามมาตรฐานของตัวเองได้ แม้จะมีทรัพยากรมากมาย แต่เขาก็ไม่ยอมลดคุณภาพของสัตว์ร้ายลงเด็ดขาด
แต่เงื่อนไขของผู้ควบคุมจักรพรรดิสัตว์ร้ายนั่นคือการมีสัตว์ร้ายห้าตัวในระดับจักรพรรดิ ซึ่งกู่เทียนก็มีครบแล้ว จึงทำให้เขาสามารถเลื่อนระดับขึ้นมาเป็จักรพรรดิได้
หลินหยุนเทียน ผู้เป็ดาบของกู่เทียน ก็สามารถก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิได้แล้วเช่นกัน รวมถึงสายลับที่แทรกซึมเข้าไปในตระกูลต่างๆ ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้มหาวิทยาลัยของกู่หลงกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน นักเรียนรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยได้เข้ามาแล้ว และจากผลการวิจัยของกู่เทียน น้ำแห่งเทพเ้าปลอมที่เขาคิดค้นขึ้นมาได้มีประสิทธิภาพถึง 60% ของน้ำแห่งเทพเ้าที่แท้จริงแล้ว ซึ่งถือว่าเป็ความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง
แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวการล่มสลายของเมืองริมชายฝั่งทะเลหลายแห่งได้แพร่กระจายไปทั่ว พวกมันถูกทำลายลงทีละเมือง ไม่ว่าจะด้วยสัตว์ร้ายหรือกองกำลังที่ไม่ปรากฏตัวตน
ในขณะที่ เมืองแห่งสายฝนได้รับการเลื่อนระดับเป็เมืองระดับที่ 4 ด้วยอิทธิพลของตระกูลกู่ และตอนนี้ กู่เทียนได้ควบคุมเศรษฐกิจทั้งหมดของเมือง ทำให้เขาสามารถฟอกเงินได้อย่างไร้ขีดจำกัด
รัฐบาลกลางไม่สามารถแทรกแซงหรือตรวจสอบใดๆ ได้เลย เพราะเ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่เมืองแห่งสายฝน ล้วนถูกควบคุมโดยกู่เทียนเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ข่าวที่ดังที่สุดและเป็ที่จับตามองไปทั่วทุกมุมของโลก คือการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างตระกูลโอวหยาง และ ตระกูลกวน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก อาจารย์ของหานเทียน การต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้เป็เพียงแค่เื่ภายในอีกต่อไป เพราะมันได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอำนาจของโลกในปัจจุบัน ถึงมันยังไม่เกิดขึ้นจริงแต่มันจะเกิดขึ้นแน่นอน
บรรดาตระกูลใหญ่ทั้งหลายก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาต่างแย่งชิงทรัพยากร ดึงดูดผู้มีความสามารถให้เข้าร่วมตระกูลของตนอย่างลับๆ พยายามขยายอำนาจให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง
สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดคือ รัฐบาลกลางกลับเงียบหายไปโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นั่นทำให้สถานการณ์เริ่มบานปลาย เมืองต่างๆ เริ่มตกอยู่ในความวุ่นวาย ไม่ใช่แค่จาการะหว่างมนุษย์กับมนุษย์ แต่ยังรวมไปถึงาระหว่างมนุษย์กับสัตว์ร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังค่อยๆ หลุดออกจากการควบคุม
ขณะเดียวกัน กู่เทียน ที่ตอนนี้มาถึงระดับจักรพรรดิแล้ว กำลังเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลก หลังจากที่ฐานอำนาจของเขาถูกสร้างขึ้นและเริ่มมั่นคงแข็งแกร่งแล้ว เขาไม่จำเป็ต้องดูแลมันด้วยตัวเองอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขามีคนที่สามารถไว้วางใจได้คอยดูแลแทนอยู่แล้ว
เป้าหมายหลักของกู่เทียนในตอนนี้คือ การเดินทางเพื่อตามหาสัตว์ร้ายตัวใหม่ ที่เหมาะสมจะกลายมาเป็สัตว์ร้ายตัวที่หกของเขา และในขณะเดียวกัน เขาก็กำลังมองหาบุคคลที่มีพร์พิเศษเพื่อดึงตัวเข้ามาอยู่ในขั้วอำนาจของตระกูลกู่ โดยเฉพาะบุคคลที่มีศักยภาพพอจะเป็กำลังสำคัญให้กับเขาได้ แต่เหตุผลจริงๆ แล้วเขามาหาวัตถุดิบสร้างน้ำแห่งพระเ้า
่นี้ สิบตระกูลศักดิ์สิทธิ์และสามตระกูลจักรพรรดิ กำลังแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงประตูมิติระดับจักรพรรดิ พวกเขาทุ่มกำลังไปที่การพลังอำนาจเหล่านี้ ทำให้พวกเขาไม่ค่อยสนใจทรัพยากรอื่นๆ มากนัก ดังนั้นนี่คือโอกาสสำคัญของกู่เทียนและกองกำลังระดับต่ำอื่นๆ