“ถ้าเช่นนั้น พวกเ้ายังจะต่อสู้กันต่อหรือไม่?” พลันจ้านอู๋มิ่งถามขึ้น
ทุกคนงงงันวูบหนึ่ง จริงด้วยสิ การเดิมพันระหว่างจ้านอู๋มิ่งกับราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยยังไม่จบสิ้น แล้วนี่จะสู้กันต่อหรือไม่เล่า ถ้าไม่ต่อสู้ต่อ ผู้ใดเป็ผู้ชนะ?
“จ้านอู๋มิ่ง เ้าข่มเหงกันเกินไปแล้ว!” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาตำหนิอย่างโกรธเคือง
ในเวลาเช่นนี้ จ้านอู๋มิ่งกลับยังถมหินลงบ่อ ซ้ำเติมกันอีก
“เวลานี้พวกเรายังอยู่ในวงกลม เ้าคงจะไม่ให้ข้ารออยู่ในวงกลมนี้ตลอดเวลา เพื่อรอให้พวกเ้าจัดการทุกสิ่งเสร็จสิ้นกระมัง? หากไม่มีคำตอบละก็ สองกระบวนท่าที่เหลือข้าก็จะลงมือแล้ว ข้าให้โอกาสพวกเ้ายอมรับความพ่ายแพ้ครั้งหนึ่ง ข้าสามารถให้เฝิงอู๋เซวี่ยมิต้องทำอัตวินิบาตกรรมเชือดคอตนเอง หากพวกเ้าไม่ยอมแพ้ นั่นก็อย่าได้โทษว่าข้าโเี้ไร้ไมตรีแล้ว!” จ้านอู๋มิ่งแค่นเสียงเ็าคำหนึ่ง
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาขุ่นข้องหม่นหมอง ดาวมฤตยูผู้นี้ เื่ราวใดล้วนสามารถทำได้จริงๆ คราแรกในแคว้นมหาจักรพรรดิชางเหยียน เขาฆ่าหนานกงฉู่ต่อหน้าฝูงชน ทำร้ายชางลู่จื่อและอาหนานจนพิการ โดยมิเห็นแก่หน้าของสำนักกระบี่ิญญาเลยสักนิด เวลานี้เฝิงอู๋เซวี่ยยังคงร้องโหยหวนอยู่ในวงกลมนั้น ถ้าให้จ้านอู๋มิ่งลงมือ ยาแก้พิษของสำนักเบญจพิษก็ไม่จำเป็แล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องเสียชีวิตอยู่ดี
“พวกเรายอมรับความพ่ายแพ้ เ้าชนะแล้ว!” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาประกาศอย่างโกรธเคือง การต่อสู้รอบนี้จ้านอู๋มิ่งชนะแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขา้าคือการช่วยชีวิตราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ย เพราะเขาคือราชันแห่งอัจฉริยะของสำนัก
“เอาล่ะ เื่ของข้าจบสิ้นแล้ว” จ้านอู๋มิ่งปรบมือ ค่อยๆ เดินอย่างสบายอกสบายใจกลับไปอยู่ท่ามกลางศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉาน
จ้านอู๋มิ่งโบกมือไปทางชายชราในหอสมบัติจิติญญาที่อยู่ห่างออกไป กล่าวว่า “พวกเ้าเตรียมเงินเดิมพันที่ต้องจ่ายไว้ให้พร้อมด้วยเล่า!”
เสียงร้องะโของจ้านอู๋มิ่ง ทำให้ทุกคนมองมาสักพักหนึ่ง ยามนี้ทุกคนก็เริ่มต้นคิดแล้วเช่นกัน การเดิมพันครั้งใหญ่นี้คงต้องเริ่มจ่ายกันแล้ว จ้านอู๋มิ่งชนะราชันวายุ หนานกงเฉิงและราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยติดต่อกัน ชนะหรือพ่ายแพ้ประกาศแล้วเรียบร้อย ถึงแม้จะมีราชันโอสถอีกผู้หนึ่งที่กำลังตามหาจ้านอู๋มิ่งด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนว่า้าชีวิตจ้านอู๋มิ่ง ดังนั้นจึงไม่มีส่วนในการพนัน
มิมีผู้ใดคาดคิดว่า ราชันวายุและราชันกระบี่จะพ่ายแพ้ในเงื้อมมือหนุ่มน้อยไร้ชื่อเสียงผู้หนึ่ง ยามนี้ทุกอย่างเป็เื่ที่แน่นอนแล้ว ถึงแม้การต่อสู้ระหว่างราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยและจ้านอู๋มิ่งจะเกิดเื่เกินความคาดหมายของทุกคนอย่างยิ่ง แต่เวลานี้เฝิงอู๋เซวี่ยยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว จ้านอู๋มิ่งเป็ฝ่ายชนะ!
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญารวมอยู่ในสถานการณ์นั้น เนื่องจากคนของสำนักเบญจพิษไม่ให้ความร่วมมือ พวกเขาอ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่มียาแก้พิษ จำเป็ต้องหาธิดาเทพให้พบ ในที่สุดศิษย์สำนักกระบี่ิญญานึกรำคาญและบันดาลโทสะแล้ว
มิว่าผู้ใดล้วนมองออก ผ่านไปอีกครู่เดียว เฝิงอู๋เซวี่ยก็จะกลายเป็อุจจาระหนอนกองหนึ่ง ถึงเวลานั้นยัง้ายาแก้พิษมาใช้ผายลมอันใดอีก และแล้ว พวกเขาก็ระบายโทสะทั้งหมดใส่ศิษย์สำนักเบญจพิษ
ศิษย์สำนักเบญจพิษกว่าสิบคน ระดับฐานบ่มเพาะสูงที่สุดยังเป็ถึงจักรพรรดิาสูงสุด น่าเสียดายที่ถูกสะกดข่มในระดับราชันาขั้นต้น เหมือนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทว่าศิษย์สำนักกระบี่ิญญามีจำนวนคนมากกว่าศิษย์สำนักเบญจพิษหลายเท่า เมื่อบุกเข้าไปพร้อมกัน ต่อสู้กันจนเนื้อเืกระจุยกระจาย พิษร้ายสาดกระเซ็นไปรอบด้าน…
จ้านอู๋มิ่งกระซิบกับตู้เยว่ิและคนอื่นๆ ครู่หนึ่ง ตู้เยว่ิและคนอื่นๆ พลันมีสีหน้าเบิกบานยินดีขึ้นมา ขณะที่ศิษย์สำนักอื่นๆ หลีกหนีไปไกลอย่างรังเกียจ ราวกับหลีกเลี่ยงเทพเ้าโรคระบาด พวกเขากลับเข้าใกล้สนามต่อสู้อย่างเงียบๆ
ไม่นานก็มีผู้คนพบว่า ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานหาเงินอย่างผิดศีลธรรมจากคนตาย ทุกครั้งที่ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาหรือว่าศิษย์สำนักเบญจพิษเสียชีวิต ซากศพจะถูกศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉานลากไปด้านข้าง แล้วถอดแหวนจักรวาลออกมา
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาโกรธจัด ขณะที่พวกมันเตรียมคิดจัดการกับศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉาน จ้านอู๋มิ่งก็ลุกขึ้นเดินส่ายไปส่ายมา ส่งเสียงไอขึ้นสองครั้ง บรรดาศิษย์สำนักกระบี่ิญญาพากันชะงักงันไปทันใด เมื่อครู่นี้พวกเขาก็เห็นฉากที่จ้านอู๋มิ่งสังหารศิษย์ของตระกูลหนานกงสิ้นซากอย่างไร้ความปรานีแล้วเช่นกัน ยามนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับศิษย์สำนักเบญจพิษ หากไปตอแยกับศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉาน สัตว์ร้ายอารมณ์ร้อนเหล่านี้ เช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องเดินตามรอยตระกูลหนานกงแล้ว
ดังนั้น ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาจึงได้กล้ำกลืนฝืนทน หวังเพียงแต่ว่าจะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ มิฉะนั้นเสียชีวิตแล้วยังต้องถูกผู้อื่นกวาดทรัพย์สินจนเกลี้ยง นั่นก็เสียเปรียบอย่างยิ่งแล้ว
ศิษย์สำนักเบญจพิษก็ขุ่นข้องเช่นกัน แต่ภายใต้การโจมตีของศิษย์สำนักกระบี่ิญญา พวกเขาไม่อาจเสียสมาธิไปสนใจ พอไม่ระวังก็จะถูกกระบี่ฟาดฟันเสียชีวิต ยามคนสิ้นชีวิตไปแล้ว แหวนจักรวาลยังจะมีประโยชน์อันใด ศิษย์สำนักบริบาลเดรัจฉาน้าหยิบก็หยิบไปเถอะ อย่างน้อยพวกเขาก็ลากซากศพออกไป ทั้งยังสามารถรักษาซากศพให้สมบูรณ์
“รับจ้างต่อสู้ หินจิติญญาหนึ่งพันก้อน ฆ่าหนึ่งคน!” ทันใดนั้นจ้านอู๋มิ่งะโเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ จ้านอู๋มิ่งผู้นี้้าทำสิ่งใด?
“ช่วยพวกเราสังหารคนของสำนักกระบี่ิญญาให้ที ้าเงินทองเท่าไหร่ พวกเราล้วนจ่าย!” ยอดฝีมือจักรพรรดิาของสำนักเบญจพิษผู้นั้นขุ่นข้องยิ่งนัก ตนเองมาสถานพำนักของคุนเผิงเพื่อ้าหาโอกาสวาสนาดีๆ สักเล็กน้อย กลับมาเจอเื่เช่นนี้เข้า หากต้องเสียชีวิตด้วยน้ำมือราชันาเหล่านี้ละก็ ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้วจริงๆ
ปัญหาอยู่ที่สำนักกระบี่ิญญามีจำนวนคนมากกว่า ทุกคนล้วนมีฐานบ่มเพาะระดับราชันาขั้นต้น สองแขนยากจะต่อต้านสี่กรของศัตรู เขาไม่มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งอย่างจ้านอู๋มิ่ง เวลานี้พอได้ยินคำพูดของจ้านอู๋มิ่ง จิตสมาธิตื่นเต้นขึ้นมาทันใด ร้องขอความช่วยเหลือทันที
“ให้เงินก่อนแล้วค่อยฆ่าคน ห้ามหลอกข้าด้วยตั๋วแลกเงินปลอมอย่างเด็ดขาด!” จ้านอู๋มิ่งตอบอย่างดูแคลนคำหนึ่ง
“จ้านอู๋มิ่ง นี่คือเื่ของพวกเราสำนักกระบี่ิญญาและสำนักเบญจพิษ เ้าอย่าได้สอดมือเข้ามายุ่งจะดีที่สุด” หนึ่งในคนของสำนักกระบี่ิญญาพูดเสียงดัง รู้สึกร้อนใจขึ้นมาบ้างแล้ว เ้าว่าไฉนยอดคนผู้นี้ช่างวิเศษนัก ล้วนต้องเข้าไปสอดแทรกในทุกเื่ ผู้อื่นกำลังต่อสู้กันแทบเป็แทบตาย นี่เ้ายังมิใช่ตัวป่วนอีกหรือ?
“บัดซบ นี่เ้ากำลังขู่เข็ญข้าหรือ?” จ้านอู๋มิ่งคำรามอย่างโกรธเคืองคำหนึ่ง พูดกับจักรพรรดิาของสำนักเบญจพิษว่า “มอบเงินมา ข้าจะช่วยเ้าฆ่ามันก่อนก็แล้วกัน!”
“นี่คือแหวนจักรวาลของข้า ในนั้นมีหินจิติญญา เ้าหยิบเอาเอง ช่วยข้าสังหารพวกมันให้ที!” จักรพรรดิายินดีอย่างยิ่ง โยนแหวนจักรวาลของเขาออกไปทันที
จักรพรรดิาผู้นั้นเข้าใจแต่แรกแล้ว ระหว่างรอจนกระทั่งตนเองตกตาย แล้วค่อยให้จ้านอู๋มิ่งมากวาดแหวนจักรวาลของตนไป มิสู้มอบให้เขาไปเลยในตอนนี้ดีกว่า ยังสามารถให้เขาช่วยสังหารคนของสำนักกระบี่ิญญาจนดับสูญ ไม่แน่ว่าบางทีดาวมฤตยูดวงนี้อาจสามารถช่วยชีวิตตนไว้ก็ได้
“อืม ในนี้เ้ามีหินจิติญญาเพียงหนึ่งหมื่นก้อน ข้าช่วยเ้าฆ่าได้เพียงแค่สิบคน” จ้านอู๋มิ่งเปิดแหวนจักรวาลดูคราหนึ่ง ในนั้นมีหินจิติญญามากกว่าหนึ่งแสนก้อน ยังมีโอสถจิติญญา หญ้าพิษและของแปลกหายากต่างๆ อีกจำนวนมาก พลางคิดในใจ เ้าหมอนี่ของสำนักเบญจพิษช่างร่ำรวยมั่งคั่งนัก แต่ว่าปากกลับพูดตัวเลขแตกต่างออกไป
เื่นี้จักรพรรดิารู้สึกขุ่นข้องยิ่งนัก จ้านอู๋มิ่งช่างใจดำอำมหิตจริงๆ เขาจะไม่ทราบได้อย่างไรว่ามีข้าวของล้ำค่าจำนวนเท่าไหร่ในแหวนจักรวาลของตนเอง จ้านอู๋มิ่งพอเอ่ยปากก็บอกจะช่วยฆ่าเพียงสิบคนเท่านั้น หวนคิดดูก็คุ้มค่าแล้วเช่นกัน สิบคนนี้ ถือว่าเป็กำไรก็แล้วกัน มิฉะนั้นสุดท้ายแหวนจักรวาลก็มิใช่ของตนอีกแล้ว หักใจอย่างเด็ดขาด กัดฟันพูดว่า “สิบคนก็สิบคนเถอะ พวกเ้าล้วนเอาแหวนจักรวาลมอบให้เขา”
ยามนี้ศิษย์สำนักเบญจพิษยังจะสนใจแหวนจักรวาลที่ไหนกันอีกเล่า ถึงแม้จะอาศัยวัตถุพิษและมวลอากาศพิษฝืนสร้างแนววงกลมป้องกันไว้ แต่ว่าจะสามารถป้องกันได้นานแค่ไหนเล่า? ค่ายกลกระบี่ของศิษย์สำนักกระบี่ิญญา โจมตีดุจระลอกคลื่น เป็ระยะราวกระแสน้ำหลากก็มิปาน หากมิใช่เพราะครั่นคร้ามต่อพิษร้ายของตน เกรงว่าพวกเขาคงเสียชีวิตจนหมดสิ้นแล้ว และแล้วบรรดาคนของสำนักเบญจพิษก็พากันโยนแหวนจักรวาลมอบให้จ้านอู๋มิ่งด้วยจิตใจอันกว้างขวาง
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาต่างหดหู่แล้ว พวกเขามิกล้าสกัดเส้นทางของแหวนจักรวาลจริงๆ นี่คือสิ่งที่ศิษย์สำนักเบญจพิษมอบให้จ้านอู๋มิ่ง บนเกาะนี้ ผู้ที่ศิษย์สำนักกระบี่ิญญามิกล้าตอแยด้วยเกรงว่าคงมีเพียงจ้านอู๋มิ่งผู้นี้ผู้เดียวแล้ว เพราะคนผู้นี้คือคนบ้าคลั่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ผู้หนึ่ง เื่ราวใดๆ ล้วนกระทำได้ทั้งสิ้น อีกทั้งคนผู้นี้ยังชื่นชอบทรัพย์สินล้ำค่าเป็ชีวิตจิตใจ หากไปแย่งแหวนจักรวาลที่ผู้อื่นมอบให้เขา เขาไม่ทุบตีเ้าจนสิ้นชีวิตก็แปลกแล้ว
แต่ถ้าไม่แย่งชิงเล่า จ้านอู๋มิ่งรับเงินทองไว้แล้ว หินจิติญญาหนึ่งพันก้อนสังหารหนึ่งคน ถึงเวลานั้นก็ยังมาฆ่าพวกเขาอยู่ดี เ้าหมอนี่กลายเป็คนหน้าเงินไปแล้ว เื่เช่นนี้ผู้อื่นเขาไม่ทำกัน แต่จ้านอู๋มิ่งสามารถทำออกมาได้จริงๆ นี่คือการเลือกที่ยากลำบาก เป็ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
“ไม่เลว สามารถสังหารได้สิบห้าคน...ยี่สิบคน...สามสิบคน อืม ในแหวนจักรวาลนี่มีข้าวของอยู่นิดหน่อย สามารถสังหารได้ห้าสิบคนแล้ว ประเสริฐยิ่ง สำนักเบญจพิษของพวกเ้าช่างร่ำรวยนัก คนเหล่านี้พวกเราจะช่วยสังหารให้เ้าก็แล้วกัน!” จ้านอู๋มิ่งเปิดแหวนจักรวาลออกมาดูทีละอันจนหมดสิ้น ะโร่ำร้องเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ะโจนศิษย์สำนักกระบี่ิญญาขวัญหนีดีฝ่อ
“ศิษย์พี่ พวกเราสามารถเริ่มการซื้อขายได้แล้ว ฆ่าคนเหล่านี้ให้หมดสิ้น!” จ้านอู๋มิ่งทักไปทางตู้เยว่ิคำหนึ่ง รวบแหวนจักรวาลใส่เข้าไปในกระเป๋าข้างเอว
ศิษย์หลายสิบคนของสำนักบริบาลเดรัจฉานโห่ร้องครา หนึ่งปล่อยสัตว์อสูรคู่หูของตนออกมา ปิดล้อมศิษย์สำนักกระบี่ิญญาเอาไว้รอบด้าน อาศัยจ้านอู๋มิ่งเป็ผู้นำคณะ สร้างเป็ค่ายกลสัตว์อสูรจิติญญาที่เป็เอกลักษณ์เฉพาะของสำนักบริบาลเดรัจฉานขึ้นมา เจตนาฆ่าอันทรงพลัง ทำให้ศิษย์สำนักเบญจพิษและศิษย์สำนักกระบี่ิญญาในสนามต่อสู้ล้วนหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดลง
“จ้านอู๋มิ่ง เ้ากล้าทำเช่นนี้จริงๆ หรือ ไม่เกรงว่า…”
“ตูมมม…” จ้านอู๋มิ่งเดินหน้าชกออกหมัดหนึ่ง คนผู้นั้นยังพูดมิทันจบ ศีรษะก็เอียงไปด้านข้าง โดนทุบอย่างรุนแรงจนกระเด็นไปด้านหลัง
“หุบปาก เ้ากล่าววาจาไร้สาระมากเกินไปแล้ว” พูดจบ จ้านอู๋มิ่งโบกมือให้กับจักรพรรดิาของสำนักเบญจพิษผู้นั้น “หนึ่งคนแล้ว”
“จ้านอู๋มิ่ง พวกเราก็ยินดีจ่ายเงินสำหรับชีวิตของเราเช่นกัน!” คนของสำนักกระบี่ิญญาสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันใด พวกเขาััได้ถึงเจตนาฆ่าของจ้านอู๋มิ่งที่เชี่ยวกรากราวกระแสน้ำหลาก เขาย่อมไม่หวาดเกรงสำนักกระบี่ิญญาจนมิกล้าสังหารพวกเขาอย่างเด็ดขาด
เบื้องหน้าตอนนี้ ศิษย์ของสำนักบริบาลเดรัจฉานและสัตว์อสูรคู่หูของตน รวมแล้วมียอดฝีมือราชันามากกว่าร้อยคน หากรวมกับศิษย์สำนักเบญจพิษ จำนวนคนมากกว่าพวกเขาหนึ่งเท่า ถ้าต่อสู้กันขึ้นมา กลัวว่าพวกเขาจะเป็เหมือนกับลูกศิษย์ตระกูลหนานกง พังทลายย่อยยับหมดสิ้นทั้งกองทัพ
“อย่างนี้ไม่ดีกระมัง ข้าได้ตกลงการค้ากับผู้อื่นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” จ้านอู๋มิ่งด้านหนึ่งถอดแหวนจักรวาลออกจากมือศิษย์ที่สิ้นชีพแล้วของสำนักกระบี่ิญญาไปพลาง ด้านหนึ่งพูดจาไปพลาง ลอบชื่นชมในใจ ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาผู้นี้ฉลาดจริงๆ ที่ตนรอคอยก็คือคำพูดนี้แหละ คิดไม่ถึงว่าสังหารไปเพียงคนเดียว ก็มีคนพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว
“ไม่มีศัตรูคู่แค้นที่ถาวร ผลประโยชน์เท่านั้นที่เป็นิรันดร์ พวกเขาสามารถจ่ายเงินซื้อชีวิตของพวกเขาได้ พวกเราก็สามารถจ่ายเงินซื้อชีวิตของพวกเราได้เช่นกัน นี่คือแหวนจักรวาลของข้า เ้าสามารถดูก่อนได้” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาผู้นั้นถอดแหวนจักรวาลออกมาโดยไม่ลังเล มอบให้จ้านอู๋มิ่ง ในดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นวูบหนึ่ง
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง กลับมีศิษย์ในสำนักใช้เงินเพื่อซื้อชีวิต ภายใต้สายตาที่มองดูอยู่ของฝูงชน เกิดเื่ราวเช่นนี้ขึ้น ทำให้สำนักกระบี่ิญญาเสื่อมเสียชื่อเสียงและขายหน้าเพียงไหน?
แต่สถานการณ์บีบบังคับ ไม่มีผู้ใดกำหนดชะตาชีวิตของผู้อื่นได้ มองดูการกระทำของศิษย์ผู้นั้นแล้ว ถึงแม้ผู้คนจะรู้สึกดูแคลน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาต่างรู้ดีว่า สถานการณ์ทั้งหมดถูกควบคุมอยู่ในน้ำมือผู้อื่น
จ้านอู๋มิ่งไม่ได้รับแหวนจักรวาลของคนผู้นั้นไว้ทันที กลับยิ้มถามขึ้นว่า “หลังจากทุกคนในที่นี้ตายหมดสิ้นแล้ว สิ่งของในมือล้วนตกเป็ของข้า ขอทุกท่านให้เหตุผลข้าสักข้อหนึ่ง ไฉนข้าจะต้องทำการค้าที่ไม่ได้กำไรเพิ่มขึ้นกับพวกเ้าด้วย?”
คำถามของจ้านอู๋มิ่งทำให้สำนักกระบี่ิญญาทุกคนมองหน้ากัน ดูเหมือนว่าวันนี้จ้านอู๋มิ่งคงไม่คิดละเว้น ปล่อยให้พวกเขารอดชีวิตแล้ว!