พลังที่หยวนจุนปลดปล่อยออกมานั้นทรงพลังมาก ถึงกับผลักให้ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต้องถอยออกไป
เมื่อประตูใหญ่ของจวนตระกูลเจียงถูกทำลายแล้ว หยวนจุนกับเสี่ยวเมิ่งจึงรีบเข้าไปอย่างไม่ลังเล
คนตระกูลเจียงที่อยู่นอกห้องโถงต่างตกตะลึง พวกเขามีท่าทีประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ มีนักยุทธ์ระดับจันทราขั้นหกหรือเจ็ดประมาณสองสามคนปะปนอยู่ในกลุ่มของพวกเขาด้วย
พวกเขารู้ว่าพลังยุทธ์ของหยวนจุนนั้นเก่งกาจและน่าอัศจรรย์ใจ แม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงและได้พบกับเขาเพียงครั้งสองครั้ง แต่ที่นี่เป็เขตของตระกูลเจียง การที่เขาบุกรุกเข้ามาทันทีทันใดเช่นนี้ ทำให้คนตระกูลเจียงรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม
นักยุทธ์เพียงไม่กี่คนล้อมพวกเขาสองคนไว้แล้วกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “หยวนจุน เ้าจะรังแกกันมากเกินไปแล้วนะ!”
“รังแกมากเกินไปอย่างนั้นหรือ? ดูแล้วประโยคนี้คงไม่เหมาะกับข้าเท่าไรนะ ตอนนี้ตระกูลเจียงไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว พวกเ้าเหลือกันแค่ไม่กี่คน ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกตระกูลหลิวยึดอย่างแน่นอน”
“คนตระกูลเจียงที่อยู่ที่นี่มีแค่ร้อยกว่าคน หากตระกูลหลิวจะจัดการกับตระกูลเจียงจริงๆ คิดว่าเขาจะเหลือทางรอดให้พวกเ้าอย่างนั้นหรือ?”
หยวนจุนกระทืบเท้า ส่งผลให้พลังแผ่กระจายออกมาจนทำให้นักยุทธ์พวกนั้นกระเด็นออกไป เขากล่าวต่อว่า “ข้ามิ้าทรัพย์สินเงินทองของตระกูลเจียง! นำสมบัติพวกนี้ติดตัวไปด้วย พวกเ้าจะได้ไม่ต้องอดตาย”
“เ้าบอกให้เราไปเราก็ต้องไปอย่างนั้นหรือ! บรรพบุรุษของเราอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุ แม้ต้องตายเราก็ไม่ยอมออกไปจากจวนตระกูลเจียงแม้แต่ครึ่งก้าว!”
หนุ่มสาวหลายคนถือกระบองไม้ปกป้องผู้เฒ่าและผู้อ่อนแอ แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาก็ยังกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกล้าหาญ
หยวนจุนตั้งสติก่อนจะตกอยู่ในความคิดของตน
“พี่จุน ทำอย่างไรดี?” เสี่ยวเมิ่งเม้มริมฝีปาก นางไม่สามารถลงมือกับเด็กๆ พวกนี้ได้
“ไปเถอะ” หยวนจุนถอนหายใจออกมาอย่างจำใจ
“หากข้าลงมือกับกลุ่มคนที่ไร้ทางสู้ แล้วข้าจะต่างอะไรกับทหารรักษาเมืองที่ตระกูลหลิวก่อตั้งขึ้นก่อนหน้านี้? จวนตระกูลหยวนสามารถสร้างเมื่อไรก็ได้ แต่ในสายตาของพวกเขา มีเพียงที่นี่ที่เป็จวนตระกูลเจียง”
หยวนจุนคำนับให้คนตระกูลเจียงร้อยกว่าคนก่อนจะค่อยๆ ถอยออกมาจากจวนตระกูลเจียง ระหว่างทางเขาค่อนข้างเคร่งขรึม เมื่อครึ่งปีก่อนที่ดินแดนของเขาล่มสลาย คนของวังโต้วเทียนคงเผชิญชะตากรรมเหมือนกับคนของตระกูลเจียงในตอนนี้
ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่หรือตาย
“แม้พี่จุนจะเป็นักยุทธ์ที่ตรงไปตรงมา แต่ลึกๆ แล้วก็เป็ผู้ที่มีจิตใจดีคนหนึ่ง” เสี่ยวเมิ่งพูดพลางเบิกตาโพลง นางยิ้มออกมา จากนั้นจึงะโไปอยู่ด้านหน้าหยวนจุนที่ดูไม่มีความสุข
“เสี่ยวเมิ่ง เมืองเทียนอวิ่นอยู่ที่ไหนหรือ?” หยวนจุนสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนในใจจะแปรเปลี่ยนเป็ความสงสัย
เขาตายมาได้ครึ่งปีแล้ว แต่เหตุใดตอนนี้จึงไม่มีข่าวคราวออกมาแม้แต่น้อย?
เมื่อเสี่ยวเมิ่งเห็นหยวนจุนมีท่าทีสงสัย นางจึงยื่นมือขาวเรียวไปทาบไว้บนหน้าผากแล้วกล่าวว่า “พี่จุน ท่านมิได้เป็ไข้ใช่หรือไม่?”
เมื่อเห็นหยวนจุนมีท่าทีจริงจัง ดูเหมือนมิได้ล้อนางเล่น เสี่ยวเมิ่งจึงย่นจมูกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ก็ต้องอยู่ในจักรวรรดิชิงหยางแห่งแดนิญญาบุปผาสิ!”
“จักรวรรดิชิงหยาง แดนิญญาบุปผา? แล้วเ้าเคยได้ยินชื่อสำนักิเจี้ยนบ้างหรือไม่?”
เสี่ยวเมิ่งขมวดคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “สำนักิเจี้ยนที่พี่จุนกล่าวถึงไม่น่าจะอยู่ในจักรวรรดิชิงหยางของเรานะ ที่นี่มีเพียงสี่โรงเรียนเท่านั้น”
หยวนจุนพยักหน้าอย่างเงียบๆ เขามิได้กล่าวอะไรออกไปอีก
มหาภพหลิงเทียนประกอบไปด้วย 9 ดินแดนิญญา ซึ่งแต่ละดินแดนิญญาล้วนมีจักรวรรดิมากมายอยู่ในนั้น ในบรรดาจักรวรรดิเ่าั้มีพรรคสำนักใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีสำนักิเจี้ยนที่อยู่ในจักรวรรดิถ่าก้งแล้ว ยังมีสำนักเสวี่ยเจี้ยนและสำนักเหยี่ยนเตารวมอยู่ด้วย
อย่างที่เสี่ยวเมิ่งกล่าว จักรวรรดิที่เขาอยู่ในตอนนี้คือจักรวรรดิชิงหยาง และมีโรงเรียนยุทธ์ที่อยู่ภายใต้จักรวรรดินี้ทั้งหมดสี่แห่ง เทียบได้กับสามสำนักในจักรวรรดิถ่าก้ง
ตอนนี้เขามิได้อยู่ในแดนิญญาจุนแต่อยู่ในแดนิญญาบุปผา เื่นี้ทำให้หยวนจุนรู้สึกใเป็อย่างมาก
สองดินแดนนี้อยู่คนละฟากฝั่ง เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกส่งมายังสถานที่ที่ห่างไกลเช่นนี้
ในฐานะที่เขาเป็ถึงจักรพรรดิดินแดนิญญาจุน หากถูกสังหารหรือเกิดเื่ใหญ่ขึ้น ย่อมทำให้ดินแดนทั้งเก้านั้นสั่นะเื แม้แต่แดนิญญาบุปผาที่อยู่ห่างไกลก็น่าจะมีข่าวคราวบ้าง
เขาไม่รู้ว่าเหตุใดถึงไม่มีข่าวคราวออกมา ซึ่งลางสังหรณ์บอกเขาว่าเื่นี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิดแน่นอน
“พี่จุน มีสิ่งใดเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อถูกเสี่ยวเมิ่งเรียกสติ หยวนจุนจึงส่ายหน้าออกมา จู่ๆ เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะหยิบสร้อยเอกภพสีทองออกมาจากแขนเสื้อแล้วมอบให้นาง เขากล่าวว่า “สร้อยเส้นนี้มีความพิเศษมาก แม้แต่ข้าก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน”
“หากเ้าชอบ ข้าให้เ้าดีหรือไม่?”
เมื่อเสี่ยวเมิ่งเห็นหยวนจุนมีท่าทีเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่นี้ นางจึงยื่นปากออกมา ก่อนจะนำมือเรียวไปหยิบสร้อยที่ไม่ค่อยประณีตสวยงามบนลำคอ นางกล่าวว่า “ข้ามีของสิ่งนี้แล้วนะ!”
เมื่อหยวนจุนเหลือบไปมองก็จำได้ สิ่งนี้คือสร้อยคอจัดเก็บที่เขาสร้างขึ้นเมื่อครั้งกลั่นวัตถุครั้งแรก เมื่อได้มาเห็นตอนนี้แล้ว ทักษะการกลั่นของเขานั้นหยาบจริงๆ
เขาคิดเช่นนี้ แต่เสี่ยวเมิ่งกลับไม่คิดเหมือนเขา นางจับสร้อยอย่างทะนุถนอมแล้วเอ่ยว่า “ในสายตาของข้า สร้อยคอเส้นนี้มีค่ายิ่งกว่าสมบัติใดๆ มันคือประจักษ์พยานในตอนที่พี่จุนกลายเป็นักสร้าง และเป็ของขวัญที่ดีที่สุดที่ข้าเคยได้รับ”
“หายากที่เ้าจะชอบ” หยวนจุนเหลือบมองเสี่ยวเมิ่ง เขาเอื้อมมือไปััเส้นผมสีดำอันเรียบตรงของนาง พร้อมกับรอยยิ้มที่สนิทสนมกันเอง
“อย่าเห็นข้าเป็อากาศได้หรือไม่?”
ฉากที่ทั้งสองกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดินในโรงประมูลบังเอิญถูกเซียวหานเห็นเข้า นางจึงกอดอกแล้วยืนพิงประตู ด้วยความทนไม่ไหวนางจึงกล่าวเสียงเรียบออกไป
เมื่อเสี่ยวเมิ่งถูกเสียงนั้นทำให้ใ แก้มสองข้างของนางจึงแดงระเรื่อขึ้นในทันที ก่อนจะแสดงท่าทีอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไรออกมา
“ท่านพ่อพูดได้แล้ว เดิมทีอยากจะมาขอบคุณเ้าเสียหน่อย แต่ในเมื่อพบเ้าที่ระเบียงทางเดินแล้ว เช่นนั้นข้ากล่าวตรงนี้เลยแล้วกัน”
“ตอนนี้ข้าไม่มีสิ่งใดให้ทำ พวกเ้าสองคนไม่มีสิ่งใดให้ข้าช่วยบ้างเลยหรือ?”
ทั้งสองคนส่ายหน้า เซียวหานจึงยักไหล่อย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะหันหลังกลับไปยังห้องของนาง
“กริ๊ง”
หยวนจุนนำสร้อยเอกภพที่ได้มาจากสุสานโบราณวางไว้บนโต๊ะ เขาพินิจพิเคราะห์มันอย่างละเอียดจนมืดค่ำ แต่ก็ไม่เห็นความพิเศษใดของมันเลย
“พื้นที่ด้านในของสร้อยเส้นนี้ค่อนข้างแปลก เมื่อพิจารณาจากวัตถุที่ใช้กลั่นแล้ว ไม่น่ามีอยู่ในมหาภพหลิงเทียน มันค่อนข้างคล้ายกับเหล็กของอุกกาบาตเสียมากกว่า”
“แม้ประมุขสำนักศาสตราพิโรธจะสวมมันไว้บนข้อมือ แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาถึงที่มาและการใช้งานได้ เพียงแค่รู้สึกว่าสิ่งนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถึงได้เป็สมบัติที่ติดตัวเขาตลอดเวลา”
“นอกจากนี้พืชพรรณเหี่ยวเฉาที่อยู่ในนั้นก็แปลกประหลาดมาก ข้าไม่เคยเห็นเช่นนี้มาก่อน หากมิใช่สมุนไพรหายาก ข้าคงคิดว่าเป็วัชพืชที่ไม่รู้จักแล้ว”
เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อยจึงวางสร้อยเอกภพไว้ข้างๆ แล้วนำของอีกสิ่งหนึ่งขึ้นมา! วิชายุทธ์ของสำนักศาสตราพิโรธ!
วิชายุทธ์ทักษะดาบระดับเนี่ยผานขั้นสูง ดาบพิโรธ!
แม้ครั้งนี้จะห่างไกลจากเป้าหมายที่้าไปบ้าง แต่สิ่งที่หยวนจุนได้มาถือว่าเป็ของล้ำค่าเช่นกัน
เขามีประสบการณ์มากพอที่จะดัดแปลงวิชายุทธ์นี้ หากทำสำเร็จ วิชาทักษะดาบระดับเนี่ยผานนี้ก็จะกลายเป็ทักษะกระบี่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้