หลังจากที่โดนแม่ทัพหนุ่มกระทำชำเราเรือนร่างอย่างดุเดือด ขันทีเฒ่ามีสีหน้าที่เปล่งปลั่งราวกับสาวน้อยแรกรุ่น ไฟราคะที่ถูกจุดติดมานานนับสิบปีในที่สุดมันก็มอดดับลงจนได้ ดุ้นที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวของแม่ทัพหนุ่มขันทีเฒ่าผู้นี้จะจดจำมันไปชั่วชีวิต ทุกท่วงท่าที่ััหรือร่วมรักด้วยกันตัวของเขานั้นย่อมไม่มีวันลืมเพราะร่างกายของคนทั้งสองได้หลอมผสานกันแล้ว ท่อนเนื้อของแม่ทัพหนุ่มยังคงเสียบคารูของขันทีเฒ่า สีหน้าและแววตาของเขานั้นแสดงถึงความลามกตลอดเวลาเขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าใน่เวลาที่ผ่านมามันช่างเป็ภาพอะไรที่น่าจดจำเช่นนี้
ตับ ตับ ตับ แม่ทัพหนุ่ม กระแทรกเรือนร่างของขันทีเฒ่าผู้นี้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าฤทธิ์ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศนั้นมันจะหมดไปแล้วแต่ตัวของ ฉินเย่เหวิน กระแทรกเรือนร่างของขันทีเฒ่าด้วยความ้าของเขาเองดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้อ่อนประสบการณ์ผู้นี้นั้นจะติดใจในรสชาติช่องแคบของขันทีเฒ่าเข้าให้แล้ว เขาไม่เคยรู้สึกหรือได้รับประสบการณ์เสียวเช่นนี้มาก่อนทุกจังหว่ะในการกระแทรกของเขามันทำให้ตัวของเขานั้นเสียวจนแทบที่จะขาดใจ
“ท่านแม่ทัพ พอแล้ว ข้าเต็มอิ่มแล้ว ข้าเริ่มไม่ไหวแล้ว” ขันทีเฒ่าเริ่มที่จะทำการร้องขอชีวิต แม่ทัพ ฉินเย่เหวิน ผู้นี้นั้นกระแทรกเรือนร่างของเขาไม่ต่างอะไรไปจากหญิงสาว ทุกจังหว่ะการกระแทรกนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและความหนักหน่วง
“ตับ ตับ ตับ ท่านหวังเสี่ยวจื้อ ข้าไม่คิดไม่ฝันเลยว่าช่องแคบของท่านนั้นมันจะทำให้ตัวของข้ารู้สึกมีอารมณ์เช่นนี้ ท่านดูเ้าท่อนเนื้อของข้าซิมันแข็งตัวจนมันไม่ยอมลง” แม่ทัพหนุ่มกระแทรกเรือนร่างของขันทีเฒ่าไปส่งเสียงร้องครวญครางไปด้วย
พร๊วดดดด ร่างของขันทีเท่าในยามนี้นั้นถึงกับสั่นกระตุกอีกครั้งเมื่อถูกแม่ทัพหนุ่มปลดปล่อยน้ำกามอีกรอบ
"ท่านแม่ทัพ, ข้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว! ร่างกายของข้ารู้สึกถึงความร้อนแรงและความรู้สึกที่ท่วมท้นจนเกือบจะขาดใจ ข้าแทบจะหมดแรง เด็ก ๆ หรือใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ ช่วยข้าด้วยเถอะ ข้าไม่ไหวจริง ๆ!"
ขันทีเฒ่าเรียกร้องความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ลูกน้องที่เป็ขันทีด้วยกันรีบเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้ลมเย็นพัดเข้ามาในห้อง ความร้อนแรงที่รุนแรงจากแม่ทัพหนุ่มนั้นมีมากจนเกินไป ลูกน้องที่เป็ขันทีจึงต้องเข้ามาช่วยบรรเทาสถานการณ์ โดยใช้เรือนร่างของตนเพื่อบรรเทาความหื่นกระหายของท่านแม่ทัพ
ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ แม้จะเป็เรือนร่างของขันทีผู้มาใหม่ท่านแม่ทัพผู้นี้ก็ไม่ล่ะเว้น เขากระแทรกเรือนร่างของขันทีหน้าอ่อนผู้นี้ด้วยความหิวกระหายและดิบเถื่อน
“อ่า...อ่า...สุดยอดดุ้นของท่านแม่ทัพสุดยอดไปเลย” ขันทีหนุ่มน้อยส่งเสียงร้องครางออกมาด้วยความพึงพอใจเมื่อตนเองถูกกระทำที่ตรงบริเวณช่องแคบของตน ในขณะที่แม่ทัพ ฉินเย่เหวิน กำลังกระแทรกเรือนร่างของขันทีหนุ่มนั้น แต่สายตาของเขากับจับจ้องมาที่ขันทีเฒ่าพร้อมทั้งพูดว่า
“ช่องแคบของท่านมันทำให้ตัวของข้านั้นรู้สึกมีอารมณ์มากกว่าเยอะ มันทั้งเสียวทั้งฟิตไปหมด” ฉินเย่เหวิน ค่อยๆบรรยายสรรพคุณของช่องแคบของขันทีเฒ่า ขันทีเฒ่าในวัย 65 ถึงกับมีท่าทีที่เขินอาย เขาไม่คาดคิดเลยว่าตัวของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้จะแอบซุกซ่อนความหื่นกระหายเอาไว้มากถึงเพียงนี้จนช่องแคบของตนเองนั้นมันแทบพัง โชคยังดีที่มีลูกน้องของตนเข้ามารับ่ต่อ
ตับ ตับ ตับ เสียงกระแทรกเนื้อหนังของท่านแม่ทัพคล้ายกับเสียงของกลองศึกที่กำลังป่าวประกาศทำศึกาของช่องแคบบรรดาขันทีทั้งหลาย
“ใครหน้าไหนที่อยากโดนข้าะเิช่องแคบ เชิญดาหน้าเข้ามาได้เลย” แม่ทัพ ฉินเย่เหวิน ได้สร้างตำนานบทใหม่โดยการทะลวงประตูหลังของเหล่าบรรดาขันทีมากกว่า 40 ชีวิต ที่อยากจะมาท้าทายกับดุ้นของเขา เหล่าบรรดาขันทีหน้าอ่อนต่างพากันยกธงขาวขอยอมแพ้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้แม่ทัพฉินเย่เหวิน ได้รับบทเรียนที่สำคัญว่า การเปิดใจและลองรับสิ่งใหม่ ๆ สามารถนำมาซึ่งความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับตนเอง แม้ว่าในตอนแรกเขาจะไม่เคยลองและไม่รู้แน่ชัดว่าแท้จริงแล้วเขาชอบหรือไม่ จากประสบการณ์นี้ทำให้เขาเข้าใจว่าความรู้สึกและความชอบของเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ที่เราเผชิญ หลังจากผ่านเหตุการณ์ในวันนี้ไปไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายตัวเขาก็ได้ทั้งนั้นขอเพียงแค่ถูกใจแล้วเขาจะพบกับ์ที่แท้จริง
หลังจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างเต็มที่แล้ว แม่ทัพฉินเย่เหวินและหวังเสี่ยวจื้อ ขันทีมหาดเล็ก ก็เริ่มที่จะผ่อนคลายและพูดคุยกันอย่างเป็ทางการ บรรยากาศของการสนทนาเปลี่ยนไปเป็ทางการมากขึ้นหลังจากที่พึ่งผ่านาที่เร่าร้อนมาเมื่อครู่
ขันทีเฒ่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสน่ห์และความนอบน้อม น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและยั่วยวนใจ ขณะเขามองไปยังแม่ทัพฉินเย่เหวิน ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย เขาถามด้วยความเป็กันเองและเคารพ "แม่ทัพ ฉินเย่เหวิน มีเื่ใดที่ท่าน้าให้ข้ารับใช้?" คำพูดของเขานั้นสะท้อนถึงความเต็มใจและความมุ่งมั่นในการให้บริการอย่างดีที่สุด
ฉินเย่เหวินจับมือของขันทีเฒ่า น้ำเสียงของเขามีความจริงจังเมื่อพูดว่า “ข้า้าที่จะเข้าไปภายในตำหนักผีเสื้อ” ในขณะเดียวกัน ภาพของสาวงามนับร้อยที่ยังคงตราตรึงอยู่ในจินตนาการของเขายังคงสร้างความเร่าร้อนในใจ แม่ทัพหนุ่มไม่สามารถลืมความงามที่ประทับใจซึ่งทำให้เขารู้สึกถึงความร้อนแรง
ขันทีเฒ่าจ้องมองใบหน้าของแม่ทัพหนุ่มด้วยความโอนอ่อนและความอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อเมื่อพูดว่า “ตกลง ข้าจะช่วยท่าน” หลังจากนั้นไม่นาน แม่ทัพหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปและจูบริมฝีปากของขันทีเฒ่าด้วยความเร่าร้อน ความรู้สึกของขันทีเฒ่าในขณะนี้ไม่ต่างอะไรกับสาวน้อยที่พบรักแรก
“หวังเสี่ยวจื้อ ท่านอ่อนโยนกับข้าถึงขนาดนี้ ข้าจะลืมเลือนท่านได้อย่างไร” แม่ทัพ ฉินเย่เหวิน พูดกับขันทีเฒ่าวัย 65 ปี ด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะออดอ้อนจะไม่ทำให้ขันทีเฒ่าลุ่มหลงได้อย่างไร
ั้แ่วันนั้นเป็ต้นมา แม่ทัพฉินเย่เหวินได้มีเส้นสายที่สำคัญภายในหวังหลวงอย่างมาก ขันทีเฒ่าผู้นี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้แม่ทัพหนุ่มเจริญก้าวหน้าในด้านหน้าที่การงาน ด้วยความเชี่ยวชาญและอิทธิพลของเขา แม้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองที่ดำเนินไปอย่างลับๆ และเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
และที่สำคัญกว่านั้น ขันทีเฒ่าผู้นี้ยังเป็ประตูด่านสำคัญที่ทำให้แม่ทัพฉินเย่เหวินสามารถเข้าไปเสวยสุขภายในตำหนักผีเสื้อได้อย่างง่ายดาย สาวงามนับร้อยชีวิตกำลังรอคอยการมาของเขา ความเปลี่ยวเหงาของพวกนางแม่ทัพหนุ่มผู้นี้จะเป็คนช่วยสนองให้เองแค่เขาคิดที่บริเวณตรงกลางระหว่างขาของเขามันถึงกับตั้งชูชันอีกครั้งมันพร้อมที่จะออกศึกกับพวกนางทุกเมื่อ