เสวียนหนิงเป็ผู้ลงมือจัดการทุกอย่างด้วยตนเองคราบเืถูกชำระล้างจนหมดจดร่องรอยการต่อสู้ถูกกลบเกลื่อนอย่างแเีไม่เหลือสิ่งใดให้ผู้คนภายหลังต้องตั้งข้อสงสัยม่อหรานนั่งอยู่บนรถเข็นมองการกระทำของนางอย่างเงียบงันหัวใจของเขาสะท้านแล้วสะท้านอีกไม่ใช่เพราะความโเี้หากเป็เพราะความแเีราวกับ…นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางจัดการเื่เช่นนี้เมื่อซากร่างทั้งหมดถูกจัดการจนเรียบร้อย
เสวียนหนิงก็เริ่มรื้อค้นทรัพย์สินติดตัวของพวกมันถุงเงินใบแล้วใบเล่าถูกนำออกมาก่อนที่ร่างไร้ิญญาเ่าั้จะถูกกำจัดอย่างหมดจดไม่เหลือแม้แต่เงาให้ย้อนกลับมาเสวียนหนิงปัดมือเบา ๆ ราวกับเพิ่งเสร็จจากงานเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน
“ท่านพี่” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้ร้อนเงินไปอีกสักพักใหญ่เลยนะเ้าค่ะ”
นางยกถุงเงินขึ้นเล็กน้อยแววตาเป็ประกายสดใสม่อหรานมองภาพตรงหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ
“ดูเหมือนว่า…”
“เ้าจะชำนาญเป็พิเศษเลยนะ เกี่ยวกับเื่พวกนี้”
คำพูดนั้นมาพร้อมรอยยิ้มฝืน ๆ ครึ่งหนึ่งเป็ความอึ้งอีกครึ่งหนึ่งเป็ความรู้สึกที่เขาเองก็ยังไม่อาจอธิบายได้ เสวียนหนิงเพียงยิ้มไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธสายลมอ่อนพัดผ่านพาเอาความเงียบสงบกลับคืนสู่หมู่บ้านอีกครั้ง
และม่อหรานก็เริ่มเข้าใจทีละน้อยสตรีที่ยืนอยู่เคียงข้างเขาผู้นี้ไม่ได้เป็เพียงผู้คอยพยุงเขาในยามตกต่ำหากแต่เป็ผู้ที่สามารถ
กวาดล้างอุปสรรคทั้งหมดโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เื้ัเลย
“พี่คิดว่า…อีกไม่นานร่างกายของพี่ก็คงจะฟื้นตัวจนหายดี”
ม่อหรานเอ่ยเสียงแ่แต่แฝงด้วยความหนักแน่นเขาหันมามองเสวียนหนิงแววตานั้นเต็มไปด้วยความสำนึกและความตั้งใจจริง
“่นี้…เ้าคงต้องลำบากเพราะพี่อีกสักหน่อย” เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ
“แต่เมื่อใดที่พี่ฟื้นตัวเต็มที่แล้วพี่จะเป็ผู้ชดเชยให้เ้าเอง”
คำว่า ชดเชย ของเขาไม่ได้หมายถึงเพียงเงินทองหรือฐานะหากหมายถึงทุกสิ่งที่นางสมควรได้รับความรักที่มั่นคงการปกป้อง
และชีวิตที่สุขสบายเขา้ามอบโลกทั้งใบให้สตรีผู้นี้ให้สมกับที่นางเลือกยืนอยู่เคียงข้างเขา
เสวียนหนิงเพียงยิ้มบางให้ชายคนรักที่เต็มไปด้วยความเข้าใจราวกับทุกคำที่เขาเอ่ยนางได้ยินและจดจำไว้ในใจมานานแล้ว
“น้องรู้แล้วเ้าค่ะ ท่านพี่” นางกล่าวเสียงแ่ “เื่นี้…ท่านพี่เคยพูดกับน้องมาหลายครั้งแล้ว”
ม่อหรานมองนางอยู่นิ่ง ๆ ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือบางของนางไว้แน่นราวกับกลัวว่าเพียงปล่อยมือนางจะหายไปจากชีวิตเขา
“ที่ข้าต้องพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ใช่เพราะข้าลืม”
ดวงตาของเขาสบกับนางโดยไม่หลบเลี่ยง “แต่เพราะข้าไม่เคยลืมคำสัญญาระหว่างเราเลยแม้แต่น้อย”
ในห้วงเวลานั้นบรรยากาศกลับอบอุ่นอย่างประหลาดแม้เส้นทางเบื้องหน้าจะยังไม่ราบรื่นแม้ร่างกายของเขายังไม่ฟื้นคืนสมบูรณ์แต่หัวใจของม่อหรานกลับเต็มเปี่ยมด้วยความสุขเพราะอย่างน้อยเขายังมีโอกาสยืนอยู่ตรงนี้ได้ปกป้องสตรีที่เขารัก
และได้รักษาคำสัญญาที่ผูกพันหัวใจของพวกเขาไว้ด้วยกัน
เวลาล่วงผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์
การเปลี่ยนแปลงของม่อหรานก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนบัดนี้เขาสามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตนเองและเริ่มเดินเหินได้ทีละก้าว
แม้ยังต้องพึ่งไม้เท้าช่วยพยุงอยู่บ้างแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายที่เคยไร้เรี่ยวแรงกำลังฟื้นคืนอย่างมั่นคง
ยิ่งเขาฝืนใช้งานร่างกายมากเท่าใดเส้นลมปราณก็ยิ่งไหลเวียนดีขึ้นกล้ามเนื้อที่เคยฝ่อลีบค่อย ๆ แข็งแรงทุกก้าวที่เดิน
ล้วนเป็ก้าวที่พาเขาเข้าใกล้ชีวิตเดิมของตนเองอีกครั้ง
ม่อหรานไม่ยอมอยู่นิ่งเขาเริ่มช่วยเสวียนหนิงทำงานบ้านกวาดเรือน ตักน้ำ ผ่าฟืนแม้จะเชื่องช้าแม้บางครั้งต้องหยุดพักเพราะความเมื่อยล้างานเหล่านี้ไม่ใช่งานของบุรุษในสายตาผู้คนยิ่งไม่ใช่งานของอดีตแม่ทัพผู้เคยบัญชาการทหารนับหมื่น
แต่สำหรับม่อหรานศักดิ์ศรีไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาทำอะไรหากอยู่ที่ว่าเขา ไม่ยอมเป็ภาระ
เขาไม่้าให้นางแบกรับทุกสิ่งเพียงลำพังไม่้าให้นางเหนื่อยล้าในขณะที่เขานั่งมองอยู่เฉย ๆแม้สิ่งที่เขาช่วยได้จะเป็เพียงเื่เล็กน้อยแต่เขาก็อยากทำเพราะเขา้าให้ชีวิตของเสวียนหนิงสุขสบายขึ้นกว่าวันก่อนหน้าแม้เพียงเล็กน้อย…
ก็ยังดีสำหรับเขา
“ข้า…ยังสามารถเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า บ้าน ได้อีกหรือไม่กันนะ”
ความคิดนั้นผุดขึ้นในใจของม่อหรานอย่างแ่เบาราวกับเป็คำถามที่ไม่มีผู้ใดตอบได้แม้เขาจะตั้งใจแน่วแน่ว่า
จะทำให้ชีวิตของเสวียนหนิงสุขสบายจะมอบทุกสิ่งที่นางสมควรได้รับแต่มีอยู่สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่เขาจะไม่ทำเป็อันขาด
นั่นคือการ กลับไปที่ตระกูล
หากเขาคิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เขาขอเพียงได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่กับนางเพียงแค่สองคนก็เพียงพอแล้วเพราะในสายตาของเขาผู้คนในตระกูลนั้นหาใช่ที่พึ่งพิงไม่หากแต่เป็ อันตราย อันตรายที่แฝงตัวอยู่หลังคำว่าครอบครัว
ความทรงจำในอดีตย้อนกลับมาอย่างชัดเจนอยู่ ๆ ร่างกายของเขาก็อ่อนแรงลงโดยไร้สาเหตุตอนแรกเขาเคยคิดว่ามันเป็เพียงโรคร้ายหรือผลพวงจากการศึกาที่สะสมมาเนิ่นนาน
แต่บัดนี้ในเมื่อร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดความคิดหนึ่งก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
หรือแท้จริงแล้ว…ข้าไม่ได้ป่วยหากแต่ถูกวางยา ความคิดนั้นทำให้หัวใจของเขาเย็นเฉียบ ท่านพ่อ…พี่ชาย…น้องชาย…
ไม่ว่าใครก็ตามล้วนมีเหตุผลมากพอจะเป็ผู้ต้องสงสัยวันที่เขาล้มลงผู้ที่ขับไล่เขาออกจากตระกูลเป็คนแรกไม่ใช่ศัตรู
หากเป็ บิดาผู้ให้กำเนิด
คำกล่าวหานั้นเ็าและโหดร้ายอ้างว่าเขาทำให้ชื่อเสียงของตระกูลมัวหมองหรือจะเป็เหล่าพี่น้องที่ชิงดีชิงเด่นกันมาั้แ่ยังเยาว์ความอิจฉา ความริษยาสะสมจนกลายเป็คมมีดที่พร้อมปักลงกลางหลังได้ทุกเมื่อ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ม่อหรานก็ยิ่งแน่ใจตระกูลนั้นไม่ใช่ บ้าน ของเขาอีกต่อไปบ้านที่แท้จริงของเขาอาจเป็เพียงเรือนเล็ก ๆ หลังหนึ่งมีสตรีผู้หนึ่งรออยู่สำหรับเขาเพียงเท่านี้…ก็เพียงพอแล้ว
