การโต้แย้งของจ้าวอี้ทำให้ฉือผิงฮุยชะงัก เขาคาดไม่ถึงว่าจ้าวอี้ในตอนนี้จะทำลายขวัญกำลังใจของเขา
ฉือผิงฮุยพูดอย่างไม่รู้ตัว “จะเป็ไปได้ยังไง?”
“คุณลองไปสอบถามแพทย์ได้ครับ ผมพอจะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง เรายังแน่ใจไม่ได้ว่าหลี่เยว่หรูไม่ใช่ลูกแท้ๆ ยิ่งไปกว่านั้น คุณบอกเองนี่ครับว่ามันเป็การคาดเดา ไม่ใช่หลักฐาน ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าเป็ทิศทางใหม่ล่ะนะ” จ้าวอี้พูดอย่างสงบ
เหตุผลที่จ้าวอี้เข้าใจแจ่มแจ้งขนาดนี้เป็เพราะว่า เขาเคยต้องถ่ายเืเฉียบพลันในสนามรบ แน่นอนว่า เืที่ดีที่สุดคือเืที่มีหมู่เืเดียวกัน ถ้าไม่มี เขาก็ทำได้เพียงหาตัวแทนอย่างเต็มที่
ฉือผิงฮุยโทรหาแพทย์ที่เขารู้จักทันที คนในสายก็ยืนยันเื่นี้เช่นกัน เขาจึงหดหู่ไม่น้อย
“เอาอย่างนี้ละกัน ผมจะรีบจัดคนไปตรวจสอบดีเอ็นเอของหลี่เยว่หรูว่าตรงกับหลี่ต้าเฮิงหรือไม่ เื่นี้ต้องตรวจสอบกันอย่างลับๆ ขณะเดียวกันก็อย่าให้หลี่เยว่หรูรู้ตัว อีกอย่างหนึ่งคุณอยู่ที่สำนักงานนะ ผมจะหาคนไปเรียกบอดี้การ์ดของหลี่ต้าเฮิงมาให้ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะถูกหลี่เยว่หรูซื้อตัวไปแล้ว ลองดูว่าพอจะหาช่องโหว่จากพวกเขาได้หรือไม่ แล้วก็ดูด้วยว่าหลายเดือนมานี้หลี่เยว่หรูมีการจ่ายเงินก้อนใหญ่บ้างไหม รวมถึงความเกี่ยวข้องทางสังคมของเธอ ทั้งหมดนี้ต้องฝากให้คุณจัดการแล้ว!”
ฉือผิงฮุยฮึกเหิมมาก เมื่อไม่มีทางเลือก เขาจึงส่งเื่มากมายให้จ้าวอี้ช่วยทำ
หลี่เยว่หรูมีผลกระทบอย่างแน่นอน เขาเพียงไปตรวจสอบการคาดเดาของตนอย่างเงียบๆ หากให้คนรู้เกรงว่าจะเกิดความโกลาหลอีกรอบแน่ เว้นแต่ว่า เขาจะนำหลักฐานที่แม่นยำมาได้
จ้าวอี้ตกลง เพื่อไขคดีแล้ว แม้มันจะยาก แต่จ้าวอี้จะไม่ยอมถอยหลัง
ข้อมูลเกี่ยวกับหลี่เยว่หรูถูกส่งมาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันจ้าวอี้ก็อ่านแฟ้มคดีอิเล็กทรอนิกส์ภายใน ซึ่งมีเนื้อหามากมายเกี่ยวกับเธอ
“เสี่ยวหลิน คุณช่วยหาข้อมูลของหลิวฉินอะไรนั่นให้ผมหน่อย คนที่อ้างตัวว่าเป็ลูกสาวนอกสมรสของหลี่ต้าเฮิงน่ะ! แล้วก็เธอไม่ได้รายงานผลตรวจดีเอ็นเออีกเหรอ? ถ้าผลออกมาแล้วให้รีบบอกผมเลยนะ” จ้าวอี้นึกถึงหญิงคนนี้ขึ้นมาได้ทันที เขาเอ่ยกับผู้ช่วยเสี่ยวหลิน จากนั้นก็เริ่มอ่านแฟ้มประวัติของหลี่เยว่หรู
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กิจกรรมทั้งหมดของหลี่เยว่หรูปรากฏอยู่ตรงหน้าจ้าวอี้ การทำธุรกรรมในบัญชีทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจนตรงหน้าจ้าวอี้เช่นกัน
อย่างเช่น สามเดือนก่อนหน้า เธอไล่บอดี้การ์ดประจำตัวที่ทำงานให้เธอมาสี่ห้าปีออกกะทันหัน ไม่มีร่องรอยของเงินจำนวนมากเข้าออกที่เห็นได้ชัดเป็พิเศษ เพียงแต่สถานการณ์การใช้จ่ายในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จำนวนเงินที่ซื้อเครื่องสำอางและสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากเธอเข้ารับตำแหน่งในบริษัท คนแก่จำนวนมากเริ่มถอนตัวออกจากตำแหน่งสำคัญ เหลือไว้เพียงสิทธิ์ในส่วนแบ่งของเงินปันผล หลี่เยว่หรูถึงกับไล่ลูกหลานของคนแก่ที่ร่วมฝ่าฟันมากับพ่อของเธอออก ะเิการโต้เถียงอย่างรุนแรงในบอร์ดผู้บริหาร เื่แบบนี้จ้าวอี้แค่มองผ่านๆ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตระกูลหลี่ไม่ใช่อันหนึ่งอันเดียวกัน ภายในยังคงมีความขัดแย้งที่ยากจะมองเห็นรายละเอียดอยู่
แฟ้มของหลิวฉินเรียบง่ายมาก
เกิดในครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งของฮ่องกง พ่อเคยเป็คนขับรถสาธารณะและป่วยตายเมื่อไม่กี่ปีก่อน แม่เป็หัวหน้าพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพียงแต่ไม่กี่ปีมานี้ สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีนักจึงถูกไล่ออก ส่วนเหตุผลที่ว่าสภาพจิตใจไม่ค่อยดีนั้น คำอธิบายของโรงพยาบาลบอกว่าเธอมีความกดดันทางจิตใจหนักมาก นำไปสู่การเกิดภาพหลอน ในหมายเหตุมีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้จ้าวอี้ใ นั่นคือโดนมนตร์ดำ! ยากที่จะเชื่อว่า เหตุผลที่หัวหน้าพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งมีสภาพจิตใจไม่ปกติจะเป็การโดนมนตร์ดำ
สิ่งที่ทำให้จ้าวอี้รู้สึกสนใจก็คือ โรงพยาบาลที่เธอเกิดเป็โรงพยาบาลเดียวกับที่หลี่เยว่หรูเกิดในปีนั้น
เขาจ้องที่รูปของหลิวฉิน จ้าวอี้เพียงรู้สึกว่าคุ้นหน้าของอีกฝ่าย เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่จ้าวอี้มั่นใจเลยว่าตนไม่เคยพบเธอมาก่อนแน่ๆ จ้าวอี้คิดว่าความจำของตนนั้นดีเยี่ยม ถ้าเคยพบจริงเขาต้องจำได้แน่นอน
ถ้าอย่างนั้น ความรู้สึกคุ้นหน้านี้มาจากที่ไหนกัน?
เวลาค่อยๆ ผ่านไป และหนึ่งวันก็ผ่านไป
จ้าวอี้แปลกใจเล็กน้อย ฉือผิงฮุยจัดกำลังคนไปเรียกบอดี้การ์ดของหลี่ต้าเฮิงอย่างอาหลงกับอาหู่มา แต่ทำไมจนตอนนี้ยังไม่กลับมาอีกเล่า?
“เสี่ยวหลิน บอดี้การ์ดของหลี่ต้าเฮิงมาถึงหรือยัง?”
จ้าวอี้ทักผู้ช่วยเสี่ยวหลิน
เสี่ยวหลินรีบไปถาม จากนั้นจึงกลับมาบอก “คุณจ้าว เ้าหน้าที่ที่ไปบ้านตระกูลหลี่หาพวกเขาไม่เจอครับ หลี่เยว่หรูไล่พวกเขาสองคนออกก่อนที่คนของเราจะไปถึง โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ เ้าหน้าที่ได้ไปบริษัทรักษาความปลอดภัยที่พวกเขาเคยทำงานแล้วครับ ทางบริษัทรักษาความปลอดภัยให้ช่องทางการติดต่อพวกเขามาแล้ว แต่ก็ยังหาพวกเขาไม่เจออยู่ดี ตอนนี้ทางเรากำลังพยายามหาทางตามตัวสองคนนี้อยู่ครับ”
คำตอบนี้เกินความคาดหมายของจ้าวอี้อย่างใหญ่หลวง
เขาเองก็เพิ่งคิดจะตรวจสอบหลี่เยว่หรู แต่หลี่เยว่หรูกลับมีวิธีจัดการในทันที แปลว่าหลี่เยว่หรูเป็ผู้บงการตัวจริงงั้นเหรอ?
ทันใดนั้น จ้าวอี้ก็เอ่ยขึ้น “รีบติดต่อผู้ตรวจการฉือเร็ว ให้มีการตรวจสอบภายในสักหน่อยว่า ตอนนั้นมีใครโทรศัพท์ออกไปภายนอกหรือเปล่า เนื้อหาในสายคืออะไรบ้าง”
จ้าวอี้คิดขึ้นมาได้ทันที สมมุติว่าหลี่เยว่หรูได้รับข้อมูลภายในของสถานีตำรวจ ฉะนั้นต้องมีผู้ประสานงานภายในเป็แน่
คนที่รู้ข้อมูลมีอยู่ไม่มาก รวมถึงจ้าวอี้และฉือผิงฮุยด้วย มีน้อยเสียจนนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว คนคนนี้น่าจะหาตัวไม่ยาก!
เพียงแต่ต้องผ่านฉือผิงฮุย อย่างไรเสียก็อยู่ใต้บังคับบัญชาฉือผิงฮุย
เมื่อออกคำสั่งนี้ไป จ้าวอี้ก็เดินไปเดินมาอยู่กับที่อย่างไม่สบายใจ ดูเหมือนสมมุติฐานของฉือผิงฮุยจะเป็จริง ถ้าเธอเป็คนบงการฆ่าอาของเธอจริง เช่นนั้นความเป็ไปได้มากที่สุดก็คือ บอดี้การ์ดของหลี่ต้าเฮิงฉวยโอกาสลงมือเอง! การไล่ออก เกรงว่าจะไม่ใช่การไล่ออกธรรมดาๆ ไล่ออกอาจถูกหาตัวเจอ การฆ่าปิดปากจึงเป็เื่ที่เป็ไปได้ที่สุด!
จ้าวอี้นึกถึงปัญหานี้ขึ้นมาได้ บอดี้การ์ดสองคนนั้นตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
บอดี้การ์ดมืออาชีพนั้นเก่งมาก วิธีที่สุดยอดที่สุดของพวกเขาคือฝึกฝนการขัดขวางลูกะุเมื่อเผชิญกับอันตราย ปกป้องคนที่ต้องปกป้อง ไม่เหมือนจ้าวอี้ที่ต้องหลีกเลี่ยงอันตราย! ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะเยี่ยมยอด แต่ก็คงยากที่จะหลบหลีกการลอบสังหารไปได้
ในที่สุดฉือผิงฮุยก็กลับมาและได้รับข้อมูลที่แม่นยำมาว่า หลี่เยว่หรูไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของหลี่ต้าเฮิง! ในจุดนี้ได้รับการยืนยันจากฐานข้อมูลแล้ว!
ฐานข้อมูลเป็สิ่งที่ยืนยันข้อมูลได้เป็อย่างดีของราษฎร โดยเฉพาะฐานข้อมูลดีเอ็นเอที่ก่อตั้งขึ้นมา กล่าวได้ว่า การมีอยู่ของมันมีความหมายอย่างมาก เช่น หากลูกของใครถูกลักพาตัวไป แล้วนำดีเอ็นเอของตนเองเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูล ถ้ามีข้อมูลดีเอ็นเอพ่อแม่ของเขาอยู่เหมือนกัน มันก็เป็เื่ง่ายที่จะยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเื
เทคโนโลยีนี้โดยพื้นฐานได้พัฒนาจนถึงที่สุดแล้ว แต่ก็พบความผิดพลาดน้อยมาก
“คุณจะบอกว่าหลี่เยว่หรูไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของหลี่ต้าเฮิงงั้นเหรอครับ?” จ้าวอี้อดที่จะยืนยันอีกครั้งไม่ได้
“จริงแท้แน่นอน! ผมไปขอคำสั่งเฉพาะในการสอบสวนอย่างลับๆ กับผบ.เพื่อรับข้อมูลปฐมภูมิมาแล้ว ดูเหมือนว่าสถานะของหลิวฉินคงจะเป็ลูกสาวคนเดียวของหลี่ต้าเฮิงตัวจริง จักรวาลกว้างใหญ่พิสดารเสียไม่มี ตลอดชีวิตหลี่ต้าเฮิงเ้าชู้จนเป็นิสัย มีลูกนอกสมรสมากมายขนาดนี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวที่รักและหวงแหนที่สุดกลับเป็ลูกของคนอื่น คุณว่ามันเป็ผลกรรมอย่างหนึ่งไหม?”
ในคำพูดของฉือผิงฮุยมีความยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทุกคนต่างมีเื่ที่มองว่าตลกอยู่ แม้เขาจะเป็ผู้กำกับสถานีตำรวจก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งมีชื่อเสียงมากเท่าไร การนินทาเช่นนี้ก็ยิ่งดึงดูดคน ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนังสือพิมพ์กอสซิปถึงได้รับการสนับสนุนจากปาปารัสซี่เป็จำนวนมาก เพราะหลายคนชอบเื่ฉาวแบบนี้ไงเล่า
“คุณรู้เื่ของหลิวฉินหรือยัง? ทำไมผมรู้สึกคุ้นหน้าเธอจัง ผมมั่นใจว่าไม่เคยเจอเธอมาก่อนนะ”
คำพูดของฉือผิงฮุยทำให้จ้าวอี้กระจ่างในฉับพลัน “คุณไม่คิดว่าหลิวฉินกับหลี่ต้าเฮิงดูคล้ายกันเหรอ? ถ้าใบหน้าของหลี่ต้าเฮิงซูบลงหน่อย คิ้วบางลงอีกนิด คุณดูสิ...”
ฉือผิงฮุยนำรูปทั้งสองคนมาวางไว้ด้วยกัน จ้าวอี้ก็เข้าใจในทันที
พวกเขาสองคนคล้ายกันมากจริงๆ คล้ายกว่าหลี่เยว่หรูกับหลี่ต้าเฮิงเสียอีก ถ้าให้คนนอกเลือก ต้องบอกว่าหลิวฉินเป็ลูกสาวของหลี่ต้าเฮิงแน่!
“พูดถึงเื่หลิวฉิน ผมจะตามสอบสวนเป็พิเศษเอง เ้าหน้าที่ตำรวจในชุมชนที่เธออยู่เคยได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนบ้านของหลิวฉิน บอกว่าบ้านของเธอมีผีสิง!” ฉือผิงฮุยเป็คนทำงานอย่างพิถีพิถัน และมีการเตรียมตัวมาแต่แรกแล้ว
“ผีสิง?”
“ใช่ เพื่อนบ้านของเธอเคยได้ยินเสียงแม่ของหลิวฉินที่จู่ๆ ก็กรีดร้องโวยวายขึ้นมากลางดึกต่อเนื่องหลายวัน พวกเขาร้องเรียนเื่การก่อกวน หลังจากนั้น แม่ของหลิวฉินก็เกือบจะเหมือนคนบ้า ความกล้าหาญของเธอกลายเป็ขี้ขลาดอย่างมาก มีเพียงหลิวฉินที่สามารถเข้าใกล้เธอได้ แม้แต่สามีของเธอก็เข้าใกล้ไม่ได้ ด้วยอาการป่วยของเธอ ทำให้ตระกูลหลิวเสียเงินไปไม่น้อย พวกเขาเคยพาไปหาหมอในฮ่องกงหลายต่อหลายคนแล้ว แต่มันก็ไม่เป็ผล พ่อของหลิวฉินเสียชีวิตไปก่อน สาเหตุใหญ่คือความเหนื่อยล้าและความดันหัวใจสูงเกินจากการขับรถล่วงเวลาอย่างหนัก ภายหลังจึงเสียชีวิตกะทันหันระหว่างการทำงาน ก่อนเขาจะเสียชีวิต เขายังคงใจเย็นและนำรถเมล์ไปจอดข้างทางโดยปลอดภัย ตอนนั้นเื่นี้เป็ที่ฮือฮามาก! รัฐบาลจึงตั้งใจให้เงินรางวัลก้อนหนึ่งกับตระกูลเธอ เคยมีรายงานในข่าวมาก่อนด้วยนะ”
อารมณ์ที่ดีของฉือผิงฮุยถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
ฉือผิงฮุยที่เมื่อรู้ว่าข้อมูลภายในของตนถูกเปิดเผย เขาก็กินรังแตนอยู่กลางสถานีตำรวจทันที และรีบเรียกรวมพลทุกคนที่เข้างานวันนี้มา “หาซะ หามาให้ฉัน! หาว่าใครเป็คนเปิดเผยความลับของตำรวจ! ทางที่ดีคือลุกขึ้นมาเองซะ ฉันจะดูจากไมตรีจิตในวันวาน แล้วจะไม่รุนแรงกับพวกนายจนเกินไปแน่นอน!”
แค่ใบหน้าที่มีแต่ความบ้าคลั่งของเขา มันก็เต็มไปด้วยความหมายว่าจะไม่ปล่อยไปเป็แน่
บันทึกการโทรในมือถือของทุกคนถูกตรวจสอบเหมือนกัน
เรียกให้ปากคำเป็คู่ๆ มีคนที่ไม่รู้เนื้อหาทั้งหมดอยู่ ซึ่งตัดทิ้งได้แน่นอน จำนวนเหลือคนไม่มากแล้ว
จนกระทั่งสองคนสุดท้าย
บันทึกการโทรไม่มีปัญหา ในฐานะเ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง การตระหนักรู้ของหน่วยลาดตระเวนควรยังมีอยู่
หนึ่งในสามคนที่ส่งไปบ้านตระกูลหลี่ตอนแรก หลังได้รับแจ้งให้ออกไป ระหว่างทางเขาแวะเข้าห้องน้ำรอบหนึ่ง
ส่วนอีกคนมาจากแผนกจัดการแฟ้มคดี เขาเปิดดูใบรับรองหลายอย่าง ก่อนจะมาเรียกคนอื่นที่หน้าประตูเพื่อถามใบรับรองที่ต้องประทับตรา งานที่เขาทำเป็เช่นนี้ หลังจากออกใบรับรองเสร็จ เขาก็บอกว่า เขาไม่ได้ทานอาหารเช้ามา จึงออกไปซื้ออาหารเช้าครู่หนึ่ง
“หัวหน้า ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมไปเข้าห้องน้ำรอบหนึ่ง เวลาแค่สองสามนาทีเอง ผมไม่ทำอะไรได้หรอกครับ นั่นเป็ห้องน้ำสาธารณะด้วย ตอนเห็นห้องน้ำสาธารณะผมไม่ได้คิดอะไรเลย ผมลงจากรถแค่แป๊บเดียวเองครับ ตอนที่ขึ้นรถท้องของผมก็ไม่ค่อยดีแล้ว ตรงจุดนี้คู่หูผมเป็พยานได้นะครับ...”
“หัวหน้า ไม่ใช่ผมจริงๆ นะครับ ผมแค่ออกไปซื้ออาหารเช้าเท่านั้นเอง ร้านอาหารเช้าที่อยู่ไม่ไกลจากประตูสถานีของเราน่ะครับ เ้าของร้านเป็พยานให้ได้ ผมซื้อเสร็จก็กลับมาเลย ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ...”
สองคนสารภาพความผิด แค่จากคำพูดของพวกเขา ยากที่จะตัดสินว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่ที่เป็คนเปิดเผยข้อมูล
ฉือผิงฮุยประสาทเสียเช่นกัน ทั้งสองคนนี้ต่างเป็คนที่เขาค่อนข้างไว้ใจ ยากที่จะตัดสินในทันทีว่าใครเป็คนเปิดเผยความลับ ดังนั้น ฉือผิงฮุยจึงทำได้แค่โบกมือ “พวกนายสองคนถูกพักงานอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าความจริงของคดีนี้จะปรากฏออกมา! กลับบ้านไปรอการแจ้งซะ!”
สิ่งใดพ้นสายตาไปแล้ว มักจะไม่นึกถึง ฉือผิงฮุยตัดสินใจอย่างเด็ดขาด!
ในใจของเขามีวิธีของตัวเองอยู่ ถ้าเป็สองคนนั้นจริง เขาจะใช้วิธีของตนจัดการ หนึ่งในนั้นต้องลุกลี้ลุกลน และติดต่อผู้สมรู้ร่วมคิดของตนแน่นอน ช่างเป็ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง1เสียจริง!
เมื่อมองสองคนนี้หน้างอคอตกจากไป จ้าวอี้ก็พูดขึ้น “เป็ไปได้ไหมว่ามันจะเป็เื่บังเอิญน่ะครับ?”
“มีเื่บังเอิญมากมายขนาดนี้ที่ไหนกัน? เื่สำคัญเร่งด่วนในตอนนี้คือหาตัวบอดี้การ์ดสองคนนั่น!” ฉือผิงฮุยไม่คิดจะบอกแผนการของตนกับจ้าวอี้ นี่เป็เื่ส่วนตัว ในสายตาของเขา จ้าวอี้ยังเป็แค่คนนอกคนหนึ่ง
----------------------------------
1 เปรียบเปรยผู้ที่เห็นผลในระยะสั้นโดยไม่นึกถึงผลเสียในระยะยาว