คนทั้งเครื่องบินต่างก็แทบหยุดลมหายใจเพราะการที่เด็กคลอดออกมาไม่เป็เพียงแค่เป็การพนันระหว่างกัวไฮว่กับลู่เสียหยางเท่านั้นแต่เกี่ยวพันกับหลายคนบนเครื่องบินด้วย
“น่าสนใจนี่ ดูทรงครั้งนี้ฉันจะแพ้แล้วล่ะ” ลู่เสียหยางหรี่ตาพูดครั้งนี้กัวไฮว่ไม่ได้แยแสเขาเพราะว่าครั้งนี้เขาใช้วิชาฝังเข็มที่มีชื่อว่าวิชาเข็มห้าธาตุวัฏจักรทำให้ตนเองาเ็อย่างหนักสิ่งที่เขารอในตอนนี้ก็คือให้พี่หยางคนนี้เคารพในสัญญาของพวกเขา
“อุแว้” เสียงร้องไห้ดังลอยในเครื่องบินหูเม่ยเอ๋อร์คิดไม่ถึงเลยว่าพี่สาวของตนเองจะคลอดลูกบนเครื่องบิน
“อย่าขยับ มีสายสะดือ” กัวไฮว่เห็นว่าหูเม่ยเอ๋อร์ตื่นเต้นนิดหน่อยเขาก็นำมีดในมือไปตัดสายสะดือด้วยความว่องไวจากนั้นก็ปิดจบได้อย่างที่ตนเองคิดว่าสมบูรณ์แบบ
“พี่คะ เด็กผู้ชาย หลังหูมีไฝเม็ดนึงด้วย ผอ. กัวนี่เป็เทพจริงๆ” หูเม่ยเอ๋อร์พูดเสียงดังเพื่อให้พี่สาวของตนและให้คนอื่นในเครื่องบินได้ยิน
“อย่าตื่นเต้นไป ข้างในยังมีอีกคน” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็ลูบเข้าที่ผิวท้องของเซวียนตั่วเซวียนตั่วรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเกร็งขึ้นจากนั้นก็มีเสียงเด็กร้องดังขึ้นมาอีกระลอก
“เด็กผู้หญิง เป็ผู้หญิงจริงๆ ด้วย ผอ. กัวทายถูก” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยเสียงดัง ในที่สุดสาวๆในเครื่องบินที่พาลูกมาด้วยต่างก็โล่งอก
“ฮ่าๆ ดี น่าสนใจดีนี่ น่าสนใจจริงๆ” ลู่เสียหยางพูดพลางยิ้มกว้าง “ไอ้หนู แกเป็คนแรกในรอบสามปีที่ฉันแพ้พนันด้วย แกว่าฉันควรทำยังไงดี”
“บนเครื่องบินยังมีคนอีกเยอะ เราจะพนันกันต่อก็ได้ พนันจนกว่าแกจะชนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“บอกมาสิว่าจะพนันยังไง” ลู่เสียหยางพูดด้วยสีหน้าอึมครึม
“พี่หยาง ช่างมันเถอะ วันนี้ก็ปล่อยพวกเราไป ไปหาที่ให้เครื่องจอดกันพี่อยากจะดี๊ด้ามีความสุขยังไงก็ทำไป แต่ผมเป็แค่หมอตัวเล็กๆ คนหนึ่งเราต่างเดินไปตามเส้นทางตัวเองเถอะ” กัวไฮว่ใช้วิชาอ่านจิตกับลู่เสียหยางไม่เพียงแต่มีเหงื่อท่วมทั้งตัว หมอนี่เป็โรคจิตชัดๆ
“จะปล่อยหมอนี่ไปไม่ได้ และจะปล่อยทุกคนบนเครื่องไปไม่ได้ ฉันแพ้ ดีงั้นก็ไปตายซะเถอะ” ความคิดของลู่เสียหยางปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่
“ในปืนของเรามีะุสิบสามนัด เราเอาแบบนี้กันดีไหม ฉันยิงปืนแล้วแกหลบถ้าแกหลบได้ ฉันก็จะปล่อยพวกแกไป แต่ถ้าหลบไม่ได้ทุกคนบนเครื่องก็ต้องตาย” ลู่เสียหยางพูดด้วยใบหน้ายิ้มร้าย “แบบนี้จะได้สนุกฮ่าๆ”
“พ่อหนุ่ม ใครๆ ก็ทำผิดพลาดกันได้ก็ให้อภัยกันบ้าง ช่างมันเถอะน่าเด็กนี่ก็ไว้หน้าแกแล้วไง” ในขณะที่กัวไฮว่คิดจะต่อรองกับตาโรคจิตนี่ก็มีเสียงชายชราดังขึ้นมา
เขาสวมชุดฉางเผา ข้างตัวมีเด็กน้อยอยู่คนหนึ่งตอนที่กัวไฮว่ขึ้นเครื่องบินมาก็สังเกตเห็นผู้ชรารายนี้ทว่าไม่ได้มองอย่างถี่ถ้วนเพียงแค่รู้สึกว่าเด็กที่อยู่ข้างผู้ชราท่านนี้น่าสนใจนัก ทั้งสามจิตเจ็ดิญญา[1] เขาขาดไปจิตหนึ่งแค่นั้นยังประหลาดไม่พอ จิตที่ขาดหายไปก็ถูกบางอย่างมาแทนที่ ตอนแรกเขาคิดว่าลงจากเครื่องบินแล้วจะลองถามดูสักหน่อยไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชราท่านนี้จะเป็ยอดฝีมือเซียนเทียนระยะหลัง
“นี่ตาแก่ อย่ามายุ่งเื่พี่หยางจะได้ไหม รนหาที่ตายจริงๆ ปังๆๆ!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งยิงชายชราไปสามนัด
“ดูทรงแล้วฉันจะถนัดเื่หลบะุนะ” ชาราพูดยิ้มๆเขาหลบะุนัดแรกส่วนสองนัดที่เหลือก็ถูกเขาจับเอาไว้ในมือ
“ไม่คิดเลยว่าบนเครื่องบินในวันนี้จะเป็ถ้ำเสือ” สีหน้าของลู่เสียหยางดูแย่ลง เขามองไปยังชายชราเซียนเทียนระยะหลังสิ่งที่ชายชราทำเมื่อสักครู่ หากเขาคิดไว้ล่วงหน้าก็อาจจะทำได้เหมือนกันทว่าที่ยิ่งชายชราเมื่อสักครู่นั้นกะทันหันนักไม่คิดเลยว่าชายชราจะจับะุสองนัดได้
“เฮอะๆ พ่อหนุ่ม เอาอย่างนี้ไหม เมื่อกี้ฉันเห็นแล้วล่ะบนเครื่องบินมีร่มชูชีพอยู่เยอะนะ ยังไงเธอก็หาความตื่นเต้นเร้าใจอยู่แล้วนี่ะโลงไปเถอะ” ชายชราพูดขึ้นอย่างไม่กลัวคนตาย
“ไอ้แก่ แกรับะุได้ แต่ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าถ้ายิงไปหลายแล้วแกจะไม่ตาย” เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังลู่เสียหยางพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“สิบสี่คน ท่านผู้าุโ คุณจัดการสิบคน อีกสี่คนให้ผมจัดการเอง เป็ไง” ตอนนี้กัวไฮว่ห้ามเืเซวียนตั่ว เด็กทั้งสองก็ห่อตัวเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็ลุกขึ้นมาพูดขึ้น
“พ่อหนุ่ม เธอพูดแบบนี้จะดูถูกตาแก่อย่างฉันเหรอ คนละเจ็ดรอไว้ลงจากเครื่องบินแล้วฉันจะเลี้ยงเหล้าเธอเอง เป็ไง”
“คุณสิบคน ผมสี่คน รอให้ลงจากเครื่องบินแล้วเดี๋ยวผมจัดการเื่ลูกศิษย์คุณเองเป็ไง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
ชายชราผงกศีรษะอย่างยิ้มๆเขากับกัวไฮว่มองไปยังลู่เสียหยางพร้อมกันในตอนนั้นเองสีหน้าของลู่เสียหยางก็พลันเปลี่ยนไปพวกเขาทั้งสิบสี่คนเป็ยอดฝีมือเซียนเทียน ส่วนเขาเองเป็เซียนเทียนระยะหลังถ้าจะต้องเจอกับตำรวจนานาชาติ หรือว่าจะกองทัพตำรวจของประเทศไหนๆ เขาก็ยอมถอยออกมาทว่าไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะเจอศัตรูตัวฉกาจถ้าจะบอกว่าชายชราผู้นั้นเป็ยอดฝีมือลู่เสียหยางเองก็เชื่อทว่าเขายากที่จะเชื่อว่ากัวไฮว่เองก็เป็ยอดฝีมือทั้งยังเป็ยอดฝีมือที่ต่อสู้กับศัตรูได้ถึงสี่คนอีก
“นี่พวกแก พวกเราได้วางะเิกำหนดเวลาไว้บนเครื่องบินถ้าพวกแกอยากกำจัดพวกเราก็ลุยมาเลย มีตั้งหลายคนบนเครื่องบินฝังศพอยู่ข้างๆแถมยังมียอดฝีมืออย่างพวกแกสองคนอีก ฉันคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกคุ้มแล้ว ฮ่าๆ” โรคจิตก็คือโรคจิต กัวไฮว่อดคิดไม่ได้
“มีอยู่ใต้รถอาหารลูกนึง อยู่ที่ห้องน้ำสองลูก ห้องคนขับหนึ่งลูกใต้เก้าอี้ที่ฉันนั่งเมื่อกี้หนึ่งลูก พี่หยาง เมื่อกี้เราพนันกันก็ดีๆ อยู่เลยไม่คิดเลยว่าพี่จะกลับคำแบบนี้” เมื่อมียอดฝีมือเซียนเทียนคอยร่วมมือด้วยแบบนี้กัวไฮว่ก็มีความมั่นใจขึ้นมา
“เ้าสาม ไปถอนะเิทั้งหมดซะ แล้วก็เตรียมตัวะโร่ม” ลู่เสียหยางพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัวว่ากัวไฮว่กับชายชราจะลงมือทำอะไรหรือไม่กัวไฮว่กับชายชรามองหน้าแล้วขำกัน แก้ไขปัญหาแบบนี้จึงจะดีที่สุด ฆ่าคนน่ะง่ายแต่ถ้าพวกหนีตายพวกนี้เป็บ้าขึ้นมาก็เกรงว่าคนอื่นๆบนเครื่องบินจะพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย
“นี่พวกแก เดี๋ยวเราต้องได้เจอกันอีก รอให้มีโอกาสก่อนวันนี้พวกแกให้โอกาสฉัน ฉันก็จะคืนให้พวกแก” ลู่เสียหยางมองกัวไฮว่กับชายชราพร้อมกับพูดด้วยเสียงดัง
“ลูกศิษย์เจ็ดิญญาเขาซู่ซาน พวกตาแก่เขาซู่ซานยังมีชีวิตอยู่เธอไปบอกพวกเขานะว่าได้เจอกับนักพรตเต๋าน้ำดีแล้วก็บอกนะว่าถ้ามีเวลาฉันจะกลับไปเยี่ยมเยียนพวกเขาที่เขาซู่ซาน ฮ่าๆ” ชายชราพูดยิ้มๆ
“ท่านคือปู๋เอ้อร์เต้าเหรินแห่งเขาซู่ซาน? ผมยอมแพ้” เมื่อพูดเสร็จลู่เสียหยางก็ะโลงจากเครื่องบินไป
“ฆ่าคนต่อหน้าฉัน แถมยังรอดไปหมดอีก พูดไปฉันก็เสียหน้าฉันแย่เลย” ชายชรามองไปยังร่มชูชีพที่ลอยปลิวอยู่กลางอากาศจากนั้นก็โยนสิ่งของที่มีลักษณะเหมือนก้อนหินลงไปใน่ขณะนั้นเองร่มชูชีพทั้งสิบสี่ก็ถูกย้อมกลายเป็สีแดง
[1] ในร่างมนุษย์ที่จะมีสิ่งที่เรียกว่าสามจิตเจ็ดิญญาหากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งจะเป็มนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์และหากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปก็จะเรียกกันว่าขวัญหาย