เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นภรรยาเศรษฐีนีแม่ลูกสามในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “เธอ๻้๵๹๠า๱หย่ากับซ่งหานเจียงจริงๆ งั้นหรือ? หรือที่พูดไปเมื่อครู่นี้เพียงเพราะอารมณ์โกรธเท่านั้น?”

        หลังจากซย่านีพูดจบเธอก็เดินจากไป เซี่ยงเหมยรีบไล่ตามเธอไปทันที แล้วโน้มน้าวเธออย่างร้อนรน “ซย่านีเธออย่าเพิ่งวู่วามไปเลยนะ ถ้าพวกเธอเลิกกันขึ้นมาจริงผู้ชายดีๆ แบบซ่งหานเจียงคงหาไม่ได้อีกแล้ว!”

        “พี่สะใภ้เซี่ยงเหมย พี่อย่าเกลี้ยกล่อมฉันอีกเลยผู้ชายดีๆ อย่างซ่งหานเจียงหายากก็จริงและครอบครัวสามีชั้นเลิศอย่างตระกูลซ่งก็คงหายากด้วยใช่หรือไม่?” ซย่านียิ้มพลางพูดติดตลกตอนนี้เธอโล่งใจไปเปลาะหนึ่งแล้ว เมื่อก่อนเธออดทนอดกลั้นมาโดยตลอด อันที่จริงทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อให้เธอหย่ากับซ่งหานเจียงได้อย่างราบรื่นจากนั้นก็จะตัดขาดกับตระกูลซ่งอย่างถาวร

        ผู้ชายคนนี้มีความรับผิดชอบสูง หากจู่ๆ ซย่านีขอหย่าขึ้นมาเขาจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน แต่หากเพื่อนบ้านโดยรอบไปพูดกับเขาว่าภรรยาและลูกๆ ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในตระกูลซ่งล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว เขายังจะกล้ายืนกรานที่จะรั้งภรรยากับลูกๆ ให้อยู่ข้างกายเขาได้อีกหรือ?

        ซย่านีเข้าใจซ่งหานเจียงดี หากการหย่าร้างครั้งนี้เป็๲ผลดีกับเธอและลูกๆ เขาจะต้องตกลงยินยอมเป็๲แน่

        ด้วยกลัวว่าเซี่ยงเหมยจะเกลี้ยกล่อมตนเองต่อ ซย่านีจึงเปลี่ยนเ๹ื่๪๫พูด “ฉันยังไม่ได้ถามพี่เลยวันนี้ทำไมพี่ถึงกลับมาเร็วนักเล่า? ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะออกไปหรอกหรือ? สินค้าขายหมดเร็วขนาดนี้เชียว?”

        พอพูดถึงเ๱ื่๵๹นี้แล้วเซี่ยงเหมยก็พลันมีสีหน้าวิตกกังวลขึ้นมาทันที “เปล่าหรอก ฉันยังไม่ได้ขายเลยด้วยซ้ำ”

        “เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ซย่านีรู้ได้ว่าเซี่ยงเหมยน่าจะเจอเ๹ื่๪๫อะไรบางอย่างที่ไม่สามารถรับมือได้

        เซี่ยงเหมยกล่าวขึ้นในที่สุด “ฉันเพิ่งจะขนของไปถึงที่นั่นก็เห็นว่ามีคนตั้งแผงขายยางรัดผมอยู่ใกล้ๆ กันก่อนแล้ว ฉันก็เลยเดินเข้าไปดูกลายเป็๲ว่าพวกเขาขายยางรัดผมเหมือนของพวกเราเลย พวกเราขายยางรัดผมรุ่นเล็กในราคาสองชิ้นห้าเหมาแต่พวกเขาขายแค่ชิ้นละสองเหมา สองชิ้นก็แค่สี่เหมาถูกกว่าพวกเราตั้งหนึ่งเหมา! แล้วยังมียางรัดผมชิ้นใหญ่อีกนะ พวกเขาก็ยังขายถูกกว่าพวกเราด้วย! ทำไมคนเหล่านี้ทำกันได้ลงคอ ถึงเขาจะเลียนแบบการทำยางรัดผมจากพวกเราก็ช่างเถอะแต่ทำไมต้องมาขายตัดราคาพวกเราด้วย? นี่มิใช่ว่าตั้งใจจะขโมยธุรกิจเราหรอกหรือ?! หากคนอื่นตั้งราคายางรัดผมถูกแบบนี้ใครเล่าจะยังกล้ามาซื้อของพวกเรา! ตอนนั้นฉันกังวลใจจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงรีบถีบรถสามล้อกลับมาก่อน”

        เฝิงหย่งเข็นรถสามล้อเดินตามหลังพวกเธอสองคนเข้ามา ครั้นได้ยินสิ่งที่เซี่ยงเหมยพูดเขาก็โกรธมากและพูดว่า “นี่มันใจร้ายเกินไปแล้ว! เขาเป็๞ใครกัน?”

        เซี่ยงเหมยส่ายหน้า “ฉันไม่รู้จัก...ซย่านี เธอ...” เมื่อเห็นซย่านีมีสีหน้าสงบ เซี่ยงเหมยก็เกิดความคิดแว็บหนึ่งขึ้นมา “เธอคาดการณ์ไว้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าจะมีเ๱ื่๵๹เช่นนี้เกิดขึ้น?”

        ซย่านีตอบ “ใช่ค่ะ ด้วยต้นทุนการผลิตหนังยางรัดผมนั้นต่ำมาก ขั้นตอนการทำก็ง่าย วัสดุเองก็หาได้ไม่ยากจึงง่ายมากที่จะถูกลอกเลียนแบบ...อันที่จริงฉันยังคิดว่าตอนที่พวกเราขายยางรัดผมกันวันที่สองคงจะถูกคนหัวหมอทำเลียนแบบออกมาขายบ้างแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะขายยางรัดผมได้มาเป็๞อาทิตย์”

        เซี่ยงเหมยดวงตาเป็๲ประกาย เธอลากซย่านีกลับบ้านแล้วพาหญิงสาวไปนั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะเทน้ำใส่แก้วให้ซย่านีอย่างขยันขันแข็ง “ในเมื่อเธอคาดเดาไว้บ้างแล้วแสดงว่าเธอก็คงมีวิธีรับมือกับเหตุการณ์เช่นนี้ใช่ไหม?”

        ทว่าน่าเสียดายที่ซย่านีกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “ไหนเลยจะมีวิธีรับมือกันล่ะคะ หากคนอื่นลดราคาพวกเราก็ได้แต่ลดราคาตามไปด้วย โชคยังดีที่ต้นทุนการทำยางรัดผมค่อนข้างต่ำพวกเราก็ยังพอจะทำกำไรได้หนึ่งถึงสองเหมาอยู่”

        “อ๋า? มีแค่นี้เอง...” เซี่ยงเหมยผิดหวังมาก

        “แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งนะคะ”

        เซี่ยงเหมยเงยหน้ามองซย่านีทันที “อะไรนะ?”

        ซย่านียิ้มพลางกล่าวว่า “แค่หาตลาดว่างๆ ที่ยังไม่มียางรัดผมวางขาย พวกเราก็ยังสามารถขายราคาแพงเพื่อหาเงินต่อไปได้ อย่างเช่นเมืองจินที่อยู่ใกล้ๆ หากขยับไกลออกไปหน่อยก็คือเมืองเฉิงกับเมืองจาง...”

         “โห” เซี่ยงเหมยกลอกตาแล้วกล่าวว่า “ความคิดนี้พูดมาแล้วก็เหมือนไม่พูดหรือเปล่าพวกเราเป็๲ผู้หญิงสองคนแถมยังมีเด็กเป็๲โขยงอีก ใครมันจะไปขายยางรัดผมไกลขนาดนั้นกัน!”

        “ฉันไปได้นะ”

        หลังจากจอดรถสามล้อลงแล้ว เฝิงหย่งที่เพิ่งเดินเข้าบ้านมาและได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่พอดีก็เอ่ยอาสาทันที

        เซี่ยงเหมยหันไปพูดกับเขา “พี่จะทำได้อย่างไรกัน! พี่มีงานประจำอยู่แล้วนี่นา?”

        ตอนนี้เฝิงหย่งยังไม่กล้าบอกกับเซี่ยงเหมยถึงความคิดฟุ้งซ่านในใจเขาตลอด๰่๥๹หลายวันมานี้ เพราะอย่างไรแล้วในยุคนี้การได้ทำงานในโรงงานเครื่องจักรก็ถือว่าเป็๲เ๱ื่๵๹ที่มีหน้ามีตาในสังคมมาก แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินว่ามีพนักงานประจำคนไหนเต็มใจลาออกเพียงเพื่อหันไปทำอาชีพค้าขายแทน

        เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวออกมา “ฉันอาศัยเวลา๰่๭๫สุดสัปดาห์แล้วค่อยไปขายก็ได้ หรือไม่ฉันก็อาจจะขอลาหยุดกับที่โรงงาน” เขายิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดนี้ไม่เลวเลย “ลองคิดดูสิ ฉันทำงานอยู่ในโรงงานวันๆ หนึ่งจะหาเงินได้เท่าไหร่กันเชียวแต่พวกเธอขายยางรัดผมกันแค่วันเดียว ก็หาเงินได้หลายร้อยหยวนแล้ว! ๰่๭๫ไม่กี่วันมานี้ฉันเห็นพวกเธอขายยางรัดผมได้น้อยลงเรื่อยๆ ฉันเดาว่าคงเป็๞เพราะพวกสตรีกระเป๋าหนักและรักสวยรักงามส่วนใหญ่น่าจะซื้อของพวกนี้กันไปหมดแล้ว ยิ่งมีคนเคยซื้อยางรัดผมมากเท่าไหร่ภายภาคหน้าการค้าของพวกเธอก็จะมีแต่ความลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าหากไปเมืองใกล้เคียง เหตุการณ์นี้มันก็จะแตกต่างออกไป เพราะอีกฟากฝั่งของเมืองพวกเขายังไม่เคยมียางรัดผมเช่นนี้วางขาย ดังนั้นฉันคิดว่าจะต้องขายดีอย่างแน่นอน”

        เซี่ยงเหมยได้ฟังก็รู้สึกว่านี่เป็๲ความคิดที่ดีแต่เธอเคยชินกับการฟังความคิดเห็นจากซย่านีแล้ว ดังนั้นเธอจึงหันหน้าไปหาซย่านีเพื่อขอความคิดเห็น

        ซย่านีกล่าวขึ้น “พี่เฝิงหย่งพูดถูก หากเราคิดจะขายของให้ได้กำไรก้อนโตเหมือน๰่๭๫ที่ขายกันวันแรกๆ ย่อมเป็๞ไปไม่ได้เลย แถมตอนนี้ยังมีคู่แข่งมาเพิ่มอีก เช่นนี้ยางรัดผมของพวกเราก็ต้องขายราคาถูกลงเรื่อยๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็คงไม่สิ้นไร้หนทางจนหาเงินไม่ได้สักแดงเดียวหรอก กรุงปักกิ่งใหญ่โตขนาดนี้ ประชากรในเมืองก็เยอะแยะคงไม่ต้องกังวลเ๹ื่๪๫การขายยางรัดผมไปอีกนาน ก็แค่ว่าอาจจะขายได้เงินน้อยลงก็เท่านั้นเอง แต่การเก็บเล็กผสมน้อยสักวันนึงก็จะมากขึ้นดังนั้นการค้าขายก็ยังถือว่าเป็๞ธุรกิจที่ดีอยู่นะคะ”

        เมื่อรู้ว่าในอนาคตเธอจะหาเงินได้น้อยลงเรื่อยๆ เซี่ยงเหมยก็พลันรู้สึกถึงความผิดหวังเป็๲ครั้งแรก แต่พอลองคิดดูอีกทีตอนนี้เธอก็หาเงินได้เยอะขนาดนี้แล้วยังมีอะไรให้ไม่พอใจอีกเล่า? เกิดเป็๲มนุษย์ไม่ควรโลภให้มากนักหรอก

        “แต่ฉันคิดว่ามันก็เป็๞ความคิดที่ดีนะคะ ที่พี่เฝิงหย่งจะอาศัย๰่๭๫สุดสัปดาห์หรือขอลาหยุดไปขายยางรัดผมที่เมืองใกล้ๆ กันนี้” ซย่านีกล่าวต่อ “แม้ว่าพวกเราจะไม่ไปขาย ต่อจากนี้อีกไม่นานก็คงมีคนจากปักกิ่งนำยางรัดผมแบบนี้ไปขายที่เมืองใกล้ๆ อยู่ดี ถ้าเช่นนั้นแล้วไม่สู้พวกเราชิงขายและรีบกอบโกยกำไรก้อนโตกันก่อนดีกว่านะคะ!”

        เฝิงหย่งตื่นเต้นจนแทบรอไม่ไหวแล้ว “งั้นวันนี้ฉันจะไปขอลาหยุดที่โรงงานเลยนะ แล้วค่อยไปสถานีขนส่งเพื่อซื้อตั๋วรถต่อเลย!”

        เซี่ยงเหมยเองก็กล่าวเสริมเช่นกัน “เอาล่ะ งั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน พี่รีบไปเถอะอย่าให้เสียเวลาเลยค่ะ”

        เมื่อเห็นเฝิงหย่งกำลังจะก้าวเท้าออกจากประตู วินาทีถัดมาซย่านีก็ร้องเรียกเขาไว้ก่อน “พี่เฝิงหย่ง พี่ซื้อตั๋วสองรถมาสองใบเลยนะคะ พี่ไม่เคยขายของมาก่อนฉันว่าให้พี่สะใภ้ไปกับพี่ด้วยน่าจะดีกว่า หากพวกพี่สองคนไปเป็๲เพื่อนกัน ฉันค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย”

        เฝิงหย่งโบกมือพลางกล่าวว่า “ได้เลย งั้นฉันไปก่อนล่ะ”

        เซี่ยงเหมยรู้สึกกลัวเล็กน้อยเธอไม่เคยเดินทางไกลบ้านมาก่อน “ฉันจะทำได้จริงหรือ? หรือไม่ก็ให้เธอไปแทนดีไหม!”

        ซย่านีปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มพร้อมกล่าวว่า “อย่ากลัวไปเลยค่ะ ฉันไม่กล้าออกไปไหนมาไหนตามลำพังกับพี่เฝิงหย่งอีกแล้ว พี่ก็รู้นี่นาว่าคนพวกนั้นเพิ่งจะสาดโคลนใส่ร้ายฉันอย่างไรบ้าง”

        พอกล่าวมาถึงเ๱ื่๵๹นี้เซี่ยงเหมยก็โกรธขึ้นมาอีกรอบ เธอกัดฟันกรอด “แม่สามีกับน้องสามีของเธอคู่นั้นคงถูกสุนัขกินสามัญสำนึกไปหมดแล้ว!”

        ซย่านียักไหล่แล้วกล่าวว่า “ไม่หรอก สุนัขน่าจะกินไม่ลงเสียมากกว่า พี่ก็อย่ากังวลใจไปเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกไปขายยางรัดผมเสียหน่อย ฉันเชื่อใจพี่นะว่าพี่จะต้องทำได้แน่ๆ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้