เสียงพึมพำนี้ดึงสติของเซียวเจวี๋ยกลับสู่ความเป็จริงอีกครั้ง
สีหน้าของเขาเ็าลงทันที เขาดันชิงอีออกจากอ้อมแขน เตรียมจะผลักออกไปด้วยความรังเกียจ ทว่า กลับกลายเป็หยุดนิ่ง ลุกยืนขึ้นและเดินออกห่างอย่างเ็า
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง กุมหัวใจของตนเองเอาไว้
พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
เซียวเจวี๋ย เ้าลังเลอะไรอยู่กันแน่?!
นางเป็น้องสาวของเย่เหยียนนะ!!
“เ้าบ้าเย่เหยียน...ทำไมหายไปอีกแล้ว...” ชิงอีนั่งลงบนพื้น สายตานิ่งงันไปครู่หนึ่ง คิ้วก็เริ่มขมวดใกล้จะร้องไห้ออกมา แผ่นหลังของนางดูเศร้าเป็อย่างมาก “คนโกหก...ท่านพูดไว้ไม่ใช่หรือไรว่าจะรอให้ข้าโตก่อน...”
“เหตุใดเมื่อข้าโตขึ้น ท่านถึงหายไปล่ะ?”
“ท่านไม่อยู่แล้ว ใครจะพาข้าไปหาเป่ยอินล่ะ...”
“หากไม่ไปหาเป่ยอิน แล้วข้าจะแต่งงานกับเขาอย่างไรล่ะ...”
เซียวเจวี๋ยที่ได้ยินเสียงนางพูดไปวนมาจากข้างหลัง หัวใจก็เ็าขึ้นมาในทันที...
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันหน้ากลับไป บนใบหน้าเต็มไปด้วยความจนใจและ...อยากจะยิ้มออกมา
เมาถึงขนาดนี้แล้ว นางยังจะมาคิดเื่นี้ได้อีก?
นางชอบาาเป่ยอินขนาดนั้น ชอบเขาใช่ไหม?
ในตอนนั้นเขาแค่ช่วยนางโดยไม่ได้คิดอะไรเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าผ่านมาหลายพันปีแล้ว นางยังจะคิดถึงเื่นี้อยู่อีก
เซียวเจวี๋ยสับสนเล็กน้อย ทว่า ทันใดนั้นก็มีส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมา
“เย่เหยียน เ้ามันสารเลว ไปตายซะ!”
เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่เมาแล้วเริ่มบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้ยังอ่อนโยนราวกับดอกไม้อยู่เลย ตอนนี้กลับยกมือขึ้นเท้าสะเอว และชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้ะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยว “ไอ้สารเลว อย่าให้ข้าหาเ้าพบนะ! ข้าถลกหนังเ้าแล้วโยนลงไปในกระทะน้ำมัน ถ้าแน่จริงก็ซ่อนตัวอย่าให้ข้าเจอไปให้ได้ตลอดก็แล้วกัน! แต่ถ้าออกมา ข้าก็จะเอาิญญาเ้าส่งที่เส้นทางการกลับชาติมาเกิดของสัตว์ เ้าจะได้เกิดเป็หมูเป็หมา ข้าจะฆ่าเ้าแล้วใส่ลงไปในหม้อต้มเลยคอยดูสิ!!”
เซียวเจวี๋ยที่ฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง...
เกรงว่านาง...กับเย่เหยียนจะไม่ใช่พี่น้องที่สนิทสนมกันงั้นหรือ?
ครั้งนี้ทนไม่ไหวจริงๆ แล้วก็ไม่อยากทนด้วย
เซียวเจวี๋ยก้มศีรษะลงและหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ และสดใสขึ้นเรื่อยๆ
เสียงดุด่าของชิงอีค่อยๆ เงียบลง และหันหน้าทางเขา ในแววตายังคงมึนงงด้วยความเมา
เซียวเจวี๋ยใช้เวลานานกว่าที่จะหยุดหัวเราะ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองนาง พร้อมกับดวงตาที่เป็ประกายราวกับฤดูใบไม้ผลิ “เ้าพูดแล้วห้ามคืนคำนะ”
รอให้จับเย่เหยียนผู้นั้นได้ต้องเอามาถลกหนังแล้วโยนลงไปในกระทะ จากนั้นก็ส่งไปเส้นทางการกลับชาติมาเกิดใหม่ของสัตว์ ถึงตอนนั้นเขาจะเตรียมสุราชั้นดีไว้ดื่มด้วยกันกับเ้าระหว่างกินหม้อไฟเลยล่ะ
“หือ? เ้าหนุ่มน้อยหรือ? เหตุใดถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?” ศีรษะของซิงอีที่เอียงลงมา จนเกือบจะพิงที่ข้างเอวของเขา “พอไม่ยิ้มเสแสร้งแล้ว...ก็ดูดีเลยทีเดียว”
เซียวเจวี๋นผงะไปครู่หนึ่งและหุบยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางของนางเช่นนั้นกลัวจริงๆ ว่าอีกประเดี๋ยวนางจะล้มลงแล้วกลายเป็คนโง่ เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย และรีบถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว ชิงอียืนตัวตรงอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าเล็กๆ ของนาง
“ดีมาก! ท่านอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว! รอก่อนนะ อย่าเพิ่งหนีไปไหน!”
เมื่อเซียวเจวี๋ยมองไปยังท่าทางเช่นนั้นของนางแล้ว ยังคงเมาอยู่สินะ...
ช่างมันเถอะ
เขานั่งลงข้างๆ เพื่อที่จะดูว่าเ้าตัวปัญหาคิดที่จะมาไม้ไหนกันแน่?
ชิงอีคลำหาบางอย่างบนตัวอยู่พักหนึ่ง แล้วหยิบซองยาซองหนึ่งออกมา จากนั้นก็หัวเราะคิกคักราวกับไก่ตัวน้อยส่งเสียงขัน
เซียวเจวี๋ยกระตุกยิ้ม เบี่ยงหน้าหนี และคิดว่าเื่เช่นนี้มันดูน่าขำเล็กน้อย
ชิงอีสะบัดศีรษะที่วิงเวียนเล็กน้อยและพึมพำว่า “ให้เ้า...ขโมยพลังคาถาของข้าไปแล้ว คราวนี้ข้าจะขโมยมันกลับคืนมา...”
“ทำลายแหวนจื่อจินซะ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี...พรุ่งนี้ข้าจะไปโยนมันลงหลุมให้เ้าเอง...”
นางพึมพำไป มืออีกข้างก็ใส่ผงทั้งหมดในซองยาเข้าไปในโถสุรา
นางชะงักไปครู่หนึ่งแล้วบ่นว่า “ดูเหมือนว่าจะใส่ยามากเกินไปหน่อย เอาเถอะ...มันก็ไม่ทำให้คนตายหรอกมั้ง ถึงเขาจะตายก็สมควรแล้ว”
หลังจากเทยาเสร็จ นางก็หยิบโถสุราขึ้นมาเขย่า และยืนอยู่กับที่อย่างเห็นได้โจ่งแจ้ง
จากนั้นจึงเดินโซเซ ล้มลุกคลุกคลานไปจนถึงหน้าเซียวเจวี๋ย
“หนุ่มน้อย เชิญ เชิญดื่มได้เลย...”
เซียวเจวี๋ยมองดูโถสุราอย่างไร้คำพูดใดๆ เขาไม่เคยเห็นการวางยาที่โจ่งแจ้งขนาดนี้มาก่อน เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเ้าเล่ห์เล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้าเขาและถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ
เอาเถอะ
เดิมทีพลังที่กลืนกินมาก็เป็ของนางอยู่แล้ว ก็ถือเสียว่าเป็หนี้บุญคุณนาง คราวนี้ก็ปล่อยนางไปแล้วกัน
เซียวเจวี๋ยรับโถสุรามาดื่ม จากนั้นก็หลับตาลงอย่างมีสติ
“อะไรมันจะเร็วขนาดนี้ หมด หมดสติไปแล้วหรือ?” ชิงอียังคงมองเขาอย่างโง่เขลา พร้อมกับมือที่ยื่นมาจิ้มใบหน้าของเขา
เซียวเจวี๋ยพยายามไม่ขยับตัว ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
นางอยู่ใกล้เกินไป...
มีกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจอุ่นๆ ััใบหน้าเขา พร้อมกับอาการชาที่พุ่งไปที่หัวใจ จนลามไปทั่วร่างกาย
เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงเตรียมที่จะลืมตา
ทว่า กลับมีริมฝีปากอุ่นกดลงมา
เซียวเจวี๋ยแข็งทื่อไปทั้งตัว ทว่า ก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา ในดวงตาเป็ใบหน้าเล็กที่มีเสน่ห์ ดวงตาทั้งคู่ของนางปิดอยู่ ส่วนขนตายังคงสั่นเล็กน้อย
มันเป็เพียงการจูบโดยใช้เวลาไม่นาน ในวินาทีต่อมา นางก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
คราวนี้คงเมาจนหลับไปแล้วจริงๆ สินะ
เพิ่งจะ...ได้พลังคืนไปไม่เท่าไรเอง?
เซียวเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่นและมองไปยังคนเมาในอ้อมแขน จะหมดสติตอนไหนก็ไม่หมด กลับมาหมดสติเอาเวลานี้...
“เอาเถอะ”
เขาจะให้นางเพิ่มอีกหน่อยก็แล้วกัน
ดวงตาของเขาสั่นไหวครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มศีรษะลง
ในความฝันที่ของอาการมึนเมา ชิงอีขมวดคิ้ว รู้สึกราวกับว่าตนเองได้ลิ้มรสความหวาน และอดไม่ได้ที่จะ้ามันอีก
ยังไม่พอเลย นางยัง้าอีกมาก...
...
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
ชิงอีตื่นขึ้นมาด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ นางลุกขึ้นจากเตียงและยกมือเคาะศีรษะ พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ผลลัพธ์กลับกลายเป็จำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย
นี่นาง...เมาจนภาพดับไปเลยงั้นหรือ?!
นี่มันอะไรกัน นางจำได้ว่าลากซียวเจวี๋ยไปดื่มที่ห้องเครื่อง หลังจากนั้นก็นึกอะไรไม่ออกแล้ว?!
แต่...
เมื่อนางกำมือ พลังกลับมาแล้ว
“เอ๋ เ้าสิ่งนี้...” ชิงอีที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแหวนจื่อจินสั่น นางจึงลองเพิ่มพลังเข้าไป แหวนจื่อจินที่เดิมเป็แหวน จู่ๆ ก็กลายเป็สร้อยข้อมือ
ควบคุมได้จริงๆ ด้วย!
มันใหญ่ขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง และค่อยๆ กลับมาเล็กลง
ใหญ่ขึ้น เล็กลง
จากเล็กก็กลายเป็ใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
สีหน้าของชิงอีที่สดใสกลายเป็หม่นหมอง ราวเมฆครึ้มวันฝนตกขึ้นมา
“ก็แค่เปลี่ยนร่างได้ จะไปมีประโยชน์กะผีอะไร!”
น่าโมโหจริงๆ!
“โอ๊ย”
ราวกับภาพลวงตา มีเสียงร้องที่เจื้อยแจ้วดังขึ้นมา
ชิงอีหรี่ตาลง เสียงนี้นางจำได้ ไม่ผิดแน่ๆ! นางมองไปที่พื้นและนั่งยองๆ ลงไป จากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มไปที่แหวนจื่อจิน “เมื่อครู่เ้าพูดว่าอะไรนะ?”
แหวนจื่อจินยังคงนิ่งและไม่ตอบสนอง
ทำเป็แกล้งตายใส่นางงั้นสินะ? ดวงตาคู่สวยของชิงอีหรี่ลงแล้วแสยะยิ้ม
“ถ้าไม่พูดอะไรก็ไม่เป็ไร ข้าก็จะพาโยนเ้าลงหลุม ดูซิว่าเ้าจะพูดหรือไม่พูด!”
“อย่านะ!” เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นอีกครั้ง
ชิงอียิ้มอย่างดูถูกและออกแรงบีบแหวนจื่อจิน แล้วเคาะมันกับพื้น “มัวแต่แกล้งทำเป็ผีสางเทวดาอยู่นั่นแหละ ยังไม่ออกมาอีก!”
“โอ๊ยๆๆ ถูกท่านเคาะจนจะตายอยู่แล้ว”
มีร่างอ้วนๆ ร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากแหวนจื่อจิน เป็เด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีขนาดเท่าฝ่ามือใหญ่ มัดจุกชี้ฟ้า มีพุงกลมน้อยๆ และสวมใส่ชุดเอี๊ยมสีแดง ดวงตาที่น้ำตาคลอเบ้าเต็มไปด้วยความโกรธ “ท่านช่างเป็ผีหญิงสาวที่หยาบคายเสียจริง รังแกเด็กแบบนี้ได้เยี่ยงไรกัน!”
เหอะ?
ชิงอีเลิกคิ้ว จับผมจุกของเขาและยกขึ้นราวกับแครอท
“โอ๊ยๆๆๆ!”
คนตัวเล็กเตะขาสั้นๆ ของเขา
นางมารร้ายยิ้มอย่างชั่วร้าย “เ้าเด็กอ้วน เ้าไม่เคยได้ยินหรือ ว่าอาหารโปรดของผีสาวน่ะมีเด็กน้อยด้วย?”
