“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ คุณย่า”
เดม่อนเดินตามออกัสตาออกมาจากห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ก่อนจะกล่าวขอบคุณหญิงชราอีกครั้ง
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ย่าต่างหากที่ต้องขอบใจเธอ ต่อไปนี้…เธอต้องพาเนวิลล์ไปเล่นด้วยบ่อยๆ ทำได้ไหมจ๊ะ เด็กน้อย?”
“ได้ครับ ผมสัญญา”
“ดีมาก ถ้าเธอ้าความช่วยเหลืออะไร ให้เนวิลล์เขียนจดหมายถึงฉัน หรือไปที่ร้านหม้อใหญ่รั่วในตรอกไดแอกอน แล้วขอความช่วยเหลือจากทอม เ้าของร้านได้เลย
แม้ว่าตระกูลลองบัตทอมในบรรดายี่สิบแปดตระกูลบริสุทธิ์จะตกต่ำลงแล้วก็ตาม แต่เรายังไม่เคยสูญเสียศักดิ์ศรีและพลังของสายเืบริสุทธิ์เลยนะ”
“ขอบคุณสำหรับคำสัญญาครับ ผมจะจำไว้ คุณย่าจะไปดูเนวิลล์ด้วยกันไหมครับ?”
เดม่อนไม่ได้ใส่ใจกับเื่สายเืบริสุทธิ์หรือผสมในคำพูดของคุณย่า เขามองหญิงชราตรงหน้าว่าเป็เพียงคุณย่าที่ดุแต่ใจดีเท่านั้น
“ไม่ล่ะ ย่าจะกลับเลย ฝากบอกเขาด้วยว่าสิ่งที่เขาทำในครั้งนี้น่าภูมิใจมาก ย่าภูมิใจในตัวเขา”
พูดจบ คุณย่าผู้น่าเกรงขามก็เดินจากไปโดยไม่รีรอ เหมือนกับว่าเพิ่งได้ยินเื่ราวจากอาจารย์ที่เธอไว้ใจ แล้วรีบเดินทางมาฮอกวอตส์ทันที
“งั้น ผมก็กลับไปเรียนต่อแล้วกัน”
เดม่อนจากไปอย่างอารมณ์ดี เขาไม่ได้ใส่ใจนักว่าจะต้องกักบริเวณหรือไม่ อย่างมากก็แค่พลาดโอกาสเถียงกับสเนปแค่นั้นเอง
เขาไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดคิดว่าสเนปจะสอนอะไรพิเศษให้ตอนถูกกักบริเวณ ถ้ารู้จักเ้าค้างคาวแก่ดีพอ ก็คงเดาได้เลยว่าเขาจะให้ตัวเองจัดการกับวัตถุดิบปรุงยาแสนน่าขยะแขยง แล้วเอาแต่นั่งเสียดสีอยู่ข้างๆ มากกว่า
ขณะเดียวกัน หลังประตูหนึ่งบาน
ดัมเบิลดอร์ยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองแผ่นหลังของเดม่อนด้วยสายตาแน่วแน่ สีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังไตร่ตรองเื่ที่สำคัญมากบางอย่าง
เขาพอจะเข้าใจนิสัยใจคอของเด็กคนนี้คร่าวๆ แล้ว หากให้เวลาและโอกาส เด็กคนนี้จะเป็กำลังสำคัญในการช่วยแฮร์รี่ต่อกรกับโวลเดอมอร์ได้แน่นอน…แต่เขายังต้องจับตาดูต่อไป อยากรู้ว่าเวลาเจอกับวิกฤตจริงๆ เด็กคนนี้จะเลือกแบบไหน?
ดัมเบิลดอร์เคยเห็นคนกล้าหาญมากมาย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็ความตาย ก็ยังยอมคุกเขาให้โวลเดอมอร์แบบน่าอับอาย
เดม่อน…จะเป็หนึ่งในคนแบบนั้นไหม?
วันต่อมา “เ้าชายแห่งการดวลฟ้าผ่ามัลฟอย” กลายเป็ประเด็นร้อน ผู้คนเริ่มพูดถึงเหตุการณ์นี้กันมากขึ้น
นักเรียนหลายคนเริ่มตื่นเช้าไปทานข้าวที่ห้องโถงมากขึ้น เพราะกลัวว่าความี้เีจะทำให้พลาดเหตุการณ์สนุกๆ อีก
แต่ความตื่นเต้นของพวกกริฟฟินดอร์เริ่มลดลง พวกเขาเริ่มกลับมาตระหนักว่า คะแนนบ้านที่หายไปน่ะ...มันเยอะเกินไป
ใช่…สิ่งที่เดม่อนทำน่ะมันเท่จริงๆ แต่คะแนนที่โดนหักไปตั้ง 150 แต้ม มันทำให้หน้าของกริฟฟินดอร์หมองหม่นสุดๆ จากอันดับหนึ่งตกมาอยู่ท้ายสุดอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่เดินผ่านบอร์ดคะแนนที่ชั้นหนึ่ง ใจก็ห่อเหี่ยว
เสียงกระซิบแปลกๆ เริ่มกระจายไปในกลุ่มปีหนึ่ง
สายตาที่เคยมองเดม่อนด้วยความเคารพ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็สายตาที่ประหลาดขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศชวนอึดอัดค่อยๆ ก่อตัว
แฮร์รี่กับเพื่อนๆ รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ต่างก็เริ่มเป็ห่วงเดม่อน แต่เ้าตัวกลับดูไม่สนใจอะไรเลย หลังอาหารเช้าก็หายตัวไปตลอดทั้งวัน พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ยิ่งหายตัวไปเลยแม้แต่ข้าวเช้าก็ไม่โผล่มา
“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
เฮอร์ไมโอนี่ทนไม่ไหว สุดท้ายก็โพล่งถามออกมา ท่ามกลางสายตาจับจ้องอย่างมีนัยของนักเรียนรอบข้าง
“รู้สึกอะไร?”
วันนี้เดม่อนนั่งจดบันทึกเวทมนตร์อยู่ ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เหมือนเคย ข้างตัวมีสมุดโน้ตเวทมนตร์และขนนกวิเศษลอยอยู่ เมื่อได้ไอเดียอะไรก็เขียนลงไปทันที เขากำลังทดลองทฤษฎีที่อ่านจาก แปลงร่างศาสตร์วันนี้ ซึ่งเริ่มเข้าใจกลไกบางอย่างแล้ว อาจจะอีกไม่นานก็ได้เห็นผลลัพธ์ที่ก้าวหน้า
ขาดแค่ประกายความคิดเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“รู้สึกอะไรน่ะเหรอ? ตอนนี้พวกกริฟฟินดอร์ทุกคนกำลังพูดถึงคะแนนบ้านที่หายไป แล้วนายกลับถามว่าฉันพูดถึงเื่อะไรเนี่ยนะ? นายรู้ไหมว่าตอนนี้คะแนนของพวกเราตกไปอยู่อันดับสุดท้ายแล้ว!
เดม่อน นายไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความรู้สึกเป็พวกเดียวกันเลยหรือไง?”
“ทำไมล่ะ เฮอร์ไมโอนี่ เธอคิดว่าที่ฉันทำก่อนหน้านี้มันผิดเหรอ?”
“ไม่! แน่นอนว่านายทำถูกแล้ว แต่…พวกเราอาจใช้วิธีอื่นแทนได้ไหม? นายอาจนัดดวลมัลฟอยตอนเที่ยงคืนก็ยังได้ ทำไมต้องทำให้เป็เื่ใหญ่ขนาดนั้นด้วย?”
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
เธอไม่คิดเลยว่าวลี “ดวลตอนเที่ยงคืน” จะออกจากปากเธอได้
รอนกับแฮร์รี่เบิกตากว้างมองเธอ เหมือนเห็นเธอเป็คนแปลกหน้า
แต่สิ่งที่ทำให้เธอหงุดหงิดที่สุดคือ เดม่อนยังคงไม่ใส่ใจเหมือนเดิม พลางตอบเรียบๆ ว่า:
“เพราะตอนนั้นฉันอยากทำแบบนั้น ฉันรู้สึกว่าทำแบบนั้นดีที่สุด แค่นั้นเอง”
เขาซดซุปคำสุดท้ายลุกขึ้นยืน พลางพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ว่า:
“ไม่ต้องห่วง คะแนนที่หายไป 150 แต้ม ฉันจะเอาคืนให้หมดก่อนสิ้นปี กริฟฟินดอร์จะได้แชมป์บ้านแน่นอน”
“แต่ว่า จะทำยังไง?”
“เื่นั้นเธอไม่ต้องรู้หรอก”
“ทำไมจะไม่ต้องรู้ล่ะ? บอกมาเถอะ ฉันจะได้ช่วย”
“อ้อ ถ้าพวกเธอยังหาเื่นิโคลัส เฟลมเมลไม่ได้ ลองไปดูที่การ์ดกบช็อกโกแลตก็ได้นะ”
พูดจบ เดม่อนก็เดินจากไปทันที ทิ้งเื่คะแนนบ้านไว้เื้ั เขารู้ว่าถ้าบทความของเขาได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ คะแนนจะกลับมาเอง
เขาเดินจากไปอย่างรวดเร็วจนประโยคของเฮอร์ไมโอนี่ยังพูดไม่จบ ก็ไม่เหลือแม้แต่เงา ทิ้งเธอไว้กับอารมณ์ขุ่นเคือง
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย! แล้วทำไมนายต้องพูดแบบนั้นด้วย?”
รอนกับแฮร์รี่เห็นเดม่อนเดินจากไปด้วยท่าทีเท่จัด ต่างก็กลั้นขำไว้ไม่อยู่ ทั้งสองหันไปมองหน้ากันก็พบแววชื่นชมในสายตาของอีกฝ่าย
ส่วนเฮอร์ไมโอนี่น่ะเหรอ?
สิ่งที่เดม่อนทำ มันชัดเจนว่าเขาไม่แคร์ว่าใครจะมองยังไง เฮอร์ไมโอนี่ที่เลือกไปตำหนิเขาในตอนนี้ก็เท่ากับอยู่ฝ่ายตรงข้าม แฮร์รี่กับรอนไม่เคยคิดเลยว่าเขาทำผิด
ซัดมัลฟอยต่อหน้าทุกคนจนมันเสียหน้าไปตลอดกาล ยังไงก็ดีกว่าคะแนนบ้านเป็ไหนๆ เฮอร์ไมโอนี่คงไม่เข้าใจเื่นี้
“ใจเย็นหน่อยเฮอร์ไมโอนี่ อย่างน้อยเราก็ได้เบาะแสเกี่ยวกับนิโคลัส เฟลมเมลแล้วใช่ไหมล่ะ?”
รอนเลือกจะไม่เถียงเื่จุดยืนของเฮอร์ไมโอนี่ แต่กลับปลอบใจเธออย่างนุ่มนวลแทน
เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาอย่างประหลาดใจ แล้วพูดอย่างหดหู่ว่า:
“ฉันรู้สึกว่าเดม่อนกำลังห่างจากพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ?
เพื่อนไม่ควรจะช่วยเหลือกันและกันเหรอ?
แต่ตอนนี้เขาเป็คนที่คอยแก้ปัญหาให้เราอยู่ฝ่ายเดียว เรากลับช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย แบบนี้จะเรียกว่าเพื่อนได้ยังไง?
ฉันไม่เคยมีเพื่อนคนไหนที่คุยกันไม่ถึงสิบประโยคในหนึ่งเดือนเลย…”
“อ้อ อย่าไปคิดมากเลย จริงๆ แล้ว…มันก็ขึ้นอยู่กับว่านายให้นิยามคำว่า ‘เพื่อน’ ว่ายังไงน่ะนะ”
รอนปลอบเธอไปในขณะที่ในใจแอบคิดว่า ตอนเธอหมกตัวในห้องสมุดทุกวัน เธอไม่เคยคิดแบบนี้เลย แต่เขาก็ไม่พูดออกมา
จากนั้นเขาก็แอบขยิบตาให้แฮร์รี่
แฮร์รี่ก็เข้าใจทันที รีบเสริมขึ้นว่า:
“ใช่เลย เดม่อนเคยพูดกับฉันว่า เพื่อนน่ะมีหลายประเภท” แต่พอเฮอร์ไมโอนี่หันมามอง แฮร์รี่กลับเริ่มติดอ่างขึ้นมา เพราะจำเนื้อหาทั้งหมดไม่ค่อยได้แล้ว
“เอ่อ เอาเป็ว่า ทำไมพวกเราไม่รีบไปดูการ์ดกบช็อกโกแลตนั่นล่ะ?”
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้