สายลมเย็นปะทะกับผิวหน้าเธอจนชาเย็น อาชาตัวใหญ่ถูกเขาควบวิ่งมุ่งตรงเข้าวังหลวงทันที เหล่านางกำนัล ขันทีที่เห็นฮ่องเต้หนุ่มควบอาชาที่มาหยุดยืนหน้าพระราชวังพลันแตกตื่นวิ่งรับจนวุ่นวาย ร่างสูงะโลงก่อนชูแขนประคองอุ้มเธอลงจากหลังอาชาสูง สายตาของเหล่าขันที นางกำนัลเหลือบมองเธอแต่มิได้มีผู้ใดเอ่ยถามให้เสียอารมณ์
“ฝ่าา...เหตุใด..พระองค์..” น้ำเสียงติดขัด พลางเหลือบมองตำหนักด้านหลังที่หยุดยืนอยู่ เธอสงสัยเพราะว่านี่ไม่ใช่ตำหนักสนม แต่เป็ตำหนักส่วนพระองค์ แล้วทำไมเขาจึงพาเธอมาที่นี้แทน
“เจิ้นเหนื่อยแล้ว คืนนี้เ้าพักที่นี่เสีย พระสนมจะบรรทมที่นี่ห้ามผู้ใดรบกวน” น้ำเสียงเข้มดุสั่งขันทีที่ยืนเฝ้าราวกับกวนใจ ร่างสูงดึงจูงมือเธอเข้าด้านใน ห้องบรรทมกว้างขวางมีเตียงใหญ่วางอยู่ตำแหน่งกลางห้อง ผ้าม่านสีเหลืองทองถูกจับผูกห้อยระย้าอย่างสวยงามแม้นว่าเธอนั้นจะเคยเห็นแล้วครั้งหนึ่ง ร่างสูงค่อย ๆ ก้มโอบจากด้านหลังเธอคล้องแขนโอบรอบเอวคอดไว้ราวประคอง ใบหน้าซุกลำคอขาวเนียนพลางสูดดมจนเธอรู้สึกขนลุกชัน
“เดี๋ยวเพค่ะ!!” หลิวเซียงเอ๋อร์รีบถอยกายหนีห่างหลังรู้สึกถึงสิ่งหนึ่งดุนดันสะโพกเธอ ใบหน้านวลร้อนผ่าวจนแดงระเรื่อราวผลตำลึงสุก
“เ้ากล้าขัดเจิ้นเหรอ” น้ำเสียงดุดันปนความอบอุ่น เขาคว้าร่างบางกกกอดเข้ากับแผลงอกแกร่งจนเธอมิอาจขัดขืนได้ หนานรั่วหานยามนี้สติมิอาจยับยั้งความ้าในใจเขาได้ มือหนาจับรั้งท้ายทอยเธอให้เอียงศีรษะรับริมฝีปากอุ่นของเขาก่อนกดจูบไปที่ริมฝีปากอิ่มของเธอราวโหยหา ลิ้นอุ่นร้อนแทรกดันเกี่ยวพันลิ้นเล็กจนเธอแทบไร้เรียวแรงยืน
“อ่า~” น้ำเสียงหลุดลอดจากลำคอเธอยิ่งทำให้อารมณ์บุรุษเพศของเขาลุกราวไฟลวก อารมณ์กระหายในตัวเธอยิ่งคุกรุ่น ท่อนแขนแข็งแรงรัดกึงร่างบางราวกับให้จมลง แก่นกายชูชันดันสะโพกผายของเธอราวหยอกล้อแววตาคมกระตุกยิ้ม
“อ่ะ..ฝ่าา ทรงชำระกายก่อนมิดีหรือเพค่ะ” เสียงเอ่ยอย่างเขินอาย ยามนี้ตัวเธอถูกปลดอาภรณ์จนหมดสิ้นเผยให้เห็นเนื้อผิวขาวเนียนราวไข่มุก อกอวบอูมชูชันตั้งดังกับร้องเรียกเขาให้กัดเม้มลง
“ได้..เดี๋ยวเจิ้นอาบให้เ้าเอง” พูดจบร่างสูงได้ซ้อนยกร่างเธอเดินหายเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที หนานรั่วหานรีบเปลื้องอาภรณ์ออกจนหมดสิ้นเช่นเดียวกับเธอกล้ามท้องแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จนเธอมิอาจสู้มองได้ จึงได้รีบผินหน้าหนี เขาแอบยกยิ้มราวชอบใจก่อนแกล้งจับมือนางมาพาดวางบนแก่นกายอันใหญ่ที่ชูชัน หลิวเซียงเอ๋อร์ใถึงััก็รู้ว่าสิ่งใดเธอจึงกำมือแน่นราวตื่นกลัวจนเขาค่อย ๆ ปลอบประโลมนาง
“มิต้องกลัว..เ้าลองจับมันดูได้” น้ำเสียงกระเซ่าแหบพล่าของเขายามนี้มิอาจหยุดได้ มือเล็กค่อย ๆ สะเปะสะปะจับคลำดู เธอรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าเขาเลย มือเล็กจับรูดลำโคนใหญ่จนเขาต้องร้องครางออกมา
“อ่า~ ซี๊ดด ดียินนัก” ใบหน้าแดงก่ำของเธอยิ่งปลุกเร้าอารมณ์เขา จนต้องจับใบหน้านางหันมองมากลางแก่นกายก่อนจะบีบปากเล็กนั้นให้เปิดกว้างออก แก่นกายแข็งขึงดุนดันได้เพียงแค่หัว
“อ๊อก..ฝ่าา” เธอพยายามดันกายเขาออกแต่มิอาจสู้แรงได้ หนานรั่วหานกระแทกแก่นกายสองสามทีน้ำขุ่นก็ไหล่เยิ้มเต็มร่องปากเธอจนล้นออกด้านข้าง
“เ้าพร้อมหรือไม่” เสียงกระซิบข้างกกหู ก่อนจะกัดเม้มเบา ๆ ที่ใบหูเธอ แก่นกายสีไปมาที่โคนขาด้านล่าง ร่างบางสั่นสะท้านบิดเกร็ง ไม่นานเขาก็กระชากร่างบางลงไปในอ่างน้ำใบใหญ่ มือหนาลูบไล้ไปมาก่อนจะหยุดอยู่กลีบอูมกลางกายเธอ เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วเขี่ยเย้าเบา ๆ จนเธออ่อนระทวย ท่อนแขนแกร่งอุ้มรับร่างเธอราวกับรู้ทัน นิ้วเรียวยาวของเขาสอดแทรกกลางกลีบเธอจนน้ำหวานไหลเยิ้มเต็มร่องรัก ยังไม่ทันที่เธอจะได้พักลำแขนแกร่งซ้อนยกขาข้างหนึ่งเธอขึ้นก่อนจะค่อย ๆ แทรกแท่งหยกอันใหญ่ที่กำลังปูดบวมยัดลงร่องเธอ เขาดึงรั้งสะโพกเธอให้ยกขึ้นก่อนจะกระแทกหนักอีกครั้งจนเธอกระตุกตอดรัดแน่น
“ซี๊ด...อ้า เ้ากล้ารัดเจิ้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ” ใบหน้าเหยเกรีบเสยคางยกพลางกดจูบอย่างรุนแรง ความร้อน ความแฉะยิ่งทวีดันให้ความหื่นของเขาพุ่งหนัก
ตับ ตับ ตับ
เสียงกระแทกหนักดังก้องไปทั่วห้อง สองร่างกอดรัดราวคน ๆ เดียวกัน ฝ่ามือเล็กตะบบสะโพกเขาขยำจนเต็มแรง ความเสียวกระสันทำให้ร่างเธอนั้นบิดเกร่งไปมา แต่ก็มิอาจหยุดรั้งบั้นท้ายเขาให้เบาลงได้ ฝ่ามือหนากอบกุมอกอิ่มขย้ำก่อนก้มลงดูดเม้มราวหิวกระหาย ยิ่งเขาดูดกลืนอกอวบเธอเท่าไหร่ ร่างบางก็ยิ่งกระตุกตอดรัดไม่หยุดจนทำให้ แท่งหยกอันใหญ่กระแทกเข้าออกอย่างหนักหน่วง ก่อนจะอัดเข้าอีกครั้งจนกระตุกแรงพร้อมปล่อยน้ำสีขุ่นเต็มร่องเธอ ใบหน้านวลยามนี้เขินอายยิ่งนักจนมิอาจมองหน้าเขาได้ เธอได้แต่ก้มหน้างุด จนร่างสูงกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
“มิเอาออกหรือเพค่ะ” หลิวเซียงเอ๋อร์เอ่ยถามอย่างเขินอาย เพราะแท่งหยกของเขายังคงคาอยู่ในตัวเธอ ใบหน้าคมยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ไว้มิได้หรือ” เขาหยอกล้อเธอราวเป็เื่สนุก จนคนถามกลับหน้าแดงฉานอีกครั้ง หนานรั่วหานกระตุกอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ถอดแท่งหยกออกน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกจากร่องเธอกระจายเต็มสายน้ำ ก่อนที่มือหนาจะลูบลงเช็ดล้างให้ ยามนี้เขามิอาจหักห้ามใจจากนางได้อีกแล้ว แววตาเข้มจับจ้องมองไปที่เธอก่อนจะค่อย ๆ ใช้นิ้วเรียวเขี่ยปอยผมที่เปียกชุ่มปรกคลุมใบหน้าเธอ
“ต่อไปเ้าห้ามห่างเจิ้นไปไหนอีก” แววตาสั่นไหวของเขาราวออดอ้อนทำให้ใจเธอสั่นไหวราวถูกบีบ สองมือเล็กยกจับใบหน้าเข้มก่อนบรรจงจูบอย่างแ่เบา
“หม่อมฉันมีเพียงพระองค์จะให้ห่างไปที่ใดกัน มีเพียงพระองค์นั่นแหล่ะที่ชอบขับไล่หม่อมฉัน” น้ำเสียงบ่นราวน้อยใจ
“ต่อไปเ้าต้องสนใจเพียงเจิ้นผู้เดียว แม้แต่เ้าองค์ชายนั่นเ้าก็ห้ามยุ่ง”
“องค์ชาย?”
“กับแคว้นหูเย่ว..เ้าก็รู้ดีว่าเจิ้นคิดเช่นไร หากมิอยากให้เจิ้นต้องลงโทษเ้า เ้าจักต้องไม่ยุ่งกับไอ้องค์ชายนั่น”
“หม่อมฉันมิเคยอยากยุ่งเกี่ยวอยู่แล้วเหตุใดฝ่าาจึงคิดเช่นนั้น”
“ก็...” น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอราวกับมีสิ่งอุดกลั้น จนร่างบางเริ่มน้อยใจ
“เช่นนั้นพระองค์จึงขับไล่หม่อมฉันกลับจวนเสนาบดีหรือเพค่ะ”
“เจิ้นมิได้ไล่ เป็เ้าเองที่อยากไปมิใช่หรือ”
“มิเหนี่ยวรัง ก็เหมือนขับไล่เพค่ะ” แววตาเรียวเหลือบมองราวนึกบ่นเขาจนทำให้หนานรั่วหานยอมที่จะก้มหน้าซุกไหล่เล็ก ๆ ของเธอ
“ต่อไปเจิ้นจะมิปล่อยเ้าอีกแล้ว” เสียงแ่เบาของเขาทำให้เธอเผยยิ้มออกมาราวกับพึงพอใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้