การกระทำของอันธพาลทั้งสามสร้างความตกตะลึงให้ผู้คนโดยรอบ
พี่เย่? หรือเพราะครั้งที่แล้วโดนเล่นงาน สามคนนี้ถูกตีจนเชื่องไปแล้วงั้นเหรอ?
ใบหน้าของเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงประตูโรงเรียนดูใมาก ไม่ใช่ว่าพวกอันธพาลจากแก๊งอสรพิษ์เป็พวกหัวรุนแรง คนที่มีเื่ด้วยจะจบไม่สวย แค่โดนเด็กนักเรียนต่อย ถึงกับเรียกเขาว่าพี่เลยเหรอ?
เย่เฟิงก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเช่นเดียวกัน “พวกแกจะทำอะไร?”
“พี่เย่ พี่เถี่ยหัวหน้าของเราชอบฝีมือของพี่มาก เขาอยากชวนพี่เย่เข้าร่วมเเก๊งอสรพิษ์” หนึ่งในอันธพาลทั้งสามมีชายร่างผอมสูงที่ดูเหมือนเป็ผู้นำกลุ่ม แม้มันจะเรียกเย่เฟิงว่า ‘พี่เย่’ แต่จากท่าที เห็นได้ชัดว่าไม่ให้ความเคารพมากนัก ทั้งยังแสดงท่าทีเย่อหยิ่ง
“อย่างที่เเกรู้ เเก๊งอสรพิษ์ของเราแข็งแกร่งแค่ไหนในเขตนี้ เเกไปกับพวกเราดีกว่า” ลูกน้องอีกสองคนที่ยืนข้างหลังมองเย่เฟิงด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง การเรียกเย่เฟิงว่า ‘พี่เย่’ ไม่ใช่พวกมันตั้งใจเรียก แต่เพราะถูกพี่เถี่ยสั่งให้ทำ หากไม่ทำตามอาจจบไม่สวย
โชคดีที่ครั้งที่แล้วแม้พวกมันจะพาตัวเย่เฟิงกลับไปไม่สำเร็จ เเต่พี่เถี่ยก็ไม่ได้ลงโทษ แล้วยังออกค่าใช้จ่ายในการรักษาให้แก่พวกมันอีกด้วย ทำให้พวกมันภักดีกับเเก๊งอสรพิษ์มากขึ้น
“โห เสี่ยวมี่เฟิง…” โอวบีตกตะลึงและดึงแขนเสื้อเย่เฟิง “รู้สึกว่าเื่นี้ไม่ธรรมดาแน่”
ได้รับเชิญจากแก๊งอสรพิษ์ โอวบีรู้สึกว่าผิดปกติ พวกมันถูกต่อยแล้วยังอุตส่าห์กลับมาชวนเย่เฟิงเข้ากลุ่ม ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถเจอกับตัวได้
ถ้าโอวบีรู้ว่าคืนนั้นเย่เฟิงปาอิฐครึ่งก้อนใส่พี่เถี่ยของพวกมัน ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไร
ขณะที่ทุกคนคิดว่าเย่เฟิงจะตอบตกลงแล้วไปพบพี่เถี่ยพร้อมพวกอันธพาล แต่สถานการณ์กลับตาลปัตร เย่เฟิงยกเท้าเตะช้างน้อยของชายผอมสูงคนนั้นอีกครั้งแล้วกระซิบ “มาเชิญฉันเข้าแก๊งแล้วยังทำท่าทางหยิ่งยโสแบบนี้ จริงใจกันหน่อยได้ไหม?”
ลูกเตะที่รุนแรงนี้ทำให้ชายผอมสูงกระเด็นออกไป ยังไม่ทันส่งเสียงร้อง เขาก็สลบไปเเล้ว ตอนนี้เย่เฟิงมีวรยุทธ์ระดับ 5 เดือน เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อเช้าวานนี้มาก!
เย่เฟิงตั้งใจว่าจะควบคุมเเก๊งอสรพิษ์ทั้งแก๊งอยู่แล้ว จะยอมเป็ลูกน้องของพี่เถี่ยได้อย่างไร? ใครๆ ก็รู้ว่าพี่เถี่ยเป็เพียงหัวหน้ากลุ่มย่อยเท่านั้น เย่เฟิงหมายตาหัวหน้าใหญ่ของเเก๊งอสรพิษ์ต่างหาก
การโต้ตอบของเย่เฟิงทำให้นักเรียนทุกคนต้องตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขามองชายหนุ่มตาค้างพลางคิดในใจว่าจำเป็ต้องรุนแรงขนาดนี้เลยหรือ อย่างไรอีกฝ่ายก็มาเชิญเข้าร่วมแก๊ง ทำแบบนี้ไม่กลัวเเก๊งอสรพิษ์มาแก้แค้นหรือ อันธพาลคนนั้นช่างน่าเวทนานัก ถูกเตะสองครั้งติดต่อกัน เรียกได้ว่าโคตรซวย
“เฮ้ยไอ้หนู กล้าไม่เบานี่หว่า!” นักเลงอีกสองคนจ้องเย่เฟิงเขม็ง ไอ้หนุ่มนี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มันไม่กลัวอิทธิพลของเเก๊งอสรพิษ์เลยหรือ
“ถ้าอยากชวนฉันเข้าแก๊ง ให้พี่เถี่ยอะไรนั่นมาเชิญฉันด้วยตัวเอง” เย่เฟิงกล่าวอย่างสบายใจจากนั้นเตะนักเลงอีกสองคนลอยไปในอากาศ ทำให้พวกเขาล้มลงกับพื้น ร้องโหยหวนด้วยความเ็ป จากนั้นชายหนุ่มก็พาโอวบีเดินออกจากโรงเรียน
ทุกคนตรงหน้าประตูโรงเรียนเห็นอันธพาลทั้งสามคนถูกเตะลอยและแผ่นหลังของเย่เฟิงขณะเดินจากไป ก็คิดในใจพร้อมกันว่า่นี้เย่เฟิงดูเปลี่ยนไปนะ เขากลายเป็คนเหนือชั้นจนน่ากลัว ไม่ใช่เด็กที่มัวแต่เล่นเกมออนไลน์ที่พวกเขาเคยรู้จัก
หลังจากนั้นไม่นานซูเมิ่งหานก็วิ่งมาถึงประตูโรงเรียน เธอเห็นเย่เฟิงกับโอวบีเดินไปไกลเเล้วก็โมโหกระทืบเท้า เมื่อเห็นอันธพาลสามคนนี้อีกจึงคิดในใจว่าที่นี่ต้องเกิดอะไรขึ้นอีกแน่ เธอแอบใและเป็ห่วงว่าถ้าเขายังเืร้อนแบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเื่แน่
ซูเมิ่งหานเป็เด็กสาวที่ฉลาดคนหนึ่ง ดูจากปฏิกิริยาของพ่อก็รู้ว่าครอบครัวของเย่เฟิงต้องมีอำนาจแน่ ขนาดถูกจับเข้าคุกข้อหาค้าประเวณียังถูกปล่อยตัวออกมาเร็วขนาดนี้
อย่างไรก็ตามเเก๊งอสรพิษ์เป็แก๊งมาเฟียใต้ดิน เป็หนึ่งในสามแก๊งที่ใหญ่ที่สุดแห่งเมืองเยี่ยนจิง ถ้าทำให้พวกเขาโมโห ต่อให้มีอำนาจอย่างไร แค่เจอปืนยิงทีเดียวก็ตายอยู่ดี
……
“เสี่ยวมี่เฟิง ฉันว่ามันไม่ค่อยเหมาะนะแบบนี้… พวกเรากลับไปขอโทษพวกมันดีกว่า” โอวบีที่เดินตามมาเริ่มกังวล ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งไม่สบายใจ จึงชักชวนเย่เฟิงกลับไปขอโทษ
“ไม่เป็ไรหรอก เชื่อสิ” เย่เฟิงส่ายหัว “ไม่ช้าฉันจะจัดการเเก๊งอสรพิษ์ แต่ตอนนี้การไปบ้านของนายสำคัญกว่านะ” เมื่อโอวบีได้ยินคำตอบของเพื่อนก็ใจแทบสลายลงไปกับพื้น สถานการณ์แบบนี้เเล้วยังมีใจคิดถึงวัตถุโบราณของบ้านเขาอีก แม้เขายอมรับว่าที่บ้านตนมีวัตถุโบราณชั้นดี แต่มีเื่กับเเก๊งอสรพิษ์เเล้ว ใครจะยังมีกะจิตกะใจสนใจของพวกนั้นอีก
ถึงเย่เฟิงบอกว่าจะจัดการกับแก๊งอสรพิษ์ ให้ตายอย่างไรโอวบีก็ไม่เชื่อ ขนาดตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองเยี่ยนจิงอย่างตระกูลหลินยังร่วมมือกับเเก๊งอสรพิษ์เพื่อหลีกเลี่ยงเื่ยุ่งยากเลย แล้วเย่เฟิงตัวคนเดียวจะจัดการอย่างไร
ไม่ว่าใครก็รู้ว่าตระกูลหลินเป็ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองเยี่ยนจิง เเม้เย่เฟิงจะมีครอบครัวที่พอมีอำนาจอยู่บ้าง แต่หากเทียบกับตระกูลหลิน เรียกได้ว่าไม่อาจเทียบเลย
“เอาเถอะ ขนาดตระกูลหลินยังจัดการแก๊งอสรพิษ์ไม่ได้เลย นายก็เลิกหวังเื่นี้เถอะ” โอวบีส่ายหัวอย่างพูดไม่ถูก
“ ตระกูลหลินเหรอ?” เมื่อได้ยินโอวบีพูด เย่เฟิงก็รู้สึกแปลก
เขานึกถึงสิ่งที่ปู่บอกเมื่อคืนที่ทะเลสาบเว่ยิ คนสูงวัยบอกว่าจะแนะนำ ‘หลานสาวของไอ้แก่จากตระกูลหลิน”หรือนี่จะเป็ตระกูลเดียวกับที่ปู่ของเขาบอก
เย่เฟิงคิดในใจ คนนามสกุลหลินในเมืองจีนมีอยู่มากมาย มันคงไม่บังเอิญหรอกนะ
“ใช่แล้ว ตระกูลหลินเป็ตระกูลระดับแรกแห่งเมืองเยี่ยนจิง แถมยังมีอำนาจครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ การทหารและรัฐบาลอีกด้วย” โอวบีอธิบาย หลังจากนั้นก็คิดอะไรได้บางอย่าง “อันที่จริงครั้งนึงฉันโชคดีเคยเจอผู้หญิงสวยมากจากตระกูลหลิน อา… ให้ตายเถอะ เธอช่างสวยจริงๆ เรือนร่างนั้น ใบหน้านั้น…”
“เอาล่ะ ถึงบ้านนายละ” เย่เฟิงตบไหล่โอวบีเบาๆ ขัดขวางจินตนาการของเขา
ชายหนุ่มไม่สนใจสาวงามตระกูลหลินมากนัก เขารู้ดีว่าไม่ว่าจะอยู่ในโลกเทวะหรือโลกนี้ ความแข็งแกร่งเป็สิ่งสำคัญที่สุด หากไม่มีพลังและความแข็งแกร่งเเล้ว ต่อให้มีสาวสวยอยู่ต่อหน้าก็ทำอะไรไม่ได้
ขณะนี้ตรงหน้าของทั้งสองคนคือ ร้านขายของโบราณโอวซื่อ” อยู่บนถนนไม่ไกลจากโรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยน
“กลับมาแล้วครับพ่อ” โอวบีถูกเย่เฟิงขัดจังหวะขณะกำลังเพ้อถึงสาวสวยในฝัน ทำเอาความสุนทรีเขาเสียไปหมด แต่เขาก็ะโและวิ่งเข้าไปในร้านขายของเก่า เขาและพ่อมักอาศัยอยู่ที่นี่
“นายรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปหามาให้ เออใช่แล้ว สรุปเอายุโรป อเมริกา หรือว่าญี่ปุ่นเกาหลีใต้ดีล่ะ” โอวบีวิ่งเข้าร้านก่อนหันกลับมาถาม
“ไปบอกพ่อของนาย ฉันอยากหาของโบราณบางอย่างน่ะ” เย่เฟิงส่ายหัว เขารู้ดีว่าพ่อของโอวบีเป็นักธุรกิจที่ขูดรีดเก่งคนหนึ่ง ความจริงก็เตรียมใจพร้อมมาโดนอยู่แล้วล่ะ
“ไม่จริงน่า นี่นายเล่นของโบราณกับเขาด้วยเหรอ?”
เมื่อโอวบีได้ยินที่เย่เฟิงพูด เขาหยุดเดินแล้วหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ เขาจำได้ว่าเย่เฟิงไม่เคยสนใจวัตถุโบราณ ในหัวเ้านั่นมีแต่เื่เกม แต่สองวันที่ผ่านมาเย่เฟิงก็ดูแปลกไป ทำไมถึงไม่ชวนคุยเกี่ยวกับเกมเลย
ยิ่งกว่านั้น ราคาวัตถุโบราณพวกนี้ก็ไม่ใช่ถูกๆ โดยเฉพาะในร้านของเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็ของแท้!
แล้วเย่เฟิงจะมีปัญญาซื้อได้อย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้