เล่ห์หลงรัก (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ใช่… มันควรจะไม่มีอะไร

เมื่อคืนทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความยินยอม ไม่มีใครบังคับใคร

แต่ความจริงที่ว่า... เธอจำอะไรไม่ได้เลย

นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิด ไม่ใช่เพราะเขาบังคับเธอ แต่เพราะ... เขาไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาคมเข้มมองตามแผ่นหลังบางที่กำลังเดินออกไป

ก่อนภาพในหัวจะย้อนกลับไปยังค่ำคืนนั้น ค่ำคืนที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น

 

เสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ดังกระหึ่มทั่วผับแสงสลัวสลับแสงไฟสีสันวูบวาบที่กระทบผู้คนที่กำลังโยกตัวตามจังหวะบนฟลอร์แดนซ์

ปุริมปรัชญ์นั่งอยู่บนโซน VIP ริมกระจกชั้นลอย แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่ถูกแตะ ดวงตาคมสบเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์ เธอสวมเดรสสั้นสีแดงสด แนบเนื้อพอดีตัว ทรวดทรงชัดเจนทุกสัดส่วน ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเธอ... มันไม่ใช่แค่การเต้น แต่มันเหมือนกับกำลังยั่วยวนในความคิดของเขา

เธอสามารถตรึงสายตาของเขาเอาไว้ได้เหมือนกับที่สามารถทำให้หลาย ๆ คนในร้านที่กำลังสนใจเธอเหมือนกัน

“มองไรวะ” นัท ณัฐวุฒิ เพื่อนของเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ มองตามสายตาของเพื่อนที่นิ่งค้างอยู่แบบนั้น

“อะไรวะ มองอะไรกัน” พอร์ช พีรธนันท์ ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองตามบ้าง

“โหว... โคตรดีเลยว่ะ” พีรธนันท์พยักหน้ากับภาพหญิงสาวที่เพื่อนสนใจ “เหมือนนางฟ้ามาเต้นตรงหน้า”

“เซ็กส์เอ็กแตกชิบหาย” ณัฐวุฒิพยักหน้าแรงรัว ๆ

“ไอ้ห่าปรัชญ์ ตาดีฉิบเป๋ง!” พีรธนันท์หัวเราะเบา ๆ พลางยกแก้วชนอากาศ

“จ้องขนาดนี้ จะลงไปลุยเลยไหมครับคุณชาย” ณัฐวุฒิแซวขำ ๆ พร้อมดันไหล่เพื่อนเบา ๆ

แต่ปุริมปรัชญ์ยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มมุมปาก ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปยังหญิงสาวคนนั้น

เธอเต้นเหมือนไม่รับรู้ว่าตัวเองคือจุดศูนย์กลางของความสนใจ แต่อย่างน้อย... เธอก็รู้แน่ ๆ ว่าเธอดึงดูดได้มากขนาดไหน

จังหวะเต้นของเธอกระตุกบางอย่างในใจของเขาอย่างแรงตอนนี้อารมณ์ที่อยากได้มันเข้ามาก่อกวนจิตใจของปุริมปรัชญ์อย่างหนัก เธอคนนี้มีแรงดึงดูดกับเขามาก มากจนไม่อาจละสายตาได้

“ไปไหน?” พีรธนันท์ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนลุกจากโซฟา

“ธุระ” ปุริมปรัชญ์ตอบสั้น ๆ พร้อมกับเดินออกจากโซน VIP โดยไม่รอฟังคำถามต่อ

“ธุระอะไรของมันวะ?” พีรธนันท์หันไปถามณัฐวุฒิที่นั่งอยู่ข้างกันด้วยสีหน้างง ๆ

“กูก็นั่งอยู่กับมึงเนี่ย” ณัฐวุฒิกลอกตา ก่อนจะหันกลับไปกอดสาวข้างกายต่ออย่างไม่ใส่ใจนัก

แม้จะเป็๲คืนที่เต็มไปด้วยสาวสวยมากหน้าหลายตา แต่วันนี้ปุริมปรัชญ์ดูจะแปลกไปจากทุกคืนที่ผ่านมา สายตาที่เคยไล่ไปตามเส้นโค้งเว้าของหญิงสาวแต่ละคน วันนี้กลับไม่แลแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าหญิงสาวที่แต่งตัวจัดจ้านแค่ไหนจะเดินเข้ามาใกล้ ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มอย่างไร เขาก็แค่เฉย

แต่กับเธอคนนั้น

คนเดียวบนฟลอร์เต้นรำนั่น

เขากลับยอมลุกจากที่นั่งเพื่อเดินเข้าไปหา

เหมือนแรงดึงดูดบางอย่าง... กำลังพาเขาไปในที่ที่ไม่เคยตั้งใจจะไป

 

ปุริมปรัชญ์เดินออกมาอีกด้าน ท่ามกลางเสียงดนตรีเบสหนักที่ยังคงดังกระหึ่มทั่วผับ สายตาเขาเหลือบไปเห็นเธอ

หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงเพลิงคนนั้น เขามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแน่ใจว่าเธอกำลังยื้อยุดกับชายคนหนึ่ง ไม่ใช่คู่รักที่กำลังงอนกันอย่างที่ใครอาจเข้าใจ และท่าทางของเธอไม่ได้เต็มใจที่จะอยู่ตรงนั้นถึงแม้ว่าเธอจะดูมึนเมาอยู่บ้าง

คิ้วเข้มของปุริมปรัชญ์ขมวดแน่น

“ปล่อย! อย่ามายุ่ง!” เสียงตวาดดังลั่นท่ามกลางเสียงเพลง เธอสะบัดแขนออกอย่างแรง แต่ชายคนนั้นกลับยิ่งพยายามรั้ง

“ไม่เอาน่า...ไปกับพี่เถอะน่า อย่าดื้อ” เสียงมันฟังดูทั้งเมา ทั้งลามปาม

“บอกว่าไม่ไปไง! ออกไป!” เธอตะคอกอย่างสุดกลั้น

ปุริมปรัชญ์เขาก้าวเข้าไปหา ก่อนจะกระชากแขนของชายคนนั้นออกจากเธอด้วยแรงที่ไม่ต้องอธิบายอะไร

“เฮ้ย! มึงเสือกไรด้วยวะ?!” ชายคนนั้นหันมามองเขาด้วยความโมโห

“เธอบอกว่าไม่ไปกับมึง นายไม่ได้ยินหรือไง”

เ๹ื่๪๫ของผัวเมีย อย่าเสือกดีกว่า”

“ผัวเมียเหี้ยไร? กูไม่เห็นว่าเธอจะเต็มใจเลย” น้ำเสียงของปุริมปรัชญ์เย็นจัด ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงกดดันที่ทำให้อีกฝ่ายชะงักไปชั่วขณะ

เขาดึงคอเสื้ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้พลางพูดชัดถ้อยชัดคำ

“ไปดี ๆ ก่อนจะมีปัญหา”

“คุณปรัชญ์ครับ เกิดอะไรขึ้น?” การ์ดของผับที่เดินตรวจอยู่ไม่ไกล รีบตรงเข้ามาถามเมื่อเห็นสถานการณ์ตึงเครียด

“มันลวนลามผู้หญิง เอาตัวมันออกไปซะ” ปุริมปรัชญ์หันไปบอก

“ครับ” การ์ดไม่รีรอ รีบพาชายคนนั้นออกจากพื้นที่ทันที

เมื่อความวุ่นวายสงบลง เขาหันกลับมามองหญิงสาวตรงหน้า เธอยืนโงนเงนเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งที่ดวงตาเริ่มปรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“ขอบใจน้า~ ใจดีจังเลย...” เธอลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ ของคนเมา

“หึ เป็๲ไรรึเปล่า? ยังไหวไหม?” เขาถามพลางมองสำรวจเธอ

“หว๋ายยย~ ไหวน๊าาา...” เธอพยายามยืนตัวตรงอย่างมั่นใจ แต่กลับต้องเอื้อมมือไปพิงผนังใกล้ ๆ

เธอพยักหน้าหยอย ๆ เหมือนจะบอกว่าไม่เป็๲ไร แต่ยังไม่ทันก้าวได้กี่ก้าว ขาเ๽้ากรรมกลับอ่อนแรงจนเกือบทรุดลงกับพื้น โชคดีที่ปุริมปรัชญ์คว้าเอวบางไว้ได้ทัน

“จะกลับบ้าน...” เสียงอู้อี้จากริมฝีปากแดงสดดังขึ้นเมื่อทั้งสองสบตากันเพียงชั่วครู่

“กลับยังไง?” เขาถาม

“ไม่รู้...” เธอส่ายหัวช้า ๆ ซบอกเขาเบา ๆ อย่างไม่ตั้งใจ

“งั้นเดี๋ยวไปส่ง โอเคไหม?”

“เคร๊รรรร...” เสียงเธอลากยาวเหมือนเด็กน้อยที่ยอมแพ้อย่างหมดท่า

เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจับมือเธอไว้แน่น ไม่ให้เดินสะเปะสะปะจนล้ม ขณะเดียวกันก็ควักมือถืออีกมือส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอกลับก่อน

“ยืนดี ๆ หน่อย” เขาบอก ขณะประคองเธอไปจนถึงรถ

“อืออออ ดีแล้ววว...” เธอตอบเสียงอ้อยอิ่ง ยืนพิงรถสปอร์ตคันหรูไว้ราวกับมันคือเตียงนุ่ม

เขาเปิดประตูให้เธอ ก่อนจะช่วยพยุงขึ้นนั่งในรถ

“บ้านอยู่ไหน?” เขาถามเมื่อรถเคลื่อนออกสู่ถนนใหญ่

ไม่มีเสียงตอบกลับ...

เขาหันไปมอง เห็นเธอเอนหัวพิงกระจกรถ หลับตาพริ้ม ปล่อยลมหายใจสม่ำเสมอ ราวกับเ๽้าหญิงหลับใหล

“เธอ...เธอ?” เขาเรียกพร้อมกับสะกิดเบา ๆ

“อือ... อย่ายุ่ง จะนอน...” เธอบ่นงึมงำ ปัดมือเขาออกแบบงัวเงีย

เขาถอนหายใจหนัก ๆ

“ไม่ตื่นก็ไม่ตื่น งั้นกลับไปด้วยกันเลยแล้วกัน...” เขาพึมพำ ก่อนจะหันกลับไปขับรถ

ปลายทางคือคอนโดหรูใจกลางเมืองของเขาเอง

เขาขับรถมุ่งหน้าไปที่คอนโดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง พอนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าได้แต่ส่ายหัวไปมาพร้อมรอยยิ้ม คิดไว้อยู่ก่อนหน้าว่าจะพาตัวเองเข้าไปทำความรู้จักกับเธอที่โต๊ะ แต่ก็มีเหตุให้มาเจอกับเธอเสียก่อน

และทั้งหมด...ก็เริ่มต้นจากความบังเอิญที่ไม่ได้ตั้งใจ

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้