บทที่ 8 : องค์ชายชุดขาวกับนางมารสายแดก และแขกไม่ได้รับเชิญ
"คุณหนูเ้าคะ... ท่านงดงามราวกับเทพธิดาจำแลงจริงๆ เ้าค่ะ!"
เสียงอุทานของสาวใช้สองคนที่กำลังช่วยแต่งตัวดังขึ้นพร้อมกัน แววตาของพวกนางเต็มไปด้วยความชื่นชมระคนตกตะลึง
แป้งหอม ยืนอยู่หน้ากระจกทองแดงบานใหญ่ หมุนตัวซ้ายขวาสำรวจตัวเองในลุคใหม่ที่แม้แต่เธอเองก็ยังไม่ชินตา
ชุดนักเรียนขาดวิ่นถูกถอดทิ้งไป แทนที่ด้วยชุดผ้าไหมจีนโบราณสีฟ้าอ่อนปักลายนกกระเรียน เนื้อผ้าพลิ้วไหวนุ่มลื่นแนบไปกับสัดส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบ เอวคอดกิ่วถูกคาดด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินเข้ม ผมยาวสลวยที่เคยพันกันยุ่งเหยิงถูกเกล้าขึ้นครึ่งหัว ปักด้วยปิ่นหยกขาวเรียบง่ายแต่ดูแพง
"นี่ฉันเหรอเนี่ย..." แป้งหอมยกมือลูบแก้มตัวเอง
ในกระจกสะท้อนภาพหญิงงามที่ดูอ่อนหวานและสูงส่ง ราวกับนางเอกซีรีส์จีนย้อนยุคที่เธอเคยดูจนติดงอมแงม
‘ถ้ายัยพวกแก๊งนางฟ้าที่โรงเรียนมาเห็นฉันตอนนี้ มีหวังอกแตกตายแน่ๆ หึๆ’ เธอยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
"เสร็จหรือยังเ้าคะคุณหนู? ท่านย่าและคุณหนูใหญ่รอที่ห้องอาหารแล้ว" สาวใช้เร่งเบาๆ
"เสร็จแล้วจ้ะ ไปกันเถอะ... หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว!"
...
เมื่อแป้งหอมเดินออกมาที่โถงทางเดิน เธอก็ต้องชะงักฝีเท้า
ที่ระเบียงทางเดินอีกฝั่ง ชายหนุ่มร่างสูงในชุดคลุมยาวสีขาวสะอาดตากำลังยืนเอามือไพล่หลังมองดวงจันทร์อยู่
ผมสีดำสนิทถูกรวบขึ้นสวมกวาน (เครื่องประดับผมชาย) สีเงิน ขับให้ใบหน้าคมคายดูโดดเด่นและสง่างามราวกับบัณฑิตหนุ่มเ้าสำราญ
"ก... กล้า?" แป้งหอมทักเสียงเบา
ชายหนุ่มหันกลับมา ทันทีที่เห็นเธอ ั์ตาคมภายใต้คิ้วเข้มก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจของเขาสะดุดไปชั่วจังหวะ
"แป้ง..."
ทั้งคู่ยืนจ้องตากันนิ่งงันไปหลายวินาที บรรยากาศรอบตัวเหมือนมีดอกซากุระโปรยปรายลงมาในภาพสโลว์โมชั่น (มโน)
"นาย... ดูดีมากเลยอะ" แป้งหอมพูดแก้เขิน หน้าแดงระเรื่อ "เหมือนพระเอกซีรีส์ที่ฉันชอบเลย"
"เธอก็..." ต้นกล้ากระแอมในลำคอ พยายามซ่อนอาการหูแดง "ก็... ดูเป็ผู้เป็คนขึ้นเยอะ สวยดี"
"ย่ะ! ชมแค่นี้มันจะตายหรือไงพ่อคูนนน" แป้งหอมเบะปากหมั่นไส้ แต่ในใจกลับเต้นตึกตักเหมือนรัวกลองชุด
‘บ้าจริง... ทำไมไอ้แว่นนี่พอลอกคราบแล้วมันดาเมจแรงขนาดนี้นะ’
...
ห้องอาหารตระกูลหลิว
โต๊ะอาหารทรงกลมขนาดใหญ่ถูกจัดวางด้วยเมนูเลิศรสกว่ายี่สิบจาน กลิ่นหอมของเป็ดย่าง หมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดง และปลานึ่งซีอิ๊วลอยตลบอบอวล
ท่านย่าหลิวและหลิวชิงชิงนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่เห็นทั้งคู่เดินเข้ามา ก็ถึงกับวางตะเกียบมองด้วยความตะลึง
"เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก!" ท่านย่าหลิวอุทาน "ช่างเป็วาสนาของตระกูลหลิวจริงๆ ที่ได้ต้อนรับท่านเซียนทั้งสอง"
"เชิญนั่งเ้าค่ะ ท่านพี่เทียนกล้า ท่านพี่ไป๋หอม" หลิวชิงชิงยิ้มหวานหยดย้อย สายตาจับจ้องไปที่ต้นกล้าแทบไม่กะพริบ
แต่ทว่า... ความสุขสงบมักอยู่ได้ไม่นาน
"เหอะ! ข้าก็นึกว่าแขกคนสำคัญมาจากไหน ที่แท้ก็แค่ขอทานที่ชิงชิงเก็บมาเลี้ยง แล้วจับอาบน้ำแต่งตัวใหม่นี่เอง"
เสียงยียวนกวนประสาทดังมาจากมุมห้อง ชายหนุ่มหน้าตาเ้าเล่ห์ในชุดผ้าไหมสีม่วงฉูดฉาด นั่งกระดิกเท้าจิบเหล้าอยู่ เขาคือ 'โจวเฟิง' คุณชายตระกูลโจว คู่หมั้นคู่หมาย (ที่ตระกูลหลิวไม่ได้เต็มใจ) ของหลิวชิงชิง
"คุณชายโจว! กรุณาระวังคำพูดด้วย!" หลิวชิงชิงหน้าตึง "ท่านทั้งสองคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้ากับท่านย่าไว้!"
"ผู้มีพระคุณ?" โจวเฟิงวางจอกเหล้ากระแทกโต๊ะ ปัง! ลุกขึ้นเดินอาดๆ มาหยุดตรงหน้าต้นกล้า สายตาเหยียดหยามกวาดมองั้แ่หัวจรดเท้า
"ดูท่าทางอ้อนแอ้น ผิวขาวเหมือนไก่อ่อนแบบนี้เนี่ยนะปราบโจรป่า? ข้าว่าพวกเ้าคงสร้างเื่กุข่าวลวงโลกเพื่อหวังรางวัลเสียมากกว่ากระมัง"
ต้นกล้านั่งนิ่ง สีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ เขาตักน้ำชาขึ้นจิบช้าๆ ราวกับเสียงนกเสียงกาเมื่อครู่ไม่ได้เข้าหู
"นี่นาย!" แป้งหอมของขึ้น ลุกพรวดเตรียมจะด่า แต่ต้นกล้าคว้าข้อมือเธอไว้แล้วส่ายหน้าเบาๆ
"ใจเย็นแป้ง... หมาเห่าอย่าเห่าตอบ" เขากระซิบภาษาไทย
โจวเฟิงเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบโต้ก็นึกว่ากลัว ยิ่งได้ใจใหญ่
"ได้ยินว่าเ้ามีพละกำลังมากนักใช่ไหม? งั้นลองเปิดไหเหล้านารีแดงพันปีนี้ให้ข้าดูหน่อยเป็ไร"
โจวเฟิงกวักมือเรียกบ่าวให้นำไหเหล้าดินเผาขนาดใหญ่เข้ามา วางกระแทกลงบนโต๊ะ ตึง!
ไหเหล้านี้ถูกปิดผนึกด้วยครั่งและลงอาคมกักกันลมปราณ คนธรรมดาไม่มีทางเปิดได้ แม้แต่จอมยุทธ์ทั่วไปยังต้องใช้มีดงัด
"ถ้าเ้าเปิดไม่ได้ ก็ไสหัวออกไปจากตระกูลหลิวซะ! อย่ามาหลอกกินฟรีที่นี่!" โจวเฟิงแสยะยิ้มท้าทาย
บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ท่านย่าหลิวทำท่าจะห้าม แต่ต้นกล้ายกมือขึ้น
"แค่เปิดฝาไหใช่ไหมครับ?" ต้นกล้าถามเสียงเรียบ
"ใช่! แต่ห้ามทำไหแตกนะเว้ย!"
ต้นกล้ายิ้มมุมปาก เขาใช้ตะเกียบคีบถั่วลิสงเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
เขาไม่เดินไปที่ไห แต่เอื้อมมือไปจับที่คอไหด้วยมือข้างเดียว
‘ผนึกอาคมเหรอ? ในทางฟิสิกส์ มันก็แค่แรงดันอากาศภายในกับภายนอก... ถ้าเราบีบจุดที่ถูกต้อง...’
ต้นกล้าเพ่งสมาธิไปที่ปลายนิ้ว กระแสความร้อนในร่างกายไหลมารวมกันที่มือ
นิ้วเรียวสวยของเขาบีบลงไปที่ปากไหเบาๆ
เปรี๊ยะ...
เสียงครั่งแตกดังขึ้นเบาๆ ตามด้วย...
ป๊อป!
ฝาไหเหล้าดินเผากระเด้งหลุดออกมาอย่างง่ายดายราวกับเปิดฝาขวดน้ำอัดลม! กลิ่นเหล้าหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
โดยที่ต้นกล้าแทบไม่ได้ออกแรงด้วยซ้ำ
"..."
โจวเฟิงอ้าปากค้าง ตาถลนแทบหลุดจากเบ้า
"บะ... บ้าน่า! นั่นผนึกอาคมระดับกลางเชียวนะ! เ้าเปิดด้วยมือเปล่ามือเดียวได้ยังไง!?"
ต้นกล้ารินเหล้าใส่จอกอย่างใจเย็น แล้วยื่นไปตรงหน้าโจวเฟิง
"เชิญครับคุณชาย... ดื่มแก้คอแห้งหน่อยไหม เผื่อปากจะดีขึ้น"
"อุ๊บ..." แป้งหอมหลุดขำพรืด รีบเอามือปิดปาก
‘โอ้โห... พ่อเนิร์ดสายฟาด! ด่าแบบสุภาพแต่เจ็บจี๊ด!’
โจวเฟิงหน้าแดงสลับเขียวด้วยความอับอายขายขี้หน้า เขาปัดจอกเหล้าทิ้งจนหกเลอะเทอะ
"ฝากไว้ก่อนเถอะ! ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ!"
พูดจบคุณชายขี้แพ้ก็สะบัดแขนเสื้อเดินกระทืบเท้าออกจากห้องไป
"โธ่... นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็ลูกแหง่" แป้งหอมบ่นไล่หลัง ก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้า "หมดมารผจญแล้ว กินได้ยังคะท่านย่า?"
ท่านย่าหลิวหัวเราะร่าชอบใจ "กินเลยหลานรัก! กินให้เยอะๆ! ข้าชอบใจพวกเ้ายิ่งนัก!"
ตลอดมื้ออาหารนั้น แป้งหอมโชว์สกิล 'Mukbang' (กินโชว์) ระดับตำนาน
ขาหมูทั้งขาหายวับไปในพริบตา เป็ดย่างเหลือแต่กระดูก
แต่สิ่งที่ทำให้คนทั้งโต๊ะเอ็นดู คือการที่เธอกินไป ยิ้มไป และคอยคีบเนื้อชิ้นที่ดีที่สุดใส่จานให้ต้นกล้าตลอด
"กล้า... อันนี้อร่อย กินเยอะๆ จะได้มีแรงแบกรถม้าอีก"
"อันนี้ตับบำรุงเื กินซะ หัวจะได้หายแตกไวๆ"
ต้นกล้ามองกองูเาอาหารในชามตัวเอง แล้วมองหญิงสาวข้างกายที่เคี้ยวแก้มตุ่ย
สายตาของเขาอ่อนเชื่อมจนแทบจะหยดเป็น้ำตาล
เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับมุมปากที่เลอะซอสให้เธออย่างเบามือ ท่ามกลางสายตาอิจฉาของหลิวชิงชิง
"รู้แล้วน่า... เธอก็กินช้าๆ หน่อย เดี๋ยวติดคอตายก่อนได้กลับบ้าน"
"แช่งเรอะ!"
"เปล่า... เป็ห่วง"
คำว่า 'เป็ห่วง' สั้นๆ ทำเอาแป้งหอมชะงัก ตะเกียบแทบร่วง
เธอหน้าร้อนวูบวาบ ก้มหน้าก้มตากินแก้เขิน โดยไม่รู้เลยว่า
ฉากรักหวานแหววกลางวงโต๊ะจีนนี้ กำลังถูกจับตามองจาก 'บุรุษชุดดำ' ที่ซ่อนตัวอยู่บนคานหลังคา
ดวงตาคมกริบภายใต้หน้ากากสีเงินจ้องมองลงมาที่ต้นกล้า... และแป้งหอม
"พลังกายประหลาด... วรยุทธ์ไร้รูปแบบ... แถมยังเปิดผนึกอาคมได้โดยไร้คาถา"
เงาร่างนั้นพึมพำกับตัวเอง
"น่าสนใจ... ดูท่าเมืองเมฆาหยกคงจะสงบสุขได้อีกไม่นานแล้วสิ"
วูบ!
เงาดำนั้นหายวับไปกับความมืด ทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายลึกลับที่ต้นกล้าััได้แ่เบา จนต้องเงยหน้าขึ้นมองเพดานด้วยความระแวง
"มีอะไรเหรอกล้า?" แป้งหอมถามทั้งที่น่องไก่คาปาก
"เปล่า..." ต้นกล้าส่ายหน้า แต่กระชับตะเกียบในมือแน่นขึ้น "แค่รู้สึกว่า... คืนนี้คงนอนหลับไม่สนิทซะแล้วสิ"
