ซูซิ่นชางอายเล็กน้อยเมื่อได้ยินลูกสาวพูดแบบนั้น เมื่อเห็นการแสดงออกที่แน่วแน่ของเธอก็กระแอมและพูดว่า “พ่อจะเป็คนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนกว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
เขาพูดเสียงเบา แต่ทุกคนได้ยินว่าเขาจะรับผิดชอบจนจบมหาวิทยาลัยเท่านั้น หลังจากนั้นจะไม่ยุ่งกับเธออีก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาจะไม่หย่ากับเซี่ยิ่ แต่เลือกตัดความสัมพันธ์กับซูเมิ่งหาน
ในความคิดของเขา เขารู้ว่าเย่เฟิงมีความสัมพันธ์กับคนระดับสูงในแก๊งอสรพิษ์ แต่ไม่รู้เื่อื่นเกี่ยวกับเด็กหนุ่มอีก ซูซิ่นชางไม่รู้เช่นกันว่าเย่เฟิงมีความสัมพันธ์กับตระกูลหลินซึ่งมีอิทธิพลมากจนเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด เดิมชายวัยกลางคนแค่คิดจะใช้ซูเมิ่งหานเอาชนะใจเย่เฟิง หลังจากนั้นตระกูลเซี่ยกับแก๊งอสรพิษ์ที่อยู่ระดับสองเหมือนกันร่วมมือกัน หากสำเร็จ ซูซิ่นชางก็จะได้ยกระดับตัวเองเป็ตระกูลชั้นหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาเลือกได้แค่อย่างเดียว และแน่นอนเขาต้องเลือกฝั่งที่มั่นคงกว่า แก๊งอสรพิษ์ยังไม่แน่นอน แต่ตระกูลเซี่ยช่วยเหลือด้านธุรกิจของเขามาสิบกว่าปี นักธุรกิจอย่างเขาจะเลือกฝั่งไหนคงชัดเจนอยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ แต่หนูไม่้าความช่วยเหลือจากพ่อ” ซูเมิ่งหานมองพ่อของเธออย่างเ็า หลังจากพูดจบก็หันหลังเดินจากไป
“เฮ้ เธอจะไปไหนน่ะ?” เย่เฟิงไม่คิดเลยว่าสาวน้อยคนนี้จะมีจิตใจเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ทำให้เขาประหลาดใจ
“ไม่ใช่เื่ของนาย” ซูเมิ่งหานหยุดเดินแต่ไม่หันหลังกลับมา ถึงอย่างนั้นเย่เฟิงก็ได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนคนร้องไห้
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ว่าจิตใจเข้มแข็งแค่ไหนก็ยังเ็ปอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นซูเมิ่งหานยังเป็เพียงเด็กมัธยมปลาย การได้ยินประโยคนั้นจากพ่อทำให้เธอรู้สึกว่าท้องฟ้ากำลังพังทลาย ในใจของเด็กสาวเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่กลับไม่สามารถระบายหรือร้องไห้ซบไหล่ของใครได้ เธอไม่หันกลับมา ไม่ใช่เพราะโกรธหรือเกลียด แต่เพราะเธออยากซ่อนน้ำตาของตัวเอง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่เฟิงก็รู้สึกเ็ปเในใจ เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าตัวเธอไว้ หญิงสาวพยายามผลักไส แต่มีหรือที่เขาจะยอมปล่อย
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงที่อยู่หน้าโรงพยาบาลเป็ใคร เธอต้องเลิกเข้าใจฉันผิด ถ้าเธอไม่อยากนอนที่บ้านของเธอ ก็มานอนที่บ้านฉันได้นะ” เย่เฟิงถามตามตรง
เมื่อซูเมิ่งหานได้ยินเช่นนี้จึงหยุดขัดขืน
ในสายตาของเย่เฟิง แผ่นหลังของเธอดูสง่างาม หญิงสาวตัวสั่นเล็กน้อยใต้ร่มเงาของต้นไม้รอบๆ ทำให้เกิดภาพที่สวยงาม น่าเสียดายที่หัวใจของตัวเอกในภาพเจ็ดปวดมากจนทำให้ภาพนี้หม่นหมอง
เธอยืนนิ่งและคิดอยู่นาน “สะดวกไหม?”
ในที่สุดก็ตอบเสียงเบา แต่ไม่ได้หันกลับมา หญิงสาวไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นอีกต่อไป อยู่ไปก็อึดอัด ออกไปอยู่ข้างนอกก็ไม่มีเงิน ถ้าตอนนี้เลือกไปอยู่บ้านเย่เฟิงจะดีไหม เธออายุยังน้อยแต่ต้องอยู่กับเย่เฟิงสองต่องสอง
“บ้านออกใหญ่โต จะลำบากได้ยังไง?” เย่เฟิงถามกลับ เมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะอยากปกป้องเธอ ปกป้องความใสซื่อของเธอ
เมื่อมาอยู่ในโลกนี้เเล้ว ใครจะรู้ว่ายังกลับไปโลกเทวะได้อีกไหม ทำไมไม่ทำอะไรให้โลกนี้หน่อย อย่างน้อยให้คนรอบข้างมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะเขา
“ก็ได้ แล้วฉันจะจ่ายค่าเช่า” ในที่สุดซูเมิ่งหานก็พยักหน้า แม้เธอจะเศร้ามาก แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองดี ถ้าเธอไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นต่อและไม่ไปอยู่บ้านของเย่เฟิงแล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน?
หลังจากนั้นพวกเขาเห็นรถบีเอ็มดับเบิลยูขับออกไป ซูซิ่นชางซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังเลื่อนกระจกรถลงและมองซูเมิ่งหานอย่างขอโทษราวกับบอกว่าเขาจะชดเชยให้เธอ แต่เซี่ยิ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ทำท่าทางหยิ่งยโสและทำหน้าราวกับว่าได้รับชัยชนะ
ซูเมิ่งหานหันหลังเดินไปบ้านของเย่เฟิงโดยไม่มองพวกเขา เย่เฟิงมองซูซิ่นชางและคิดว่าต่อจากนี้ไปคนคนนี้จะกลายเป็คนที่ซูเมิ่งหานเกลียดที่สุดในชีวิต จากที่เคยเป็พ่อก็จะกลายเป็คนแปลกหน้า เื่ในครั้งนี้ไม่ทำให้เย่เฟิงรู้สึกอะไรมากนัก เพราะในโลกเทวะถือเป็เื่ปกติมาก แต่สำหรับโลก มันเป็เื่ที่หาได้ยาก
เมื่อเย่เฟิงเดินตามซูเมิ่งหานไปสักพัก โทรศัพท์ของเธอก็แจ้งเตือนข้อความเข้า ซูเมิ่งหานหยิบโทรศัพท์และมองข้อความ เธออดส่งเสียงดังไม่ได้ เย่เฟิงมองข้อความและพบว่าในบัญชีของเธอมีเงินถึงหนึ่งล้าน ไม่ต้องแปลกใจเลย นี่คือการชดเชยของซูซิ่นชาง เขาแอบโอนเงินโดยไม่ให้เซี่ยิ่รู้
เมื่อเห็นดังนั้น ซูเมิ่งหานก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
ถึงอย่างนั้น เย่เฟิงไม่คิดว่าซูซิ่นชางทำไปเพราะรู้สึกผิด เขาคิดว่าผู้ชายคนนั้นแสร้งทำเป็รู้สึกผิดมากกว่า ซูซิ่นชางเป็นักธุรกิจ ้าความมั่นคงในธุรกิจของเขา และตอนนี้เขาไม่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์กับใครได้ทั้งนั้นแม้แต่ซูเมิ่งหาน เพราะสำหรับเขา ความสัมพันธ์ใดๆ อาจนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจ หากเย่เฟิงเดาไม่ผิด อีกไม่กี่วันซูซิ่นชางจะกลับมาขอให้ซูเมิ่งหานยกโทษให้ แน่นอนว่าในสายตาของอีกฝ่าย ซูเมิ่งหานเป็แค่เด็กน้อยที่หลอกได้ง่ายๆ
เย่เฟิงมองรถบีเอ็มดับเบิลยูคันนั้น เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาจะเฝ้าดูซูเมิ่งหานอย่างใกล้ชิดและไม่ให้เธอถูกหลอกอีก ถ้าหากซูซิ่นชางรักลูกสาวจริง เขาจะเลือกเซี่ยิ่แล้วทำให้ลูกสาวของตัวเองเ็ปเช่นนี้หรือ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะทำอะไร เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นเนื้อแท้ของเขา
เย่เฟิงเปิดประตูเข้าบ้านพร้อมกับซูเมิ่งหาน
“นายมีห้องว่างบ้างไหม? ฉันจะได้ย้ายของจากบ้านฉันมาที่นี่ก่อน” ซูเมิ่งหานเป็ผู้หญิงที่มีจิตใจเข้มแข็งมาก เธอร้องไห้ไม่นานนัก หรือไม่ก็รู้ว่าต่อให้ร้องขนาดไหนมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หญิงสาวเริ่มคิดถึงอนาคตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอถูกพ่อของตัวเองทิ้งและยังเป็่สำคัญของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก หากสอบเข้าไม่ได้ อนาคตคงดับมืดแน่นอน
ซูเมิ่งหานไม่อยากเป็เหมือนที่เซี่ยิ่ตราหน้าเธอว่าเอาแต่พึ่งหน้าตาและรูปร่างเพื่อหาผู้ชายให้ตัวเอง เธอต้องพึ่งพาความพยายามของตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จ แล้วทำให้ซูซิ่นชางเสียใจ!
“ห้องว่าง… เอ่อ…” เย่เฟิงตกตะลึง เพราะอยู่ๆ ก็นึกได้ว่าตัวเองไม่สามารถไปที่ไหนในบ้านได้อย่างอิสระ ไม่อย่างนั้นปู่ของเขาคงอาละวาดแน่
ห้องที่สามารถไปได้มีแค่ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องโถง ส่วนห้องครัว สำหรับเขาที่มัวแต่เล่นเกมจะเข้าไปทำไม ทำอย่างไรดี ถึงตอนนี้คงไม่สามารถไล่เธอไปแล้ว หรือต้องนอนด้วยกัน หรือให้เธอออกไปหาโรงเเรมอยู่ อย่างไรเสียเธอก็มีเงินหนึ่งล้านบาทแล้วนี่ เย่เฟิงมองอีกฝ่ายด้วยความลังเล
“มีอะไรเหรอ?” ซูเมิ่งหานมองเย่เฟิงอย่างประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่านายไม่มีห้องว่าง”
แต่ละบ้านในวิลล่าชิงเฟิง มีการออกแบบรูปแบบเดียวกัน เธอยังจำได้ว่าปกติแต่ละบ้านจะมีสามห้องนอน หรือบ้านของเย่เฟิงไม่มี?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้