ฝ่ามือน้ำแข็งครามจำนวนมากก่อตัวที่กลางอากาศจนบดบังดวงอาทิตย์ ก่อนจะเข้าจู่โจมเย่เฟิง ทำอุณหภูมิลดลงฉับพลัน
“จ่านเฉินผู้นี้แข็งแกร่งมาก พลังโจมตีเช่นนี้แม้จะเป็ยอดฝีมือที่เก่งที่สุดของอาณาจักรจ้าวข้าก็รับไม่ได้แน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับเย่เฟิง!”
ผู้คนเห็นจ่านเฉินโจมตีเย่เฟิงอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ทำให้พวกเขาใเป็อย่างมาก
“จ่านเฉิน สมกับเป็อัจฉริยะจากสำนักชิงอวิ๋น แค่ลงมือก็สั่นะเืเลื่อนลั่น!”
ดวงตาของเย่เฟิงวาบประกายแสงเยือกเย็น เขาเดินออกมาพร้อมพลังดาราปกคลุมร่าง ก่อนจะเริ่มหลบหนีฝ่ามือน้ำแข็งคราม แล้วเหวี่ยงหมัดโจมตีซึ่งมีพลังถึงแสนจินเพื่อเข้าปะทะกับฝ่ามือของจ่านเฉินสองครั้ง ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่น
ด้วยพลังะเืที่แข็งแกร่งนั้น เย่เฟิงเซถอยหลังไปอีกครั้ง ส่วนจ่านเฉินแม้จะไม่สั่นคลอน แต่อวัยวะภายในกำลังปั่นป่วน นี่ทำให้จ่านเฉินหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
“การโจมตีนี้ก็ฆ่าเ้าไม่ได้ งั้นหากการโจมตีสุดท้ายนี้ทำอะไรเ้าไม่ได้ ข้าจ่านเฉินก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
จ่านเฉินเผยสีหน้าอึมครึม เขาคือศิษย์สายในแห่งสำนักชิงอวิ๋น คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 2 แต่กลับทำอะไรเย่เฟิงที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 7 ไม่ได้ สำหรับจ่านเฉินแล้วนี่เป็ความอัปยศอดสู
จู่ ๆ พลังน้ำแข็งครามพวยพุ่งออกจากฝ่ามือและร่างกาย ห้วงอากาศราวกับถูกแช่แข็ง จากนั้นเขาร่ายฝ่ามือ พลังน้ำแข็งอันมหาศาลก่อตัวที่กลางอากาศ ก่อนจะค่อย ๆ ก่อตัวเป็ฝ่ามือั์น้ำแข็งคราม พร้อมกับอักขระโคจรบนนั้นและปลดปล่อยพลังน้ำแข็งครามขณะที่มันพุ่งเข้าหาเย่เฟิง ทุกที่ที่มันผ่านล้วนต้องถูกแช่แข็ง
“ฝ่ามือนี้ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าสองกระบวนท่าเมื่อครู่มาก ดูท่าจ่านเฉินจะพิโรธแล้วจริง ๆ ถึงกับคิดจะฆ่าเย่เฟิงที่นี่!” ผู้คนต่างใจเต้นโครมครามขณะมองฝ่ามือั์บนท้องฟ้านั่นด้วยความตกตะลึง
“การโจมตีระดับนี้สามารถฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 2 ทั่วไปได้ง่าย ๆ ต่อให้เย่เฟิงเก่งกล้าสามารถเพียงใด ก็คงหนีจากการโจมตีนี้ไม่พ้น!” ผู้คนต้องใจเต้นระรัวอีกครั้งพร้อมหายใจถี่ราวกับวินาทีต่อมาเย่เฟิงจะถูกฝ่ามือั์นั่นฆ่าตาย
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ แม้เผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารของจ่านเฉิน เขาก็ยังคงนิ่งเฉย
“วูบ!”
ทันใดนั้นเย่เฟิงเคลื่อนไหวพร้อมพลังดาราพวยพุ่ง แต่เมื่อฝ่ามือั์น้ำแข็งครามใกล้ถึงตัว จู่ ๆ พลังหอกปะทุออกจากร่างเขา ก่อนจะกลายเป็ปราณแหลมคมสีเงินขาว มันรายล้อมร่างเขาและทำลายทุกอย่างที่เข้ามาใกล้
“หอกปลิดชีวี!”
นาทีต่อมาเขาแผดเสียงะโ จากนั้นมีลำแสงที่ผสานด้วยอำนาจหอกขั้นผันแปรพุ่งออกจากนิ้วชี้ข้างขวาของเขา ทั้งยังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วปานฟ้าแลบ และแฝงพลังที่หมายปลิดชีวิต
“ฟิ้ว!”
รังสีหอกนั่นทะลวงฝ่ามือั์น้ำแข็งคราม ก่อนจะไปถึงตัวจ่านเฉินในชั่วพริบตา
เมื่อจ่านเฉินเห็นฉากที่น่าในี้ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที ก่อนจะรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย จากนั้นเขาหลบหนีโดยไม่คิดอะไรมาก แต่เขากลับช้าไปก้าวหนึ่ง รังสีหอกนั่นกรีดผ่านลำคอจนเกือบคร่าชีวิตเขา
“นี่มันเคล็ดวิชาอะไร? ไม่นึกว่าดัชนีจะเปลี่ยนเป็หอกได้ด้วย จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว แม้แต่จ่านเฉินก็ยังได้รับาเ็จากการโจมตีนี้!”
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเห็นเย่เฟิงปลดปล่อยทักษะหอกปลิดชีวีกระบวนท่าที่สาม หอกปลิดชีวิ เขาก็ต้องอุทานด้วยความใ
พวกเขาััถึงพลังที่แฝงอยู่ในหอกนี้ของเย่เฟิงได้อย่างชัดเจน หากเมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้ด้วยไม่ใช่จ่านเฉิน แต่เป็คนอื่นเกรงว่าชีวิตคงหาไม่ไปแล้ว
แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าหลังจากอำนาจหอกของเย่เฟิงบรรลุขั้นผันแปร พลังดัชนีของเขาก็เปลี่ยนเป็รูปลักษณ์รังสีหอกได้ตามใจ
“เ้ากล้าดียังไงมาทำร้ายข้า หากข้าจ่านเฉินฆ่าเ้าไม่ได้ ก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
จ่านเฉินถูกเย่เฟิงโจมตีจนได้รับาเ็ ทำให้เขารู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ใบหน้าต้องซีดเผือด เขาอยากจะลงมือจัดการเย่เฟิงอีกครั้ง แต่กลับมีเสียงเกรงขามดังมาจากอัฒจันทร์หลัก
“พอได้แล้ว! หรือแค่นี้เ้ายังขายหน้าไม่พอ?”
ผู้พูดคือผู้าุโเฉียน เขาเห็นการต่อสู้เมื่อครู่หมดแล้ว จึงดูออกว่าจ่านเฉินกำลังเสียเปรียบ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 2 ลงมือจัดการเย่เฟิงที่อยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่ 7 ภายในสามกระบวนท่าไม่เพียงแต่จัดการอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ยังถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนได้รับาเ็ ซึ่งเื่นี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักชิงอวิ๋น เขาก็ย่อมห้ามปราม
เมื่อจ่านเฉินได้ยินคำพูดของผู้าุโเฉียนก็เผยสีหน้าไม่ยอม เขาเหลือบไปมองเย่เฟิงด้วยสายตาเย็นเยือกแวบหนึ่ง “อย่าได้ใจไปที่ทำร้ายข้าได้ หากเมื่อครู่ข้าไม่ประมาท เ้าจะมีโอกาสได้อย่างไร? หากเ้ากับข้าได้ประมือกันอีกครั้ง ข้าจะต้องฆ่าเ้าให้ได้ภายในสามกระบวนท่า!”
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้ปฏิเสธ อีกฝ่ายเป็คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริง ๆ หากเมื่อครู่นี้เขาไม่สำแดงดัชนีแปรผันเป็หอกอย่างฉับพลัน ก็เป็ไปได้ยากที่จะทำร้ายอีกฝ่าย
แต่ในระหว่างที่ประมือ ดูเหมือนเย่เฟิงจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่จ่านเฉินผู้นี้กลับใช้ถ้อยคำหาข้ออ้างให้ตัวเอง แรกเริ่มก็บอกว่าหากการโจมตีสุดท้ายเขาจ่านเฉินทำลายเย่เฟิงไม่ได้ก็ไม่ใช่คน แต่การกระบวนท่าที่สามเมื่อครู่นี้ จ่านเฉินทำไม่ได้อยากที่ลั่นวาจาไว้ พอต่อมาก็บอกว่าตัวเองประมาท
ั้แ่เริ่มจนจบ จ่านเฉินหาข้ออ้างให้ตัวเองตลอดเวลา ยกตัวเองให้สูงขึ้น เหยียบย่ำผู้อื่น เย่เฟิงไม่ชอบคนประเภทนี้ที่ไร้ความผิดชอบ
“พูดเสร็จหรือยัง? หากพูดจบก็ออกไปได้แล้ว ข้าเย่เฟิงชิงชังคนลอบกัดเช่นเ้า” เย่เฟิงกล่าวด้วยสายตาดูแคลน
จ่านเฉินได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธ แม้อยากจะเปิดปากพูดอีกครั้ง แต่กลับได้ยินเสียงของผู้าุโเฉียนดังขึ้นว่า “ยังไม่รีบกลับมาอีก อย่าลืมภารกิจของพวกเ้าสองคน อีกอย่างในฐานะผู้ชี้แนะ แต่จงใจทำร้ายผู้เข้าร่วมการแข่งขันของประเทศบริวารเช่นนี้ จะต้องถูกลงโทษสถานหนัก”
จ่านเฉินได้ยินเช่นนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี จากนั้นกล่าวกับเย่เฟิงว่า “ข้าจ่านเฉินจะจดจำเื่ในวันนี้ไว้ หวังว่าเ้าจะอวดดีแบบนี้ได้ตลอดไป!”
เมื่อกล่าวจบ จ่านเฉินก็เดินกลับไปยังอัฒจันทร์หลัก
ผู้คนต่างกะพริบตาปริบ ๆ ขณะมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าต่างกันไป
แม้เผชิญหน้ากับอัจฉริยะที่มาจากกองกำลังทรงอำนาจอย่างจ่านเฉิน แต่เย่เฟิงก็ทำให้อีกฝ่ายอับอายขายหน้าด้วยความแข็งแกร่งของตน และตั้งตัวเป็ศัตรูกับจ่านเฉิน
บางทีบนโลกใบนี้ หาก้ามีชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ศัตรูมากมายย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ และศัตรูเหล่านี้ก็ล้วนเป็ผู้้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้อื่น
จ้าวซินอี๋และฉินเยียนหรานเห็นเย่เฟิงต่อสู้กับจ่านเฉิน เขาใช้พลังที่แกร่งสุดจัดการจ่านเฉินจนไล่จ่านเฉินออกไปได้ นี่ทำให้พวกนางรู้สึกภูมิใจในตัวเย่เฟิงมาก
ฉินเยียนหรานเดินมาหาเย่เฟิง แต่หญิงสาวทั้งสองก็สังเกตเห็นการมีอยู่ของกันและกัน ดวงตาสองคู่สบประสานแต่แฝงด้วยความเป็มิตร ทั้งสองต่างพยักหน้าพลางยิ้มให้อีกฝ่าย
แต่เย่เฟิงกลับไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างสองสาว เมื่อครู่นี้ระหว่างประมือกับจ่านเฉิน เขาได้รับาเ็ภายในระดับหนึ่ง จำต้องใช้เวลาที่เหลือฟื้นฟูให้เรียบร้อย
เวลาผ่านไปทีละนิดจนหนึ่งชั่วยามผ่านไป ในที่สุดเย่เฟิงก็ฟื้นฟูเสร็จสิ้นด้วยความช่วยเหลือจากยาลูกกลอน จากนั้นเขาลุกขึ้นยืนพร้อมดวงตาส่องประกายสดใส ราวกับดวงดาวยามราตรี
“ครบสองชั่วยามแล้ว ลำดับถัดไปจะเข้าสู่รอบที่สอง บุกฝ่าเจดีย์เชื่อมฟ้า!”
ขณะเดียวกันเสียงของขุนนางใหญ่ผู้ดำเนินการผู้นั้นดังมาจากอัฒจันทร์หลัก ทำเหล่าผู้คนตาเป็ประกาย พวกเขารู้ว่าการแข่งขันรอบที่สองจะต้องน่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน
