เด็กชายที่ยืนอยู่ด้านหลังมองดูพี่สาวของตัวเอง เขาเหงื่อไหล่ท่วมหน้าผาก ั้แ่เกิดมาเขาเพิ่งเคยเห็นพี่สาวะโเสียงดังขนาดนี้
แม้ว่าหญิงสาวจะะโออกไปสุดเสียงแต่ความโกรธภายในใจของนางยังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นวิหคเพลิงิญญาก็กลับมาในร่างนาง แม้ว่านางจะอยู่ในระดับผู้ทรงยุทธ์ แต่มันยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้ิญญายุทธ์ของนางมีสติปัญญาเหมือนมนุษย์
“ฝากไว้ก่อน ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะสามารถหนีออกจากจักรวรรดิซือฉีได้!”
หญิงสาวมองชายหนุ่มวิ่งหนีไปและกัดฟันกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ นางจดจำใบหน้าของถังเหล่ยได้ขึ้นใจแล้ว
ต้องชดใช้อย่างสาสม!
“ทำไมเ้าไม่ช่วยข้า!” หญิงสาวหันหน้ามามองเด็กชายที่ยืนแข็งทื่อเป็ท่อนไม้อยู่ด้านหลัง
“ข้าเพิ่งปลุกิญญายุทธ์เอง ข้าจะช่วยพี่ใหญ่ได้อย่างไร?” เด็กชายกล่าวด้วยความคับข้องใจ
“หากเ้ารู้แล้ว เ้าก็รีบแข็งแกร่งซะ ข้าไม่สามารถอยู่ปกป้องเ้าไปได้ตลอด เ้ารู้เื่นี้ใช่ไหม เ้าอายุสิบเอ็ดปีแล้วแต่กลับเพิ่งปลุกิญญายุทธ์ได้ นี่คือสาเหตุที่ท่านพ่อโกรธเ้า” หญิงสาวเดินมาด้านข้างเด็กชายกล่าวด้วยความไม่พอใจ
โดยปกติทั่วไปพร์ของเด็กชายถือได้ว่าเป็อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่แล้ว อย่างเช่นน้องสาวของถังเหล่ย ถังเฟยนางก็ปลุกิญญายุทธ์ได้ตอนอายุสิบเอ็ดปี นางคืออัจฉริยะในรอบสามร้อยปีของเมืองอวิ๋นหลิว
แต่สิ่งที่หญิงสาวกล่าวเมื่อครู่หมายความว่า หากอายุสิบเอ็ดปีเพิ่งปลุกิญญายุทธ์ได้ยังถือว่าช้าเกินไป
“ข้าเข้าใจแล้ว หากครั้งนี้ถ้าท่านพ่อรู้ว่าพวกเราแอบออกมา ท่านพี่คิดว่าเราจะถูกลงโทษหรือไม่?” เด็กชายถามด้วยเสียงแ่เบา
“ยังต้องคิดอีกหรือ ต้องลงโทษพวกเราอย่างหนักแน่ อย่างไรก็ตามข้าจะบอกว่าเื่นี้เป็แผนการของเ้าทั้งหมด ดังนั้นเ้าจงภาวนาอย่าให้ท่านพ่อเจอตัวจะดีกว่า” หญิงสาวลูบศีรษะเด็กชายด้วยรอยยิ้ม
เด็กชายรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีราวกับว่าบิดาของพวกเขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว
“การออกมาครั้งนี้ทำให้เ้าได้เรียนรู้โลกภายนอกมากขึ้น คนเลวในโลกภายนอกมีมากมาย อย่างเช่นเ้าสารเลวเมื่อครู่นี้ ถ้าข้าได้เจอกับเขาอีกครั้งละก็ เจอดีแน่!” หญิงสาวกล่าวด้วยความโมโห
แต่เมื่อครู่ตอนที่ต่อสู้กับถังเหล่ยนางไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย พลังของชายหนุ่มมหาศาลมาก ถึงกับกดดันนางจนอยู่ในสภาวะอับจนปัญญาได้
เด็กชายมองพี่สาวของตนพร้อมกับคิดว่าเื่ราวทั้งหมดเป็ความผิดของพวกเขาเองแท้ๆ แต่ทำไมพี่สาวของเขาถึงบอกว่าชายผู้นั้นเป็คนเลวล่ะ?
แน่นอนว่าเด็กชายไม่กล้ากล่าวสิ่งที่ เขาคิดออกมา จากนั้นหญิงสาวพาเด็กชายเดินไปทางูเาซวงเฟิง
อีกด้านหนึ่ง ถังเหล่ยวิ่งมาเป็เวลาครึ่งชั่วยาม
เมื่อเห็นว่าด้านหลังไม่มีใครตามมาจึงถอนหายใจเล็กน้อย และลดความเร็วลง
ความจริงแล้วถังเหล่ยไม่ได้กลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย หากต้องต่อสู้กันจริงๆ เขาใช้เพียงมือเดียวก็สามารถสังหารทั้งสองคนได้ เพียงแต่เกิดเื่ไม่คาดคิดเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าในชาติที่แล้วถังเหล่ยจะมีชีวิตเกือบร้อยปี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงคือเื่ที่เขาไม่เคยคำนึงถึงเลยด้วยซ้ำ
ในชาติที่แล้วาาตงเดิมทีคิดจะยกหลานสาวให้แต่งกับถังเหล่ย แต่ถังเหล่ยแสดงเจตนาออกมาชัดเจนว่าไม่สนใจเื่เหล่านี้จริงๆ ดังนั้นาาตงจึงรับถังเหล่ยเป็บุตรบุญธรรมแทน
“หญิงสาวคนนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ วิหคเพลิงตัวนั้น ข้าเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง?”
หลังจากนั้นถังเหล่ยลดความเร็วลงเรื่อยๆ จนในขณะนี้กลับกลายเป็เพียงการเดินเท่านั้น และเส้นทางของเขากำลังมุ่งหน้าไปยังูเาซวงเฟิงโดยตรง
ผู้คนมักจะกล่าวไว้ว่าูเาขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าแม้จะดูเหมือนอยู่ใกล้แต่ความจริงไกลมาก ถึงแม้เขาจะมองเห็นูเาซวงเฟิงจากระยะไกล อย่างไรก็ตามหากเขา้าที่จะเดินไปให้ถึงูเา เขาต้องใช้เวลาหลายช่วยยาม ระหว่างทางถังเหล่ยได้ซื้อม้าอีกตัวหนึ่งจากเมืองเล็กๆ ที่เมืองแห่งนี้มีผู้ฝึกตนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่
ถังเหล่ยพบว่าคนส่วนใหญ่ล้วนเป็ผู้ฝึกตนระดับผู้ทรงยุทธ์ แทบจะไม่เห็นผู้ฝึกตนระดับยอดยุทธ์เลยด้วยซ้ำ แต่อายุของผู้ฝึกตนแตกต่างกันค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็ผู้ฝึกตนที่มีอายุยี่สิบกว่าปีหรือชายชราอายุหกสิบเจ็ดสิบปี
ถังเหล่ยรู้สึกสับสน เหตุใดผู้ฝึกตนจำนวนมากจึงมารวมตัวกันที่นี่ หรือว่าใน่เวลานีู้เาซวงเฟิงจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น เขายังคงขี่ม้าเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปประมาณหนึ่งวัน ในที่สุดถังเหล่ยก็มาถึงส่วนล่างของูเาซวงเฟิง หลังจากที่เขามาถึงก็พบว่าความจริงแล้วูเาซวงเฟิงใหญ่กว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้มาก
ส่วนล่างของูเามีเนินขนาดใหญ่และูเาหลักของูเาซวงเฟิงปกคลุมไปด้วยหมอกสีแดงจางๆ
ถังเหล่ยมองหมอกที่สีไม่ปกติเ่าั้อยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าูเาซวงเฟิงต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทันทีที่เขามาถึงูเาแห่งนี้เสียงเรียกภายในร่างกายของเขาก็เงียบลง ราวกับว่าเขาได้เดินทางมาถึงที่หมายแล้ว
ที่ส่วนล่างของูเาซวงเฟิงคึกคักกว่าที่ถังเหล่ยคาดการณ์เอาไว้มาก ลานกว้างมีขนาดใหญ่กว่าเมืองอวิ๋นหลิวเสียอีก ทั้งยังมีสิ่งก่อสร้างมากมาย ในเวลาเดียวกันยังสร้างถนนกว้างใหญ่เอาไว้ราวกับเมืองๆ หนึ่ง ผู้คนที่อาศัยอยู่รวมถึงผู้มาเยือนล้วนเป็ผู้ฝึกตนทั้งหมด
ถังเหล่ยค่อยๆ เดินเข้าไปในสิ่งก่อสร้างเ่าั้ ผู้คนรอบด้านเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย หากไม่มีูเาสูงเสียดฟ้าตั้งอยู่ เขาคิดว่าตัวเองยืนอยู่ภายในเมืองแห่งหนึ่งไปแล้ว
“ที่นี่คึกคักผิดปกติ”
ถังเหล่ยเห็นผู้ฝึกตนมากมายตลอดเส้นทาง หนุ่มสาวส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็กลุ่มและมีวัยกลางคนหลายคนที่ไปไหนมาไหนคนเดียวไร้ซึ่งองครักษ์หรือผู้ติดตาม บางคนสามารถมองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าพวกเขามีเจตนาอันชั่วร้ายแฝงอยู่
นอกจากนี้ยังมีเด็กหนุ่มสาวที่มีองครักษ์ติดตามมาด้วยพวกเขามีท่าทางที่สูงส่ง ผู้ฝึกตนที่อยู่บนเส้นทางต่างหลีกทางให้กับพวกเขา
ถังเหล่ยจูงม้าไปที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง มีบริกรมาจูงม้าให้ถังเหล่ยทันที แม้แต่บริกรของโรงเตี๊ยมก็ยังเป็ผู้ฝึกตน แต่เป็เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้น
เดิมทีผู้ฝึกตนระดับผู้ฝึกยุทธ์ก็สามารถเข้าร่วมกองทัพได้แล้ว เหตุใดจึงยอมมาเป็บริกรของโรงเตี๊ยมที่นี่?
“คุณชายเชิญด้านใน คุณชายมาถูกเวลาพอดี อีกสองวันทั้งเมืองซวงเฟิงคงไม่มีห้องเหลือแล้ว” ในขณะที่บริกรกำลังเดินนำทางให้กลับถังเหล่ย
“ช่วยบอกข้าที เหตุใดผู้ฝึกตนจำนวนมากจึงได้มารวมตัวกันที่นี่?” ถังเหล่ยถาม
บริกรหันกลับมามองถังเหล่ยด้วยสีหน้าตกตะลึง เขากำลังคิดว่าถังเหล่ยล้อเล่นกับเขา
“ข้าผ่านมาทางนี้ เห็นว่ามีผู้ฝึกตนจำนวนมากเดินทางมา จึงตามเข้ามาดูด้วย” ถังเหล่ยกล่าว
จากนั้นยื่นทองก้อนหนึ่งให้กับบริกร บริกรไม่ได้แปลกใจ รับทองมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าและกล่าวออกมาว่า
“คุณชายคงไม่ใช่คนในท้องถิ่น?”
“ไม่ใช่ แค่บังเอิญผ่านมาทางนี้” ถังเหล่ยตอบกลับทันที
“โอ้ มิน่าคุณชายถึงไม่รู้เื่ ่นี้คือ่ที่หมอกโลหิตบนูเาซวงเฟิงเบาบางลง ผู้ฝึกตนมากมายจริงฉวยโอกาสใน่เวลานี้เข้าไปค้นหาสมบัติ แต่หมอกโลหิตสามปีจะเจือจางลงครั้งหนึ่ง”
ความสงสัยในใจของถังเหล่ยได้รับคำตอบแล้ว ที่แท้ผู้ฝึกตนเหล่านี้ล้วนรอเข้าไปค้นหาสมบัติในูเาซวงเฟิง
“คุณชายยังไม่ได้ทะลวงระดับยอดยุทธ์ใช่หรือไม่?” บริกรมองถังเหล่ย
แม้ว่าถังเหล่ยจะรูปร่างสูงใหญ่ แต่ใบหน้ายังอ่อนเยาว์ของเขา ทำให้ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าสามารถคาดเดาอายุของเขาได้ ในสายตาของบริกรขอคาดเดาเอาไว้ว่าถังเหล่ยผู้นี้อายุเพียงสิบหกสิบเจ็ดปีเท่านั้น อายุเพียงเท่านี้ต่อให้เป็ศิษย์อัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ในจักรวรรดิซือฉีก็ไม่มีใครไปถึงระดับยอดยุทธ์ได้
“เหตุใดถึงถามเช่นนี้?” ถังเหล่ยถาม
ผู้ฝึกตนด้านนอกก็ไม่ค่อยมีระดับยอดยุทธ์ ต้องมีสาเหตุแน่
“ไม่มีอะไรคุณชาย ผู้ฝึกตนระดับยอดยุทธ์ไม่สามารถเข้าไปในหมอกโลหิตได้ ถ้าเข้าไปในหมอกโลหิติญญายุทธ์จะถูกกลืนกิน แต่ในเมื่อคุณชายมาถึงแล้วก็อยู่ต่ออีกสักหน่อย ถึงตอนนั้นคุณชายอาจมีโชควาสนาได้สมบัติกลับมาก็เป็ได้”
บริกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน” ถังเหล่ยตอบรับด้วยรอยยิ้ม
……