ณ ตระกูลตงฟาง
ชายหนุ่มชุดดำสองคนยืนอยู่หน้าเฮยฉานฉู่ ด้านข้างคือตงฟางป้าเทียนกับตงฟางอวิ๋นชิง
ชายหนุ่มชุดดำสองคนนี้คือศิษย์ที่เฮยฉานฉู่เรียกมา เขาสร้างเื่ในจักรวรรดิเทียนอวี่มาหลายปี จึงมีศิษย์หลายร้อยคนกระจายอยู่ในเขตต่างๆ
เพื่อกำจัดตระกูลถังและถังเหล่ยครั้งนี้ เฮยฉานฉู่จึงเรียกศิษย์ระดับผู้ฝึกยุทธ์ที่โดดเด่นมาสองคน
“ศิษย์ของใต้เท้าเก่งกาจจริงๆ ต่อให้เป็ศิษย์อัจฉริยะของตระกูลหวังกับตระกูลซินก็ไม่อาจเทียบกับทั้งคู่ได้กระมัง”
เมื่อตงฟางป้าเทียนได้เห็นชายหนุ่มทั้งสองสังหารคนมากับตา ใน่เวลาสั้นๆ เช่นนั้น พวกเขากลับสังหารคนไปสิบกว่าคนแล้ว
ต้องจำไว้ว่าคนเ่าั้ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็ผู้ฝึกตนที่ปลุกิญญายุทธ์แล้วทั้งนั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ตงฟางป้าเทียนตงิดใจคือ เหตุใดท่านทูตที่มาในหนนี้ถึงได้เปลี่ยนกฎกะทันหัน และปล่อยให้ชายหนุ่มชุดดำทั้งสองทำการสังหารหมู่
หรือว่า...
ตงฟางป้าเทียนไม่กล้าคิดต่อ เื่บางเื่เขาไม่รู้จะดีกว่า
“สถานการณ์ของตระกูลหวังกับตระกูลซินเป็เช่นไรบ้าง?”
สถานการณ์บนลานประลองวันนี้เป็สิ่งที่เฮยฉานฉู่คาดเดาไว้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้สนใจเื่นี้ สิ่งที่เขาสนใจคือตระกูลหวังกับตระกูลซิน
หากกำจัดถังจงเวยกับถังเหล่ยได้แล้ว เื่กวาดล้างตระกูลถังต้องให้ตระกูลในเมืองอวิ๋นหลิวเป็คนทำ
ถ้าให้ตระกูลตงฟางลงมือเองคงยากจะหลีกเลี่ยงคำครหา สู้ให้สามตระกูลลงมือพร้อมกันกวาดล้างตระกูลถังเสียดีกว่า เื่เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยในจักรวรรดิเทียนอวี่
“ตระกูลหวังกับตระกูลซินล้วนบอกว่าขอเพียงพวกเรากำจัดถังจงเวยได้ พวกเขาก็ยินดีร่วมมือกับเรา”
ตงฟางป้าเทียนรีบกล่าว
“สองตระกูลนี้ใช้เป็หมากได้ หลังจากเื่จบสิ้น ก็กำจัดพวกมันไปด้วยเลย ในเมืองอวิ๋นหลิวนี้เหลือไว้เพียงตระกูลตงฟางของพวกเ้าก็พอ!”
เฮยฉานฉู่กังวลว่าเมื่อสองตระกูลพบความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับตระกูลตงฟางแล้ว สถานะของเขาจะถูกเปิดโปง
“ตระกูลหวังไม่เป็ไร ทว่าสาขาหลักของตระกูลซินอยู่ที่อื่น ตามข่าวลือก็บอกว่าในตระกูลมียอดฝีมือระดับยอดยุทธ์อีกด้วย พวกเราควรระวังหน่อยหรือไม่?”
ตงฟางป้าเทียนไม่อยากหาเื่ตระกูลซิน แค่ได้กลืนกินตระกูลหวังกับตระกูลถังเขาก็พอใจมากแล้ว
“จะยืนหยัดได้หรือไม่ นั่นเื่ของเ้า สองตระกูลที่ร่วมมือในครั้งนี้ต้องถูกกำจัด ถ้าเ้าไม่เชื่อฟัง เ้าคงรู้ว่าจุดจบจะเป็เช่นไร!”
หลังจากเฮยฉานฉู่พูดจบ เขาก็พาชายหนุ่มชุดดำกับศิษย์พี่ใหญ่จากไปทันที
“ท่านปู่ พวกเราฟังที่อาจารย์สั่งเถิด มีอาจารย์คอยช่วยพวกเรา ต่อให้เป็ตระกูลซินก็หาใช่คู่ต่อสู้ของเรา!”
ตงฟางอวิ๋นชิงรีบโพล่งขึ้นมา เขากลัวว่าท่านปู่จะไปยั่วโมโหท่านอาจารย์เข้า เช่นนั้นทั้งตระกูลตงฟางคงติดร่างแหไปด้วย
ตงฟางป้าเทียนพยักหน้า เื่มาถึงตรงนี้แล้ว เขาจะเลือกอะไรได้อีก?
อีกด้านหนึ่งตระกูลหวังกับตระกูลซินก็จิตใจสั่นคลอนเช่นกัน พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบที่มาของชายหนุ่มชุดดำทั้งสองนั้น รู้เพียงว่าอีกฝ่ายต้องไม่ใช่คนเมืองอวิ๋นหลิวแน่
แต่พวกเขาได้รับสิทธิ์การเข้าร่วมการแข่งขันมาได้อย่างไรกัน?
การแข่งขันวันพรุ่งนี้ยังต้องดำเนินต่อไป ศิษย์ที่โดดเด่นในตระกูลของพวกเขาจะป้องกันตัวจากชายหนุ่มชุดดำได้หรือ? ทั้งหมดล้วนคาดเดาไม่ได้
ในจวนตระกูลถัง
ถังจงเวยก็กังวลเกี่ยวกับศิษย์ตระกูลถังมากเช่นกัน ดูจากความโเี้ของชายหนุ่มชุดดำทั้งสองในวันนี้แล้ว ศิษย์ตระกูลถังต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่
ส่วนถังอวิ๋นกับถังซิ่นที่เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ ในใจก็เริ่มอยากถอยแล้ว หากพวกเขาต้องสู้กับชายหนุ่มชุดดำคนใดคนหนึ่งแบบตัวต่อตัวคงไม่รอด
“ท่านปู่ ข้าพาแขกมาหา”
ถังเหล่ยพาอวิ๋นเมิ่งกับหลินเนี่ยนเข้ามาในจวนตระกูลถัง จากที่เขาประเมินพลังของอีกฝ่าย ให้ถังจงเวยมาต้อนรับเป็เื่ที่เหมาะสมที่สุด
“สองท่านนี้คือ?”
เมื่อถังจงเวยได้ยินเสียงของถังเหล่ย จึงเดินออกมาจากในห้อง แล้วเห็นอวิ๋นเมิ่งกับหลินเนี่ยนยืนอยู่
ถึงทั้งสองจะอายุต่างกัน แต่กลิ่นอายกับใบหน้าล้วนโดดเด่นนัก ต้องไม่ใช่คนเมืองอวิ๋นหลิวแน่
“ข้าน้อยอวิ๋นเมิ่ง ส่วนนี่ศิษย์ของข้าหลินเนี่ยน เรามาเพราะมีเื่บางอย่างอยากร้องขอ หวังว่าผู้นำตระกูลถังจะช่วยเหลือ!”
อวิ๋นเมิ่งไม่พูดอ้อมค้อม นางบอกเป้าหมายออกมาทันที
ถังเหล่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างผงะไป เขาเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายตัดสินใจจะมาเยี่ยมเยือนตระกูลถังนานแล้ว ต่อให้วันนี้เขาไม่พามา พวกนางคงจะหาโอกาสอื่นมาเยี่ยมเยือนอยู่ดี
“เอ่อ...เชิญเข้ามาเถอะ”
ถังจงเวยเหลือบมองถังเหล่ย พลางคิดว่าเขาพาใครมากันแน่
ถังเหล่ยยังมีท่าทีไร้เดียงสา ซึ่งบ่งบอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
ในห้องโถง ชาที่เพิ่งชงใหม่ๆ มีไอร้อนลอยออกมาเล็กน้อย ถังจงเวยนั่งอยู่บนที่นั่งผู้นำตระกูล อวิ๋นเมิ่งกับหลินเนี่ยนนั่งอยู่ด้านล่าง และถังเหล่ยนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอวิ๋นเมิ่ง
“ข้าน้อยขอไม่ปิดบังแล้วกัน ที่ข้ามาเมืองอวิ๋นหลิวครั้งนี้ สาเหตุหลักก็เพื่อมาตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ได้ยินมาว่าท่านถูกพิษเล่นงาน ต้องตกอยู่ในอันตรายทุกๆ วัน และนอนติดเตียงอยู่สามปี ทว่าเมื่อได้พบกันวันนี้ ท่านผู้นำตระกูลกลับดูมีพลังเต็มเปี่ยม ไม่เหมือนคนเคยถูกพิษมาก่อน!”
คำพูดของอวิ๋นเมิ่งทำให้สีหน้าของถังจงเวยเปลี่ยนไป ก่อนสีหน้าเขาจะกลับมาสงบอีกครั้ง
สายตาที่ถังเหล่ยมองอวิ๋นเมิ่งแฝงไปด้วยความระมัดระวัง อุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนเกือบจะทำให้ตระกูลถังล่มสลาย ไยอีกฝ่ายถึงเอ่ยปากถึงอุบัติเหตุครั้งนั้น นางมีเป้าหมายอะไรกันแน่?
“ตอนนั้นข้าถูกพิษก็จริง แต่ต่อมาก็ถอนพิษได้ด้วยความบังเอิญ ไม่ทราบว่าเหตุใดพวกท่านถึง้าตรวจสอบเื่นั้นด้วย? เื่นี้เกี่ยวอะไรกับพวกท่านหรือ?”
ถังจงเวยสรรหาคำพูดด้วยความระแวง อีกฝ่ายมีที่มาไม่ชัดเจนและเขาก็ไม่รู้พลังของพวกนางด้วย
แต่ที่พวกนางกล้าก้าวเข้ามาในตระกูลถังอย่างเปิดเผยเช่นนี้ แสดงว่าต้องมั่นใจในตัวเองมาก
เมื่ออวิ๋นเมิ่งเห็นสีหน้าของถังจงเวยกับถังเหล่ย ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังเข้าใจผิด หลินเนี่ยนที่อยู่ด้านข้างพลันถลึงตาใส่ถังเหล่ย ทำไมเขาถึงกล้าใช้สายตาเช่นนั้นจ้องอาจารย์ของนาง ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ของนางอยู่ด้วย นางคงลงมือไปนานแล้ว
“ท่านผู้นำตระกูลเข้าใจผิดแล้ว สาเหตุหลักที่ข้ามาตรวจสอบเื่นั้น เพราะมันเกี่ยวข้องคนร้ายในจักรวรรดิเทียนอวี่ที่มีนามว่า เฮยฉานฉู่ และจากรายงานที่ได้รับมา เหมือน่นี้เขากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในจักรวรรดิเทียนอวี่ ข้ากับศิษย์ถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่”
หลังจากอวิ๋นเมิ่งพูดจบก็หัวเราะ แล้วหันไปทางถังเหล่ย เพื่อแสดงตนว่าการที่นางเข้ามาในตระกูลถังนั้น ไม่ได้คิดร้ายแต่อย่างใด
“เฮยฉานฉู่?”
ถังจงเวยกล่าวเสียงทุ้ม เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“เฮยฉานฉู่คือคนร้ายในประกาศจับของจักรวรรดิ เขาเป็ผู้ฝึกตนระดับยอดยุทธ์ คนคนนี้เชี่ยวชาญการใช้พิษทั้งยังมีศิษย์อยู่มากมาย ชายหนุ่มชุดดำสองคนบนลานประลองวันนี้ก็คือศิษย์ของเขา”
อวิ๋นเมิ่งกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ
อะไรนะ!?
จิตใจของถังจงเวยกับถังเหล่ยสั่นไหวพร้อมกัน คนร้ายในประกาศจับของจักรวรรดิและศิษย์ของเขาถึงกับปรากฏตัวอยู่บนลานประลองงานแข่งขันหวู่เต้าของเมืองอวิ๋นหลิว
ทั้งยังสังหารศิษย์ตระกูลอื่นมากมายต่อหน้าผู้คนจนได้รับชัยชนะไป
นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันแน่?
“ข้าคิดว่าตอนนี้เฮยฉานฉู่น่าจะอยู่ในเมืองอวิ๋นหลิว และสาเหตุที่เขาอยู่ที่นี่ต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ตระกูลถังเผชิญเมื่อสามปีก่อนเป็แน่ ท่านผู้นำตระกูลถังคิดว่าข้าเดาถูกหรือไม่?”
อวิ๋นเมิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้