“จะลงเขาเลยงั้นเหรอครับ”วังหยางถามลู่เป๋าเหยียน “พวกเราไม่หากันต่อแล้วเหรอครับ”
“เธอไม่มีทางอยู่บนนี้”
ลู่เป๋าเหยียนรู้จักูเี่อันดีเธอกลัวเสียงฟ้าร้องที่สุด หลังชันสูตรศพเสร็จถ้าเห็นว่าพายุจะเข้าแล้วล่ะก็ เธอคงเลือกลงจากเขา
แต่ดูจากเวลาที่เธอต้องใช้ก่อนพายุจะมาเธอคงหนีลงเขาไปไม่ทัน
เธอคงเจอพายุเสียก่อนจึงหลงทางหรือไม่ก็...เกิดอุบัติเหตุ
เขามั่นใจว่าหากเดินลงเขาไปอาจจะพบเธอ
“วังหยาง”ลู่เป๋าเหยียนสั่ง “ติดต่อหัวหน้าหลงให้รวมคนมาช่วยกันหาบริเวณนี้”ูเี่อันไม่ใช่คนที่จะหลงทางง่ายๆ หรือต่อให้เดินผิดทางก็คงหลงไปไม่ไกลมากนัก
เขาสังหรณ์ใจว่าเธอต้องอยู่แถวนี้เพียงแต่อาจจะเดินลงเขาผิดทาง
“รับทราบครับ!”
ขณะที่วังหยางติดต่อกับหัวหน้าหลงลู่เป๋าเหยียนก็เดินมุ่งหน้าลงเขาต่อไป
หลังเดินไปได้ไม่ไกลนักฝนก็เริ่มตกหนักอีกครั้ง ท้องฟ้ามืดลงทุกทีแสงไฟฉายสาดส่องไปทั่วบริเวณพร้อมกับเสียงเรียกชื่อูเี่อันที่ดังก้องไปทั่วแต่สิ่งเหล่านี้เหมือนกับต่อยหมัดลงบนนุ่น มันไม่เกิดผลลัพธ์อะไรทั้งสิ้น
คิ้วของลู่เป๋าเหยียนขมวดมุ่นขึ้นทุกขณะเขากุมไฟฉายในมือเอาไว้แน่นจนเล็บซีดขาว แม้ใบหน้าจะไม่แสดงอารมร์ แต่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเครียดและกังวลมากแค่ไหน
นี่เป็ครั้งแรกที่วังหยางเห็นลู่เป๋าเหยียนเป็แบบนี้
ศัตรูของลู่เป๋าเหยียนต่างพูดเป็เสียงเดียวกันว่าเขาแข็งแกร่งราวกับเหล็ก ไร้ซึ่งจุดตาย
แต่ที่แท้เขาก็มีจุดอ่อนเหมือนคนอื่นๆนั่นก็คือ ูเี่อัน
แถมยังเป็จุดอ่อนที่ยิ่งกว่าจุดตายเสียอีกหากใครเผลอไปสะกิดเข้าล่ะก็ เขาจะกลายเป็อีกคนทันที
ดูท่าหลายปีที่ผ่านมาที่ลู่เป๋าเหยียนเอาแต่หนีและปิดบังเื่หลายอย่างกับูเี่อันคงเป็เื่ที่ถูกต้องแล้ว
ท้องฟ้าค่อยๆมืดสนิทลู่เป๋าเหยียนเริ่มรู้สึกใจหาย ตอนนี้เขาทั้งกลัวและกังวลใจ
เขาใช้มือแหวกเปิดทางทุกจุดที่สามารถมีคนเข้าไปซ่อนตัวได้เพื่อหวังว่าจะได้พบกับูเี่อัน แต่ทุกครั้งก็ต้องล้มเหลวเรื่อยไป ต่อให้มือของเขาจะถูกหนามเกี่ยวจนเืไหลเป็ทางก็ตาม
ลู่เป๋าเหยียนไม่สนใจแผลที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อยเขาเงยหน้ามองท้องฟ้า
“วังหยางเดินลงไปอีกทาง” ถ้าแยกกันหา เปอร์เซ็นต์ที่จะเจอตัวูเี่อันก็จะเพิ่มขึ้น
“ไม่ได้ครับนี่ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว” วังหยางตอบ “ผมต้องอยู่กับคุณไม่งั้นหากคุณได้รับอันตรายจะทำยังไงล่ะครับ”
ตอนนั้นเองลู่เป๋าเหยียนก็เห็นกระเป๋าสีขาวใบหนึ่ง
มันคือกระเป๋าเครื่องมือทีู่เี่อันพกไปด้วยทุกครั้งเวลาไปที่เกิดเหตุคงเพราะเธอรีบลงจากเขาจึงวางมันทิ้งไว้ที่นี่
ั้แ่เล็กยันโตลู่เป๋าเหยียนประสบความสำเร็จมามากมายแรกๆเขาก็ดีใจ แต่ต่อมากลับเริ่มด้านชาเพราะความสำเร็จกลายเป็เื่ปกติสำหรับเขาไปเสียแล้วจึงไม่อาจทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้อีก
แต่กระเป๋าใบนี้เปรียบเสมือนแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในความมืดมิด เขาััได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวด้วยความดีใจไม่ต่างอะไรกับครั้งแรกที่เขาประสบความสำเร็จ
“วังหยาง”เขายืนอยู่ตรงทางแยก ก่อนจะชี้ตรงไปที่ทางลงเขา “นายไปทางนี้”
ส่วนเขาจะเดินลึกเข้าไปในป่า
หน้าที่ที่ควรทำกับคำสั่งที่ได้รับช่างขัดแย้งกันหลังลังเลอยู่นานวังหยางก็ตัดสินใจทำตามที่ลู่เป๋าเหยียนสั่งเขาแยกตัวออกไปหาูเี่อันอีกทาง
ต่อให้พบเจออะไรในูเาลูกนี้ลู่เป๋าเหยียนก็คงรับมือได้แต่หากหาตัวูเี่อันไม่พบ เขาคงกลายเป็บ้าแน่ๆ
สายฝนเริ่มรุนแรงขึ้นสายลมที่พัดผ่านทำให้ใบไม้เสียดสีกันจนเกิดเสียงเป็ระยะๆความมืดที่โอบล้อมอยู่ทั่วบริเวณ ยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่ากลัว
แต่ลู่เป๋าเหยียนไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นเขาเดินลึกไปตามทางอย่างมุ่นมั่น พลางใช้ไฟฉายส่องสำรวจข้างทางอย่างละเอียด
ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องหาตัวูเี่อันให้เจอไม่งั้นเขาจะไม่ออกจากูเาไปไหนทั้งนั้น
ในตอนนั้นเองท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างวาบ ตามติดมาด้วยเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
สภาพอากาศแบบนีู้เี่อันจะต้องกลัวมากแน่ๆเขาจะปล่อยเธอไว้ที่นี่ตามลำพังไม่ได้ ลู่เป๋าเหยียนคิด
ขณะที่เขากำลังจะร้องเรียกูเี่อันอีกครั้งสายตาของเขาก็เห็นสร้อยดอกคามิลเลียตกอยู่ที่พื้น ดอกไม้สีขาวประดับอยู่บนเชือกสีเขียวเลอะไปด้วยดินโคลนมันเกี่ยวอยู่บนเถาวัลย์ที่พื้น
นี่คงเป็สร้อยที่เสียวอิ่งพูดถึงก่อนเขาจะขึ้นมาบนเขา
แล้วทำไมมันไปเกี่ยวอยู่ที่พื้นแบบนั้นได้?
ลู่เป๋าเหยียนมองไปที่ปลายเท้าก่อนจะเห็นร่องรอยบางอย่างบนเนินลาดชันมีพื้นที่บางส่วนเหมือนถูกอะไรบดทับจนราบเรียบ ราวกับมีอะไรกลิ้งตกลงไปเถาวัลย์ที่อยู่แถวนั้นก็เหมือนเคยถูกกระชากขนาดต้นหญ้าที่พื้นยังมีรอยเหมือนถูกดึงถอนขึ้นมาจนเห็นดินโคลนด้านล่าง
ลู่เป๋าเหยียนไม่คิดต่อให้มากความเขาสไลด์ตัวลงไปตามเนินนั้นทันที
ด้านล่างของเนินเป็ทางเดินค่อนข้างกว้างเขามองสำรวจไปรอบๆอย่างร้อนใจ หัวใจของเขาถูกบีบรัดจนเ็ปไปหมด
เขาหวังว่าจะได้พบูเี่อันแต่ก็กลัวว่าจะมาเจอเธอที่นี่
ถ้าตกลงมาจากเนินสูงขนาดนั้นเธอจะาเ็แค่ไหนเขาพอเดาออก
ลู่เป๋าเหยียนส่องไฟฉายไปทางซ้ายก่อนจะพบถ้ำขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลฝนที่เทลงมาทำให้น้ำขังตัวจนคล้ายบ่อน้ำขนาดย่อมูเี่อันกำลังนอนขดตัวอยู่ในนั้น เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยคราบโคลนกางเกงขาดแหว่งหลายที่ มีคราบเืปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
เธอนอนแน่นิ่งราวกับไร้ชีพจรเส้นผมที่เปียกชื้นแนบลู่อยู่บนใบหน้าและลำคอ ริมฝีปากไร้ซึ่งสีเื ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
“เจี่ยนอัน!”
เหมือนมีใครเอามีดมาแทงเข้าที่หัวใจลู่เป๋าเหยียนรีบพุ่งตัวเข้าไปอุ้มูเี่อันออกมา ตัวเธอเย็นเฉียบอย่างกับน้ำแข็ง
“เจี่ยนอัน”ลู่เป๋าเหยียนกอดเธอไว้แน่นพลางเรียกชื่อเธอไม่หยุด แต่เธอกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง
ลู่เป๋าเหยียนไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเขาถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นของเธอออก ก่อนจะสวมเสื้อนอกของตนเองให้กับเธอ ร่างกายเธอเย็นอย่างกับน้ำแข็งนิ้วมือของเธอเกร็งไปหมด
ลู่เป๋าเหยียนกุมมือูเี่อันเขาพยายามถ่ายทอดความอบอุ่นให้กับเธอแต่ก็ไม่ได้ผล จึงกอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ขอโทษนะ”ลู่เป๋าเหยียนจับผมที่เปียกชื้นของเธอไปทัดที่ข้างหู “เจี่ยนอัน ฉันขอโทษ”
“......”ูเี่อันที่อยู่ในอ้อมแขนของลู่เป๋าเหยียนยังคงไร้การตอบสนองถ้าไม่ใช่เพราะยังมีลมหายใจ ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว
ลู่เป๋าเหยียนคิดถึงภาพของเธอที่ผ่านมายามเธอโกรธเธอจะกลายร่างเป็ปีศาจน้อย แต่เวลาปกติกลับเหมือนลูกกวางที่ะโโลดเต้นอย่างร่าเริงด้วยพลังเต็มเปี่ยมขนาดเข้าไปเล่นเครื่องเล่นที่น่ากลัว เธอยังจูงมือเขาพลางเอ่ยอย่างใจกล้าว่า “เดี๋ยวฉันพานายหนีไปเอง”
ขณะเดียวกันหัวหน้าหลงและคนในทีมก็เดินตามหาูเี่อันมาถึงที่นี่เมื่อเห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังกอดใครบางคนอยู่พวกเขาก็โล่งใจได้เปราะหนึ่ง
“คุณลู่ครับคุณนายลู่เป็ยังไงบ้าง”
“เรียกรถพยาบาล”ลู่เป๋าเหยียนแบกูเี่อันขึ้นหลัง สีหน้าของเขากลับมาราบเรียบดังเดิม “หาคนนำทางลงจากเขาให้ผมด้วย”
มีคนเสนอตัวนำทางให้ลู่เป๋าเหยียนทันที
“ผมรู้ทางลัดอยู่ครับเร็วที่สุดคงสัก 45 นาทีจึงจะลงจากเขาได้”
ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยเสียงเข้ม“เร็วหน่อย”
หัวหน้าหลงแจ้งข่าวให้ทุกคนออกจากเขาวังหยางเองก็รีบตามมาสมทบกับลู่เป๋าเหยียน เขาเห็นูเี่อันที่อยู่บนหลังของลู่เป๋าเหยียนจึงก้าวฝีเท้าอย่างรวดเร็วคนที่เดินตามหลังถึงกับวิ่งเหยาะๆตามไปพลางหอบ แต่ลู่เป๋าเหยียนแค่ขมวดคิ้วมุ่นไม่แสดงสีหน้าใดๆ
วังหยางรู้ดีว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังเป็ห่วงูเี่อันมากแค่ไหนเพียงแต่เขาเป็คนไม่แสดงออกก็เท่านั้น
วังหยางเดินเข้าไปหาเ้านายก่อนจะทำท่าเหมือนจะช่วยอุ้มูเี่อัน
“ให้ผมช่วยไหมครับคุณจะได้พักสักนิด”
“ไม่ต้อง”ลู่เป๋าเหยียนตอบเสียงนิ่งโดยไม่หอบหายใจแม้แต่น้อย “เมื่อไหร่รถพยาบาลจะมาถึง”
“ตอนนี้รถพยาบาลรออยู่ที่ด้านล่างแล้วครับ”วังหยางรีบตอบทันควัน
ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้พูดอะไรอีกเขาแค่ก้าวเท้าไวขึ้นกว่าเดิม วังหยางยอมรับเลยว่าลู่เป๋าเหยียนแข็งแรงเกินคนธรรมดาจนเขาอดอุทานในใจไม่ได้
จะว่าไปก็ไม่แปลกลู่เป๋าเหยียนจะยอมให้คนอื่นแตะต้องูเี่อันได้ยังไงจริงไหม?
ทั้งที่คนนำทางบอกไว้ว่าอย่างเร็วที่สุดคงต้องใช้เวลา45นาที แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงในการลงจากเขาเขารีบส่งูเี่อันให้ทีมแพทย์เป็คนดูแลทันใดเดิมทีวังหยางอยากบอกให้ลู่เป๋าเหยียนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและพักผ่อนสักหน่อยแต่เขากลับขึ้นรถพยาบาลออกไปโดยไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น
รถพยาบาลสีขาวมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลทันที
ทีมแพทย์รีบตรวจร่างกายของูเี่อันอย่างเร่งด่วนเธอยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยไม่มีทีท่าจะฟื้น
เดิมทีเธอก็เป็คนผอมบางอยู่แล้วยิ่งตอนนี้อยู่ในชุดทหารตัวหลวมโคร่งทำให้ร่างบางยิ่งดูผอมเข้าไปใหญ่แขนเสื้อยาวจนคลุมมือเธอเอาไว้จนมิด ลู่เป๋าเหยียนกุมมือของเธอไว้พลางคิด
ว่าแล้วเขาจึงช่วยพับแขนเสื้อให้เธอก่อนจะเห็นรอยแผลทั้งลึกทั้งตื้นเต็มฝ่ามือเธอไปหมด
นี่คงเป็แผลที่ได้จากการพยายามคว้าอะไรไว้ตอนที่กลิ้งตกลงมาจากเนินลาดชันถึงเืจะหยุดไหลแล้ว แต่ปากแผลที่ถูกน้ำฝนกัดเซาะทำให้มันดูขาวซีด ฝ่ามือของเธอในตอนนี้ก็ดูไร้เรี่ยวแรง
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกสงสารและเป็ห่วงเธอจับใจความเ็ปแผ่ซ่านไปทุกอณูหัวใจของเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหาเื่ทะเลาะกับเธอเธอคงไม่โกรธจนหนีมาทำงานที่นี่และได้รับาเ็แบบนี้
“คุณลู่คะ”เสียงคุณหมอดังขึ้นเรียกสติชายที่กำลังคิดกล่าวโทษตัวเองตรงหน้า
“ดิฉันขอทำแผลที่มือของคุณนายลู่หน่อยนะคะ”
ลู่เป๋าเหยียนเห็นถาดที่อยู่ในมือหมอแล้วจึงเอ่ยว่า“เดี๋ยวผมทำเอง”
ตอนแรกคุณหมอก็ดูไม่วางใจแต่เมื่อเห็นลู่เป๋าเหยียนทำการฆ่าเชื้อได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้คนอาชีพเดียวกัน เธอจึงปล่อยให้ลู่เป๋าเหยียนเป็คนทำแผลต่อ
ภาพตรงหน้าทำให้เธอรับรู้ได้ว่าชายตรงหน้ารักภรรยาของเขามากแค่ไหน
“ภรรยาของคุณคงมีความสุขมาก”แพทย์หญิงกล่าว
มือที่กำลังฆ่าเชื้อของลู่เป๋าเหยียนหยุดชะงักไปชั่วขณะเขามองหน้าูเี่อันพลางคิด
ครึ่งปีที่แต่งงานกันมาูเี่อันอาจจะไม่เคยมีความสุขจริงๆสักครั้งเลยก็ได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้
