แม้จะอยู่ในยามค่ำคืน แต่สำหรับคนของกองทัพพวกเขาถูกกำหนดให้ปฏิบัติหน้าที่ คืนนี้พวกเขาไม่อาจหลับใหลได้
หญิงสาวคนนั้นโบยบินบนท้องฟ้าเหนือน่านน้ำทะเลตะวันออก เธอปรากฏตัวก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ่ที่หน่วยของหนิวเหมิ่งปิดล้อมใต้น้ำ เย่เฟิงทำให้หญิงสาวคนนั้นลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วจากนั้นพวกเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับเทเลพอร์ตไป
จากภาพที่ถ่ายไว้ได้ กัปตันเรือพิฆาตกับหนิวเหมิ่งต่างยืนยันว่า หญิงสาวที่โบยบินบนฟ้ากับหญิงสาวที่ถูกแช่แข็งคือคนเดียวกัน
เื่นี้มีเพียงคนจำนวนไม่มากที่ได้เห็นกับตา เ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจึงตัดสินใจเก็บเป็ความลับ ดังนั้นข้อมูลของหญิงสาวคนนี้จึงถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติบันทึกไว้ในหมวดข้อมูลลับสุดยอดไปโดยปริยาย
โชคดีที่พวกเขาไม่เปิดเผยเื่นี้แก่คนของกองทัพ ด้วยวินัยที่เข้มงวดของคนในหน่วยงาน มันเป็ไปได้น้อยมากที่ข้อมูลนี้จะรั่วไหล แต่ต่อให้มีคนรู้เื่นี้เข้า พวกเขาก็คงไม่เชื่อว่ามันเป็ความจริงอยู่ดี
ค่ำคืนนี้ เรือพิฆาตพร้อมเรือคุ้มกันอีกสามลำ ต่างสำรวจด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัยไปทั่วเกาะ แม้จะใช้ดาวเทียมช่วยค้นหาแล้ว พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็มั่นใจว่าหญิงสาวที่บินได้คนนั้นต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่แน่ แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่พบตัวเสียที
ด้วยเหตุนี้ ภารกิจของหนิวเหมิ่งจึงล้มเหลวไปโดยปริยาย ไม่เพียงไม่สามารถสังหารเย่เฟิงได้ แต่ยังไม่ได้ร่างของเทพธิดา รวมถึงผลึกน้ำแข็งพันปีที่เป็สุดยอดสมบัติ์มา จุดประสงค์ของภารกิจนี้ทั้งหมด ไม่มีสิ่งใดเลยที่ประสบความสำเร็จ
ส่วนเื่ที่สามารถจับตัวสวีเซียวหยู่ไว้ได้ ช่างน่าเสียดายที่ชายชราคนนี้ไม่รู้เกี่ยวกับคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสองคนที่ถูกสังหาร ตามกฎแล้ว หนิวเหมิ่งทำได้เพียงสอบปากคำชายชราผู้โชคร้ายคนนี้อย่างเข้มงวดเท่านั้น
ความจริงแล้ว ซูเฟยหยิ่ง เย่เฟิง และหลงหว่านเอ๋อร์ ต่างซ่อนตัวอยู่ในเกาะแห่งนี้จริง แต่ซูเฟยหยิ่งนำหินหลากสีห้าก้อนจากแหวนมิติวางไว้รอบเกาะจนเกิดเป็เขตลวงเบญจธาตุซึ่งเป็เขตอำพรางขนาดใหญ่ เป็เหตุให้คนของกองทัพไม่อาจหาตัวพวกเขาพบ
ขณะที่อยู่ในเขตอำพรางนี้ ซูเฟยหยิ่งสามารถเห็นเหตุการณ์โดยรอบได้ และสามารถควบคุมผู้ที่เข้ามาในเขตอำพรางแห่งนี้ ให้พวกเขาเห็นทัศนียภาพต่างๆ ได้ตามที่เธอ้า ต่อให้หญิงสาวไปยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย พวกเขาก็ไม่อาจเห็นร่างของเธอได้แม้แต่นิดเดียว
ผู้ที่สามารถต่อต้านเขตลวงเบญจธาตุนี้ได้มีแต่ผู้มีระดับวรยุทธ์สูงกว่าเธอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครในโลกนี้สามารถทำได้
เกาะนี้เป็หนึ่งในหกเกาะร้างในแถบนี้ มันมีถ้ำปรากฏอยู่มากมาย สามารถให้ผู้คนอาศัยได้ ซูเฟยหยิ่งสามารถอยู่กลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหา แต่เพราะ้าพักฟื้น การหาที่ร่มเพื่อหลบแดดหลบฝนจึงเหมาะสมกว่า เมื่อพบถ้ำแห่งหนึ่งที่ระบายอากาศได้ดี ซูเฟยหยิ่งก็ตัดสินใจพักฟื้นในถ้ำแห่งนี้
ในตัวถ้ำมีทางเข้าออกสองทาง มันสามารถเห็นน้ำทะเลนอกเกาะ และััได้ถึงลมทะเลที่สดชื่นและน่ารื่นรมย์ นอกจากนี้ยังมีต้นหญ้าขึ้นประปราย เหมาะสำหรับใช้รองนั่ง
“หว่านเอ๋อร์นั่งพักไปก่อนนะ อาจารย์มีเื่จะคุยกับเฟิงเอ๋อร์หน่อย”
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ซูเฟยหยิ่งกล่าวกับหลงหว่านเอ๋อร์ และพาเย่เฟิงเดินออกไปนอกถ้ำ เมื่อเป็แบบนี้ หลงหว่านเอ๋อร์จึงเริ่มดูดซับสมบัติ์อยู่ในถ้ำ ขณะที่ซูเฟยหยิ่งพาเย่เฟิงออกไปข้างนอกเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เวลานี้ เย่เฟิงเล่าเื่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดั้แ่ตัวเองเกิดใหม่ในเมืองเยี่ยนจิง
“ดูเหมือนฉันกับนายจะข้ามมาที่โลกนี้ไม่เหมือนกันสินะ” ซูเฟยหยิ่งยืนอย่างสง่างามอยู่ริมชายหาด กระโปรงยาวพลิ้วไหวตามสายลม คิ้วเรียวงามขมวดเล็กน้อย “ฉันและราชันย์หั่วยวินเยาข้ามมาโลกนี้จากอาณาเขตเคลื่อนย้าย แต่เพราะเธอมีระดับวรยุทธ์ไม่สูงพอ ร่างจริงของเธอจึงรับแรงกดดันตอนเคลื่อนย้ายไม่ไหวและตายอยู่ที่โลกเทวะแล้ว”
หญิงสาวอธิบายสาเหตุที่เขาข้ามมาโลกนี้ มันเป็เพราะว่าในเวลาที่เย่เฟิงตาย แหวนกระบี่ัโบราณคุ้มครองิญญาของเขาไว้ จากนั้นส่งเขามายังโลกนี้ และเข้าไปอยู่ในร่างของเย่เฟิงคนเดิมที่เพิ่งเสียชีวิต
“ราชันย์หั่วยวินเยาก็ข้ามมาโลกนี้เหมือนกันเหรอครับ?”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินคำพูดของซูเฟยหยิ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที คนคนนั้นก็เหมือนกับซูเฟยหยิ่ง เป็ผู้มีพลังบ่มเพาะหนึ่งร้อยปี หากเป็แบบนั้น โลกนี้คงเกิดความวุ่นวายใหญ่หลวงแน่
“ถูกต้อง” ใบหน้าเ็าของซูเฟยหยิ่งดูจริงจังขึ้น “แต่าแของมันสาหัสกว่าของฉันมาก คงต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนาน ตอนนี้เธอมีแหวนกระบี่ัโบราณอยู่กับตัวแล้ว ควรรีบเพิ่มระดับวรยุทธ์ จากนั้นพวกเราจะไปสังหารมันด้วยกัน”
“ครับ” เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับทันที
“อีกเื่หนึ่ง เข็มทิศดวงดาวของฉันตรวจพบสมบัติสามชิ้นที่ถูกส่งมายังโลกนี้ด้วย”
ซูเฟยหยิ่งชูมือขึ้นมา จากนั้นหยิบเข็มทิศดาราในแหวนมิติออกมา
“นี่มัน ทีู่เาฉางไป๋ชิ้นหนึ่ง แล้วก็แถบทะเลตะวันออกอีกชิ้นหนึ่ง?”
เย่เฟิงพยักหน้าพลางขมวดคิ้ว
“ูเาฉางไป๋? หมายถึงชื่อของถ้ำนั้นสินะ อาจารย์ไปเอาสมบัติที่นั่นมาแล้ว”
ซูเฟยหยิ่งไม่รู้ว่าถ้ำแห่งนั้นชื่อว่าอะไร แต่เธอรู้ว่าที่นี่เรียกว่าแถบทะเลตะวันออก
สำหรับการมาทะเลตะวันออกแห่งนี้ ไม่ต้องพูดอะไรเย่เฟิงก็พอเดาได้ ซูเฟยหยิ่งไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาน้ำแข็งพันปี แต่เธอมาตามทิศทางของเข็มทิศดวงดาว เพื่อตามหาสมบัติที่ถูกส่งมายังโลกนี้ แต่โชคไม่ดีที่หญิงสาวไปััชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีเข้า จึงถูกมันแช่แข็ง
“สมบัติชิ้นสุดท้าย อยู่ในรัศมีห้าพันกิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ” ซูเฟยหยิ่งมองไปยังสถานที่อันห่างไกล เรือนผมยาวสลวยของเธอพลิ้วตามสายลม หญิงสาวถอดแหวนมิติแล้วส่งมันให้เย่เฟิง “เก็บไว้ เดี๋ยวเธอดูดซับพลังฟ้าดินจากน้ำแข็งพันปีเสร็จเมื่อไร พวกเราจะไปตรวจสอบที่นั่นกัน”
ซูเฟยหยิ่ง้าไปสำรวจที่นั่น เมื่อเย่เฟิงดูดซับพลังฟ้าดินจากน้ำแข็งพันปีจนมีพลังบ่มเพาะยี่สิบห้าปีแล้ว การไปสำรวจที่นั่นก็คงไม่มีอะไรน่าเป็ห่วง
อย่างไรก็ตาม
“อาจารย์ ผมดูดซับกลิ่นอายของน้ำแข็งพันปีไปแล้ว” เย่เฟิงคิดถึงก่อนหน้านี้ ที่ตนยอมโยนแตงโมทิ้งไปเพื่อเก็บเมล็ดงา นอกจากนี้ยังมีเื่อื่นที่น่ากังวลอีก “ตอนนี้ตัวตนของผมถูกเปิดเผยแล้ว ผมกำลังถูกคนในยุทธจักรตามล่าอยู่”
“อืม เื่นี้จัดการไม่ยาก”
ดวงตาของซูเฟยหยิ่งเปล่งประกายเย็นเยียบ คิดจะรังแกลูกศิษย์ของฉันงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!