บทที่ 157 ตบคุณนั่นแหละ
ลู่หวยเฟิงไปตามหาเริ่นอิ๋งอิ๋งที่บ้านคนสนิทหลายแห่งแต่ไม่เจอ เขากำลังกังวล ทันใดนั้นมีคนบอกว่าเห็นเธอเดินไปทางริมแม่น้ำ
ลู่หวยเฟิงใ ในใจรู้สึกเสียใจที่เช้านี้ไม่น่าทะเลาะกับเธอ
หลายปีมานี้เพราะไม่มีลูก ทั้งคู่เผชิญแรงกดดันมาก เขาเป็ผู้ชายจึงไม่เป็ไร แต่เริ่นอิ๋งอิ๋งต่างออกไป
แม้จะไม่ค่อยกลับหมู่บ้าน แต่ที่ไหนมีคน ที่นั่นก็มีเื่
ครูในโรงเรียนรักษาหน้าตา แต่ลับหลังซุบซิบนินทา แม้แต่เด็กบางคนยังมาถามว่าเธอมีลูกได้ไหม? เมื่อไหร่จะมี?
เพราะรู้เื่นี้ ลู่หวยเฟิงเลยตามใจเริ่นอิ๋งอิ๋งมาโดยตลอด
เธอเป็คนที่เขาหลงรักแต่งงานมา แน่นอนว่าต้องปกป้องและทะนุถนอม
ก่อนหน้านี้เริ่นอิ๋งอิ๋งเคยร้องไห้โวยวาย ขู่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็แค่ทำท่าในบ้านเล็กๆ ของพวกเขาเพื่อขู่เท่านั้น
แต่ครั้งนี้ไปถึงริมแม่น้ำจริงๆ?
ลู่หวยเฟิงกลัวสุดขีด
ยังไม่ทันถึงริมน้ำ เขาก็ได้ยินคนะโ “ะโน้ำแล้ว มีคนะโน้ำ ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
ลู่หวยเฟิงไม่ทันคิดอะไร วิ่งไปถอดเสื้อนอกไป ตรงไปที่ต้นเสียง
ตูม! เขาะโลงน้ำตามไป
สวี่จือจือมาถึง ลู่หวยเฟิงวางเริ่นอิ๋งอิ๋งบนเตียงแล้ว “อาสาม หนูเรียนวิธีปฐมพยาบาลจากคุณหมอของจิ่งซานมา หนูขอตรวจหน่อยนะคะ”
มีคนไปเรียกหมอจางแล้ว
“เมื่อกี้ที่ฝั่งฉันทำให้หล่อนสำลักออกมาบ้างแล้วนะ” ลู่หวยเฟิงพูด เสียงยังคงสั่น “แต่ทำไมยังไม่ฟื้นอีก? หรือน้ำยังออกไม่หมด?”
“หนูจะดูให้ค่ะ” สวี่จือจือพูด แล้วเดินไปตรวจเริ่นอิ๋งอิ๋งเบื้องต้น
การช่วยคนจมน้ำ เธอเคยเรียนสมัยอยู่มหาวิทยาลัย
‘เพียะ!’
สวี่จือจือชะงัก
ลู่หวยเฟิงและลู่ซือหยวนที่ยืนข้างเตียงก็ชะงัก
เริ่นอิ๋งอิ๋งจ้องสวี่จือจืออย่างโกรธเคือง “เธอจะทำอะไร?”
ผู้หญิงคนนี้ต้องฉวยโอกาสที่เธอสลบ แล้วทำร้ายเพื่อแก้แค้นแน่!
เธอว่าแล้ว ั้แ่เมื่อวานสวี่จือจือกลับมา ท่าทีที่มีต่อเธอกับคนอื่นไม่มีอะไรต่างกัน จะเป็ไปได้ยังไง?
เว้นแต่สวี่จือจือความจำเสื่อม ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะลืมได้ยังไงว่าเธอหลอกไปป่าเล็กจนถูกจับตัว?
ในใจเริ่นอิ๋งอิ๋งเชื่อว่าเมื่อวานที่สวี่จือจือเงียบ เพราะรอเล่นงานใหญ่
เธอลืมตาขึ้น คิดว่าสวี่จือจือจะทำร้ายเธอแน่ จึงยกมือตบไปทันที
สวี่จือจือกำลังปฐมพยาบาล ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะฟื้น แถมยังตบเธอ
โชคดีเธอไว ใช้มือกันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมือของเริ่นอิ๋งอิ๋งก็ตบเข้าที่แขนเธอ
เสียง ‘เพียะ!’ ดังลั่น
สวี่จือจือขมวดคิ้ว
ถ้าไม่ใช่คนตระกูลลู่ ถ้าไม่ใช่ชีวิตที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่มีทางช่วยคนที่เคยทำร้ายเธอแน่
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเธอถูกตบด้วย ตบที่แขนก็ไม่ได้
‘เพียะ!’ อีกครั้ง
ตามด้วยเสียงกรีดร้องของเริ่นอิ๋งอิ๋ง “อ๊า…นังแพศยาสวี่จือจือ แกกล้าตบฉัน!”
“ตบคุณนั่นแหละ” สวี่จือจือพูดอย่างเ็า
“ฉันจะสู้กับแก!” เริ่นอิ๋งอิ๋งกรีดร้อง มือพุ่งไปหมายจะข่วนสวี่จือจือ แต่ถูกคนรวบไว้
“ลู่หวยเฟิง ปล่อยฉัน!” เริ่นอิ๋งอิ๋งร้องห่มร้องไห้ดิ้นรน
“อิ๋งอิ๋ง สงบสติอารมณ์หน่อย” ลู่หวยเฟิงกอดเธอไว้แน่น “จือจือแค่จะช่วยเธอ”
“ช่วยฉัน?” เริ่นอิ๋งอิ๋งพูดเสียงแหลม “หล่อนจะใจดีขนาดนั้นเหรอ?”
คนที่อยากให้เธอตาย จะช่วยเธอด้วยจิตใจดี?
“เริ่นอิ๋งอิ๋ง เธอกำลังโวยวายอะไร?” ลู่หวยเฟิงะโ
ในห้องเงียบไปชั่วขณะ
เริ่นอิ๋งอิ๋งตาเบิกกว้าง ไม่เชื่อหู แล้วมองลู่หวยเฟิง “พี่ตะคอกฉัน? ลู่หวยเฟิง พี่ถูกนังจิ้งจอกนี่หลอกจนสับสนแล้วเหรอ? ฉันต่างหากที่เป็เมียพี่”
“ฉันว่าเธอเป็บ้าไปแล้ว” ลู่หวยเฟิงลดเสียงลง “กำลังพูดบ้าอะไรอยู่?”
ถูกนังจิ้งจอกหลอก?
สวี่จือจือเป็ใคร? เป็หลานสะใภ้ของเขา!
“ปล่อยฉัน” เริ่นอิ๋งอิ๋งร้องไห้ ข่วนมือไปมา “ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”
ฉึก!
ใบหน้าของลู่หวยเฟิงถูกข่วน เป็รอยเล็บน่ากลัว
“โหวกเหวกโวยวายอะไร?” หญิงชราไม่รู้มาั้แ่เมื่อไหร่ เธอมองเริ่นอิ๋งอิ๋งที่ดิ้นอยู่บนเตียงอย่างเ็า “โวยวายจะเป็จะตาย อยากจะเอายังไง?”
“คุณแม่” เริ่นอิ๋งอิ๋งร้องไห้น้อยใจ “ฉันรู้ว่าคุณแม่ไม่ชอบฉัน แต่จะปล่อยให้เด็กทำร้ายผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง?”
“ถึงฉันจะไม่มีบ้านเดิม ไม่มีหน้าตา แต่จะให้หล่อนมาทำร้ายไม่ได้”
“อาสะใภ้สามอนุญาตให้เ้าหน้าที่จุดไฟ แต่ห้ามชาวบ้านจุดตะเกียงเหรอคะ?” สวี่จือจือเยาะเย้ย “อะไรกัน? คุณตบฉันได้ แต่ฉันตบคุณไม่ได้เหรอ?”
“ถ้าอาสะใภ้สามรู้สึกน้อยใจ งั้นพวกเราเอาเื่เก่ามาคุยกันให้ชัดๆ เถอะค่ะ” สวี่จือจือมองเริ่นอิ๋งอิ๋งอย่างเฉยเมย
เป็อย่างที่คิด พอเธอพูด เริ่นอิ๋งอิ๋งก็หลบตา
“ฉัน…ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร เื่เก่าอะไร?” เริ่นอิ๋งอิ๋งก้มหน้า “พวกเธอรังแกฉันที่ไม่มีพ่อแม่…รังแกฉันที่ไม่มี…”
“สะใภ้สาม” คุณนายลู่ช้อนตาขึ้น มองอีกฝ่ายอย่างเฉยเมย “ฉันยังไม่ตายนะ”
“ยังไงก็รังแกฉันที่ไม่มีบ้านเดิม” เริ่นอิ๋งอิ๋งเถียงคอเป็เอ็น “ว่ายังไง? อยากคุยอะไร? พูดมาเลย ฉันไม่กลัวหรอก”
“ฉันว่าเธอเป็บ้าไปแล้ว” ลู่หวยเฟิงโมโห “ใครในบ้านที่รังแกเธอกัน?”
พูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?
“เหอะๆ” สวี่จือจือยิ้มบาง “งั้นฉันถามบ้าง วันนั้นตอนฉันนอน คุณหลอกฉันออกไป บอกว่าเกาจิงจิงจากศูนย์พักยุวปัญญาชนเรียกหาฉันที่ป่าเล็ก นั่นเพื่ออะไร?”
“ฉันแต่งเข้ามาในตระกูลลู่ ไม่เคยทำอะไรผิดต่ออาสะใภ้สามเลยนะ”
ทั้งคู่พักที่โรงเรียนประจำประชาคม แทบไม่กลับมาบ้าน
ั้แ่แต่งเข้ามา ก็พูดกันแค่ไม่กี่คำ
“เธอมันหน้าไม่อายเอง จะโทษคนอื่นเหรอ?” เริ่นอิ๋งอิ๋งดูถูกดูแคลน “พวกคุณอย่าถูกหล่อนหลอก หล่อนมันนังแพศยาไม่รักนวลสงวนตัว ฉันหลอกเธอเหรอ? เธอตกลงเอง ฉันจะต้องหลอกเธอทำไม?”
“ถ้าตกลงกันแล้ว ทำไมคุณถึงต้องหลอกว่าเป็เกาจิงจิง?” สวี่จือจือถาม “ถ้าฉันตกลงกับคนอื่น ทำไมต้องให้คุณรู้ด้วย? พวกเราแค่นัดวันเวลาและสถานที่ก็จบ จะให้คุณมาบอก แล้วทิ้งหลักฐานให้คุณจับผิดทำไม?”
เริ่นอิ๋งอิ๋งชะงัก
“โง่ก็แล้วไปเถอะ แต่โง่แล้วยังมั่นใจขนาดนี้ ฉันเพิ่งจะเคยเห็น”
“ทำไม?” เธอเชิดหน้ามองเริ่นอิ๋งอิ๋งอย่างเฉยเมย “ั้แ่เด็กคุณไม่มีพ่อแม่ ตอนนี้คุณไม่มีบ้านเดิม คุณก็เลยถูกทุกอย่าง ส่วนพวกเราที่มีพ่อแม่และบ้านเดิมคือบาป?”
“นี่คือเหตุผลที่คุณทำผิดแล้วยังมั่นใจอย่างนั้นเหรอ?”
.............................