ทายา?
ชายผู้นี้มีเจตนาดีขนาดนั้นเชียวหรือ? เขามีเจตนาที่ไม่ดีเป็แน่!
ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของกูเฟยเยี่ยนก็คือ การซ่อนมือทั้งสองข้างไปไว้ด้านหลังพลางยิ้มหยัน “ไม่อาจได้! ”
แต่จวินจิ่วเฉินกลับตอบว่า “ก็จริง เช่นนั้นก็เรียกหญิงรับใช้เข้ามา”
กูเฟยเยี่ยนร้อนรนในทันที “เ้า้าจะทำอะไรกันแน่? ”
หากเรียกหญิงรับใช้เข้ามา นางจะอธิบายว่าขวดยาพวกนี้มาจากที่ใดได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้กำลังข่มขู่นาง!
จวินจิ่วเฉินยังคงไม่ตอบนาง เขายังคงถนอมคำพูดดั่งทองคำเอาไว้ “มือ”
กูเฟยเยี่ยนทำหน้าบูดบึ้ง ไม่ขยับเขยื้อน
ในที่สุดจวินจิ่วเฉินก็ก้มหน้าลงมา สายตาเ็าคู่นั้นเหมือนกับกำลังตักเตือนว่าอย่าให้เขาได้พูดอีกเป็ครั้งที่สาม กูเฟยเยี่ยนโมโหจนกัดริมฝีปากแล้วสบตาจ้องมองไปทางเขา ใบหน้าเล็กดูดุดันไม่น่ามองเป็อย่างยิ่ง นางไม่ยินยอมที่จะยื่นมือออกไป ตอนนี้ขาดเพียงแค่การกลอกตามองบนใส่เขาแล้ว
เหล่าหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าจวินจิ่วเฉินล้วนสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงในการคิดแต่งองค์ทรงเครื่อง ออดอ้อนยั่วยวนและพยายามแสดงเสน่ห์อันสมบูรณ์แบบออกมา แต่สำหรับ “ใบหน้าทะเล้น” แบบกูเฟยเยี่ยน เขาเพิ่งจะเคยพบเจอเป็ครั้งแรก
มุมปากตึงเครียดมาทั้งวันของเขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ โชคดีมากที่เขาอดกลั้นไว้อยู่
ร่างสูงแสร้งทำเป็มองไม่เห็น ก้มหน้าก้มตาคว้าไปที่ข้อมือของกูเฟยเยี่ยน
ทันทีที่ถูกคว้ากูเฟยเยี่ยนก็เกิดอาการประหม่าพลันเกร็งร่างกายโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกประหม่าเช่นนี้ไม่ได้เป็เพราะถูกชายหนุ่มจับไปที่ข้อมือ แต่เป็เพราะหวาดกลัว! กลัวว่าชายผู้นี้จะมีเจตนาร้าย้าทำให้นางเจ็บ
เดิมทีจวินจิ่วเฉินยังคงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่ทันทีที่เขาตั้งใจตรวจสอบร่องรอยเขียวช้ำหนักหน่วงบนนิ้วมือของกูเฟยเยี่ยน มุมปากของเขาก็ค่อยๆ บูดบึ้ง
่เวลาก่อนหน้านั้นอยากจะหัวเราะ ่เวลาในตอนนี้ไม่พอใจเป็อย่างมาก ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเขาจะมีส่วนพัวพันกับหญิงสาวผู้นี้ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ตระหนักถึงเลย
เขานำขวดยาขึ้นมา ทว่าดูเหมือนจะลังเลไม่กล้าที่จะลงมือทา กูเฟยเยี่ยนจะไปทราบได้อย่างไรว่าจิตใจของเขาเกิดการแปรปรวน นางประหม่าจนต้องจ้องมองไปที่ฝ่ามือของเขา เดิมทีก็หวาดกลัวว่าเขาจะรุนแรงอยู่แล้ว ยิ่งเห็นเขาชักช้าไม่ลงมือเสียที นางยิ่งสงสัยว่าเขากำลังรวบรวมเรี่ยวแรงที่จะลงมือกับนาง
ท้ายที่สุดหญิงสาวจึงเลือกที่จะหลับตาลง ทว่าเพียงครู่เดียวนิ้วที่มีความระบมก็ััได้ถึงความรู้สึกเย็นชุ่มชื้นที่มีความเ็ปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นางรีบลืมตาขึ้นมาจึงพบว่าการกระทำของจวินจิ่วเฉินเบามากจนสามารถเรียกได้ว่าอ่อนโยนละมุนละไม เขาใช้เพียงแค่นิ้วเดียวเเตะลงไปบนยาแล้วทาไปทั่วาแของนางด้วยความระมัดระวัง กระทำอย่างช้าๆ เบาๆ หมุนทาไปรอบๆ
ไม่ใช่ไม่เจ็บ ทว่าสำหรับอาการาเ็หนักขนาดนี้แล้วนับได้ว่าไม่เจ็บเลย
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว! สิ่งแรกที่คิดได้คือ…ชายผู้นี้เปลี่ยนไปแล้วหรือ? นางแอบเงยหน้าชำเลืองมองไปทางเขาแต่พบว่าดวงตาภายใต้หน้ากากเงินของเขามีความจดจ่อเป็พิเศษราวกับ…ราวกับมีความอ่อนโยนอยู่สามส่วน
ก้อนน้ำแข็งมีด้านที่อ่อนโยนด้วยหรือ?
เช่นนั้นควรละลายแล้วถูกไหม?
ไม่ช้ากูเฟยเยี่ยนก็รู้สึกว่าตนเองคิดมากไป เมื่อนิ้วมือปราศจากความเ็ป นางจึงผ่อนคลายลง หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ก็เริ่มหยั่งเชิง “นี่ เ้าไม่ได้สำนึกได้แล้วมาแสดงความรู้สึกเสียใจต่อข้าอยู่ใช่หรือไม่? ”
จวินจิ่วเฉินเงียบไม่พูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนถามอีกครั้ง “เ้าเป็ผู้จับอู๋กงกงใช่หรือไม่? เ้าหน้าซื่อใจเหี้ยมจริงๆ ! เ้ายังค้นพบความลับอะไรอีก? ”
จวินจิ่วเฉินเงียบต่อไป
กูเฟยเยี่ยนจึงซักถามอีกครั้ง “เกิดอะไรขึ้นกับห่อยาของอู๋กงกง? เป็ของเขา…หรือเ้าโยนความผิดไปให้? ”
จวินจิ่วเฉินยังคงเงียบเฉย
กูเฟยเยี่ยนถามต่อไปอีก “เ้าสืบจนรู้ว่าจิ้งจอกเฒ่าเป็ใครแล้วหรือไม่? การที่เ้าจับอู๋กงกงมาไม่กลัวว่าจะเป็การแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ? ”
จวินจิ่วเฉินก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
กูเฟยเยี่ยนถามอีก “ในมือของเ้ายังมีไพ่ตายอีกหรือไม่? สิ่งที่เ้าทำก็ไม่ใช่เื่ที่คนอื่นรับรู้ไม่ได้ เหตุใดจึงต้องปกปิดตัวตนเอาไว้? หรือว่า…เ้าเคยทำเื่เลวร้ายไว้แล้วกลัวคนรู้? ”
……
กูเฟยเยี่ยนถามไปเรื่อยๆ ถามไม่หยุด ทว่าจวินจิ่วเฉินทำราวกับไม่ได้ยินเสียง เขายังคงก้มหน้าจดจ่อทายาทีละนิ้วๆ บนาแของนางด้วยความประณีตและนุ่มนวล
เมื่อนิ้วมือทั้งสิบถูกทายาครบเรียบร้อย เขาจึงคัดเลือกผ้าพันแผลด้านข้างที่สามารถใช้งานต่อได้มาห่อไว้ที่มือของกูเฟยเยี่ยนด้วยความระมัดระวังเพื่อจะได้ไม่ทำให้นางเจ็บ
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมาก ต้องทราบว่าในบางครั้งแม้กระทั่งท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวก็ไม่อาจทนนางพูดจาไม่หยุดได้ ชายผู้นี้กลับทนได้เสียอย่างนั้น?
กูเฟยเยี่ยนไม่เชื่อและกำลังจะหยั่งเชิงต่อไป แต่ใครจะไปทราบว่าจวินจิ่วเฉินจะโน้มกายมายกเท้าของนางโดยไม่มีลางบอกเหตุ เขานำขาของนางไปวางไว้บนขาของเขา!
คำพูดของกูเฟยเยี่ยนที่มาถึงปาก ถึงกับต้องหยุดตัวลงอย่างฉับพลัน นางใมาก!
นับั้แ่ที่จวินจิ่วเฉินบอกว่าจะช่วยนางทายา นางก็สนใจแค่ความเ็ปและไม่ได้ตระหนักว่าเท้าของตนเองก็ต้องทายาเช่นกัน ในตอนนี้นางเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถให้ผู้ชายมาแตะต้องเท้าของนางได้!
“ไม่นะ! ”
กูเฟยเยี่ยนกำลังจะหดเท้าเข้ามา แต่จวินจิ่วเฉินกลับบีบข้อเท้าของนางไว้พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็าไม่พอใจ “อย่าขยับ! ”
เสียงของกูเฟยเยี่ยนเ็ากว่าเขาเสียอีก “ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน เ้าไม่ได้้าจะช่วยข้าจริงๆ เ้ามันอันธพาลรังแกคนอื่น! ”
จวินจิ่วเฉินตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยมือออกจริงๆ
กูเฟยเยี่ยนรีบร้อนจะหดเท้าเข้ามา ทว่าจวินจิ่วเฉินคว้าข้อเท้าของนางมากดเอาไว้อย่างรวดเร็ว เสียงของเขาเ็าดุจน้ำแข็ง คลับคล้ายกับคำสั่ง “ไม่มีเวลาให้เ้าชักช้า รีบรักษามือและเท้าให้ดี ยังมียาสมุนไพรที่จำเป็ต้องให้เ้าไปตรวจสอบอยู่อีก”
กูเฟยเยี่ยนทราบดีว่าชายผู้นี้ไม่ได้ใจดีช่วยนางโดยไม่คิดค่าตอบแทน!
นางเอ่ยน้ำเสียงเ็า “เ้าไม่จำเป็ต้องกังวล เื่นี้ข้าไม่ได้ช่วยเ้า ข้าช่วยจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ข้าจะพยายามหายโดยไว! เ้ารีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ปล่อย
กูเฟยเยี่ยนใช้แรงดิ้นรนทว่าจวินจิ่วเฉินก็จับแน่นขึ้นอีก กูเฟยเยี่ยนจึงเพิ่มแรงมากขึ้นอีก “ปล่อยนะ นายอันธพาล หากเ้าไม่ปล่อยข้าจะเรียกคนมาแล้วนะ! ”
จวินจิ่วเฉินไม่เอ่ยอะไรสักคำ ท้ายที่สุดเขาก็นำส้นเท้าของนางมากุมเอาไว้บนฝ่ามือเพื่อให้ขาของนางไม่อาจออกแรงขยับเคลื่อนไหวได้ แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะะโอยู่ตลอดเวลาทว่าก็ไม่ได้เสียงดังนัก อีกทั้งไม่กล้าเรียกคนมาจริงๆ ด้วย สุดท้ายนางจึงทำได้เพียงเบือนหน้าไปทางอื่น!
หญิงสาวแอบให้คำมั่นสัญญาในใจว่านางจักต้องคิดหาวิธีทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยรับรู้ถึงการมีอยู่ของชายผู้นี้ให้ได้!
เมื่อเปรียบเทียบกับจิ้งจอกเฒ่าที่โยนความผิดมาให้นางหลายครั้ง ชายผู้นี้น่ารังเกียจกว่าร้อยเท่า!
จวินจิ่วเฉินไม่สนใจอารมณ์ของกูเฟยเยี่ยน เขานิ่งเงียบเหมือนเมื่อสักครู่นี้ สายตาสังเกตไปที่าแบนนิ้วเท้า เพียงแต่ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนสักครู่นี้คือในครั้งนี้เขาเหม่อมอง ทว่าสายตากลับค่อยๆ เลื่อนมองขึ้นไปอย่างควบคุมไม่ได้
เขาพบว่าเท้าดั่งดอกบัวของกูเฟยเยี่ยนเล็กและสวย ขาวเปล่งปลั่งงดงามนัก
ความสนใจของเขาค่อยๆ ตกไปอยู่บนมือโดยไม่รู้ตัว ในขณะนี้ ส้นเท้าของนางวางอยู่บนฝ่ามืออ่อนโยนและละเอียดอ่อนของเขา
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นเท้าของสตรีและเป็ครั้งแรกที่ได้ัั
หลังจากที่บีบบังคับแล้ว ภายในใจก็มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมาโดยที่มิอาจอธิบายได้อย่างชัดเจน
เขาลังเลแต่สุดท้ายก็ทายาต่อไป
ช่องว่างระหว่างนิ้วเท้าเล็กกว่านิ้วมือ ทันทีที่นิ้วของเขาเข้าไปถึงกูเฟยเยี่ยนก็เกิดความเ็ป ในตอนแรกกูเฟยเยี่ยนลอบกัดฟันเอาไว้ อดทนอยู่อย่างเงียบๆ แต่จากนั้นก็ทนไม่ไหวจนเกิดอาการสั่นเทา
จวินจิ่วเฉินจึงได้เอ่ยปากพูดออกมา “เ้าอย่าขยับ ข้าจะทำเบาๆ ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ตอบอะไร
จวินจิ่วเฉินปล่อยส้นเท้าของนางพลางใช้มือข้างหนึ่งแยกร่องเท้าของนางเอาไว้เบาๆ มืออีกข้างหนึ่งคอยทายาให้ กูเฟยเยี่ยนหันหน้ากลับมามองและจับพลัดจับผลูไม่กล้ากระดุกกระดิก นางกัดริมฝีปากล่างโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ของนางตอนนี้นั้นโกรธเจ็ดส่วนอายสามส่วน…