เมื่อครู่ชางหยางวิ่งไปหาหูเหวินหลงเป็การหักหลังเฮยจีโดยที่ทุกคนเห็นกันหมด ตอนนี้พวกเขาก็อดมองไปที่ชางหยางแล้วส่ายหน้าไม่ได้
เขาล่วงเกินิอวี่ หาเื่ใส่ตัวแท้ๆ
“ท่านจอมยุทธ์ ... อย่า ... อย่าฆ่าข้าเลยนะ”
ชางหยางเกาะไปที่แขนซ้ายของิอวี่ เท้าทั้งสองข้างของเขาพยายามดีดดิ้น แล้วพูดแบบตะกุกตะกักว่า “ก่อนหน้านี้ ... ข้ามีตาแต่ไร้แวว ท่านเป็ผู้ใหญ่ใจกว้างไม่ถือผู้น้อย ... ปล่อย ... ปล่อยข้าไปเถอะนะ”
“ที่จริงเื่นี้มันก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดทำให้ข้าฆ่าเ้าหรอกนะ” ิอวี่พูดขึ้นมา
หากว่าเจอโจรูเาแล้วชางหยางไม่หักหลังเฮยจี โจรูเาพวกนั้นก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน เพียงแต่การประจบเพื่อเอาตัวรอดแบบนี้มันน่ารังเกียจมาก
ชางหยางฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “นายท่านผู้ใจกว้าง ... ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”
“อย่างนั้นหรือ? ว่าแต่ทำไมเป็คนขับรถม้ามาตั้งนาน ถึงได้ไม่รู้ว่าในูเาแถบนี้มีโจรูเาอยู่ล่ะ? หรือว่าเ้าตั้งใจใช้ทางลัดให้มาเจอกับโจรูเาพวกนี้กัน” ิอวี่แสยะยิ้ม
ในใจของชางหยางคิดอะไรอยู่ ิอวี่รู้ดีแก่ใจ
เมื่อได้ยินแบบนี้ทุกคนก็ตกตะลึง พอิอวี่พูดออกมาพวกเขาก็เหมือนคิดได้ ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถม้าโดยสารเป็ประจำก็เลยพูดขึ้นมาว่า “นั่นสิ เส้นทางปกปติไม่ใช่ทางนี้นี่นา เ้าอยากจะประหยัดเวลางั้นหรือ? หากไม่ใช่หนุ่มน้อยผู้แข็งแกร่งท่านนี้ช่วยเอาไว้ พวกเราโชคร้ายกันหมดแน่!”
พริบตาเดียว สายตาของทุกคนก็เดือดดาลกันขึ้นมา เื่นี้มันไม่ใช่แค่เื่ส่วนตัวกับิอวีแค่คนเดียวแล้ว แต่มันเป็เื่ของทุกคน!
“ข้า ... ข้า ...”
สีหน้าของชางหยางแย่มาก เขาคิดอยากจะอธิบาย แต่จะให้เขาบอกว่าเขาเลือกทางลัดเพราะอยากจะรีบลวนลามเฮยจีและขโมยทรัพย์สินของิอวี่ที่เมืองเสวี่ยเยวี่ยอย่างนั้นหรือ? มันไม่ยิ่งรนหาที่ตายไปกันหน่อยหรือ! ชางหยางเริ่มใจเสีย หากไม่ใช่เพราะความโลภ เขาจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ?
“ถ้าอย่างนั้นเ้าก็ไปตายซะ”
“อย่า ...”
เขายังพูดไม่จบคำเลย ิอวี่ก็หักคอชางหยางแล้วโยนเขาลงพื้น
โจรูเาที่เหลือเห็นิอวี่แข็งแกร่ง เด็ดขาด ก็ไม่กล้าอยู่ต่ออีก แม้แต่ความกล้าจะไปเก็บศพลูกพี่ของตัวเองอย่างหูเหวินหลงก็ยังไม่มี แต่ละคนใวิ่งหนีกระจัดกระจายไปทั่ว
“ทุกคนรีบกลับไปที่รถกันเถอะ เรารีบเร่งเดินทางต่อกัน” ิอวี่หันไปพูดกับทุกคน
เื่ที่เกิดขึ้นในเวลานี้มันเป็แค่เื่สุดวิสัยเล็กๆ สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการหาบัวหิมะน้ำแข็งให้เจอ ไม่ว่าจะเพื่อตัวเขาเองหรือว่าเฮยจี ิอวี่จำเป็ต้องหาบัวหิมะน้ำแข็งให้เจอโดยเร็วที่สุด
งานประลองของราชสำนักในอีกสองเดือน เหล่าผู้กล้าจะมารวมตัวกัน เขาจะกระชากหน้ากากของพระสนมหลี่ต่อหน้าทุกคน แล้วกลับไปอยู่กับหยางเสวี่ยหรงอย่างเปิดเผยให้ได้!
แม้แต่หญิงงามผู้เย่อหยิ่งอย่างเยี่ยซี นางเองก็จะเข้าร่วมงานประลองด้วยนี่นา?
เมื่อถึงวันนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ ...
ิอวี่ยิ้มมุมปากขึ้นมา สายตาของเขาหนักแน่นขึ้น
ทุกคนจัดระเบียบตัวเองครู่หนึ่งแล้วก็ทยอยขึ้นรถไป ิอวี่ลองสอบถามเส้นทางการเดินรถจากคนอื่นๆ ดู มีหลายคนเริ่มยกมือ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือชายกำยำผิวคล้ำ ิอวี่มองดูแล้วคิดว่าเขารูปร่างสูงใหญ่ กินพื้นที่มาก ก็เลยบอกให้เขาไปบังคับรถม้าด้านหน้าแทน
แต่ว่าชายกำยำผิวคล้ำก็ไม่ได้รู้สึกว่าิอวี่สั่งให้เขาไปทำงานหนัก แต่กลับรู้สึกว่าเป็เกียรติของเขาด้วยซ้ำ มันเป็โอกาสที่ดีในการทำคุณไถ่โทษ ิอวี่จะต้องให้อภัยที่ก่อนหน้านี้เขาเสียมารยาทด้วยแน่
แต่ว่าเขาคิดมากเกินไป เพราะิอวี่แทบจะไม่ได้ใส่ใจเื่นี้เลย แต่หลังจากรถม้าออกเดินทางไปได้ครึ่งชั่วยาม เขาก็เริ่มทนไม่ไหว ...
เพราะหลังจากิอวี่แสดงความสามารถออกมา ไม่ว่าจะเป็จะเป็สาวน้อย สาวใหญ่ หรือว่าป้าๆ ทั้งหลาย ล้วนแต่ชม้อยชม้ายชายตาให้กับเขาตลอดเวลา ...
ิอวี่บังเอิญหันไปเห็นท่านป้าคนหนึ่งกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับเขา ทำท่าทางเหมือนสาวน้อยขี้อาย เขาก็เหมือนจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองนั้นแตกออก
“เฮยจี ช่วยข้าหน่อยสิ ...”
“จะให้ช่วยอย่างไรล่ะ? ถูกคนอื่นมองนิดๆ หน่อยๆ จะเป็อะไรไป ข้าไม่ได้เป็อะไรกับเ้าสักหน่อยนี่นา” เฮยจีพูดแล้วยิ้ม
ิอวี่ปาดเหงื่อแล้วพูดว่า “... เ้าก็บอกว่าข้าเป็องครักษ์ของเ้า ชาตินี้ทั้งชาติแต่งงานไม่ได้เด็ดขาด พวกนางก็ไม่กล้ามองข้าแบบนี้แล้ว”
“มีองครักษ์ที่ไหนมาอิงคุณหนูใหญ่แบบนี้กันล่ะ? หรือว่า พวกเราจะต้องแสดงเป็คุณหนูตระกูลใหญ่หนีตามบ่าวไพร่ในจวนกันหรือ?” สายน้ำไหลย้อนกลับมันก็เป็แบบนี้แหละนะ รอยยิ้มบนใบหน้าของเฮยจีกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“เอาคืนใช่ไหม?” ิอวี่พูด “แต่ว่าเ้าก็อย่าคิดมาก ข้าไม่มีทางเป็คนรักของเ้าแน่นอน”
“งั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ไปไกลๆ อย่ามาพิงข้า ชิ”
“ ... ไม่”
ตลอดการเดินทาง ิอวี่กับเฮยจีก็พูดคุยกันมากขึ้นเรื่อยๆ คนรอบข้างจึงไม่กล้าคิดอะไรเกินเลย พวกเขารู้แค่ว่าิอวี่เป็เหมือนเทพเ้าที่คอยคุ้มครองพวกเขา ทำให้เดินทางไปได้อย่างปลอดภัย
เพราะกำลังวังชาของิอวี่มีมหาศาล เลยไม่จำเป็ต้องพักอะไรมากมาย ดังนั้น ตลอดเส้นทาง เมื่อตกดึกิอวี่ก็จะลุกขึ้นมาเรียนรู้ทำความเข้าใจทักษะการต่อสู้
สำหรับิอวี่แล้ว การเรียนรู้เข้าถึงทักษะการต่อสู้มันไม่ใช่เื่ยาก ผ่านไปสิบวัน เขาก็เรียนรู้ดรรชนีไร้เสียงได้แล้ว อีกทั้งเพลงกระบี่ร้องไห้ที่มีแค่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกเท่านั้นที่เรียนรู้ได้ เขาก็ฝึกจนสำเร็จแล้วเช่นกัน!
เพียงแต่ว่าตอนที่ิอวี่พลิกอ่านไปถึงสิบหน้าสุดท้ายของ “เพลงกระบี่ร้องไห้” ก็พบว่ามันมีบันทึกเคล็ดลับการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเพลงกระบี่ร้องไห้ซึ่งมันมีชื่อว่า “น้ำตาแห่งความเศร้า”!
กระบวนท่านี้มีความแข็งแกร่งมาก ถือป็นทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูง ต่อให้เป็นักรบเืเองก็ยังเรียนรู้มันไม่สำเร็จ และด้วยความสามารถของิอวี่ในเวลานี้ ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน
ิอวี่ก็ไม่ได้หมกมุ่นกับมันมาก ในเมื่อยังเรียนรู้ไม่ได้ ก็เอาไว้ในเวลาที่เหมาะสมค่อยมาฝึกก็แล้วกัน
ดังนั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้ว ิอวี่ก็จะใช้เวลาที่เฮยจีหลับไปฝึกร่างลายเส้นอักขระ
ั้แ่เฮยจีใช้ “จมสู่ความฝัน” ในครั้งนั้น ิอวี่ก็รู้ถึงความสำคัญของลายเส้นอักขระ และในที่สุดเขาก็สามารถสร้างค่ายกลระฆังทองได้สำเร็จในวันที่ห้า จนกระทั่งวันที่สิบ ิอวี่ก็สามารถร่างค่ายกละเิเพลิงได้ห้าเส้น และค่ายกลระฆังทองอีกสามเส้น!
……
หลังผ่านไปสิบวัน พวกเขาก็มาถึงชานเมืองเสวี่ยเยวี่ย
ในเวลานี้เป็คืนหิมะตก บนถนนปกคลุมไปด้วยหิมะที่ไหลลงมาจากูเา รถม้าลมกรดที่สภาพทรุดโทรมจากแดนไกลกำลังใกล้เข้ามา
ถนนด้านขวาที่มาจากทางูเาคือเมืองเสวี่ยเยวี่ย มีสิ่งก่อสร้างมากมายกระจัดกระจายอยู่ในระยะสายตา น้ำค้างและหิมะปกคลุมหลังคาบ้านเรือนแทบทุกหลัง แสงไฟจากบ้านหลายพันหลังสว่างไสวในยามราตรีที่มืดมิด ทั่วทั้งเมืองที่เป็สีขาวโพลนถูกย้อมไปด้วยแสงไฟ
แต่เื้ัของแสงไฟเ่าั้ มีเงาของูเาสีดำเทาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด และเงาของูเานั้นเป็เหมือนเทือกเขาน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุด
รถม้าลมกรดคันนี้เดินทางลาดลงมาจากบนเขา ไม่นานนักก็มาถึงจุดจอดพักเสวี่ยเยวี่ยที่พลุกพล่านและแออัด
ิอวี่ที่สวมชุดสีขาวนวลลงมาจากรถม้าลมกรด จากนั้นก็เปิดผ้าม่านแล้วเฮยจีก็ตามลงมา
เพื่อเป็การเลี่ยงไม่ให้สะดุดตาพวกคนลามก ิอวี่จึงให้เฮยจีแต่งกายเป็ชาย แต่พอลงมาจากรถม้าก็ยังเป็เป้าสายตาอยู่ดี!
นางรวบผมสีดำสลวยขึ้น ปักด้วยปิ่นสีทองหนึ่งชิ้น ใบหน้าที่งดงามราวกับหยกชั้นดีมีหนวดติดอยู่เหนือริมฝีปาก แต่เพราะผิวพรรณอันขาวอ่อนนุ่มของนางมันเด่นชัดเกินไป จึงสวมเสื้อคลุมหนาสีดำสนิทมิดชิดตัว เหลือให้เห็นแค่่คอและใบหน้าของนางเท่านั้น
เฮยจีเอามือไขว้ไว้ด้านหลัง เงยคางขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินไปตามทาง ิอวี่กางร่มสีดำให้ เดินอยู่ด้านหลังของเฮยจีประมาณครึ่งก้าว เพื่อบังหิมะให้กับนาง
ภาพที่ได้เห็น มันเหมือนคุณชายรูปงามเกิดในตระกูลผู้ดี พร้อมด้วยองครักษ์รักษาความปลอดภัยท่ามกลางสายฝนและหิมะ เสน่ห์ถูกแผ่กระจายไปทั่ว พริบตาเดียว ทั้งสองคนก็กลายเป็ทิวทัศน์ที่แปลกตาบนท้องถนน ซึ่งดึงดูดสายตาของสาวๆ นับไม่ถ้วนเลย
“ปลอมตัวเป็ชายก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ” เฮยจีพูด ตอนนี้นางพยายามกดเสียงให้ต่ำลง ทำให้ดูเหมือนชายหนุ่มเอาแต่ใจ
“ ... เ้ามีความสุขพอแล้ว” ิอวี่พูด “ตามข้ามา”
ระหว่างที่พูดก็พาเฮยจีออกจากจุดจอดพักเสวี่ยเยวี่ย จากนั้นก็มาถึงตลาดในเมืองที่พลุกพล่าน
มันคือตลาดมืดแห่งหนึ่งของเมืองเสวี่ยเยวี่ย ไม่ว่าจะเป็ของอะไรก็หาซื้อได้หมดทุกอย่าง รวมไปถึงข้อมูลด้วย!
เริ่มมืดค่ำแล้ว ร้านขายข้อมูลหลายร้านต่างปิดหมด ิอวี่เดินหาอยู่นานจนในที่สุดก็มาถึงร้านลับตาคนแห่งหนึ่งในตลาดมืด ร้านแห่งนี้เป็ร้านขายข้อมูลขนาดเล็กที่มีชื่อว่า “จุยเฟิง”
เขาเดินไปที่ร้านแห่งนั้น
ร้านมีขนาดยี่สิบตาราเมตร ภายในตกแต่งเรียบง่าย ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว
สายลับที่วิ่งหาข่าวเหมือนจะทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งนั่งพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะเล็กตัวหนึ่ง
ร้านแห่งนี้เป็ของเถ้าแก่คนหนึ่ง สายหาข่าวพวกนี้ก็เป็พี่น้องญาติมิตรของเขาเอง เพราะว่าไม่มีที่ไปก็เลยมาทำงานเป็คนหาข้อมูลอยู่ในตรอกเล็กๆ ในตลาดมืด
“เถ้าแก่ของพวกเ้าอยู่ไหม?” ิอวี่เดินเข้าไปถามในร้าน
สายพวกนั้นเงียบลง สายตามองไปที่ิอวี่กับเฮยจี จากนั้นก็หันหน้าไปซุบซิบกันโดยไม่รู้ว่าพูดอะไร ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปตามเถ้าแก่มาจากหลังร้าน
เถ้าแก่ของร้านเป็ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงผอม เขามองมาที่เฮยจีแล้วก็ยิ้ม “ขออภัยที่ให้พวกท่านทั้งสองต้องรอนาน ข้ากำลังยุ่งอยู่หลังร้านน่ะ เชิญนั่ง เชิญนั่ง”
เขาพูดแล้วก็เชิญิอวี่กับเฮยจีให้มานั่งที่โต๊ะสี่เหลี่ยมสีดำ
ดวงตาของเถ้าแก่เดิมก็เล็กมากอยู่แล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือนดวงตาของหนูจอมเ้าเล่ห์ พอยิ้มขึ้นมาดวงตาก็แทบมองไม่เห็นเลย ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่ิอวี่เจอคนหน้าตาแบบนี้ ก็จะมีความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
แต่ว่าข้อมูลของบัวหิมะน้ำแข็งนั้นสำคัญมากกว่า ิอวี่ก็เอ่ยปากถามขึ้นมาเลยว่า “ไม่ทราบว่าร้านของพวกเ้ามีข้อมูลของบัวหิมะน้ำแข็งหรือไม่? รวมถึงหัวหยวนจือด้วย ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะได้มันมา?”
เถ้าแก่ยิ้มจนตาเป็เส้นเดียว “น้องชาย พวกเ้ามาหาถูกคนแล้ว เราพอมีข้อมูลอยู่บ้าง มันเป็แบบนี้นะ”
“อือ เ้าว่ามาเลย”
เถ้าแก่มืออาชีพมาก เขาเดินไปหยิบแผนที่ของเมืองเสวี่ยเยวี่ยออกมา แล้วหยิบพู่กันมาวง ชี้ลงไปแล้วพูดว่า “นี่คือเส้นทางของูเาน้ำแข็ง บัวหิมะน้ำแข็งอยู่ตรงนี้ บนยอดเขาเซิงหาน!”
“เรียนพวกท่านทั้งสองตามตรง เมื่อสิบปีก่อน บัวหิมะน้ำแข็งได้ปรากฏขึ้นมาบนยอดเขาเซิงหานมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ก็ปรากฏขึ้นมาอีก อากาศบนยอดเขาเซิงหานมันหนาวเย็นเข้ากระดูก ผู้กล้าและกลุ่มอำนาจหลายคนต่างขึ้นเขากันไปมากมาย แต่ก็ไม่มีใครทนต่อความหนาวนั้นได้เลย จนต้องล่าถอยมากันหมด บางคนฝืนที่จะขึ้นไปให้ได้ สุดท้ายก็ตายหมด”
“แต่ว่าจนถึงตอนนี้ ก็ยังมีผู้กล้าจำนวนมากทยอยขึ้นไปบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง เพราะบัวหิมะน้ำแข็งมันเป็ของเย้ายวนใจเกินไป”
ยอดเขาเซิงหาน เหล่าผู้กล้ารวมตัวกันมากมาย แต่ไม่มีใครสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้แม้แต่คนเดียว แสดงว่ามันต้องลึกลับมาก!
ิอวี่ขมวดคิ้ว แล้วถามอีกว่า “แล้วหัวหยวนจือล่ะอยู่ที่ไหน?”
“น้องชาย หัวหยวนจือมันไม่มีประโยชน์ต่อการฝึกเลย ใช้เพื่อลดความหนาวเท่านั้น เพราะมันมีจำนวนน้อยมากจึงแทบไม่มีใครหาได้เลย แต่ข้ารู้ว่าที่ไหนมี ประมุขพรรคเืพยัคฆ์ หลิงป้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพ มีอยู่เม็ดหนึ่ง”
“จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ คืนนี้พวกเขาจะไปตั้งค่ายอยู่ที่ตีนูเาหิมะ แล้วออกเดินทางกันพรุ่งนี้”
ิอวี่หรี่ตาลง “ความหมายของเ้าก็คือ คิดอยากจะได้บัวหิมะน้ำแข็ง กุญแจสำคัญอยู่ที่หัวหยวนจือ แล้วในคืนนี้ก็เป็เวลาที่ดีที่สุดในการชิงเอาหัวหยวนจือมา แล้วถ้ามีคนอื่นที่รู้ข้อมูลนี้เหมือนกัน ก็จะเดินทางไปยังตีนูเาหิมะเช่นกันใช่ไหม”
“ใช่แล้วน้องชาย” เถ้าแก่ยกนิ้วโป้งให้กับิอวี่ แล้วพูดว่า “ดังนั้นคิดอยากจะได้บัวหิมะน้ำแข็ง มันไม่ใช่เื่ง่ายเลย...”
ระหว่างที่พูดเถ้าแก่ก็ถูมือไปมา ิอวี่เหมือนจะเข้าใจแล้วก็พูดว่า “ดีมาก ขอบคุณนะที่บอก ข้อมูลพวกนี้ราคาเท่าไร?”
เถ้าแก่ยิ้มจนตาแทบจะมองไม่เห็น แล้วพูดว่า “ราคาก็ไม่ได้มากมาย เพราะบัวหิมะน้ำแข็งมีมูลค่าเก้าล้านเหรียญหยกดำ หากพวกเ้าได้มันมาก็เป็ผลงานของทางร้านเราด้วย เอาอย่างนี้นะ เราขอแค่หนึ่งในสามของราคาก็พอ สามล้านเหรียญหยกดำ”
“เท่าไรนะ?” เฮยจีพูดเสียงต่ำขึ้นมา เลียนเสียงชายหนุ่มด้วยความใ
“เหอะๆ สามล้านเหรียญหยกดำ” เถ้าแก่ยังคงยิ้ม แต่มันกลับทำให้เกิดความรู้สึกน่ากลัวแปลกๆ ทำให้คนขนหัวลุกทีเดียว!