ฉินโจ้วเริ่มตรวจสอบตัวที่ใหญ่ที่สุดนั่นก็คือ หัวหน้าฝูงหมาป่า ระดับเลเวล 43 พลังชีวิต 350,000หน่วย พลังป้องกันกายภาพสูงมาก มีทักษะ ''คลื่นกระแทก''และ ''พายุฉีกกระชาก'' ส่วนหมาป่าอีกสี่ตัวนั้นอยู่ในระดับสูงเลเวล 42 พลังชีวิต 20,000 หน่วย พลังป้องกันกายภาพสูง มีทักษะ ''คลั่ง''
"หัวหน้าฝูงหมาป่าั์หรือนี่"นักรบรู้สึกทั้งประหลาดใจและดีใจในเวลาเดียวกัน ที่น่าประหลาดใจก็คือหัวหน้าฝูงนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง เป็โชคดีของเขาที่ได้เห็นมอนสเตอร์หายากระดับนี้หลังจากจัดการมันได้ น่าจะดรอปได้สิ่งของดีๆ หลายชิ้นเป็แน่
"พวกคุณว่าอย่างไรบ้าง?"นักรบหันไปทางนักบวชและนักธนู
"สู้"นักธนูสายเวทไม่้ากลับไปมือเปล่าดวงตาจดจ้องไปที่หมาป่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้นผู้หญิงนั้นมีความกระตือรือร้นในการต่อสู้มากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว
"ความร่ำรวยและความแข็งแกร่งนั้นยากจะพานพบต้องเสาะแสวงหาเอาเอง"นักบวชก็สนับสนุนให้ต่อสู้ ภายในใจเธอคิดเกี่ยวกับฉินโจ้วว่าน่าจะเป็ผู้เชี่ยวชาญที่นั่งทำงานอยู่ในเมืองไม่น่าจะต้องเสียเวลามา แค่น้ำซุปเล็กน้อยจะไม่ให้เล็ดลอดเลยหรืออย่างมากก็ทำให้คนอิ่มท้องได้มื้อเดียว
เงาสีขาวเริ่มมีอาการสั่นไหวหลังจากที่อัศวินปฐีทั้งสี่จัดการกับหมาป่าั์สวมเกราะสีครามตัวสุดท้ายพวกมันก็กลับมายืนอยู่ข้างฉินโจ้วอย่างอัตโนมัติอย่างรวดเร็วตั๊กแตนตำข้าวท่าทางดีใจอย่างหยุดไม่อยู่ โชคดีแล้วที่ไม่ได้เป็ศัตรูกันอัศวินปฐีนั้นมองตรงไปยังหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามพวกมันรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์ที่สามารถคุกคามพวกมันได้
ฉินโจ้วเองไม่ได้ใส่ใจในการกระทำของสามคนนั่นหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามหยุดยืนอยู่ห่างจากฉินโจ้วราว 50 เมตรก่อนจะเหลือบตามองมาที่ฉินโจ้ว มนุษย์ที่พอจะมีฝีมืออยู่บ้างแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความคิดที่จะต่อสู้แต่อย่างใดหมาป่าั์สวมเกราะสีครามระดับสูงทั้งสองตัวก็ต่างหยุดนิ่งและยืนคุ้มกันอยู่ทั้งสองด้านแต่หมาป่าั์ระดับสูงอีกสองตัวที่เหลือนั้นไม่ได้หยุดกลับเดินนำหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามออกมาต่อสู้กับมนุษย์ที่ชื่อฉินโจ้วเพื่อเริ่มเปิดการโจมตี แสดงให้เห็นถึงผู้ที่มีคุณสมบัติอันสูงส่ง
เมื่อเห็นหัวหน้าฝูงหมาป่ามองด้วยท่าทีแบบนั้นแล้วทำให้ฉินโจ้วรู้สึกไม่สบอารมณ์นักคิดว่าตัวเองสูงส่งขนาดไหนกันถึงมามองด้วยสายตาแบบนี้ถูกมอนสเตอร์มองด้วยความเหยียดหยามนี่ไม่ใช่สิ่งที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์แม้แต่น้อย
"ลุย"
ไม้เท้าของฉินโจ้วพลันชี้ออกไปข้างหน้าเพื่อเรียกใช้ม่านฟ้าิญญาหมอกสีดำครอบคลุมพื้นที่สนามรบก่อนจะขยายขนาดออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาลทำให้หมาป่าั์สวมเกราะสีครามไม่ต่ำกว่า 50 ตัวนั้น ตกอยู่ในความมืดมิดทันทีแม้ว่าความเร็วของเวทนั้นเร็วมากแล้ว แต่ผึ้งเพชฌฆาตนั้นกลับเร็วเสียยิ่งกว่าประหนึ่งลำแสงสีทองพุ่งออกไป โจมตีเข้าใส่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามปานสายฟ้าแลบหมาป่าั์สวมเกราะสีครามสามตัวที่วิ่งอยู่ด้านหน้าสุด ส่งเสียงร้องอย่างโหยหวนเสียงฝีเท้าเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ทำให้หมาป่าั์ที่วิ่งตามหลังมานั้นหยุดไม่ทันก่อนจะชนกันเข้าอย่างจังทำให้กองกำลังที่วิ่งออกมาอย่างเป็ระเบียบนั้นเกิดความอลหม่านขึ้นทันที
ในเวลาเดียวกันฝูงผึ้งเพชฌฆาตก็แบ่งกันออกเป็กลุ่มเล็กๆโดยมีประมาณ 30 ตัว ที่พุ่งตรงไปหาหัวหน้าฝูงหมาป่าไหวพริบของเสี่ยวจินนั้นก็ไม่ธรรมดา มันรู้ว่าถ้าจะต้องจับโจรก็ให้จับตัวหัวหน้าก่อน
ฟิ้วว...
ลูกธนูไฟถูกยิงเข้าในปากของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามพุ่งตรงเข้าไปยังท้อง ตูม!... มีเสียงดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงะเิกลายเป็หมาป่าตัวแรกที่ถูกสังหาร เป็เื่ยากที่จะทำลายการป้องกันของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามจากภายนอกจึงต้องโจมตีจากด้านในที่ค่อนข้างเปราะบางกว่าแทน นักธนูเวทสาวสบโอกาสะเิพลังความสามารถของตนเองออกมาเพียงไม่กี่วินาทีก็ยิงสังหารหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้หลายตัวั้แ่เริ่มยิงร้อยครั้งก็โดนร้อยครั้ง ไม่เคยพลาดเป้า
ส่วนนักรบนั้นท่าทางยังสบายดีอยู่‘ผ่าครึ่งจันทรา’ ไม่สามารถใช้ออกไปได้อย่างต่อเนื่องเหมือนเวลาใช้เงินทำได้เพียงเรียกหมาป่าั์สวมเกราะสีครามมารวมกลุ่มกันทำให้เขาเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งแล้วว่านกร้อยตัวในป่าจะไปดีเท่ากับนกหนึ่งตัวในมือได้อย่างไรในระหว่างที่มีนักบวชคอยเพิ่มพลังชีวิตให้อยู่เขาก็เพิ่งจะจัดการหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้
ซึ่งแน่นอนว่ากำลังหลักในการโจมตียังคงเป็อัศวินปฐีพวกมันไม่สนใจว่าหมาป่าั์ฝ่ายตรงข้ามจะมีจำนวนมากมายแค่ไหนหรือหมาป่าั์จะถูกจัดการไปเท่าไรใน่เวลาที่พุ่งทะยานออกไปไม่ต่างกับถูกคลื่นใต้น้ำซัดกระแทกเข้าด้วยกันอย่างโหดร้ายไร้ความปรานีส่งผลให้เกิดแรงสั่นะเือย่างหนักหน่วงความรุนแรงที่มองไม่เห็นเปรียบเหมือนกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากซัดผ่านไปทุกทิศทางกิ่งไม้ใบหญ้าปลิดปลิวม้วนกระจายไปทุกทิศทาง
อีกด้านหนึ่งเมื่อผึ้งเพชฌฆาตโจมตีใส่หัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่อยู่เพียงลำพังดูเหมือนว่าหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นได้ยกอุ้งเท้าอันใหญ่โตขึ้นมาก่อนจะตบลงอย่างแ่เบา หลังจากนั้นก็ปรากฏอากาศบิดเป็เกลียวขึ้นกลายเป็พายุทอร์นาโดที่มีใบมีดขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาใบมีดแหลมคมที่ดูเหมือนเครื่องบดเนื้อที่ไม่สามารถทำลายได้ฉีกร่างที่บอบบางของผึ้งเพชฌฆาตได้อย่างง่ายดายจนกลายเป็เศษเสี้ยวชิ้นส่วนที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าตัวพายุทอร์นาโดเองยังสร้างแรงดึงดูดที่ทรงพลัง ตราบใดที่มีผึ้งเพชฌฆาตอยู่ใกล้ๆก็จะถูกดูดเข้าไปในพายุทอร์นาโด และก็ถูกตัดเป็ชิ้นๆ ด้วยใบมีดลม การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้ผึ้งเพชฌฆาตหายไปมากกว่า 30 ตัว
"พายุฉีกกระชาก"
ฉินโจ้วถึงกับใโอ... นี่เป็ทักษะเฉพาะตัวที่แข็งแกร่งมากทีเดียวหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนี่สมกับเป็มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าวิธีที่รับมือไม่ธรรมดา อีกทั้งยังดุเดือด ไร้ความปรานีเริ่มด้วยทักษะเฉพาะตัวที่แข็งแกร่ง ดูไม่เหมือนมอนสเตอร์ทั่วไปการอุ่นเครื่องครั้งแรกดูเหมือนจะเสียท่าไปแล้วทักษะเฉพาะตัวทำให้พลังชีวิตส่วนใหญ่หายไป
อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ที่ชอบทำลักษณะนี้นั้นมักจะมีจุดจบไม่ค่อยสวยเท่าไร
ราวกับศักดิ์ศรีโดนเหยียบย่ำหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามชูคอขึ้นและส่งเสียงหอนด้วยเสียงต่ำลากยาวออกมาระดับเสียงนั้นไม่ได้ดังมาก แต่ทว่ากลับแผ่รัศมีออกไปได้ไกลทำให้เวลานี้บริเวณนี้กลายเป็เงียบสงบ อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยดูไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสุสาน แต่สิ่งที่เขารู้สึกกังวลไม่ใช่เื่นี้กลับเป็เสียงหอนของหมาป่าที่เขารู้สึกว่าเหมือนมีพลังลึกลับแข็งแกร่งบางอย่างแฝงอยู่หลังจากที่ได้ยินเสียงร้อง ดวงตาของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็เริ่มกลายเป็สีแดงและความแข็งแกร่งค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละตัวทันใดนั้นพวกมันก็กลับคืนสู่ระดับเลเวลเดิมค่าสถานะที่ลดลงด้วยผลของทักษะม่านฟ้าิญญาก็กลับฟื้นคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
เสียงหอนของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นที่จริงแล้วมีความสามารถที่จะกระตุ้นความโกรธของหมาป่าั์ตัวอื่นๆ ได้
ฉินโจ้วแค่นเสียง‘เฮอะ...’ และถอนหายใจ ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ ก่อนจะโบกไม้เท้าเวทอย่างรวดเร็วกลุ่มเวท ‘อ่อนแรง’ ถูกยิงออกไปและตามด้วยเวท ‘หน่วง’ แต่ละลำแสงประกอบด้วยเวทย่อยๆ 10 สาย รวมเข้าไว้ด้วยกันความรุนแรงนั้นมากกว่าเวทแต่ละสายมารวมกัน ที่น่ากลัวก็คือ อัตราความแม่นยำเวททุกสายนั้นโจมตีถูกหมาป่าั์สวมเกราะสีครามไม่มีหลุดรอดไปแม้แต่ตัวเดียวด้วยความช่วยเหลือของการลดค่าความแข็งแกร่งทำให้การหอนของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นล้มเหลวผลกระทบของเสียงคำรามจากหมาป่าั์ถูกทำให้อ่อนแรงลงค่าสถานะของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามถูกย้อนกลับไปเป็ก่อนหน้า ในหมู่พวกมันหมาป่าั์สวมเกราะสีครามระดับสูงสองตัวนั้น ฉินโจ้วเป็คนรับมือแต่ละตัวนั้นถูกเวทดีบัฟโจมตีใส่ไม่ต่ำกว่าตัวละโหลพวกมันคงไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยเป็อิสระอีกแล้ว คงต้องตกเป็ทาสรับใช้เมื่อทักษะที่ใช้ล้มเหลว ก็เป็โอกาสให้อัศวินปฐีเพิ่มการบดขยี้ต่ออีกครั้งคงพูดได้แค่ว่าพวกมันต้องจบชีวิตลงอย่างไร้ซึ่งความปรานี
เมื่อมีอัศวินปฐีคอยยืนป้องกันอยู่ด้านหน้านักธนูจึงหมดห่วงเื่ความปลอดภัยของตนเอง ก่อนจะเริ่มลงมือยิงลูกธนูะเิเมื่อเธอจัดการหมาป่าั์สวมเกราะสีครามลงได้ 11 ตัวในที่สุดความสุขก็มาเยือนอีกครั้ง เธอได้เพิ่มระดับ ระดับเลเวลกลายเป็ 39
การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือดเมื่อจัดการหมาป่าั์สวมเกราะสีครามตัวสุดท้ายลงได้ นักบวชก็เพิ่มระดับระดับกลายเป็เลเวล 37 ทำให้เธอมีความสุขมากเนื่องจากนักบวชนั้นไม่มีทักษะไว้สำหรับโจมตี ดังนั้นในการต่อสู้ทุกครั้งก็จะได้รับค่าประสบการณ์น้อยที่สุด ทำให้การเพิ่มระดับช้าที่สุดด้วยเช่นกันในตอนแรกเธอคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวันในการไปถึงเลเวล 37แต่ไม่คิดเลยว่า่เวลานั้นจะมาถึงได้เร็วขนาดนี้ทั้งหมดนี้ก็เป็เพราะผู้ใช้เวทแห่งความตายที่ชื่อ เมามายซบตักสาวงามคนนี้จึงอดที่จะชื่นชมไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญอย่างไรก็เป็ผู้เชี่ยวชาญวันยังค่ำ
หมาป่าั์สวมเกราะสีครามกว่า50 ตัวนี้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันแข็งแกร่งหรือไม่ ที่ประหลาดใจก็คือมีอุปกรณ์ที่ดรอปลงมาไม่ต่ำกว่า 10 ชิ้น นั่นก็คือ 1 ใน 3ซึ่งสูงมากจนน่าประหลาดใจ
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มีใครสนใจที่จะหยิบอุปกรณ์ เพราะวิกฤตินั้นเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น
ยังคงเป็อัศวินปฐีที่เป็กำลังหลักพวกมันไม่้าหยุดพักหลังจากที่จัดการปัญหาเื่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็พุ่งตรงไปยังหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีคราม ด้วยทักษะเฉพาะตัว‘เข้าสู่สมรภูมิรบ’ ทำให้คนและม้ารวมกันเป็หนึ่งเดียวดังนั้นความรวดเร็วเมื่อรวมเข้ากับการโจมตีนี้แล้วก็จะสูงมากเหลือทิ้งไว้ให้เห็นเพียงความว่างเปล่าเมื่อมาอยู่ต่อหน้าหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามพวกมันถือหอกยาวทั้งสี่อยู่ในมือหากมองจากมุมสูงแล้วจะเห็นได้ว่าเป็การล้อมหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเอาไว้
อันตรายกำลังเข้ามาใกล้เมื่อหมาป่าั์สวมเกราะสีครามระดับสูงทั้งสองตัวได้เปลี่ยนร่างไปด้วยทักษะ‘คลั่ง’ มีเืไหลออกมาปกคลุมเกราะสีครามเอาไว้ ความแข็งแกร่งจากทักษะ ‘คลั่ง’ส่งกลิ่นอายรังสีอำมหิตแผ่รัศมีออกมาหลังจากเปลี่ยนเป็สีเืด้วยกันทั้งคู่สำเร็จ ก็แบ่งออกเป็สองฝ่ายเพื่อรับมือกับอัศวินปฐี
หัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามอ้าปากขึ้นจากนั้นมีระลอกคลื่นแสงที่น่ากลัวพุ่งออกมา ซึ่งลำแสงนั้นไม่ได้มีความรวดเร็วนักแต่โจมตีเข้าใส่อัศวินปฐีตัวที่อยู่ทางด้านซ้ายแล้วฉินโจ้วก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวหลังจากที่อัศวินปฐีโดนลำแสงสีขาวยิงใส่ จุดที่โดนแสงนั้นค่อยๆ เริ่มหายไปก่อนจะขยายออกไปเป็วงกว้าง และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเพียงครู่เดียวอัศวินปฐีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับไม่เคยปรากฏมีอยู่มาก่อนเหมือนหิมะในฤดูใบไม้ผลิที่ค่อยๆ ระเหยขึ้นไปในอากาศจากนั้นฉินโจ้วก็รู้สึกเ็ปขึ้นในใจเนื่องจากการตายของอัศวินปฐีที่เหลือไว้เพียงผงสีขาวกองอยู่บนพื้นเท่านั้นก่อนที่จะถูกลมพัดปลิวหายไป
การตายของอัศวินปฐีนำมาซึ่งความเ็ปอย่างยาวนานให้กับฉินโจ้วเมื่อมีการตายที่เพิ่มขึ้นของทหารโครงกระดูกทำให้ฉินโจ้วเริ่มปรับตัวให้เข้ากับความเ็ปได้อย่างช้าๆแต่เนื่องจากพลังชีวิตของอัศวินปฐีนั้นมีมากจึงทำให้เขาได้รับความเ็ปที่รุนแรงมากขึ้นหลายเท่าตัวทันใดนั้นพลังชีวิตก็ลดลงไป 5,000 หน่วยบวกกับพลังชีวิตที่ต้องใช้ในระหว่างการอัญเชิญก่อนหน้าโดยไม่สามารถเพิ่มได้ทันทำให้พลังชีวิตนั้นเหลือน้อยกว่า 10,000 หน่วยซึ่งเป็จำนวนที่ค่อนข้างอันตรายแล้ว
หลังจากที่แก้ปัญหาเื่อัศวินปฐีไปหนึ่งตัวแล้วหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็จัดการส่ง ‘พายุฉีกกระชาก’ออกมาหยุดอัศวินปฐีตัวที่สองในเสี้ยววินาที มันอ้าปากที่กว้างดั่งหม้อเืแล้วก็มี ‘คลื่นกระแทก’ อยู่ในนั้น
ฉินโจ้วนั้นถึงกับตกตะลึงไม่มีแม้กระทั่งเวลาจะกลืนยา เขารีบพาตนเองพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้ทักษะ‘ย่ำหิมะไร้รอย’ ด้วยความเร็วสูงสุด ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยประกายแสงสายฟ้าและพุ่งเข้าใส่หัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามราวกับจรวดในขณะที่กำลังจะถึงตัว เขาก็หยิบะเิศพออกมาก่อนจะโยนใส่ปากของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามหลังจากนั้นฉินโจ้วก็ใช้เท้าถีบไปที่ร่างของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเพื่อใช้เป็แรงส่งในการถอยกลับมา ทันทีที่เขาลงถึงพื้นดินก็ได้ยินเสียงดังสนั่นไล่หลังมา เป็เสียงของะเิศพนั่นเองเกิดเป็แผลมีรูขนาดเล็กบนปากของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเืและเนื้อผสมปนเป ะเิศพที่ใช้นั้นไม่ได้้าให้ะเิเพื่อสังหารแต่เพราะพิษของศพต่างหากไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถลดพลังชีวิตของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามลงครึ่งหนึ่งได้แน่ซึ่งตอนนี้มันแค่าเ็เล็กน้อย ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอย่างไรก็ตามก็นับว่าได้บรรลุเป้าหมายของฉินโจ้วแล้วและเพื่อขัดจังหวะในการใช้ ‘คลื่นกระแทก’ด้วย
หัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามค่อนข้างแข็งแกร่งสามารถอดกลั้นความเ็ปเอาไว้ ไม่ร้องคร่ำครวญ ก่อนจะใช้ ‘พายุฉีกกระชาก’ตอบโต้ใส่ฉินโจ้ว ด้วยความเร็วของฉินโจ้วในตอนนี้ จะมีทางโดนได้อย่างไรกันเขาสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่กำลังหลบหลีกอยู่นั้นก็ปล่อย‘เขย่าิญญา’ สวนกลับไปในเวลาเดียวกัน
แสงสีดำส่องประกายหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามหยุดนิ่งในทันที ฉินโจ้วรู้สึกดีใจเป็อย่างมากเขานี่ช่างโชคดีอย่างที่สุดที่สามารถทำสำเร็จได้ภายในครั้งเดียว
สองวินาทีช่างเป็เวลาที่สั้นนักซึ่งชะตากรรมของเ้าแห่งฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นได้ถูกตัดสินไว้เรียบร้อยแล้ว
ไม้เท้าเวทของฉินโจ้วชี้ไปทางหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก่อนจะร่ายเวท ‘อ่อนแรง’ ใส่อย่างเมามันเนื่องจากพลังป้องกันของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นสูงมากเกินไปเขาเองก็ไม่มีความมั่นใจที่จะใช้ฝ่ามือตบมันจนตายสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือพลังภายในที่มีตอนนี้นั้นน้อยเกินไปใช้พลังภายในเท่าที่มีให้ใช้ ด้วยระดับความสามารถของฉินโจ้วสามารถปล่อยเวทได้กี่ครั้ง ภายใน 2 วินาที เขาเองก็ไม่เคยนับเสียด้วย แต่คร่าวๆคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยครั้งเป็แน่
สองวินาทีต่อมาหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็หลุดออกจากเวท ‘กระชากิญญา’ทันทีที่มันฟื้นคืนสติ และดูเหมือนว่ามันกำลังจะได้พบกับสิ่งที่ทำให้น่าหวาดกลัวคลื่นแห่งความเหนื่อยล้าแผ่กระจายไปทั่วร่างขาทั้งสี่อ่อนปวกเปียกไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ถ้าไม่มีศักดิ์ศรีของหัวหน้าฝูงค้ำคออยู่เกรงว่าคงจะฟุ่บลงไปกองกับพื้นแล้วซึ่งความรู้สึกนั้นเหมือนกับการวิ่งตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หยุดพักเหนื่อยล้าอย่างที่สุด มันนึกถึงแค่เื่พักผ่อนซึ่งในเวลานี้นั้นมันไม่้าทำสิ่งอื่นใด ้าเพียงแค่นอนพักเท่านั้น ความรู้สึกในเวลานี้บอกว่าถ้าหันหลังกลับเพื่อหลบหนีล่ะก็ ผลลัพธ์คงมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือความตายดังนั้นแล้วเมื่อมีแต่ความสิ้นหวัง แสงสีขาวปรากฏขึ้น ‘คลื่นกระแทก’อีกลูกก็ก่อตัวขึ้นในปากของหมาป่า
คงต้องอยู่ที่อัศวินปฐีแล้วว่าจะอดทนได้นานแค่ไหนการโจมตีได้มาถึงแล้ว หลังจากที่อัศวินปฐีโดนโจมตีด้วย ‘พายุฉีกกระชาก’ทำให้กระดูกหักไปไม่ต่ำกว่าครึ่ง ถ้าเป็คนธรรมดาทั่วไปเกรงว่าคงจะสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปแล้ว แต่ว่าพวกมันเป็อัศวินปฐีแม้จะได้รับาเ็สาหัสเพียงใด ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีที่ต่อเนื่องของมันได้ถึงแม้ว่าพลังโจมตีจะลดลงแต่ก็ยังสามารถรับมือกับหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่อ่อนแอลงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
"พุ่งทะยานในสายลม"
อัศวินปฐีที่รวมร่างแล้วพุ่งกระแทกเข้าใส่ด้วยความหนักหน่วงราวกับขุนเขาเืสาดกระเซ็นไปทั่วหอกยาวแทงทะลุเข้าที่หัวของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเมื่อดึงหอกยาวออกก็ปรากฏหลุมเืไว้รอยหนึ่ง ‘คลื่นกระแทก’ที่กำลังก่อตัวขึ้นอยู่ของหัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยหัวของหมาป่าตกลงไปที่พื้นและมันก็ ตายทันที ก่อนจะมีอุปกรณ์จำนวนหนึ่งหล่นออกมา
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้น เลเวล 42
ทันทีที่หัวหน้าฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีครามถูกกำจัดชะตากรรมของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามระดับสูงทั้งสองตัวก็มาถึงจุดจบด้วยการโจมตีของอัศวินปฐีและกลุ่มแมลงทั้งสามร่วมกันทำให้สามารถกำจัดได้ด้วยความรวดเร็ว นักรบนั้นคว้าโอกาสได้อย่างแม่นยำสามารถโจมตีปิดฉากในครั้งสุดท้ายได้ทัน ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มากที่สุดได้เลื่อนระดับหนึ่งระดับ ระดับกลายเป็เลเวล 40
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้