“โอสถละมุน เป็ยาโอสถละมุนระดับสามขั้นต้นจริงๆ ที่สำคัญที่สุดคือโอสถละมุนทั้งหกเม็ดนี้ มีเม็ดหนึ่งที่ปรากฏลวดลายยาด้วย เป็ยาวิเศษคุณภาพดี! ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!” ผู้าุโผมขาวแต่หน้ายังดูเยาว์เป็ผู้าุโด้านการปรุงยา พูดชื่นชมออกมาหลังจากตรวจสอบยาอย่างถี่ถ้วนแล้ว!
“ที่สำคัญคือ เหวินจัวสามารถปรุงยาเม็ดระดับสามได้ในขณะที่ยังอยู่ในระดับปรมาจารย์ิญญา นี่เป็ความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในสำนักิญญาเมฆาของเราเลย!” ผู้าุโด้านการปรุงยาอีกคนที่มีใบหน้าแดงก่ำกล่าวด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่ง ทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งและปลาบปลื้มใจราวกับว่าได้ผู้สืบทอดแล้ว
“ดีๆๆ เหวินจัว เ้าทำได้ดีมาก เป็ผู้าุโย่อมรักษาคำพูด อีกทั้งผู้าุโเหอและผู้าุโเจิ้งก็อยู่ที่นี่ด้วย ในอีกเจ็ดวันให้หลัง เ้าจะได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหอยา ส่วนเ้าจ้าวเทียนฮ่าว เ้าจัดการส่งมอบงานให้เรียบร้อยภายในอีกไม่กี่วันนี้ แล้วในอีกเจ็ดวันให้หลังเ้าก็จงกลับไปที่ยอดเขายาวิเศษเสีย” อูิที่รู้สึกปลาบปลื้มใจมาก ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด!
“ขอรับท่านผู้าุโ!” สีหน้าของจ้าวเทียนฮ่าวมีความหมองเศร้าเข้าปกคลุม ในเวลานี้ตัวเขาสามารถปรุงยาวิเศษได้แค่ระดับสามขั้นต้นเท่านั้น อัตราล้มเหลวของยาเม็ดระดับสามชั้นกลางก็มากจนเกินไป อีกทั้งสำนักก็ไม่ได้ร่ำรวยมากพอที่จะให้เขาปรุงยาอย่างฟุ่มเฟือยได้! หนำซ้ำอายุของเขายังมากกว่าจ้าวเหวินจัวถึงหกสิบปี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ในใจก็อดรู้สึกเศร้าสร้อยและหดหู่ไม่ได้!
โชคดีที่จ้าวเทียนฮ่าวไม่ใช่คนที่มีจิตใจคับแคบอะไร เพียงแต่ไม่รู้จักใช้คนให้ถูกต้องและเชื่อคนง่ายจนเกินไป จึงถูกซุนิจวิ้นและอู๋จื่อจิ้งสองคนนี้ใช้ประโยชน์ เมื่อเห็นว่าจ้าวเหวินจัวสามารถปรุงยาเม็ดระดับสามขั้นต้นได้สำเร็จด้วยพลังยุทธ์ในระดับปรมาจารย์ิญญาขั้นกลาง แม้จะรู้สึกเศร้าหมอง แต่ก็ยังรู้สึกชื่นชมด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีตัวเขาก็ไม่ถนัดเื่การจัดการอยู่แล้ว ตอนนี้นับว่าดีที่ได้ปลดภาระนี้ลงแล้วกลับไปที่ยอดเขายาวิเศษ สามารถกลับไปตั้งใจฝึกปรุงยาวิเศษได้อย่างสบายใจมากขึ้น ซึ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว!
มีเพียงหม่าหัวอวิ๋นเท่านั้นที่มองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นผู้เผยสีหน้าสงบเยือกอยู่ข้างๆ ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
สมแล้วที่เป็อัจฉริยะในรอบหมื่นปีที่เหล่าผู้าุโสูงสุดทั้งสี่ประเมินค่าเอาไว้สูงมาก ตัวเขาสามารถเปลี่ยนนักปรุงยาธรรมดาๆ ที่เดิมทีปรุงยาวิเศษได้เพียงระดับสองขั้นกลางอย่างยากลำบาก ให้กลายเป็นักปรุงยาอัจฉริยะที่สามารถปรุงยาวิเศษระดับสามขั้นต้นได้สำเร็จภายในเวลาแค่เพียงสิบวัน
มีข่าวลือด้วยว่าหรูเยียน เด็กสาวแซ่จ้าว และเด็กสาวที่ใช้วิชาเรียกสัตว์อสูรกลืนิญญาได้ ล้วนเกิดจากการเข้าฌานและตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้พบกับหลิงอวิ๋นทั้งสิ้น ตอนนี้ก็มีจ้าวเหวินจัวเพิ่มเข้ามาอีกคน เด็กหนุ่มคนนี้มีวิธีการเปลี่ยนหินให้เป็ทองได้จริงๆ
ดีล่ะ ไม่ใช่แค่หัวอวิ๋นเท่านั้นที่ต้องให้เข้าหาหลิงอวิ๋นให้มากขึ้น แต่ต้องหาทางให้ิหย่งและิฮุ่ยมาเข้าหาเ้าหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้น หรูเยียนและเด็กสาวแซ่จ้าวก็ด้วย พวกนางล้วนแต่เป็อัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งของสำนัก มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสียเช่นนี้ คู่ควรแก่การเข้าไปผูกมิตรกับพวกนางด้วยยิ่งนัก!
...
“ฮ่าๆๆ หลิงอวิ๋น ความกรุณาของเ้าในครั้งนี้ ตัวข้าจ้าวเหวินจัวคนนี้จะจดจำไปตลอด ไม่มีวันลืม!” จ้าวเหวินจัวหัวเราะอย่างร่าเริง ชี้ไปที่หัวใจของตัวเองแล้วสาบานอย่างจริงจัง!
“เื่เล็กน้อยแค่นี้ก็จะจดจำไปตลอดแล้วหรือ! แล้วหลังจากนี้เมื่อท่านปรุงยาวิเศษระดับสี่ ระดับห้า และระดับหกได้ ท่านจะตอบแทนข้าอย่างไรเล่า!”
“ยาวิเศษระดับห้า ระดับหก!” จ้าวเหวินจัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก! “พะ... พวกนั้นมันไกลเกินฝันของข้าไปแล้ว ข้าจ้าวเหวินจัวคนนี้ไม่เคยคิดฝันมาก่อน แม้แต่ผู้ปรุงยาที่เก่งที่สุดในสำนักของเราเช่นผู้าุโอู จนถึงตอนนี้เขาก็สามารถปรุงยาวิเศษได้แค่ระดับสี่ขั้นสูงเท่านั้น! ทั่วทั้งอาณาจักรซินโยวของเรา คงมีเพียงแค่สำนักยายันตราเท่านั้นที่สามารถปรุงยาวิเศษระดับห้าได้”
“อูิแค่ไม่มีวาสนาได้พบกับอาจารย์ดีๆ เท่านั้น ไม่อย่างนั้นด้วยพลังยุทธ์ที่ใกล้เคียงกับปรมาจารย์ิญญาขั้นสูง หากฝึกฝนวิชาิญญาธาตุไฟอื่นที่ดีกว่านี้ หรือมีของวิเศษิญญาธาตุไฟแล้ว ไยต้องหวาดกลัวการปรุงยาวิเศษระดับห้า” เซียวหลิงอวิ๋นกล่าวอย่างสงบเยือกเย็น “ผู้าุโจ้าว ปีนี้ท่านยังอายุไม่ถึงห้าสิบปีใช่หรือไม่? เชื่อข้าเถอะ ตราบเท่าที่ท่านยังไม่ตายเสียก่อน ความสำเร็จในอนาคตของท่านจะยิ่งใหญ่เหนือกว่าอูิเสียอีก!”
“ฮ่าๆๆ ดี ถ้าถึงวันที่ข้าปรุงยาวิเศษระดับห้ากับระดับหกได้ ข้าจะปรุงยาที่เ้า้าให้เป็คนแรกเลย!” จ้าวเหวินจัวหัวเราะอย่างร่าเริง!
่เวลาที่ได้ติดตามเซียวหลิงอวิ๋น จ้าวเหวินจัวได้เห็นปาฏิหาริย์มาแล้วมากมาย ดังนั้นเมื่อเซียวหลิงอวิ๋นพูดเช่นนี้ จ้าวเหวินจัวจึงไม่มีความกังวลใจใดๆ อีกต่อไป แต่กลับมีความมั่นใจอย่างมากและมีแรงผลักดันที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งนี้! ตลอดชีวิตนี้ตัวเขาจะขอติดสอยห้อยตามเซียวหลิงอวิ๋นตลอดไป!
การปรุงยาวิเศษระดับสามภายในสิบวันตามที่ตกลงกันเอาไว้ครั้งนี้ ทั้งสองคนได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจอย่างมาก เซียวหลิงอวิ๋นนอกจากจะใช้เวลาแปดวันแรกไปกับการฝึกสร้างรากฐานร้อยวันแล้ว เวลาอื่นๆ ก็แทบจะใช้ไปกับการสอนจ้าวเหวินจัว ในสิบวันนี้ทั้งสองคนรวมกันยังนอนไม่ถึงสิบสองชั่วยามด้วยซ้ำ เวลานี้เมื่อประสบความสำเร็จได้ในที่สุด หลังจากพูดคุยกันสักพัก ทั้งสองคนก็กลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน!
ความสำเร็จในการปรุงยาวิเศษระดับสามขั้นต้นโอสถละมุนในครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อจ้าวเหวินจัว ทั้งทฤษฎี ทั้งทักษะ และประสบการณ์ต่างก็ได้รับการยกระดับในทุกๆ ด้าน พลังจิตเองก็ก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ทำให้กำแพงที่ตัวเองติดค้างอยู่ที่ระดับปรมาจารย์ิญญาขั้นกลางมานานกว่าหนึ่งปีพังทลายลงในขณะที่ปรุงยาสำเร็จ บรรลุสู่ระดับปรมาจารย์ิญญาขั้นสูงได้เป็ที่เรียบร้อย!
ที่ออกมาในแทบจะนาทีสุดท้าย ก็เพราะว่าจ้าวเหวินจัวใช้เวลาถึงสี่ชั่วยามในการรักษาพลังยุทธ์ในระดับปรมาจารย์ิญญาขั้นสูงให้มั่นคงชั่วคราว
เมื่อกลับมาที่ห้องแล้ว นอกจากจะนอนหลับพักผ่อน ก็ตั้งใจรักษาความเสถียรและทำให้พลังยุทธ์มั่นคงอย่างต่อเนื่อง!
เช้าวันรุ่งขึ้น เซียวหลิงอวิ๋นที่เพิ่งดูดซับพลังหยางยามอาทิตย์ขึ้นได้ไม่นาน ก็ััได้ถึงกำแพงของนักยุทธ์ระดับแปด! ในขณะที่กำลังจะตั้งใจฝึกวิชาอย่างจริงจังและเตรียมที่จะบรรลุให้ได้ในอีกไม่กี่วันให้หลังจากนี้ ‘ก๊องๆ’ เสียงระฆังที่ไพเราะและก้องกังวานก็ดังขึ้น!
ผู้คนปรากฏตัวออกมาจากเนินเขาและยอดเขาต่างๆ!
“พิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาประจำปีได้เริ่มขึ้นแล้ว! ไปดูกันเถอะ ว่าปีนี้จะมีคนเปิดเส้นลมปราณได้สำเร็จ และกลายเป็ผู้ใช้พลังิญญาได้กี่คน!”
พิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาของสำนักิญญาเมฆาอย่างนั้นหรือ?
พิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาจำนวนมากเช่นนี้ เมื่อหลายหมื่นปีก่อนไม่เคยมี ลองไปดูดีกว่า! ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นสว่างขึ้น แล้วก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้า ะโลงมาจากก้อนหินก้อนใหญ่ เดินตามฝูงชนไปที่ลานกว้าง!
ระหว่างทางได้พบกับลูกศิษย์สำนักชั้นนอกหลายกลุ่ม ลูกศิษย์เหล่านี้ต่างก็มองเซียวหลิงอวิ๋นด้วยสายตาแปลกใจ เพราะว่าตัวเขายังคงสวมเสื้อผ้าของศิษย์สำนักิญญาเมฆาอยู่ ไม่ใช่ชุดสีขาวเงินของศิษย์สำนักชั้นนอก!
“น้องชายคนนี้ ยังมัวแต่เดินยืดยาดอยู่ได้ รีบวิ่งเข้าสิ นักยุทธ์ทุกคนที่เข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาจะต้องไปให้ถึงก่อนเก้าโมงเช้านะ ผู้ที่มาสายจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญา!” ศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านมาอย่างเร่งรีบ เด็กหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งะโบอกกับเซียวหลิงอวิ๋น
“ขอบคุณมาก ข้าไม่เป็ไร!” เซียวหลิงอวิ๋นยิ้ม และยังคงเดินไป พร้อมมองชมทิวทัศน์รอบๆ ระหว่างทาง!
ณ ลานกว้างที่กว้างขวาง หม่าหัวอวิ๋นได้นำผู้ดูแลเก้าบ้านสามหอของสำนักชั้นนอกมานั่งบนอัฒจันทร์ด้านหน้าลานกว้างั้แ่เช้าตรู่!
ด้านล่าง บรรดาศิษย์จากทั้งห้าสำนักสาขา รวมทั้งสิ้นสองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามคนที่มีพลังยุทธ์ถึงนักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงและขั้นสูงสุด ต่างก็นั่งขัดสมาธิเป็รูปดอกบัวห้าดอก!
สำนักิญญาเมฆามีผู้เข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาในครั้งนี้ทั้งหมดสามร้อยแปดสิบเก้าคน! ที่ทำให้ประหลาดใจก็คือมีชื่อของจ้าวหนีอิ่งอยู่ด้วย!
นับั้แ่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ เป็เวลาสามสิบวันพอดี ไม่มากไม่น้อย หรือหนึ่งเดือนเต็ม ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนสั้นๆ พลังยุทธ์ของหญิงสาวอันที่เป็ที่รักของ์ก็พุ่งทะยานแตะนักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงแล้ว ดังนั้นจึงได้เข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาในครั้งนี้ด้วย!
ในบรรดาศิษย์สำนักสาขาทั้งห้าที่เดินทางมาถึงสำนักหลักในครั้งนี้ นอกจากฉินหรูเยียนที่บรรลุเป็ผู้ใช้พลังิญญาั้แ่ก่อนหน้าแล้ว ก็มีเซียวหลิงอวิ๋นและหยางลู่ที่ยังมีพลังยุทธ์ไม่ถึง จึงไม่สามารถเข้าร่วมพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญาได้!
ส่วนคนอื่นๆ มาพร้อมหน้ากันแล้วทุกคน!
ศิษย์สำนักสาขาทั้งห้าในรุ่นนี้ หากไม่นับสำนักิญญาเมฆา สำนักสาขาอื่นๆ ทั้งสี่เองก็มีคนที่โดดเด่นเป็อย่างมากปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน!
