การทดสอบรายการสามของรอบคัดเลือกขั้นแรก: ทดสอบความสามารถในการสู้จริง!
ศิษย์ทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดแกนสัตว์อสูร! โดยหุ่นเชิดแกนสัตว์อสูรที่ศิษย์ต้องเผชิญนั้นจะเป็แบบเดียวกันหมด พื้นผิวด้านนอกของหุ่นเชิดทำจากเหล็กเนื้อดี ความแข็งแกร่งของมันเทียบได้กับนักยุทธ์ระดับเก้าทีเดียว!
พื้นฐานในการตัดสินคะแนนของการทดสอบนี้ คือทดสอบความสามารถในการเอาตัวรอดภายใต้เงื้อมมือของหุ่นเหล็กสีดำนี้ว่านานสักเพียงไหน โดยสถิติที่นานที่สุดคือหนึ่งร้อยชั่วอึดใจ!
ในประวัติศาสตร์สำนักแห่งนี้ เหล่าอัจฉริยะที่สามารถเอาตัวรอดอยู่ได้ถึงหนึ่งร้อยชั่วอึดใจนั้น ล้วนประสบความสำเร็จในการเปิดเส้นชีพจริญญาและกลายเป็ผู้ใช้พลังิญญา ซึ่งเดี๋ยวนี้หลายคนก็ได้ก้าวหน้าขึ้นจนกลายเป็ปรมาจารย์ิญญา หรืออาจจะอยู่ในขั้นที่สูงกว่านั้น!
หากการทดสอบสองรายการแรกเป็การทดสอบคุณสมบัติและพร์ส่วนบุคคล การทดสอบนี้จะเป็การทดสอบถึงพลังต่อสู้ของคนผู้นั้นอย่างแท้จริง! โดยเฉพาะความสามารถในการต่อสู้ว่าปฏิบัติจริงได้ดีเพียงใด!
สำหรับผู้ฝึกพลังิญญา สิ่งที่เป็ดั่งพื้นฐานอันสำคัญที่สุดในโลกของการฝึกตนคือความสามารถในการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งในการต่อสู้จริงคือสิ่งสำคัญที่สุด
ในไม่ช้าเซียวหลิงอวิ๋นก็มองเห็นความน่ากลัวของเ้าหุ่นเชิดเหล็ก!
เพียงหมัดเดียว ศิษย์ที่เข้าทดสอบคนแรกก็ถูกชกกระเด็น!
ตัวเขากระเด็นลอยออกจากสนามทดสอบในทันที ทุกอย่างจบลงภายในด้วยเวลาสองชั่วอึดใจ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น!
สำหรับสนามที่ใช้ทดสอบต่อสู้กับหุ่นเชิดเหล็ก มีความยาวและความกว้างประมาณยี่สิบเมตร ซึ่งก็คือพื้นที่ราวๆ 400 ตารางเมตร ทว่าหุ่นเชิดเหล็กนี้ทั้งสูงและแขนยาวเก้งก้าง ความสูงของมันประมาณสามเมตร เมื่อกางแขนออกก็กินความยาวไปอีก 3.2 เมตร ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันน่าทึ่งอย่างยิ่ง สามารถเดินหน้าไปในระยะทางสิบห้าถึงสิบหกเมตรด้วยการก้าวเท้าเพียงสองก้าว
ภายใต้การชกอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและไม่เ็ปของเ้าหุ่นเชิด เหล่าศิษย์ต่างก็ถูกซัดจนกระเด็นออกจากสนามสอบทีละคนอย่างเคี่ยวกรำ ก่อนที่เซียวหลิงอวิ๋นจะได้เข้ารับการทดสอบ ผลเวลาที่ดีที่สุดอยู่ที่ห้าสิบหกชั่วอึดใจ!
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเซียวหลิงอวิ๋น! เขาสังเกตการทดสอบทั้งสองรอบก่อนหน้า ทันใดนั้นก็เกิดความเข้าใจอย่างชัดแจ้งเกี่ยวกับหุ่นเชิดเหล็กนี้!
ไม่ว่าหุ่นเชิดนี้จะทรงพลังสักเพียงไหน ทว่ามันก็ยังเป็เพียงหุ่นเชิดอยู่วันยังค่ำ ถูกควบคุมด้วยกลไก แน่นอนว่าถึงแม้พลังจะเทียบได้กับนักยุทธ์ระดับเก้าในด้านความแข็งแกร่งก็ตามที แต่ในด้านความคล่องแคล่วแล้ว การเคลื่อนไหวบางอย่างยังอยู่ในวงจำกัด ฉะนั้นจึงยังมีความต่างอยู่บ้างระหว่างหุ่นเชิดและนักยุทธ์ในระดับเดียวกัน ถึงแม้จะมีความต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถมองออกได้ เซียวหลิงอวิ๋นมีสายตาที่เฉียบคมมาก! เขาจึงมองเห็นปัญหาของมันั้แ่ตอนที่ได้เห็นในครั้งแรก ส่วนในรอบถัดมาเป็เพียงการยืนยันคำตอบ!
ความจริงแล้ว ขอเพียงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ ต่อให้อาศัยเพียงความว่องไวของนักยุทธ์ระดับสี่ ก็สามารถเอาตัวรอดภายในหนึ่งร้อยชั่วอึดใจได้
แต่แน่นอนว่าเซียวหลิงอวิ๋นไม่้าใช้วิธีการอันยุ่งยากเหล่านี้
ผู้าุโทั้งสี่คนของสำนักยังคงอยู่รอดูการแสดงพลังอันน่าตกตะลึงของเขา เห็นได้ชัดว่าการทำให้ผู้าุโทั้งสี่คนนี้ตื่นตะลึงด้วยการใช้ลูกไม้พรรค์นั้นเพื่อผ่านการทดสอบอาจยังไม่เพียงพอ เขาจะต้องผ่านไปอย่างสง่างาม ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว เขายัง้าใช้หุ่นเชิดที่เทียบได้กับนักยุทธ์ระดับเก้า เพื่อทดสอบพลังในการต่อสู้จริงของสภาพร่างกายในปัจจุบันของเขาด้วย!
ชายคนนี้ดึงเอาความสนใจจากทุกคนไปจนหมดในการทดสอบ สองรายการแรก พวกเขาจึงสงสัยว่าความสามารถในการต่อสู้จริงของเขาจะเป็อย่างไร? เมื่อเห็นเซียวหลิงอวิ๋นปรากฏตัว เหล่าศิษย์ทุกคนในกลุ่มที่สิบเก้านี้ รวมถึงศิษย์คนอื่นๆ ที่ได้รับาเ็สาหัสหลายคน ต่างก็พากันถ่างตารอ
บรรดาศิษย์เหล่านี้มีทั้งคนที่อยากเห็นเซียวหลิงอวิ๋นแสดงพลังการต่อสู้ที่ทำลายสถิติอีกครั้ง ในขณะที่บางคนแค่้าเห็นเื่ตลก: เ้าเป็สุดยอดอัจฉริยะงั้นหรือ? คงน่าขันดีไม่น้อยหากเขาสามารถเอาตัวรอดได้เพียงห้าสิบถึงหกสิบชั่วอึดใจ ก่อนที่จะถูกหุ่นเชิดเหล็กซัดกระเด็นออกจากสนาม!
ลุยเลยหลิงอวิ๋น ข้าเชื่อใจเ้านะ! ผู้าุโจ้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าเซียวหลิงอวิ๋นจะสามารถเอาตัวรอดได้เป็เวลาหนึ่งร้อยชั่วอึดใจ!
ผู้าุโอีกสามคนที่เหลือเองก็มองเซียวหลิงอวิ๋นในแง่ดีเช่นเดียวกัน! หากการทดสอบนี้อีกฝ่ายสามารถทำให้พวกเขาใได้ นั่นคงจะสมบูรณ์แบบมาก!
เขามองไปยังหุ่นเชิดเหล็กที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงกลางสนามทดสอบอีกครั้ง ยกเท้าขวาขึ้นเบาๆ แล้วก้าวเท้าเข้าสู่สนามทดสอบ!
ขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นปรากฏตัวเข้าสู่สนามทดสอบ ดวงตาของหุ่นเชิดเหล็กซึ่งยืนอยู่เงียบๆ เมื่อครู่นี้ก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับแสงสีแดงทั้งสองดวง และชั่วขณะต่อมา มันก็เหยียดเท้าของมันย่ำลงบนพื้นแข็งๆ ก่อนที่ร่างใหญ่ของมันจะรุดไปข้างหน้าทันที!
เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดเหล็กที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เซียวหลิงอวิ๋นก็ไม่ได้ล่าถอยออกไปแต่อย่างใด กลับก้าวเดินตรงไปข้างหน้าแทน!
ตุบๆ หลังจากที่วิ่งออกไปสองก้าว ร่างกายผอมเพรียวของเขาก็กระโจนสูงราวกับเสือที่แล่นออกจากกรงขัง เผชิญหน้ากับหมัดั์ของหุ่นเชิดเหล็กที่กำลังพุ่งเข้าใส่ แล้วต่อยหมัดสวนกลับไป!
“ตูม!” เกิดเสียงดังสนั่นที่ทำให้หัวใจของบรรดาศิษย์ทุกคนซึ่งกำลังรับชมการต่อสู้นี้อยู่พากันสะดุ้งโหยง หมัดใหญ่เล็กของทั้งสองฝ่ายปะทะเข้าหากันโดยไร้ซึ่งกลลวงใดๆ!
ตัวเซียวหลิงอวิ๋นกระเด็นลอยไปด้านหลังประมาณสามเมตรถึงตกลงสู่พื้น ขณะเดียวกันร่างของหุ่นเหล็กก็โซซัดโซเซออกไป และล้มลงกองกับพื้นทันที!
คนคนนี้ต้องทรงพลังเพียงใดกัน ถึงหยุดหุ่นเชิดเหล็กที่บุกเข้ามาด้วยหมัดเดียวได้! บรรดาศิษย์ต่างพากันอ้าปากกว้าง ในไม่ช้าก็ตระหนักได้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่สามารถวัดค่าพลังด้วยมาตรฐานปกติได้เลย ในการทดสอบรอบแรก เขาคือบุคคลน่าทึ่งที่มีพลังยุทธ์ถึงหนึ่งพันสองร้อยหกสิบเก้าชั่ง!
ไม่กี่อึดใจต่อมา ทั้งคนทั้งหุ่นเชิดที่กลับมายืนหยัดบนพื้นได้ตามเดิม ก็พุ่งเข้าปะทะกันอีกครั้ง!
หลังจากเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายด้วยหมัดแรก เซียวหลิงอวิ๋นก็รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองว่ายังด้อยกว่าอีกฝ่ายอยู่มากโข ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าอีกหน ทว่าครั้งนี้การบุกโจมตีของเซียวหลิงอวิ๋นเปลี่ยนรูปแบบไปเล็กน้อย!
เขาบุกเข้าไปหาอีกฝ่าย เข้าโจมตีในระยะประชิด หมัดของเขารัวดั่งพายุฝนฟ้าคะนอง ครั้นปล่อยหมัดหนึ่งก็ตามมาด้วยอีกหมัดหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งต่อยทั้งทุบไปยังแขนหนาๆ ทั้งสองข้างของหุ่นเชิดเหล็ก! กระทั่งเกิดเสียงดังก้องอย่างต่อเนื่องกังวานไปทั่วลานฝึกวิชานี้ราวกับเสียงฟ้าร้อง!
เมื่อเห็นอีกฝ่ายโจมตีเข้าที่แขนของมันอย่างต่อเนื่อง ความได้เปรียบไม่ว่าจะเป็ความสูงหรือแขนที่ยาวเหยียด เวลานี้กลับกลายเป็ความเสียเปรียบ ทำให้มันไม่สามารถแสดงพลังของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่! ร่างใหญ่ๆ ของมันถูกเซียวหลิงอวิ๋นผลักจนต้องล่าถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง!
“โอ๊ว!” เสียงคำรามดังออกมาจากปากอันใหญ่โตของหุ่นเชิดเหล็ก! ความเร็วของแกนสัตว์อสูรที่อยู่ข้างในหมุนวนเร่งพลังมากขึ้น ทันใดนั้นแขนทั้งสองข้างของมันก็ขยับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พยายามซัดเข้าที่หูทั้งสองข้างของเซียวหลิงอวิ๋น ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายในปัจจุบันของเซียวหลิงอวิ๋น หากโดนโจมตีเข้า ต่อให้ไม่ตายก็คงจะาเ็สาหัส และไม่สามารถกลับมาต่อสู้ได้อีกในเร็วๆ นี้เป็แน่!
คิดได้ดังนั้นจึงรีบหดตัวให้เล็กลงทันที!
หลังจากหลบการฟาดฟันจากแขนของอีกฝ่ายมาได้ ชั่วขณะต่อมา หมัดขวาของเซียวหลิงอวิ๋นก็ซัดเข้าที่่ล่างของหุ่นเชิดเหล็ก!
เขาใช้กระบวนท่าหมัดเกลียวสายฟ้า หมัดฟ้าคำรณ
ด้วยหมัดอันหนักหน่วง ร่างสูงใหญ่ของหุ่นเชิดเหล็กถอยหลังออกไปถึงสามก้าวในคราวเดียว!
จากนั้นร่างของเซียวหลิงอวิ๋นก็พุ่งเข้าไปหามันราวกับสายฟ้าฟาด ก้าวเท้าไล่ตามอีกฝ่ายไปไม่หยุดยั้ง เปลี่ยนจากหมัดกลายเป็ฝ่ามือที่สอดประสาน พลางยกแขนขึ้นมาพร้อมกัน ทันใดนั้นทั้งฝ่ามือและแขนก็ฟาดลงเต็มแรงที่ต้นขาขวาของเ้าหุ่นเชิดเหล็กราวกับค้อนหนักๆ สองอัน!
หมัดเกลียวสายฟ้า กระบวนท่าที่สอง ค้อนสายฟ้าคู่!
‘เปรี้ยงงงง’ หุ่นเชิดเหล็กที่ยังไม่ทันจะตั้งหลักได้ ถูกผลักให้ล่าถอยไปอีกครั้ง!
หลังจากที่ทุบเสร็จ เซียวหลิงอวิ๋นก็ก้าวเท้า เริ่มใช้เคล็ดวิชาก้าวลวงิญญา ลำตัวของเขาขยับหลบการโจมตี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเล่นงานจากมือขวาของหุ่นเชิดเหล็กที่กำลังซวนเซ ใช้เท้าขวาเหยียบลงบนพื้นแล้วพลิกตัวกลับ ทั้งตัวของเขาก็หมุนพลิ้วอย่างสง่างาม ก่อนที่เท้าซ้ายจะถูกส่งลอยเข้าตรงหน้าท้องของหุ่นเชิดเหล็ก!
หุ่นเชิดเหล็กที่กำลังโซซัดโซเซอยู่ไม่สามารถตั้งหลักได้ ซ้ำยังมาถูกลูกเตะย้ำเข้าไปอีก ทำให้ต้องถอยไปสองก้าว และล้มลงไปกองกับพื้นราวกับผลักูเาทองล้มเสาหยก!
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นหุ่นเชิดเหล็กล้มลงไปกองกับพื้น ส่งฝุ่นควันลอยคลุ้งขึ้นฟ้า!
น่าใมากที่ศิษย์คนเดียวสามารถล้มหุ่นเชิดเหล็กที่ใช้ในการทดสอบลงได้ นี่... นี่มันไม่ใช่เื่จริงใช่หรือไม่! ตะ... ตาของข้าจะต้องฝาดไปแน่ๆ...
เ้าหนุ่มคนนี้มันสัตว์ประหลาด! เขาไปเรียนลูกเตะเมื่อครู่นี้มาจากไหนกัน แต่ถึงอย่างไรมันก็ยอดเยี่ยม! ผู้าุโจ้าวมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น รู้สึกชื่นชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ!
ในงานประลองขั้นแรก เซียวหลิงอวิ๋นคว้าอันดับหนึ่งของกลุ่มที่สิบเก้ามาได้อย่างไร้ข้อกังขา ไม่สิ เรียกได้ว่าเป็ผลลัพธ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายของผู้าุโทุกคนด้วยซ้ำ!
การแสดงพลังอันน่าทึ่ง ทำให้ผู้าุโทั้งสี่ท่านตกตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้รู้สึกถึงความอัจฉริยะของเขาไม่รู้จบ
ทั้งเจ็ดสิบสี่กลุ่ม มีเพียงสี่สิบกลุ่มเท่านั้นที่เข้าสู่การทดสอบในวันแรก ส่วนอีกสามสิบสี่กลุ่มที่เหลือจะถูกพาเข้าสู่การทดสอบในวันที่สอง ก่อนที่งานประลองขั้นที่สองจะเริ่มขึ้นในวันที่สาม!
ตกดึก!
ตำหนักของเ้าสำนักยังคงจุดไฟสว่างไสว!
ชื่อถิงเทียน จ้าวเหวินจัว หวังฉงเอิน ชิวเทียนฉี่ ผู้าุโทั้งสี่ท่านล้วนมารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด ตรงหน้าพวกเขาทั้งสี่มีม่านจอแสงที่มีทั้งภาพและเสียง สามารถใช้สื่อสารในระยะไกลได้ถูกฉายขึ้น!
ในม่านหน้าจอแสงนี้ ปรากฏภาพชายชราร่างสูงไว้เคราแพะบางๆ ใต้คาง กำลังนั่งฟังรายงานจากชื่อถิงเทียน!
“ผ่านการทดสอบทั้งสามได้ยอดเยี่ยมมาก นี่เป็ความสามารถของนักยุทธ์ระดับห้าจริงหรือนี่?”
“ขอรับ ท่านอาจารย์ลุง!” เ้าสำนักชื่อตื่นเต้นมาก ใครจะคิดว่าผู้าุโผู้รับหน้าที่ในวันนี้ จะเป็ท่านอาจารย์ลุงของเขาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลของเขาอย่างยิ่ง ฮ่าๆ ์ทรงโปรดจริงๆ!
“ดี ข้าจะแจ้งเื่ดังกล่าวให้ท่านเ้าสำนักทราบ การประลองขั้นต่อไปของเ้าหนุ่มนั่นคือวันมะรืนนี้ใช่หรือไม่?”
“ขอรับ ท่านอาจารย์ลุง!”
“ดี ถึงเวลานั้นคงมีผู้าุโจากสำนักเราไปถึงที่นั่นแล้ว หากเขามีความสามารถสูงอย่างที่พวกเ้าทั้งสี่ว่ามาจริง หลังจากรับเขาเข้ามาเขตในของสำนักแล้ว การฝึกฝนและการชี้นำจากพวกเ้าทั้งสี่ คงเป็อะไรที่ขาดไม่ได้”
“ขอบคุณท่านอาจารย์ลุงที่วางใจ!” คำกล่าวของชายชรา ทำให้แม้แต่เ้าสำนักชื่อยังอดรู้สึกเนื้อเต้นขึ้นมาไม่ได้ รีบกล่าวขอบคุณเขาทันที!
ผลการทดสอบที่ทำลายสถิติได้ทั้งสามรายการ ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตื่นตาตื่นใจ ในวันแรกของงานประลองใหญ่ ชื่อของเซียวหลิงอวิ๋นโด่งดังสะพัดไปทั่วทั้งเขตใต้
...
“ว่าอย่างไรนะ? เ้าบอกว่ายอดอัจฉริยะที่ทำลายสถิติได้ทั้งสามรายการคือเซียวหลิงอวิ๋นอย่างนั้นหรือ นั่นมัน 'เ้าขยะชั้นสองชั้นสาม' เซียวหลิงอวิ๋นไม่ใช่หรือ? เ้าแน่ใจแล้วหรือ?” ดวงตาของจ้าวิเจี้ยนแทบจะถลนออกนอกเบ้า หงุดหงิดโมโหขึ้นมาทันที “ไปตามจ้าวซานเต๋อมาซิ!”
“เขาทำลายสถิติได้สองรายการซ้อน เสมอหนึ่งรายการกับสถิติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสำนัก เ้าหมอนั่นทำได้อย่างไรก็ไม่ทราบ จาก 'ขยะ' กลายเป็สุดยอดอัจฉริยะไปได้ ไม่ว่าจะมองอย่างไร นี่มันก็ไม่ปกติชัดๆ!” จางอวิ๋น ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็อัจฉริยะของระดับกลางเขตใต้ก็ขมวดคิ้วแน่น!
แม้ว่าการทดสอบของเขาจะเป็วันพรุ่งนี้ อย่าว่าแต่เื่ของความเร็วเลย อย่างน้อยในด้านพลังยุทธ์และการต่อสู้ที่แท้จริง ตัวเขาคงไม่สามารถทะลุเกินกว่าหนึ่งพันชั่งได้ และไม่มีทางสามารถเอาชนะหุ่นเชิดเหล็กได้อย่างแน่นอน! ซึ่งแท้จริงแล้ว ในรุ่นก่อนๆ เองก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ศิษย์ระดับกลางสามารถเอาชนะหุ่นเชิดเหล็กในการทดสอบได้!
งานประลองในปีนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น แต่ม้ามืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว เวลานี้ดูเหมือนว่าคนคนนั้นจะเป็อัจฉริยะที่มีพลังและความสามารถมากที่สุดในบรรดาอัจฉริยะด้วยกันนับั้แ่ก่อตั้งสำนักมา นั่นคือเซียวหลิงอวิ๋น!
เดิมทีเขาคิดว่าคู่แข่งของเขาจะเป็ จ้าวิเจี้ยน หวังอี้ หลิวิฉวน และเยี่ยเฟิงเสียอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนผู้ครองอันดับหนึ่งของงานประลองกำลังแปรเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ และอาจไม่ใช่ตัวเขาเองด้วย ทว่าเป็ม้ามืดตัวใหญ่ที่เพิ่งปรากฏออกมา หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ตัวเขาอาจจะถูกลดขั้นลงไปอยู่เพียงอันดับรอง หรือไม่ก็อันดับสาม เป็แน่!
หลังจากได้ยินเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของเซียวหลิงอวิ๋น นอกเหนือจากดาบโลหิตเยี่ยเฟิงที่มีไฟต่อสู้ลุกโชนขึ้นกว่าเก่า หัวใจของบรรดาศิษย์ระดับกลางที่เหลืออยู่ต่างก็เต็มไปด้วยความหนักอึ้ง ราวกับมีวัตถุน้ำหนักมากวางอยู่บนหลัง
