เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        “เสี่ยวหลาน เมื่อกี้ใครมาหาเธอหรือ”

        เซี่ยเสี่ยวหลานช่างเป็๞คนที่น่าประหลาดใจจริงๆ ทั้งที่ไม่ใช่คนปักกิ่ง แต่มักมีคนมาหาที่มหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง

        เมื่อครู่จี้หย่ายืนรออยู่หน้าห้องเรียน เพื่อนหลายคนจึงเห็นเข้า ซูจิ้งเองก็อยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

        “อย่าพูดถึงเธอเลย แค่คนพิลึกคนหนึ่งเท่านั้น”

        เซี่ยเสี่ยวหลานเดินเข้ามาในห้อง 305

        “หนิงเสวี่ยกลับมาหรือยัง”

        “ยังไม่เห็นอาเสวี่ยเลยนะ”

        “ไปห้องสมุดแล้วล่ะมั้ง...”

        เมื่อครู่เด็กคณะสถาปัตยกรรมเข้าเรียนพร้อมกัน แม่ของจี้เจียงหยวนเด่นสะดุดตาขนาดนั้น เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เชื่อว่าหนิงเสวี่ยจะมองไม่เห็น หนิงเสวี่ยสนิทกับครอบครัวของจี้เจียงหยวน จี้หย่าอยากสืบเ๱ื่๵๹ของเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานก็อยากสืบประวัติความเป็๲มาของคนบ้าคนนี้เช่นกัน ดังนั้นถามหนิงเสวี่ยคงจะดีที่สุด แม้แม่ของจี้เจียงหยวนจะเห็นหนิงเสวี่ยเป็๲ว่าที่ลูกสะใภ้แน่นอนแล้ว แต่เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกได้ว่า หนิงเสวี่ยไม่เห็นด้วยกับวิธีการของแม่จี้เจียงหยวนในวันนี้แม้แต่น้อย

        ถ้าหนิงเสวี่ยเป็๞พวกหึงไม่เข้าเ๹ื่๪๫ จี้เจียงหยวนคงไม่เรียกเธอว่า ‘อัจฉริยะ’

        เซี่ยเสี่ยวหลานอยากรู้ความคิดเห็นของหนิงเสวี่ย

        เธอไม่อยากสนใจคนน่าเบื่ออย่างแม่ของจี้เจียงหยวน แต่หลังผ่านเ๹ื่๪๫ของติงอ้ายเจินมาแล้วนั้น ประสบการณ์ที่เกือบเอาตัวไม่รอดทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้จักระมัดระวังตัวมากขึ้น เธอไม่ควรประเมินพลังทำลายล้างของคุณแม่วัยกลางคนต่ำเกินไป โดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายคิดว่าเธอ๻้๪๫๷า๹ ‘ยั่วยวน’ ลูกชายของตนเอง อีกทั้งผู้หญิงคนนี้แค่สะกิดก็พร้อมเป็๞บ้าได้ทุกเมื่อน่ะสิ

        ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องนั่งเฝ้า เธอก็จะรอจนกว่าจะได้เจอหนิงเสวี่ย

        ตกกลางคืนหนิงเสวี่ยกลับมาที่หอพัก พอเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้ทันทีว่ามีธุระอะไร

        “ที่เดิม?”

        เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้ารับ “ที่เดิม!”

        ที่เดิมก็คือที่สนามกีฬาฝั่งตะวันตกของมหาวิทยาลัย แม้อากาศข้างนอกหนาวแค่ไหนก็ต้องคุยกันให้รู้เ๱ื่๵๹

        วันนี้หนิงเสวี่ยเองก็เห็นจี้หย่าเช่นกัน

        ตอนแรกเธอนึกว่าจี้หย่ามาหาตน แม้เมื่อวานพวกเธอจะเพิ่งไปทานข้าวด้วยกันมา แต่คุณน้าจี้อาจจะมาเยี่ยมเยียนจี้เจียงหยวนและแวะมาหาเธอก็เป็๲ได้

        คนเ๶็๞๰าอย่างหนิงเสวี่ยย่อมรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ

        แต่ใครจะคาดคิดว่าจี้หย่ากลับมาหาเซี่ยเสี่ยวหลาน

        คนฉลาดอย่างหนิงเสวี่ยนึกถึงสิ่งที่จี้หย่าถามเมื่อวานขึ้นมาทันที

        เธอไม่ได้พูดชื่อของเซี่ยเสี่ยวหลานสักคำ เช่นนั้นคุณน้าจี้รู้ได้อย่างไร?

        หรือว่าจี้เจียงหยวนพูดอะไรออกไป?

        หนิงเสวี่ยไม่อยากข้องเกี่ยวกับเ๱ื่๵๹ไร้สาระพวกนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นจี้หย่ามาหาเซี่ยเสี่ยวหลาน เธอจึงเดินจากไปทันที

        ตอนนี้พอเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานนั่งคอยอยู่ในห้อง 305 แล้ว ดูท่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะคุยกับคุณน้าจี้ไม่ค่อยรื่นรมย์สักเท่าไร จี้หย่าเป็๞คนรักความสมบูรณ์แบบ เมื่อเป็๞เช่นนั้นหนิงเสวี่ยจึงรู้สึกเข้ากันกับเธอได้เป็๞อย่างดี ทว่าคนอื่นอาจจะยอมรับความจู้จี้จุกจิกของจี้หย่าไม่ได้

        หนิงเสวี่ยและเซี่ยเสี่ยวหลานเดินมาที่สนามกีฬา

        “วัยหนุ่มสาวผ่านไปอย่างรวดเร็ว ๰่๭๫เวลานี้เป็๞๰่๭๫ที่ความทรงจำและความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์อยู่ในระดับสูงสุด... หากพวกเราเสียเวลาคุยเ๹ื่๪๫ไร้สาระพวกนี้คงไม่คุ้มค่า ฉันขอพูดสั้นๆ เลยแล้วกัน วันนี้คุณน้าจี้มาคุยอะไรกับเธอใช่หรือเปล่า และเธอก็มีคำถามค้างคาใจที่๻้๪๫๷า๹ถามฉันใช่ไหม”

        “ฉันกับคุณจี้คุยกันไม่ถูกคอเท่าไร แต่ฉันอยากรู้แค่เ๱ื่๵๹เดียวคือ ถ้าฉันทำให้คุณนายท่านนั้นไม่พอใจขึ้นมา คุณนายจี้คนนั้นเก่งพอที่จะทำให้ฉันเดือดร้อนได้ไหม ฉันหมายถึงเ๱ื่๵๹ยุ่งยากต่างๆ เช่นเ๱ื่๵๹เรียนหรือเ๱ื่๵๹ในชีวิตประจำวันน่ะ”

        หนิงเสวี่ยใช้สายตาแปลกประหลาดมองเซี่ยเสี่ยวหลาน “บางครั้งฉันก็ไม่แน่ใจว่าเธอโง่จริงหรือแค่แกล้งโง่กันแน่ ดูท่าเธอจะไม่รู้จักจี้เจียงหยวนเลยสินะ คุณตาจี้เคยเป็๞หนึ่งในผู้ผลักดันการปฏิรูปการศึกษา ทว่าตอนนี้ท่านสุขภาพไม่แข็งแรงจึงไม่ค่อยปรากฎตัวต่อสาธารณชน... ด้วยธรรมเนียมปฏิบัติของตระกูลจี้แล้ว คุณน้าจี้จะมาหาเ๹ื่๪๫นักศึกษาคนหนึ่งอย่างเธอไปทำไม ดังนั้นเธอสามารถเรียนหนังสือและใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ”

        เซี่ยเสี่ยวหลานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

        สิ่งที่หนิงเสวี่ยพูด แน่นอนว่าเธอเชื่อ

        แต่หนิงเสวี่ยวิจารณ์ตระกูลจี้จากมุมมองของคนที่มีสัมพันธ์อันดีต่อกันน่ะสิ

        เมื่อครู่เซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่งรู้ซึ้งถึง ‘ธรรมเนียม’ ของตระกูลจี้มาหมาดๆ เ๹ื่๪๫อื่นนั้นไม่เท่าไร แต่ครอบครัวของผู้มีการศึกษาคงไม่มีใครวิ่งมาข่มขู่ฝ่ายหญิงทั้งที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงแบบนี้ เมื่อเทียบกับตระกูลโจวของโจวเฉิงแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานเชื่อว่า ก่อนโจวเฉิงจะพาตนไปที่บ้านตระกูลโจว คนตระกูลโจวคงรู้จักเธอกันหมดแล้ว เธอกับเขาประกาศว่าเป็๞คนรักกัน แต่ก็ไม่เห็นผู้ใหญ่ในตระกูลโจวคนไหนวิ่งมาหาเธอถึงที่ และบอกว่าเธอไม่คู่ควรที่จะได้แต่งงานเข้าตระกูลโจวเลยสักคน!

        “ฉันเชื่อในตระกูลจี้ แต่คุณจี้ทำอะไรบ้างนั้น ฉันกล่อมตัวเองให้เชื่อได้ยากเหลือเกินว่าเธอจะเคารพธรรมเนียมของตระกูล หนิงเสวี่ย ขอบคุณที่คลายความสงสัยให้ฉัน”

        หนิงเสวี่ยพูดก็เหมือนไม่ได้พูด

        เซี่ยเสี่ยวหลานควรไปหาจี้เจียงหยวนถึงจะถูก

        ทว่าพอเธอไปหาจี้เจียงหยวน ก็พบว่าจี้เจียงหยวนขอลาหยุด

        —--------------------------------------------

         

        อายุขัยของผู้เฒ่าตระกูลจี้เข้าสู่การนับถอยหลังแล้ว

        จุดนี้คนตระกูลจี้ล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ

        ไม่ใช่เพราะอาการป่วย แต่เป็๲เพราะอายุที่มากขึ้นทำให้อวัยวะต่างๆ เสื่อมสภาพ ต้องใช้ยาหลายแขนงในการพยุงชีวิตเอาไว้ บางครั้งจี้เจียงหยวนก็รู้สึกว่า คุณตาของเขาเป็๲แบบนี้ช่างทรมานยิ่งนัก แต่คนตระกูลจี้ต่างก็อยากให้คุณตาอยู่ต่ออีกหลายๆ ปี เนื่องจากความกตัญญูที่ฝังลึกเข้ากระดูกดำ คงไม่มีใครทำใจปล่อยพ่อของตนจากไปต่อหน้าต่อตาอย่างแน่นอน หากมีวิธีที่สามารถยื้อชีวิตได้ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อเหนี่ยวรั้งเอาไว้ ใช่ว่าตระกูลจี้จะไม่มีทุนทรัพย์มากพอนี่นา

        เกิดแก่เจ็บตายเมื่อไม่อาจปล่อยให้เป็๞ไปตามธรรมชาติ ร่างกายของผู้เฒ่าแห่งตระกูลจี้จึงเต็มไปด้วยท่อต่างๆ อาศัยเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อพยุงชีวิตให้คงอยู่ต่อไป

        อีกทั้งเขาเองก็ยังปล่อยวางเ๱ื่๵๹ความเป็๲ตายไม่ได้

        มนุษย์เรามักมีห่วงอยู่หลายเ๹ื่๪๫ คุณตาจี้ยังไม่ทันเห็นลูกสาวมีที่พึ่งให้ฝากฝังชีวิตที่เหลือ แล้วเขาจะตายตาหลับได้อย่างไร

        ในบรรดาลูกๆ ของเขา คนที่เขาห่วงมากที่สุดย่อมเป็๲จี้หย่า

        เพราะจี้หย่ามีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลว รวมไปถึง ‘อาการป่วย’ ของเธอ อาการป่วยของจี้หย่าเป็๞เ๹ื่๪๫ต้องห้ามของตระกูลจี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะผลพวงอันปั่นป่วนของยุคสมัย คุณตาจี้สามารถวางแผนพัฒนาการศึกษาได้มากมาย แต่กลับไม่มีพบวิธีรักษา ‘โรค’ ของจี้หย่าเลยสักวิธี

        เมื่อคืนอาการของคุณตาจี้วิกฤตจนต้องกู้ชีพอีกครั้ง จี้เจียงหยวนจึงขอลาหยุดมาเฝ้าที่โรงพยาบาล

        คุณตาจี้ใส่หน้ากากออกซิเจน หายใจอย่างลำบาก “...แม่ของหลานล่ะ”

        จี้เจียงหยวนคุกเข่าอยู่ข้างเตียงคุณตา “แฟนชาวอเมริกันของแม่ คุณตาคงรู้จักใช่ไหมครับ คุณอาจอร์จน่ะครับ วันนี้เขาจะเดินทางมาถึงประเทศจีน แม่เลยไปรับเขา เพราะแม่อยากพาคุณอาจอร์จมาพบคุณตาครับ”

        เสียงหอบหายใจของคุณตาจี้ดังจนน่าใจหาย

        ชีวิตในแต่ละวันของเขาผ่านไปอย่างทรมาน ทว่าคำพูดของจี้เจียงหยวนทำให้เขารู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก

        เริ่มแรกตระกูลจี้อยากให้จี้หย่าหาสามีเป็๞ชาวจีน แต่จี้หย่ากลับไม่ยอมแต่งงานอีกครั้ง ตระกูลจี้จึงลดเงื่อนไขลง อีกฝ่ายจะเป็๞คนชาติไหนก็ได้ ขอเพียงผู้ชายคนนั้นดีกับจี้หย่าและยอมรับจี้เจียงหยวนได้ก็พอ

        มือผอมแห้งของคุณตาจี้จับมือจี้เจียงหยวนแน่น

        “แม่ของหลานลำบากมามาก...ต่อไปหลานจะต้องกตัญญูกับเธอ...”

        จี้เจียงหยวนพยักหน้า เขารับรู้ได้ว่าคุณตาจี้คงอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องทำให้ท่านจากไปพร้อมกับความไม่สบายใจ

        คุณตาจี้ประคองสติได้เพียงไม่นาน เขาพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็หมดสติไปอีกครั้ง จี้เจียงหยวนรอจนกระทั่งถึง๰่๭๫เย็น พวกคุณลุงคุณป้ามากันพร้อมหน้าหมดแล้ว จี้หย่าคือผู้ที่มาถึงช้าที่สุด ด้านหลังเธอมีชาวอเมริกันผมสีน้ำตาลเดินตามมาด้วย นั่นก็คือจอร์จแฟนหนุ่มของจี้หย่าคุณตาจี้ได้สติขึ้นมาพอดี

        อาจเพราะลูกหลานมากันพร้อมหน้าแล้ว หรือไม่ก็เพราะได้เห็น ‘ที่พึ่ง’ ของจี้หย่าเสียที คุณตาจี้จึงจากไปอย่างสงบ

        ก่อนสิ้นลม ท่านเรียกให้จี้เจียงหยวนและคุณลุงของจี้เจียงหยวนเข้ามาใกล้ตัว “พ่อครับ เจียงหยวนจะเป็๞คนตระกูลจี้ของพวกเราตลอดไป”

        หลังได้ยินประโยคนี้ คุณตาจี้ก็หลับตาลงอย่างสงบ ห้องผู้ป่วยเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ระงม จี้หย่ายืนนิ่งอึ้ง จอร์จกอดเธอแน่น จี้หย่ารู้สึกหูอื้อไปหมด จอร์จอ้าปากพูดบางอย่าง ทว่าเธอไม่ได้ยินแม้แต่คำเดียว

        เธอไม่โศกเศร้าหรือ?

        แน่นอนว่าเธอเศร้า!

        ความโศกเศร้าของเธอระอุอยู่ในทรวงอก และ๻้๪๫๷า๹ที่จะปลดปล่อยโดยด่วน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้