เพลงฝ่ามือเมฆาไร้มลทินเป็หนึ่งในสามวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลง เพราะเป็วรยุทธ์ที่ใช้พละกำลังเพียงน้อยนิด ทว่าสามารถชนะศัตรูที่มีกำลังมากกว่าได้อย่างอัศจรรย์ หากคนที่ใช้เพลงฝ่ามือนี้คือหลงโม่หราน เพียงกระบวนท่าเดียวก็จัดการลัวเฟิงและศิษย์ในสำนักอีกสี่คนจนยับเยินได้ แต่ความสามารถของหลงหว่านเอ๋อร์ยังไม่ถึงขั้นนั้น
แม้หญิงสาวมีพร์ยอดเยี่ยม แต่ยังไม่สามารถบรรลุเพลงฝ่ามือเมฆาไร้มลทินขั้นที่สองได้ นอกจากนี้ยังอายุน้อย อีกทั้งมีพลังลมปราณระดับสิบปีเท่านั้น หากลัวเฟิงและศิษย์พี่น้องสำนักหมัดเทวารุมโจมตีพร้อมกัน เธอคงต้านรับไม่ไหวแน่
ลัวเฟิงมีพลังลมปราณระดับยี่สิบห้าปี อีกทั้งบรรลุหมัดปืนใหญ่สามจักรพรรดิขั้นที่สองแล้ว พร์ของลัวเฟิงนับว่าสูงยิ่ง! แม้ปัจจุบันจะมีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี แต่ก็ยืนอยู่ในอันดับต้นๆ ของผู้ฝึกวรยุทธ์ในรุ่นเดียวกัน
ส่วนศิษย์ผู้น้องทั้งสามคนของลัวเฟิง พวกเขาไม่มีพร์เช่นลัวเฟิง อีกทั้งไม่มีทรัพยากรในการฝึกวรยุทธ์มากนัก แม้จะมีอายุใกล้เคียงกับลัวเฟิง แต่พลังลมปราณยังอยู่เพียงระดับสิบปี และกำลังการสู้รบของแต่ละคนก็เทียบหลงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้เลย หากพวกเขาสามคนร่วมมือกันก็มากพอที่จะจับตัวเธอได้
แต่เย่เฟิงจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเด็ดขาด
หลังจากเย่เฟิงใช้ทักษะล่องหนก็เห็นหลงหว่านเอ๋อร์ใช้เพลงฝ่ามือเมฆาไร้มลทินเบี่ยงเบนความสนใจทั้งสี่คน ชายหนุ่มจึงอาศัยจังหวะนี้ลอบเข้าไปด้านหลังลัวเฟิงอย่างเงียบเชียบ จากนั้นโคจรพลังชี่ไว้ที่แหวนกระบี่ัโบราณในมือของตัวเอง ด้วยมวลพลังมหาศาล ฉับพลันกระบี่พลังปราณก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
แสงจากกระบี่สีทองแทงทะลุหน้าอกของลัวเฟิง!
เขาจัดการฝ่ายตรงข้ามในกระบี่เดียว!
ฉึก!
เืสีแดงสดสาดกระเซ็น แต่สิ่งที่ทำให้เย่เฟิงประหลาดใจคือใน่เวลาเป็ตาย ลัวเฟิงกลับสามารถเบี่ยงหลบการโจมตีส่วนสำคัญอย่างหัวใจมาเป็ไหล่ได้
“ใครลอบโจมตีฉัน!” ลัวเฟิงะโลั่น ก่อนหมุนตัวปล่อยหมัดสองข้างไปรอบๆ!
รูปลักษณ์ของชายคนนี้คล้ายคลึงกับหนานฟาง แต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความฉุนเฉียว เพราะถูกเย่เฟิงลอบทำร้ายจนาเ็ ใบหน้าจึงบิดเบี้ยวด้วยความโมโห
หมัดปืนใหญ่สามจักรพรรดิ!
‘สำนักหมัดเทวา’ ไม่ได้ขาวบริสุทธิ์ดังชื่อเทวา เย่เฟิงรู้ดีว่าถ้าเขาโดนหมัดคู่นี้เข้าไป คงต้องาเ็หนักแน่
ผู้ที่มีพร์สูงจนสามารถบรรลุถึงขั้นที่สองได้ ย่อมมีสัญชาตญาณระวังภัยสูงกว่าผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไป แม้แต่นักล่าิญญาที่มีระดับพลังลมปราณสามสิบปีก็ยังไม่สามารถััถึงการโจมตีอันรวดเร็วของเย่เฟิง ทว่าลัวเฟิงกลับสามารถเบี่ยงตัวหลบการจู่โจมด้วยกระบี่ของเย่เฟิง นี่เป็ครั้งแรกของเย่เฟิงที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้!
‘ลัวเฟิงคนนี้ ต่อให้เรามีระดับพลังเทียบเท่าก่อนจะมาอยู่ในโลกนี้ ก็ไม่แน่ว่าจะจัดการเขาได้!’ เย่เฟิงก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว
“คิดจะหนีงั้นเหรอ?” ลัวเฟิงคำรามเสียงดังลั่นพร้อมปล่อยหมัดคู่กลางอากาศ หมัดสองข้างพุ่งขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน!
เย่เฟิงอาศัยจิตหยั่งรู้จึงััได้ชัดเจนว่าหมัดที่มีพลังทำลายล้างสูงกำลังพุ่งโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว นึกไม่ถึงว่ามันจะอัดแน่นไปด้วยพลังภายในที่ลัวเฟิงปลดปล่อยออกมา!
หากเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับสิบปีทั่วไป คงต้องตายภายใต้หมัดคู่นั้นแน่นอน แต่เย่เฟิงเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไปงั้นหรือ?
“กรงเล็บั!” ชายหนุ่มะโก้อง ทันใดนั้นมือสองข้างของเขาก็เปลี่ยนเป็กรงเล็บพร้อมกับพลังชี่ปะทุออกมาขวางหมัดอีกฝ่ายกลางอากาศ
เกิดเสียงดังกึกก้อง การปะทะกันระหว่างพลังภายในและพลังปราณกลางอากาศรุนแรงจนเกิดคลื่นอากาศที่มองไม่เห็นปะทุเป็วงกว้าง หนานฟางที่หลบอยู่ด้านหลังเย่เฟิงก็ไถลไปไกลจนเกือบตกหน้าผาเพราะไม่ทันตั้งตัว
วืด! วืด!
พลังหมัดทรงพลังยังคงไล่โจมตีเย่เฟิงด้วยความเร็วอย่างต่อเนื่อง แม้ลัวเฟิงมีพลังลมปราณระดับยี่สิบห้าปีซึ่งสูงกว่าเย่เฟิง แต่ความแข็งแกร่งและความสามารถของเย่เฟิงก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
หมัดแปดทิศ!
เมื่อชายหนุ่มต้องเผชิญหน้ากับหมัดทรงพลังสองข้างที่พุ่งเข้ามาก็ไม่กล้าประมาท เขากวัดแกว่งหมัดทั้งสองข้างของตัวเอง
ปัง! ปัง!
พลังหมัดทั้งสองข้างของลัวเฟิงถูกจัดการจนสลายไป
เย่เฟิงยืนอย่างมั่นคง คลื่นอากาศรุนแรงทำให้ผมของเขาพลิ้วไหว ชายหนุ่มเงยหน้ามองลัวเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าลัวเฟิงปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้ เพราะรู้เขาจึงหลบเลี่ยง ทว่าหนานฟางอยู่ที่ริมหน้าผา หากเขาไม่เข้ามายุ่ง อีกฝ่ายคงไม่มีทางรอดชีวิตไปได้แน่
แม้เย่เฟิงจะไม่เคยเอ่ยปาก แต่ก็นึกชื่นชมหนานฟางมาก บนโลกใบนี้ ทุกคนล้วน้าพละกำลังที่มากพอจะปกป้องคนรักและคนรอบตัว เขาจึงจำเป็ต้องจัดตั้งกองกำลังของตัวเองขึ้นมา อาศัยกำลังของคนเพียงคนเดียวย่อมไร้ประโยชน์
แล้วอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการจัดตั้งกองกำลัง?
แน่นอนว่ามันคือผู้มีพร์!
“สหายโม่” หนานฟางยืนอยู่ริมหน้าผา เสื้อเชิ้ตสีดำพลิ้วตามแรงลม เม็ดทรายและเศษหินละเอียดปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนเขาลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่ก็มั่นใจว่าใน่เวลาวิกฤตแบบนี้ อย่างไรก็ต้องเป็เย่เฟิงแน่นอนที่มาช่วยชีวิตตน
นึกไม่ถึงเลยว่าเย่เฟิงจะแข็งแกร่งพอๆ กับลัวเฟิง ที่จริงแล้วคนคนนี้แข็งแกร่งมากขนาดไหนกันนะ?
แม้เขาจะรู้ว่าเย่เฟิงกับโม่จิ่วเกอคือคนเดียวกัน แต่ก็ไม่อาจเรียกชื่อจริงของอีกฝ่าย จึงเรียกว่า ‘สหายโม่’
“วันนี้ฉันจะช่วยนายล้างแค้นให้เอง” เย่เฟิงไม่เคยถามอดีตระหว่างลัวเฟิงและหนานฟาง แต่เมื่อเห็นลัวเฟิงตามล่าเอาชีวิตหนานฟางเช่นนี้ เขาก็เข้าใจได้ว่าทั้งสองคนคงเป็ศัตรูที่ไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้
ชายหนุ่มตวัดกระบี่สีทองในมือ ลมทะเลหอบใหญ่ด้านหลังปะทะริมหน้าผาจนเกิดเสียงดัง!
“ไม่เลวนี่ นี่คือวิชาที่แกใช้ลอบโจมตีฉันเหรอ?” ลัวเฟิงยิ้มเหี้ยม แม้เืสีแดงสดจะไหลออกจากไหล่ แต่กลับไม่แยแส ต้องยอมรับว่าชายผู้นี้เป็คนที่ทั้งแข็งแกร่งและบ้าเื
“แกไม่จำเป็ต้องรู้หรอก” เย่เฟิงแค่นเสียงตอบ น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ ก่อนกวาดตามองหลงหว่านเอ๋อร์
เพราะการลอบโจมตีของเย่เฟิง ศิษย์ผู้น้องทั้งสามของลัวเฟิงจึงหยุดการเคลื่อนไหว ถึงพวกเขาจะล้อมหลงหว่านเอ๋อร์ไว้ แต่ก็ยังไม่ลงมือทำอะไร หญิงสาวจ้องเย่เฟิงและลัวเฟิงด้วยความตกตะลึง
ชื่อของทั้งสองคนไม่ต่างกันมาก อีกทั้งพร์ยังน่ากลัวพอๆ กัน แต่เห็นได้ชัดว่าเย่เฟิงมีศักยภาพมากกว่า ซ้ำยังสามารถต่อสู้กับลัวเฟิงด้วยระดับพลังลมปราณเพียงสิบปี... ดังนั้นความภูมิใจจึงปรากฏในใจของหลงหว่านเอ๋อร์ ผู้ชายของเธอเป็ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งกว่าลัวเฟิงเสียอีก!
ปัจจุบันในโลกยุทธจักรมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้ และในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน ก็มีลัวเฟิงเป็คนที่สาม ทำให้เขากลายเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีพร์ และเย่เฟิงก็เป็คนที่สี่ที่สามารถปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้
“ไอ้เด็กเวร ชักจะมากเกินไปแล้ว” ลัวเฟิงหัวเราะเสียงเหี้ยม “แกแส่ไม่เข้าเื่เองนะ ลัวเฟิงคนนี้จะทำให้แกได้ตายสมใจ จงตายซะ!”
ลัวเฟิงกำหมัดสองข้าง จนพลังภายในของเขาสั่นปะทุและก่อตัวขึ้นเป็เพลงหมัด
หมัดปืนใหญ่สามจักรพรรดิ หมัดแรกคือหมัดซ้าย! หมัดที่สองคือหมัดขวา! สำหรับคู่ต่อสู้ธรรมดา รับไปสองหมัดก็จัดการได้แล้ว แต่ถ้าส่งหมัดที่สาม คือ หมัดพิฆาตออกไป พลังของหมัดนี้ร้ายกาจพอที่จะทะลวงเข้าไปทำร้ายอวัยวะภายในจนเสียหาย โดยเฉพาะเมื่อคนที่้าสังหารมีระดับพลังลมปราณเกินห้าปี ความเร็วของมันก็ยิ่งสูงขึ้น!
และสิ่งที่ลัวเฟิงเชี่ยวชาญมากที่สุดก็คือหมัดที่สาม หมัดพิฆาต
“พี่ลัวเฟิงเอาจริงแล้ว!”
“หึ เป็โชคดีของไอ้เด็กนี่ ที่มีโอกาสได้ลิ้มรสหมัดพิฆาตของพี่ลัวเฟิง”
“พี่ลัวเฟิง รีบสับหมอนั่นเป็ชิ้นๆ ไปเลย!”
ศิษย์น้องทั้งสามคนของลัวเฟิงต่างเตรียมตัวดูเื่ตลก
“สหายโม่ระวัง รีบหนีไปเร็ว!” หนานฟางเห็นท่าทางของลัวเฟิง ก็หน้าเปลี่ยนสี พร้อมรีบะโบอกเย่เฟิงเสียงดัง
“ระวัง!” หลงหว่านเอ๋อร์กรีดร้อง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความใ เธอรู้อานุภาพหมัดที่สามอย่างหมัดพิฆาตเป็อย่างดี
คนที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าต่างใ มีเพียงเย่เฟิงเท่านั้นที่มีท่าทีสงบนิ่ง
“วิชาเซียน เปลวสุริยะ!” เย่เฟิงพลิกฝ่ามือ ทันใดนั้นลูกไฟก็ปรากฏขึ้น จากนั้นเขาอาศัย่เวลาที่ลัวเฟิงตกตะลึง จัดการอีกฝ่ายโดยการยิงลูกไฟใส่ทันที
ตูม!
ลัวเฟิงยังไม่ทันตั้งรับ ทั่วทั้งร่างก็ติดไฟจนกลายเป็ลูกบอลเพลิงทันที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้