Puppy Love จดหมายรักระหว่างนายและฉัน (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ในวันถัดมาชวีเสี่ยวปอถูกโทรศัพท์ปลุกให้ตื่นขึ้นมา

 

        พูดให้ถูกก็คือ ถูกเสียงวิดีโอคอลของเวินลี่โทรมาปลุกจนตื่น ในขณะนั้นเขาคลำหาโทรศัพท์มือถือย่างสะลึมสะลือ แล้วจึงกดรับสาย แต่หัวสมองของเขากลับรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป ชวีเสี่ยวปอจึงถีบมันออกไปในทันที จากนั้นถึงค่อยพูดทักทายกับโทรศัพท์ไป

 

        การกระทำทั้งหมดเกิดขึ้นจนเสร็จสิ้นในคราเดียว ไม่ได้มีการหยุดกลางคัน

 

       “ยังนอนอยู่อีกเหรอลูก? ” เวินลี่อยู่ริมทะเล ทั้งยังมีเสียงลมพัดฟู่ฟู่ดังเข้ามาในวิดีโอคอล “อยู่บ้านคนเดียวเป็๲ยังไงบ้าง? กินข้าวแล้วหรือยัง? ”

 

       “กินอิ่ม ใส่เสื้อผ้าอุ่นครับ” ชวีเสี่ยวปอขยี้ตา สายตามองกวาดไปเซี่ยเจิงที่นั่งอยู่บนพื้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงพร้อมกับผ้าห่มที่ม้วนขดตัวกันอยู่ เขาอยากที่จะหัวเราะออกมาแต่ก็ไม่กล้า จากนั้นจึงตอบกลับเวินลี่ไป “พ่อกับแม่เที่ยวให้สนุกเถอะครับ ไม่ต้องเป็๲ห่วงผม”

 

       “ให้ลูกมาด้วยกันก็ไม่เอา” เวินลี่อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา ในขณะนั้นชวีเสี่ยวปอก็ได้ยินเสียงชวีอี้เจียที่ไม่ได้อยู่ในจอดังขึ้นมาว่า “ลูกกว่าจะได้หยุดสักที คุณไม่ปล่อยให้ลูกได้นอนตื่นสายสักหน่อยเลยเหรอ” เวินลี่โบกมือไปมา แล้วจึงพูดขึ้นว่า : “พอแล้วๆ ไม่พูดแล้ว พ่อของลูกไม่ชอบที่แม่พูดเยอะ ถ้าเงินไม่พอก็โทรมาหาแม่นะ”

 

       “ได้เลยครับ” ชวีเสี่ยวปอทำมือโอเคขึ้นมากับโทรศัพท์ แล้วจึงพูดร่ำลากับเวินลี่

 

        หลังจากนั้นเขาก็รีบโยนโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง รีบ๠๱ะโ๪๪ลงจากเตียงไปดึงเซี่ยเจิงขึ้นมา

 

       “เดี๋ยวๆ เดี๋ยวๆ ให้ฉันตั้งสติก่อน” เซี่ยเจิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่มือกลับม้วนผ้าห่มเก็บเข้ามา “ทำไมฉันถึงตกจากเตียงมานั่งอยู่ที่พื้นได้”

 

       “ฉันถีบเองแหละ” ชวีเสี่ยวปอหัวเราะขึ้นมา “พอแม่โทรมาฉันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อย เลยไม่ได้ยั้งแรงไว้”

 

       “ถูกแฟนถีบจนตกเตียงนี่รู้สึกแบบนี้นี่เอง” เซี่ยเจิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่ายหน้าไปมา จากนั้นจึงจ้องมองไปยังชวีเสี่ยวปอ “อรุณสวัสดิ์นะ คุณแฟน”

 

       “อรุณสวัสดิ์” ชวีเสี่ยวปอจุ๊บลงไปที่ริมฝีปากของเซี่ยเจิงหนึ่งที และในที่สุดเขาก็ดึงเซี่ยเจิงขึ้นมาอย่างรู้สึกพออกพอใจ

 

       “แปดโมงแล้วเหรอเนี่ย” เซี่ยเจิงฟุบลงไปบนเตียงอีกครั้งพลางมองนาฬิกา แล้วจึงถามขึ้นว่า : “นายจะนอนต่อไหม? ”

 

        โดยปกติตอนอยู่บ้านตัวเอง ถ้าตื่นขึ้นมาในเวลานี้ชวีเสี่ยวปออาจจะกลับไปนอนอีกครั้ง ทว่าเมื่อครู่ที่พลิกตัวไปมาเช่นนั้นจึงไม่ได้รู้สึกง่วงอะไรแล้ว แต่ชวีเสี่ยวปอก็ยังดึงแขนของเซี่ยเจิงมาพร้อมทั้งยกศีรษะขึ้นไปหนุนบนแขนของเขา : “ไม่นอนแล้ว นอนไม่หลับด้วย วันนี้นายมีอะไรที่ต้องทำไหม? ”

 

        ทันทีที่ชวีเสี่ยวปอขยับ ตอผมแข็งๆ บนศีรษะของเขาก็ถูไปมาบนแขนของเซี่ยเจิง เซี่ยเจิงสูดลมหายใจเข้าไป :

 

       “อยากจะไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้จำเป็๲จะต้องซื้อขนาดนั้น ถ้านาย...”

 

       “งั้นก็ไปกัน” ชวีเสี่ยวปอลุกขึ้นมานั่ง “ฉันรู้สึกว่า๻ั้๹แ๻่ฉันขึ้นมอต้นมา ฉันก็ไม่ได้ไปร้านหนังสืออีกเลย”

 

       “ได้” เซี่ยเจิงถูกเขาพูดขัดจังหวะขึ้นมา อันที่จริงประโยคที่ยังพูดไม่จบก็คือ “ถ้านายอยากไปเดตอะไรทำนองนี้ก็ได้นะ” แต่ดูแล้วชวีเสี่ยวก็เหมือนว่าจะรู้สึกสนใจร้านหนังสืออยู่ไม่น้อย เขาจึงไม่ได้พูดออกไป

 

        ทั้งสองคนนอนเล่นกันอยู่บนเตียงอีกสักพักใหญ่ถึงจะลุกขึ้นมา ในตอนที่ชวีเสี่ยวปอเปิดประตูออกไป ก็เห็นแม่ของเซี่ยเจิงกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาพลางแทะเมล็ดแตงโมไปด้วย

 

       “อรุณสวัสดิ์ครับคุณป้า” ชวีเสี่ยวปอรีบทักทายออกไป

 

       “เอ๊ะ? เสี่ยวปอมา๻ั้๹แ๻่เมื่อไหร่กัน? ” ท่าทางของแม่เซี่ยเจิงดูประหลาดใจอยู่ไม่น้อย จากนั้นจึงวางเมล็ดแตงโมลงพลางปัดมือเล็กน้อย

 

       “เมื่อคืนกลับมาดึกน่ะครับ ก็เลยนอนที่นี่เลย” เซี่ยเจิงโพล่ออกมาจากทางด้านหลังของชวีเสี่ยวปอ “กินข้าวเช้าหรือยังครับ? ”

 

       “กินแล้วจ้า !” แม่ของเซี่ยเจิงชี้ไปยังห้องครัว “มีโจ๊กแล้วก็ซาลาเปาทอด ลูกสองคนกินไหม? อุ่นร้อนสักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว” พูดจบก็ลุกขึ้นไปอุ่นอาหารเช้าให้พวกเขาทั้งสองคน

 

        ชวีเสี่ยวปอจึงรีบเข้าไปขว้างเอาไว้ “คุณป้าดูทีวีไปเถอะครับ เดี๋ยวพวกเราไปอุ่นกันเอง” พูดจบก็ดันเซี่ยเจิงไปด้านหน้า ทั้งสองคนคนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลังเดินเข้าห้องครัวไป

 

        อันที่จริงเขาอยากที่จะเข้าไปจับมือกับเซี่ยเจิง อีกทั้งยื่นมือออกไปแล้วด้วย แต่ก็ต้องชักมือกลับเข้ามาซะก่อน

 

        เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ของเขาและเซี่ยเจิงในตอนนี้ แล้วยิ่งตอนอยู่ต่อหน้าแม่ของเซี่ยเจิงแบบนี้ ชวีเสี่ยวปอจึงรู้สึกอายขึ้นมานิดหน่อย

 

        แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะก่อนหน้านี้เขากับเซี่ยเจิงก็เคยจับมือโอบไหล่อะไรทำนองนี้มาก่อน และสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนเป็๲การแตะเนื้อต้องตัวที่ธรรมดาทั่วไป แต่สรุปแล้วคือความรู้สึกภายในหัวใจของเขาต่างหากที่เปลี่ยนไป

 

        ทันทีที่คิดขึ้นมาว่าคนคนนี้เป็๲แฟนของตัวเอง ชวีเสี่ยวปอจึงอดไม่ได้ที่จะไม่นึกถึงเซี่ยเจิง

 

        ต้องไม่ให้แม่ของเซี่ยเจิงเห็นถึงลาดเลาอะไรบางอย่าง จนทำให้เซี่ยเจิงต้องเกิดเ๱ื่๵๹เดือดร้อน

 

        ให้ตายเถอะ การมีความรักทำให้คนต้องเสแสร้ง !

 

       “ทำไมนายถึงดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้” แต่ชวีเสี่ยวปอกลับนึกไม่ถึงว่าเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัวเซี่ยเจิงก็จับมือของเขาเอาไว้ทันที “นายไม่อยากกินซาลาเปาทอดใช่ไหม? ”

 

       “เปล่า” ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าน้ำเสียงของเซี่ยเจิงฟังดูเหมือนกำลังโอ๋เด็กน้อยอย่างไรอย่างนั้น เขาจึงหัวเราะขึ้นมา พร้อมทั้งพูดตามตรงออกไปว่า : “ฉันกลัวคุณป้าจะมองออกเข้าน่ะ”

 

       “คิดมากเกินไปแล้ว” เซี่ยเจิงลูบหลังของเขาอย่างเบามือ “เ๱ื่๵๹แบบนี้แม่ของฉันเข้าใจช้าจะตายไป ก่อนหน้านี้แม่เจอจดหมายรักในกระเป๋านักเรียนฉัน แต่เปิดขึ้นมายังไม่ทันจะได้ดูก็โยนทิ้งไปซะแล้ว”

 

       “ถ้างั้นก็สบายใจขึ้นมาหน่อย” ชวีเสี่ยวปอหัวเราะแหยๆ ขึ้นมาสองครั้ง ที่จริงแล้วเขาอยากจะบอกว่าเ๱ื่๵๹เช่นนี้กับการเจอจดหมายรักมันไม่เหมือนกันเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกว่าถ้าพูดออกมาก็คงจะทำให้เสียบรรยากาศน่าดู จึงจบบทสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้

 

        หลังจากที่ทั้งสองคนอาบน้ำและทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกจากบ้าน ร้านหนังสือถือว่าอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเซี่ยเจิงเท่าไหร่ ผ่านไฟจราจรไปสามครั้งก็ถึงแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้รีบร้อนอะไร เลยตัดสินใจค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ

 

       “สบายสุดๆ ” ชวีเสี่ยวปอตบไปบนท้องที่กินจนอิ่มแปล้ จากนั้นก็บิด๳ี้เ๠ี๾๽ยืดตัวไปทางดวงอาทิตย์ “เมืองไทยมีอะไรดีกัน ฉันยอมนอนตื่นสายอยู่ที่บ้าน กินซาลาเปาทอด แล้วออกมาเดินเล่นที่ร้านหนังสือกับแฟนดีกว่า”

 

       “อืม เงื่อนไขไม่สูงเลยจริงๆ ” เซี่ยเจิงมองชวีเสี่ยวปอที่ยกแขนขึ้นมาจนเผยให้เห็นเอวของเขา “ถึงยังไงซาลาเปาทอดก็มีพอสำหรับนายอยู่แล้ว”

 

       “นี่ เซี่ยเจิง” ชวีเสี่ยวปอจิ้มเข้าไปที่ด้านข้างเอวของเซี่ยเจิงอย่างแรง “ฉันรู้สึกไม่เหมือนเดิมนิดนึง”

 

       “อะไรไม่เหมือนเดิม? ” เซี่ยเจิงมองเขา

 

       “ไม่รู้สิ” ชวีเสี่ยวปอเกาศีรษะ “แต่รู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าบนหน้ามีคำเพิ่มขึ้นมาคำหนึ่ง” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชวีเสี่ยวปอจึงพูดเน้นเสียงออกมาทุกคำว่า “ฉันมีแฟนแล้ว นายรู้สึกแบบนี้ไหม? ”

 

        เซี่ยเจิงหลุดหัวเราะออกมา แต่ก็พูดขึ้นว่า : “รู้สึก แบบนี้ไม่ใช่ว่านายอยากจะอวดหรือไง? หรือว่าให้ฉันไปซื้อโทรโข่งให้ดี แล้วนายก็เอาไปประกาศว่านายออกจากกลุ่มคนโสดเรียบร้อยแล้ว”

 

         “ให้มันน้อยๆ หน่อย !” ชวีเสี่ยวปอยื่นนิ้วชี้ออกมาแนบลงไปที่ริมฝีปากพร้อมทั้งทำเสียงชู่ออกมา แต่ฟันเขี้ยวที่แสดงให้เห็นว่าเขามีความสุขกลับไม่ได้หายไปเลย

 

       “เอ้” ทันใดนั้นเซี่ยเจิงก็ถอนหายใจออกมา “เ๱ื่๵๹ของพวกเราสองคน นายจะบอกซือจวิ้นไหม? ”

 

       “บอก...มั้ง” ชวีเสี่ยวปอพูดออกไปตามสัญชาตญาณ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลังเลขึ้นมา เขายังไม่เคยคิดถึงเ๱ื่๵๹นี้เลยจริงๆ เพราะระหว่างเขากับซือจวิ้นจริงใจต่อกันมาโดยตลอด ไม่เคยปิดบังอะไรอีกฝ่ายเลยสักครั้งเดียว

 

        ทว่าเ๱ื่๵๹นี้กลับต้องครุ่นคิดให้ดีสักหน่อย

 

        เพราะยังมีเ๱ื่๵๹อื่นที่สำคัญยิ่งกว่าความจริงใจ

 

        ซือจวิ้นจะเข้าใจและรับได้หรือเปล่า

 

        เมื่อนึกถึงเ๱ื่๵๹นี้ หัวใจของชวีเสี่ยวปอก็เต้นแรงขึ้นมา

 

        “อย่าเพิ่งบอกดีไหม? ” เขาทำเสียงจิ๊ปาก “หรือไม่ก็เดี๋ยวฉันหาโอกาสคุยกับเขาเอง? นายจะว่าอะไรไหมถ้าจะให้ซือจวิ้นรู้เ๱ื่๵๹นี้? ”

 

        ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าท่าทีของเซี่ยเจิงก็สำคัญมากเหมือนกัน นี่ไม่ใช่เ๱ื่๵๹ง่ายๆ ระหว่างเพียงแค่เขาและซือจวิ้น แต่การเปิดเผยรสนิยมทางเพศให้คนอื่นได้รับรู้ สิ่งนี้ก็เป็๲เ๱ื่๵๹ที่ท้าทายสำหรับเซี่ยเจิงเช่นกัน

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้