ชื่อเสียงของสตรีในยุคนี้สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้น หลินหวั่นชิวจะลากหวางกุ้ยเซียงเข้ามาเกี่ยวด้วยไม่ได้
นางคิดข้อแก้ตัวไว้แล้ว
“ข้าแอบตามหงฮวาไปที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน ได้ยินเสียงบุรุษด้านในจึงเข้าไปดูเพราะกลัวหงฮวาจะโดนเอาเปรียบ แต่เพิ่งก้าวเข้าไปในลานบ้านก็ถูกคนที่เดินออกมาฟาดศีรษะ คนคนนั้นคือโจวเอ้อร์เหนิง จากนั้น… จากนั้นข้าจำกระไรไม่ได้อีก”
นางไม่ได้บอกว่าเห็นจ้าวหงฮวากับโจวเอ้อร์เหนิงร่วมประเวณีกัน ไม่ได้บอกว่าจ้าวหงฮวาเป็คนทำร้ายตัวเอง
หลินหวั่นชิวเอนตัวพิงหมอน ถามเสียงค่อยว่า “ป้าสองจ้าว ท่านถามหงฮวาหรือยัง นางว่าอย่างไรบ้าง? ข้าคิดว่าหงฮวาน่าจะถูกบ้านหลินหลอก มิเช่นนั้น...ความเป็อยู่บ้านจ้าวดีขึ้นเรื่อยๆ นางได้เงินจากการช่วยข้าทำดอกไม้ลูกปัดไปไม่น้อย ต่อให้ตาจะเหล่ขนาดไหนก็ไม่น่าไปชอบโจวเอ้อร์เหนิงได้”
ป้าสองจ้าวได้ยินดังนี้ก็ยิ่งละอายใจ
จ้าวหงฮวาฟื้นมาแล้วร้องะโว่าหลินหวั่นชิวทำพิษนาง แต่หวั่นชิวเล่า? ทั้งที่เกือบตายแต่กลับไม่กล่าวโทษนางสักคำ มีแต่เป็ห่วงและปกป้อง
นังลูกเวรนั่น…
“นางจะพูดกระไรได้…เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ตอนนี้กำลังเป็ไข้ ตอนข้าออกมาเช้านี้ยังไม่ได้สติ” คำตอบนี้ยังดูไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย
หลินหวั่นชิวรู้อยู่แล้วว่าจ้าวหงฮวาต้องสาดน้ำสกปรกใส่นางเป็แน่
แต่ดูเหมือน…ป้าสองจ้าวจะไม่ได้ฟังความแค่ข้างเดียว
เช่นนี้ยิ่งดีไปเลย
“ข้าจะไปบ้านหลิน ลูกสาวถูกพวกเขาย่ำยี ข้าไม่จบกับพวกเขาแน่!” ป้าสองจ้าวปิดหน้าร้องไห้ นางแข็งแกร่งในหมู่บ้านมาครึ่งค่อนชีวิต ทว่าบั้นปลาย…กลับถูกทำลายเช่นนี้
ลูกสาวถูกย่ำยี
จะไปเรียกร้องความเป็ธรรมจากผู้ใดก็ไม่ได้อีก
นาง…ชีวิตนางกลายเป็เช่นนี้ได้อย่างไร…
“ป้าสองจ้าว ท่านจะไปโวยวายไม่ได้เด็ดขาด หากไปโวยวาย ชื่อเสียงหงฮวาคงไม่เหลือ”
“สุ่ยเซิงก็ยังไม่แต่งงาน หากเื่ของหงฮวาถูกเปิดเผย…เช่นนั้นคงส่งผลกระทบต่อทั้งบ้านจ้าว” หลินหวั่นชิวเกลี้ยกล่อม
ได้ยินหลินหวั่นชิวพูดเช่นนี้ ป้าสองจ้าวคอตกยิ่งกว่าเดิม “หงฮวา…เื่ของหงฮวาสร้างปัญหาให้เ้าด้วย ข้าไม่รู้ควรพูดอย่างไรดี ไม่มีหน้าจะพูดเช่นกัน”
“ปัญหากระไรหรือเ้าคะ?” หลินหวั่นชิวถามด้วยความสงสัย
ป้าสองจ้าวเช็ดน้ำตา “ไม่รู้เหตุใด ในหมู่บ้านถึงมีข่าวลือว่าคนที่เป็ชู้กับโจวเอ้อร์เหนิงคือเ้า หวั่นชิว…เ้าว่าควรทำเช่นไรดี? ข้าลองคิดดูแล้ว รู้สึกว่าพาหงฮวาไปเอาเื่ที่บ้านหลินจะดีกว่า จะให้นางทำเ้าเดือดร้อนไม่ได้ ปล่อยให้บ้านหลินอยู่ดีมีสุขไม่ได้เช่นกัน”
“เช่นนี้หรอกหรือ” หลินหวั่นชิวยิ้ม “จับโจรต้องมีของกลาง จับชู้ต้องจับได้ทั้งคู่ คนอื่นอยากพูดกระไรก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป ใช่ว่าพูดแล้วเนื้อบนร่างข้าจะหายไปเสียหน่อย ป้าสองจ้าวไม่ต้องกังวลเื่นี้ ทำตามที่ข้าบอก อย่าไปอาละวาดบ้านหลิน ชื่อเสียงของหงฮวาสำคัญที่สุด” เื่นี้เป็ไปตามที่หลินหวั่นชิวคาดการณ์ จางซื่อเล่นใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางยอมให้เสียเปล่าเป็แน่
จะให้โอสถล้ำค่าอย่างชุนเจียวถูกใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ได้อย่างไร
ต้องหาวิธีสร้างข่าวลืออยู่แล้ว
บวกกับสองวันนี้นางไม่ปรากฏตัวในหมู่บ้าน ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ข่าวลือของจางซื่อเข้าไปอีก
“เอาเถิด อย่ามัวคร่ำครวญที่นี่เลย หวั่นชิวาเ็อยู่ มีกระไรพวกเราค่อยกลับไปปรึกษากันที่บ้าน” หลิวซื่อได้ยินคำยินยอมจากหลินหวั่นชิวก็ช่วยเกลี้ยกล่อม
“ฟ้าเบื้องบนกำลังมองเราอยู่ ผู้ใดทำเลวย่อมถูกกรรมตามทัน ก็หมือนอย่างครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นท่านป้าสองไม่ต้องกังวล จดจ่อกับหงฮวาไว้ดีกว่า พวกท่านพยายามปฏิบัติกับนางให้เหมือนปกติ อย่าให้คนในหมู่บ้านเห็นพิรุธ” หลินหวั่นชิวเกลี้ยกล่อม
หลิวซื่อพูดตาม “นั่นน่ะสิ แล้วก็…เื่สำคัญที่สุดตอนนี้คือรีบหาคู่ครองให้หงฮวา ให้ดีคือเป็คนยากจนที่ไม่มีญาติผู้ใหญ่และพี่น้อง ให้สินเดิมติดตัวหงฮวาไปเยอะหน่อย อย่างเช่นที่ดินสักสามไร่ ให้บุรุษคนนั้นพึ่งพาหงฮวา บวกกับหงฮวามีพี่ชายสองคน กำราบเขาได้ ไม่ต้องกลัวว่าแต่งงานแล้วนางจะถูกรังแก ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกพ่อแม่สามีกดขี่เช่นกัน”
เมื่อใดที่สตรีสาวสูญเสียความบริสุทธิ์ เมื่อนั้นก็จะไม่เหลือราคาแล้ว
ครอบครัวคนปกติไม่มีทางรับไว้
“คงมีแต่ต้องทำเช่นนั้น” ป้าสองจ้าวพูด “ตอนแรกวางแผนว่าจะนำเงินที่ได้จากหวั่นชิวกับหงหย่วนเมื่อปีก่อนไปสร้างบ้าน…แต่เห็นทีจะทำไม่ได้แล้ว ต้องแต่งลูกสาวคนนี้ออกไปก่อนค่อยว่ากัน”
น่าปวดหัวจริงๆ
จ้าวหงฮวามีแม่ที่ดี
หลินหวั่นชิวถอนหายใจ จริงอยู่ที่ป้าสองจ้าวดูเป็คนดุและรักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่เมื่อเจอปัญหาขึ้นมาจริงๆ ก็ยังคงดูแล
“จริงสิ ปกติบ้านหลินไม่เคยสนใจใยดีโจวเอ้อร์เหนิง ครั้งนี้โจวเอ้อร์เหนิงาเ็ไม่เบา แต่บ้านหลินกลับยอมส่งเขามารักษาที่โรงหมอในอำเภอ” คุยเื่จ้าวหงฮวาจบ หลิวซื่อเอาเื่ของโจวเอ้อร์เหนิงออกมาเล่าให้หลินหวั่นชิวฟัง
“ไม่มีกระไรแปลก ลูกเขยที่ยอมแต่งเข้าบ้านไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ” หลินหวั่นชิวพูด จางซื่อจะปล่อยให้โจวเอ้อร์เหนิงตายได้อย่างไร?
หากไม่มีโจวเอ้อร์เหนิง ผู้ใดจะมาสาดน้ำสกปรกชั้นสุดท้ายใส่หลินหวั่นชิว?
“หวั่นชิว เช่นนั้นพวกข้าไม่รบกวนเ้าแล้ว ขอตัวกลับก่อน เ้ารักษาตัวให้ตายไวๆ แล้วก็ ที่บ้านไม่มีสมบัติกระไร ข้าเลยนำแม่ไก่สองตัวมาฝาก ไว้เ้าค่อยให้ยายสวีตุ๋นให้นะ” ป้าสองจ้าวลุกขึ้นบอกลา “เ้าดีกับครอบครัวเรา ป้าจะจดจำไว้ หวั่นชิว ป้าสองจ้าวใช้คำพูดไม่เก่ง หากวันหน้ามีกระไรให้ช่วยเหลือก็บอกได้เลย”
หากเมื่อก่อนป้าสองจ้าวช่วยหลินหวั่นชิวเพราะเงิน เช่นนั้นนับจากวินาที นางไม่ได้ทำเพื่อเงินอีกต่อไปแล้ว
นางรู้สึกขอบคุณหลินหวั่นชิวจากใจจริง
หลิวซื่อลุกขึ้นเช่นกัน “ข้านำแม่ไก่มาฝากสองตัวเช่นกัน มีตัวหนึ่งออกไข่ เก็บไว้เลี้ยงก่อนก็ได้ มีไข่ให้เก็บทุกวัน”
“ขอบคุณท่านป้าทั้งสองมากเ้าค่ะ” หลินหวั่นชิวทำท่าจะลุกขึ้น ป้าสองจ้าวรีบกดนางลงกับเตียง “ไม่ต้องลุก เ้าพักผ่อนเถิด พวกข้าไปล่ะ วันหน้าค่อยมาเยี่ยมใหม่”
หลินหวั่นชิว “ท่านป้าทั้งสองกลับดีๆ เ้าค่ะ ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเดินทางมาอำเภอ ข้ารักษาตัวอีกไม่นานก็กลับหมู่บ้านได้แล้ว”
หลินหวั่นชิวเป็คนป่วย ลุกไปส่งแขกไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อทั้งคู่ออกไปย่อมมียายสวีช่วยส่งแทน
“เ้านี่มันกระไรกัน? เหตุใดาเ็เสียได้?”
พวกป้าสองจ้าวเพิ่งออกไปได้ไม่นานก็มีเสียงลอยเข้ามา
“ไอ๊หยา…แม่นางจะบุกเข้ามาเช่นนี้ไม่ได้นะเ้าคะ” ตามมาด้วยเสียงของยายสวี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้