ตอนที่ 7 จุดปราณ ชี่ไห่
ทันใดนั้น! นางก็ใช้ดวงตาทิพย์หยกเพ่งสมาธิไปที่จุดปราณ บนร่างกายของอากุ้ย!
นางมองเห็นเส้นทางไหลเวียนของพลังงานในร่างของมันอย่างชัดเจน และนางก็มองเห็นจุดอ่อน ที่สำคัญที่สุดคือจุดฝังเข็มที่เรียกว่า "ชี่ไห่" ซึ่งอยู่ต่ำกว่าสะดือลงไปสามนิ้ว มันคือทะเลแห่งพลังปราณ หากถูกโจมตีอย่างรุนแรง จะทำให้พลังงานทั่วร่างปั่นป่วนจนหมดเรี่ยวแรงในทันที!
"เ้าพูดเองนะว่าข้าปากดี แต่ข้าว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ" สิ้นเสียง! หลิงซีก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด!
นางไม่ได้วิ่งหนี แต่นางกลับเป็ฝ่ายพุ่งเข้าใส่!
อากุ้ยใจนทำอะไรไม่ถูก ไม่คาดคิดว่าเหยื่อจะกล้าบุกเข้ามาหาผู้ล่า! มันรีบเหวี่ยงท่อนไม้ในมือออกไปในแนวขวางอย่างทันทีๆ
แต่หลิงซีกลับเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า! นางย่อตัวลงต่ำอย่างคล่องแคล่วหลบท่อนไม้ที่เหวี่ยงผ่านศีรษะไปได้อย่างฉิวเฉียด อาศัยจังหวะที่มันเสียหลักจากการเหวี่ยงไม้สุดแรงนางก็สืบเท้าเข้าไปประชิดตัว!
นิ้วชี้และนิ้วกลางของนางเหยียดตรง แข็งราวกับเหล็กกล้า ก่อนจะจิ้มเข้าไปสุดแรงเกิดที่จุด "ชี่ไห่" บนท้องน้อยของอากุ้ย!
ปึ้ก!
"อ๊าคคคคค!"
อากุ้ยร้องออกมาเสียงหลงราวกับหมูถูกเชือด! ความรู้สึกเ็ปแปลบปลาบราวกับถูกเหล็กร้อนๆ นาบแล่นปราดจากท้องน้อยกระจายไปทั่วทั้งร่าง! พลังงานในร่างกายที่เคยมีอยู่พลันหายวับไปกับตาราวกับถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น! เรี่ยวแรงทั้งหมดเหือดหายไปในพริบตา ท่อนไม้ในมือร่วงหล่นลงสู่พื้น ร่างของมันทรุดฮวบลงไปคุกเข่ากับพื้นดินอย่างหมดสภาพ!
"มะ เมื่อกี้เ้า เ้าทำอะไร!?" มันเค้นเสียงถามออกมาอย่างยากลำบาก เหงื่อกาฬไหลซึมทั่วใบหน้า บิดเบี้ยวด้วยความเ็ปและหวาดกลัวอย่างที่สุด
หลิงซียืนนิ่งมองมันด้วยสายตาเ็า นางไม่ได้เร่งเร้าหรือลงมือซ้ำ แต่นางให้โอกาสมันได้ลิ้มรสความเ็ปและความสิ้นหวังที่เพิ่งได้รับไปอย่างช้าๆ
"ข้าก็แค่ ช่วยให้เ้าได้พักผ่อนบ้างก็เท่านั้น" นางตอบเสียงเรียบ แต่คำพูดนั้นกลับบาดลึกยิ่งกว่าแผลบนร่างกาย "ดูเหมือนว่าพลังปราณในกายของท่านพี่จะปั่นป่วนจนใช้การไม่ได้ไปเสียแล้วกระมัง คงต้องนอนพักฟื้นไปอีกหลายวันกว่าจะกลับมาเดินเหินได้เป็ปกติ"
อากุ้ยพยายามที่จะลุกขึ้น แต่ร่างกายของมันกลับไร้เรี่ยวแรงอย่างสิ้นเชิง ขาอ่อนเปลี้ยจนไม่สามารถพยุงตัวเองได้ มันพยายามที่จะเปล่งเสียงคำราม แต่เสียงที่ออกมากลับแหบพร่าและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว "เ้า เ้าเป็ปีศาจ!"
หลิงซีก้าวเข้าไปใกล้มันช้าๆ ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉย แต่แววตาของนางกลับฉายแววอันตรายที่ทำให้อากุ้ยรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ นางหยิบมีดพกเก่าๆ ที่ใช้ขุดสมุนไพรขึ้นมา เผยให้เห็นคมมีดที่สะท้อนแสงแดดวิบวับ
"ปีศาจรึ? หึ ข้าไม่ใช่ปีศาจ" นางกระซิบเสียงเย็นเยียบ "แต่ข้าคือคนที่เ้ากำลังดูถูกเหยียดหยาม คนที่เ้าคิดว่าจะข่มเหงได้ตามอำเภอใจ"
นางย่อตัวลง ใช้ปลายมีดจ่อไปที่ลำคอของอากุ้ยอย่างแ่เบา ััเย็นเฉียบของคมมีดทำให้มันสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือดราวกับศพ
"ฟังให้ดีนะพี่ชายเสี่ยวเอ้อ ข้าไม่เคยเป็คนชอบความรุนแรง แต่ถ้าใครคิดจะทำร้ายข้าและครอบครัวของข้า หรือคิดจะปล้นข้าด้วยวิธีสกปรก ข้าก็จะตอบโต้ด้วยวิธีที่สกปรกยิ่งกว่าเป็ร้อยเท่า" นางเน้นย้ำทุกคำพูดอย่างเชื่องช้าและชัดเจน "วันนี้ ข้าจะถือว่าเป็การสั่งสอนเล็กๆ น้อยๆ ‘คนไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด ย่อมต้องพบกับความหายนะซ้ำซาก’ หวังว่าเ้าจะจดจำบทเรียนนี้ไปจนวันตาย"
นางกดปลายมีดลงไปเล็กน้อย ทำให้เกิดรอยขีดข่วนสีแดงจางๆ บนิัของมัน อากุ้ยสะอึก สูดหายใจเข้าลึกๆ จนตัวโยน ดวงตาเหลียวมองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัวสุดขีด แต่ก็ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย
"เ้า... เ้าอยากได้อะไร ข้าจะให้ทั้งหมด!" มันเอ่ยปากอย่างยากลำบาก
หลิงซีหัวเราะเบาๆ "เ้าเข้าใจผิดแล้วพี่ชาย ข้าไม่้าทรัพย์สินสกปรกของเ้าหรอก แต่สิ่งที่ข้า้าคืออย่ามายุ่งกับข้า"
นางเก็บมีดพกกลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มลงหยิบท่อนไม้ที่มันทิ้งไว้ "แต่ท่อนไม้นี่ ข้าขอเอาไปเป็ที่ระลึกก็แล้วกัน เผื่อว่าวันหน้าเ้าลืมบทเรียนที่ข้าสอนไป"
นางยืนขึ้นเต็มความสูง เหยียดเท้าออกไปกระทุ้งเข้าที่ชายโครงของอากุ้ยเบาๆ หนึ่งครั้ง ทำให้มันพลิกตัวไปนอนคว่ำหน้ากับพื้นดินอย่างเ็ป
"และจำไว้อีกอย่าง หากเื่ในวันนี้แพร่งพรายออกไป ไม่ว่าจะเป็ใครที่ต้องเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็ใครที่ต้องมีภัย ข้าสาบานได้ว่า เ้าจะต้องได้รับผลกรรมที่เลวร้ายกว่านี้อีกหลายเท่าตัวนัก!" เสียงสุดท้ายของนางเต็มไปด้วยคำขู่ที่ทำให้ทุกขุมขนของอากุ้ยลุกชัน
หลิงซีไม่รอให้มันตอบโต้อะไรอีก นางสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยข้าวสารและเนื้อหมูขึ้นบ่าอีกครั้ง ในมือข้างหนึ่งถือท่อนไม้ที่ใช้เป็อาวุธของคู่ต่อสู้ นางหันหลังเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง ปล่อยให้อากุ้ยนอนจมกองฝุ่นอยู่บนพื้นดินอย่างน่าอนาถ
เสียงฝีเท้าของนางค่อยๆ ห่างออกไป พร้อมกับเสียงสะอื้นฮักๆ ของอากุ้ยที่นอนเจ็บอยู่ตรงนั้น มันทั้งเจ็บกาย เจ็บใจ และหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
มันไม่ได้กลัวแค่การาเ็ทางกาย แต่กลัวเด็กสาว ตรงหน้าคนนี้ที่เพิ่งแสดงพลังอันลึกลับและน่าสะพรึงกลัวออกมา!
ในขณะเดียวกัน บนถนนที่ทอดยาวกลับสู่หมู่บ้าน...
หลิงซีเดินกลับด้วยฝีเท้าที่เร็วกว่าเดิมเล็กน้อย ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉย แต่ในใจกลับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเล็กน้อย ‘เอาล่ะ บทเรียนแรกของชีวิตในต่างโลก ผ่านไปได้ด้วยดี’
นางยกท่อนไม้ในมือขึ้นมาดู ‘ชี่ไห่’ จุดปราณที่สำคัญที่สุด เพียงแค่จิ้มไปถูกจุด ร่างกายก็หมดเรี่ยวแรงราวกับคนตาย นี่คือความรู้ที่ติดตัวเธอมาในโลกปัจจุบันจากวิชาป้องกันตัวที่เธอเคยเรียนมาผสมผสานกับการมองเห็นพลังปราณของดวงตาทิพย์หยก
‘มันไม่ใช่แค่วิชาป้องกันตัว มันคือการควบคุมพลังปราณในร่างของผู้อื่น’
ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับพลังของตัวเองผุดขึ้นมาในใจ หลิงซีรู้แล้วว่าดวงตาทิพย์หยกไม่ได้มีไว้แค่มองเห็น แต่มีไว้เพื่อควบคุม และเปลี่ยนแปลงได้ด้วย!
นางมองไปข้างหน้า เห็นภาพกระท่อมเล็กๆ ที่กำลังจะมีควันไฟลอยขึ้นจากเตาในไม่ช้า เห็นภาพพ่อแม่และน้องชายที่กำลังรอคอยการกลับมาของเธออย่างมีความหวัง
‘นี่เป็เพียงก้าวแรก เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ยังมีหมาป่าอีกมากมายที่รอจ้องจะขย้ำพวกเรา แต่ไม่เป็ไร ตราบใดที่ข้ายังมีดวงตาทิพย์หยกคู่นี้ ข้าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายครอบครัวของข้าได้อีก!’
หลิงซีกระชับตะกร้าและท่อนไม้ในมือแน่น นางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น มุ่งหน้ากลับบ้านด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
และแล้ว... ณ บ้านใหญ่ของตระกูลมู่
หวังซื่อ ป้าสะใภ้ใหญ่ กำลังรายงานท่านย่าจางด้วยท่าทางลิงโลด
"ท่านแม่เ้าคะ! ข้าเห็นแล้วว่ายัยหลิงซีนั่นมันแอบซุกซ่อนอะไรไว้!" นางเล่าเื่ที่เห็นหลิงซีซื้อเนื้อหมูและข้าวขาวจำนวนมากอย่างออกรส "นางต้องเจอแหล่งสมุนไพรดีๆ หรือไม่ก็ขุดเจอของมีค่าอะไรสักอย่างแน่ๆ ถึงได้กล้าใช้เงินมือเติบขนาดนั้น!"
ย่าจางหรี่ตาลง แววตาฉายแววความโลภและความไม่พอใจ "หึ! เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ริอาจซ่อนของมีค่าจากตระกูลเช่นนั้นรึ! พรุ่งนี้เช้า เ้าจงไปที่กระท่อมของพวกมัน และค้นดูให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม! ถ้าเจออะไร ให้ยึดกลับมาที่นี่ทั้งหมด!"
"เ้าค่ะท่านแม่!" หวังซื่อรับคำด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายในมุมปาก
พวกนางหารู้ไม่ว่า การกระทำอันโลภโมโทสันของพวกนางกำลังจะนำไปสู่ "จุดแตกหัก" ที่แท้จริง จุดที่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่พวกนางไม่เคยคาดฝันถึง!