เวลานี้ ซุนหลานฮวากระวนกระวายยิ่งนัก น้ำตาคลอเบ้า ทุกคนต่างชี้หน้าด่าทอนาง แลดูน่าสงสารเล็กน้อย "ลุงผู้ใหญ่บ้าน แค่เพียงนินทาเล็กน้อยเท่านั้น อย่า อย่าเปิดศาลบรรพชนเลยเ้าค่ะ"
ในสมัยโบราณ ความสัมพันธ์ของตระกูลนั้นแน่นแฟ้นที่สุด กล่าวได้ว่าหนึ่งโรจน์ล้วนโรจน์ หนึ่งร่วงล้วนร่วง ไม่มีผู้ใดสามารถรอดพ้นจากความสัมพันธ์นี้ ในทางเดียวกัน หากมีคนทำผิด ส่งผลให้ต้องเปิดศาลบรรพชนเพื่อตัดสินความรุนแรงของโทษ เช่นนั้นจะเป็หนึ่งในการลงโทษร้ายแรง
เพียงผู้าุโตัดสินในศาลบรรพชนว่าเราทำผิดจนไม่อาจให้อภัย ขับไล่เราออกจากตระกูล เช่นนั้นชีวิตนี้ก็ถูกทำลายไปแล้ว ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะสิ่งใด ล้วน้าการสนับสนุนจากคนในตระกูล หากผู้อื่นถาม แล้วรู้ว่าเราถูกลบชื่อออกจากตระกูล เช่นนั้นไม่ว่าเราจะมีความสามารถมากเพียงใด ผู้อื่นก็จะดูแคลน เพราะว่าการถูกลบชื่อออกจากตระกูลนั้น แสดงถึงความประพฤติและคุณธรรมไม่ดี
บุรุษเป็เช่นนี้ แล้วนับประสาอะไรกับสตรี หากวันนี้ซุนหลานฮวาถูกผู้ใหญ่บ้านพาตัวไปพิพากษาในศาลบรรพชน ก็จะเป็มลทินชั่วชีวิตของนาง ไม่มีผู้ใดยอมทาบทามสู่ขอ
เวลานี้ดวงหน้าของซุนหลานฮวาซีดขาว น้ำตาคลอเบ้า มองดูแล้วน่าสงสาร มีคนทนดูไม่ได้ รู้สึกว่าเป็เพียงคำนินทาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องเปิดศาลบรรพชน
"ผู้ใหญ่บ้าน อย่าถือสากันเลยดีหรือไม่? หากเื่นี้แพร่งพรายออกไป วันข้างหน้าหลานฮวาคงยากที่จะตบแต่งออกเรือน" สตรีที่พูดมองหลานฮวาด้วยความสงสาร นางเองก็มีลูกสาว ย่อมใจอ่อนกับหญิงสาว
ไม่รอผู้ใหญ่บ้านพูด สีหน้าของหลี่เฉิงเยือกเย็นขึ้นมาทันที
"พวกท่านรู้สึกว่านางน่าสงสาร ดังนั้นนางจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเองเช่นนั้นหรือ? ข้าไม่เคยพบเจอนางมาก่อน แต่นางกลับวิ่งมาขวางหน้าข้า บอกว่าภรรยาของข้าไม่คำนึงถึงคุณธรรมหญิง มีสัมพันธ์กับชายอื่น"
หลี่เฉิงกวาดตามองทุกคนในเหตุการณ์ มุมปากของเขาที่กระตุกขึ้นเล็กน้อยเคล้าไปด้วยความเย็นะเื "ถึงแม้ข้าจะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวไม่นาน แต่ข้าเคยได้ยินว่า เมื่อหลายปีก่อนมีเ้าสาวคนหนึ่ง เพราะมีคนป้ายสีว่านางประพฤติตัวไม่เหมาะสม มีสัมพันธ์กับชายอื่น แม้มีร้อยปากเ้าสาวก็ไม่อาจแก้ตัวได้ สุดท้ายนางจึงฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง เวลานี้ภรรยาของข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น กลับถูกผู้คนนินทา แล้วนางไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์เช่นนั้นหรือ?"
สีหน้าของคนที่ช่วยหลานฮวาพูดเมื่อครู่แดงก่ำ
เมื่อครู่นางเพียงสงสารซุนหลานฮวา ชั่วขณะหนึ่งจึงพลั้งปากพูดออกไป ช่วยซุนหลานฮวาพูด ตอนนี้ถูกหลี่เฉิงโต้กลับเช่นนี้ นางทำได้เพียงก้มหน้าลงด้วยความละอาย ผู้ที่กล่าวร้ายความบริสุทธิ์ของผู้อื่นน่าสงสาร เช่นนั้นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวร้าย ไม่น่าสงสารยิ่งกว่าหรือ
คำพูดของหลี่เฉิง ทำให้ทุกคนหวนคิดถึงเื่เมื่อหลายปีก่อนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ภาพตอนที่เ้าสาวฆ่าตัวตายยังคงตราตรึง
บางครั้ง สังหารคนไม่จำเป็ต้องเปื้อนเื เพียงข่าวลือก็บีบให้คนตายได้ ข่าวลือดุร้ายยิ่งกว่าเสือ ก็คือเช่นนี้นี่เอง
"ซ่งอวี้อยู่ที่เรือนหรือไม่?"
วันนี้ซ่งอวี้จัดการยาสมุนไพรอยู่ในเรือน ดังนั้นนางจึงไม่ทราบเื่ที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย แต่ว่าในฐานะคนที่ถูกป้ายสี ย่อมมีคนมาบอกข่าวนาง
ป้าหวังเห็นเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นพอดี เมื่อเห็นว่าซ่งอวี้ไม่อยู่ นางจึงรีบมาหาซ่งอวี้ที่เรือน
ซ่งอวี้เปิดประตู คิดว่าป้าหวังจะให้นางไปจับชีพจรให้จังเฉี่ยวหวา จึงพูดขึ้น "ป้าหวังหรือ? ป้ารอก่อน ข้ายังทำงานไม่เสร็จ รอข้าทำทุกอย่างเสร็จแล้วจะตามท่านไปจับชีพจรให้พี่เฉี่ยวหวา"
ป้าหวังโบกมือ "ซ่งอวี้ ป้าไม่ได้มาเพราะเื่นี้"
เห็นซ่งอวี้ใส่ใจเื่ของตนเอง ความรู้สึกดีๆ ของป้าหวังที่มีต่อซ่งอวี้ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น และไม่พอใจซุนหลานฮวามากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
"วันนี้เ้าไม่ได้ออกนอกเรือน จึงไม่รู้ว่ามีเื่อะไรเกิดขึ้นด้านนอก หลานฮวาลูกสาวของตระกูลซุนขวางทางคุณชายหลี่สามีของเ้า จากนั้นก็พูดโดยไร้หลักฐาน ป้ายสีว่าเ้ากับผู้ใหญ่บ้านมีความสัมพันธ์กัน ผู้ใหญ่บ้านบังเอิญได้ยิน เลยเชิญผู้าุโไปเปิดศาลบรรพชนแล้ว เวลานี้ผู้าุโน่าจะไปกันครบแล้ว เ้ารีบตามข้าไปเถอะ" ป้าหวังเล่าเื่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ซ่งอวี้ฟังคร่าวๆ จากนั้นก็รีบพาซ่งอวี้มุ่งหน้าไปยังศาลบรรพชน
เมื่อซ่งอวี้ได้ยิน นางก็ตกตะลึง
นางพอจะจำซุนหลานฮวาได้ ทุกครั้งที่เจอกันบนท้องถนน ซุนหลานฮวามักจะกลอกตามองบนให้นางทุกครั้ง เดิมทีเข้าใจว่าเป็เพียงหญิงหยิ่งทระนง ทว่าวันนี้คิดไม่ถึง...
ซ่งอวี้รู้ดีว่าข่าวลือเกี่ยวกับนางในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวมีมากมาย แต่นางไม่อาจออกมาแก้ตัวทุกครั้งที่ได้ยินข่าวลือ ทั้งยังรู้สึกว่าเป็เพียงข่าวลือเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า เื่เหล่านี้ก็ผ่านไปแล้ว
ทว่าคิดไม่ถึง วันเวลาผ่านไปนานมากแล้ว ข่าวลือกลับไม่เงียบสงบดังที่นางคิด แต่กลับดุเดือดขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังข้องเกี่ยวกับผู้ใหญ่บ้าน
แต่ซ่งอวี้รู้สึกว่าเื่นี้ไม่ธรรมดา นางรู้มาโดยตลอดว่าหลี่เฉิงไม่ธรรมดา หรือว่าเื่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับเขา?
ตอนที่ป้าหวังและซ่งอวี้ไปถึงศาลบรรพชน ด้านนอกก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว
ป้าหวังอาศัยข้อดีของขนาดตัวของตนเอง เดินฝ่าผู้คนเบียดไปด้านหน้าสุด แต่ว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เยี่ยงศาลบรรพชนเช่นนี้ สตรีไม่อาจเข้าไปได้ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วด้านนอกศาลบรรพชนล้วนเป็สตรี ส่วนบุรุษล้วนเข้าไปหารือเื่นี้ในศาลบรรพชน
แต่ว่าตัวละครเอกในครั้งนี้คือซุนหลานฮวา เวลานี้นางคุกเข่าอยู่กลางศาลบรรพชน น้ำตาคลอเบ้า กลายเป็สตรีคนแรกในรอบเกือบสิบปีของหมู่บ้านเสี่ยวหนิว ที่เข้ามาในศาลบรรพชน
เมื่อหลี่เฉิงเห็นซ่งอวี้ เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วกะพริบตาให้นาง สีหน้าซุกซนยิ่งนัก
ก็ได้ เวลานี้ซ่งอวี้มั่นใจแล้ว ว่าทั้งหมดเป็แผนการของหลี่เฉิง
หากจู่ๆ ซุนหลานฮวาวิ่งไปขวางหน้าหลี่เฉิงแล้วป้ายสีนาง หลี่เฉิงในตอนนี้ย่อมไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับนาง ข้อนี้ซ่งอวี้มั่นใจ
หมู่บ้านเสี่ยวหนิวมีผู้าุโทั้งหมดห้าคน เวลานี้นั่งอยู่ในศาลบรรพชนสี่คนแล้ว เหลือผู้าุโอีกหนึ่งคนที่ยังไม่มา ผู้ใหญ่บ้านรอแล้วรออีก หลังจากผู้าุโมาถึง ผู้ใหญ่บ้านก็ส่งสัญญาณบอกชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ให้ตีระฆังที่อยู่ในศาลบรรพชน
"ตึ้ง!” เสียงระฆังดังก้อง ทุกคนต่างเงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาของพวกเขาจับจ้องไปยังผู้ใหญ่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านกระแอมไอ สายตาของเขากวาดมองทุกคน
"หมู่บ้านเสี่ยวหนิวของเราตั้งรกรากอยู่ในผืนดินนี้มานานกว่าร้อยปี ทุกคนต่างสนิทสนมกัน บางครั้งสนิทสนมกันยิ่งกว่าญาติมิตรที่อยู่ทางไกล โบราณกล่าวเอาไว้ ญาติทางไกลไม่สู้มิตรใกล้เคียง บางครั้งเกิดเื่ขึ้นในครอบครัว บรรดาญาติที่อยู่ทางไกลใช่ว่าจะขอความช่วยเหลือได้ คนที่พวกเ้าสามารถพึ่งพิงได้มีเพียงบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้น"
ทุกคนพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของผู้ใหญ่บ้าน ยามเกิดเื่ขึ้น บรรดาญาติมิตรทางไกลที่ช่วยเหลือได้ มีน้อยยิ่งนัก
ผู้ใหญ่บ้านพูดต่อ "ข้ารู้ว่าปกติแล้วพวกเ้าไม่มีเื่อะไรให้ทำ จึงทำได้เพียงพูดคุยกับคนสนิทเพื่อฆ่าเวลา แต่ว่า!”
เวลานี้น้ำเสียงของผู้ใหญ่บ้านเปลี่ยนผัน เคร่งขรึมกว่าเดิม "ต้องคิดก่อนพูด ต้องรู้ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดพูดได้ สิ่งใดพูดไม่ได้ เมื่อพูดสิ่งที่ไม่ควรพูด เช่นนั้นจะเป็การหาเื่ใส่ตน ทั้งยังเป็การสร้างเื่ให้ผู้อื่น! แม่นางหรงคือตัวอย่าง!”
เมื่อทุกคนฟังคำพูดของผู้ใหญ่บ้านแล้ว ต่างก็เงียบกริบ