เมื่อได้ยินว่าด้านหลังมีคนเรียกถังเหล่ย ตี้เชียนเสวี่ยจึงหยุดเดินและหันหน้ากลับไปมองหวังเจี๋ยด้วยความสงสัย
“นี่คือสหายของเ้าหรือ?”
“ไม่ใช่!” ถังเหล่ยตอบอย่างไม่เกรงใจ
ในขณะนี้สีหน้าของหวังเจี๋ยก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เพราะตี้เชียนเสวี่ยก็หันกลับมาเช่นกัน
“ข้าเพียงแค่อยากถามอะไรบางอย่าง คุณชายถังมาจากจักรวรรดิเทียนอวี่ เมืองอวิ๋นหลิวใช่หรือไม่?” ในน้ำเสียงของหวังเจี๋ยแฝงด้วยการข่มขู่
“ใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไม?” ถังเหล่ยมองหวังเจี๋ยและตอบอย่างเกรี้ยวกราด สายตาของทั้งสองฝ่ายล้วนแฝงด้วยจิตสังหารด้วยกันทั้งคู่
ในขณะนี้หวังเจี๋ยมั่นใจแล้วว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็คือคนที่พวกเขาตามหามาตลอด
“เ้าเป็ใคร เชื่อหรือไม่ว่าหากพวกเ้าข่มขู่สหายของข้าอีก พวกเ้าจะไม่ได้ออกจากโรงเตี๊ยมแห่งนี้?”
ในตอนแรกตี้เชียนเสวี่ยยังไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น นางยังคิดว่าอีกฝ่ายเป็สหายของถังเหล่ย ตอนนี้นางก็พอจะเดาสถานการณ์ออกแล้ว เพราะอีกฝ่ายแสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจน นางจะเกรงใจได้อย่างไร?
“คุณหนูใหญ่อย่าเพิ่งโกรธพวกข้าเลย” หวังเจี๋ยได้ยินเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเรียกเด็กสาวผู้นี้ เขาตระหนักได้ทันทีว่านี่ก็คือคุณหนูใหญ่ของตี้เหยียน ตี้เชียนเสวี่ย
“หวังว่าเราจะพบกันเร็วๆ นี้!”
หลังจากกล่าวจบหวังเจี๋ยก็จ้องถังเหล่ยเงียบๆ หลิวกว่างกับศิษย์อีกคนหนึ่งก็จ้องถังเหล่ยอย่างไม่วางตาเช่นกัน ถังเหล่ยไม่เคยสนใจอีกฝ่ายอยู่แล้วจึงพาตี้เชียนเสวี่ยออกจากโรงเตี๊ยมทันที
“ศิษย์พี่สาม เหตุใดจึงไม่ลงมือ เหตุใดพวกเราถึงปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป!” หลิวกว่างกล่าวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นถังเหล่ยจากไป
“คนข้างกายถังเหล่ยเมื่อครู่คือคุณหนูใหญ่ของตี้เหยียน ถ้าเ้ากับข้าลงมือตอนนี้ยังไม่แน่ว่าเราจะสามารถสังหารถังเหล่ยได้ แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือเราต้องตาย!” หวังเจี๋ยกล่าวดุ
สำหรับหวังเจี๋ยการทำภารกิจให้สำเร็จถือเป็เื่สำคัญ แต่การมีชีวิตรอดกลับไปสำคัญยิ่งกว่า
“แต่ตอนนี้ถังเหล่ยอยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่ หมายความว่าหลังจากนี้เราจะลงมือได้ยากขึ้น!” หลิวกว่างกัดฟันพูด
ภายในใจของหลิวกว่างร้อนรนขึ้นมาทันที หากรู้สถานการณ์จะลงเอยเช่นนี้เขาก็คงทุ่มสุดตัวไปแล้ว
“อดทนเอาไว้ ตอนนี้อย่างน้อยก็ยืนยันสถานะของถังเหล่ยได้แล้ว พวกเราไปหาท่านชิงจือให้ท่านช่วยกำจัดถังเหล่ยกันเถอะ!” หวังเจี๋ยกลับมาที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้เพื่อเก็บของเท่านั้น
เยียนหลิงชวนกับท่านชิงจือมีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้ง หลังจากนี้พวกเขาสามคนจะมุ่งหน้าไปยังตระกูลตี้เพื่อขอให้ท่านชิงจือช่วย
…
อีกด้านหนึ่งถังเหล่ยกับตี้เชียนเสวี่ยกำลังเดินบนถนนของเมืองจิ่วหั่ว ตี้เชียนเสวี่ยมองถังเหล่ยไม่หยุด ภายในใจยังคงรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ก่อนหน้า
“อยากถามอะไรก็ถาม หากข้าสามารถตอบได้ข้าจะตอบเ้า” ถังเหล่ยถามเสียงเรียบเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมอง
“คนเ่าั้พูดความจริงหรือ ที่ว่าเ้ามาจากเมืองอวิ๋นหลิวแห่งจักรวรรดิเทียนอวี่?” ตี้เชียนเสวี่ยถามทันที นางอยากจะถามคำถามนี้มาตลอดทาง
“จริง”
ถังเหล่ยไม่มีความจำเป็ต้องปิดบังอีกต่อไป ตอนนี้ศิษย์สามคนของนิกายเสิ่นอวี่รู้สถานะของเขาแล้ว และการเปิดเผยตัวตนกับตี้เชียนเสวี่ยยังสามารถเพิ่มความเชื่อถือให้ตี้เชียนเสวี่ยได้อีกด้วย
ทันทีที่ตี้เชียนเสวี่ยได้ยินถังเหล่ยยอมรับ สายตาที่ตี้เชียนเสวี่ยมองถังเหล่ยก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้นางไม่ค่อยเชื่อถืออีกฝ่ายมากนัก แต่หลังจากรู้สถานะของอีกฝ่ายแล้ว ตี้เชียนเสวี่ยกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมา
“เพราะเหตุใดคนเ่าั้จึงหาเื่เ้า? เ้า้าให้ข้าช่วยหรือไม่?”
ถังเหล่ยส่ายหัว เขารู้ดีว่าหากตี้เชียนเสวี่ยยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ในอนาคตชีวิตของนางจะไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน มีเวลาเดียวกันถังเหล่ยก็บอกเื่ที่เขาถูกประกาศจับคร่าวๆ ให้นางฟัง
หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงหน้าประตูจวนตี้เหยียน
จวนตี้เหยียนอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างสงบ จวนแห่งนี้กินพื้นที่เป็บริเสณกว้าง พื้นที่แห่งนี้เป็รองเพียงวังหลวงเท่านั้น และวังหลวงในตอนนี้กลายเป็ตำหนักว่างเปล่าไปแล้ว เพราะยังไม่มีจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ หลายปีให้หลังวังหลวงจึงกลายเป็สถานที่ประชุมของตระกูลตี้
“วางใจเถอะ ไม่ว่าเ้าจะถูกประกาศจับหรือเป็คนร้าย ขอเพียงเ้าเข้าไปในจวนตี้เหยียน ข้ารับประกันว่าจะไม่มีใครกล้าแตะต้องแม้แต่เส้นผมของเ้า!” ตี้เชียนเสวี่ยตบหน้าอกตัวเองขณะกล่าว
จากนั้นตี้เชียนเสวี่ยจึงพาถังเหล่ยลอบเข้าไปในจวนตี้เหยียนทันที การอำพรางตัวในครั้งนี้คือเงื่อนไขของถังเหล่ย และสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ต้องไม่ให้บิดาของตี้เชียนเสวี่ยรู้สถานะของถังเหล่ย
ในขณะนี้ถังเหล่ยปลอมตัวเป็องครักษ์คอยติดตามตี้เชียนเสวี่ยเข้าไปในเรือนของนาง ทันทีที่ไปถึงเรือนของนาง ถังเหล่ยก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
ภายในเรือนมีห้องสี่ห้อง เดิมทีตี้เชียนเสวี่ยพักอยู่ที่เรือนหลังนี้เพียงลำพัง เพราะตี้เชียนเสวี่ยชอบอยู่อย่างสันโดษ จึงทำให้เรือนหลังนี้ไร้ซึ่งคนรับใช้ เพียงแต่จะมีคนมาทำความสะอาดตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น
“เอาล่ะเ้าพักอยู่ที่นี่ก่อนชั่วคราว วางใจได้ หากข้าไม่ได้สั่งจะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เรือนหลังนี้” ตี้เชียนเสวี่ยเปิดห้องกว้างห้องหนึ่ง
ภายในห้องดังกล่าวมีข้าวของเครื่องใช้ครบครัน แต่ก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าไม่มีคนอยู่มานานหลายสิบปี ถังเหล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้มีเงื่อนไขเื่ที่พักแต่อย่างใดขอเพียงไม่มีใครมารบกวนก็เพียงพอแล้ว
“นี่คือวัตถุดิบกับหม้อปรุงยาที่เ้าให้ข้าเตรียมไว้” ตี้เชียนเสวี่ยหยิบวัตถุดิบต่างๆ ออกจากจากแหวนมิติ
วัตถุดิบยึดครองครึ่งห้องท้ายที่สุดหม้อปรุงยาสีแดงใบหนึ่งก็ตกลงที่พื้น รอบหม้อปรุงยาติดศิลาเพลิงิญญาเอาไว้สี่เม็ดรูปร่างเก่าแก่ล้ำค่า เพียงมองก็รู้ได้ทันทีว่าช่างอาวุธผู้นี้มีฝีมือ
ถังเหล่ยรีบไปตรวจสอบหม้อปรุงยาอย่างรวดเร็ว เขาพบว่าศิลาเพลิงิญญาสี่เม็ดล้วนเป็ศิลาเพลิงิญญาระดับสาม ทันใดนั้นภายในใจของเขาก็อดที่จะรู้สึกยินดีไม่ได้ และอีกด้านหนึ่งเขาก็ตระหนักได้ว่าตี้เชียนเสวี่ยผู้นี้ทำงานดีระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามหม้อปรุงยาใบนี้ต้องแลกด้วยศิลาิญญาระดับต่ำหนึ่งล้านก้อนจึงจะมีสิทธิ์มัน
“เ้าเอาของมากมายพวกนี้มาทำอะไรกัน?” ตี้เชียนเสวี่ยนึกถึงใบหน้าอันเ็ปของบริกรที่นางออกคำสั่งให้ไปจัดเตรียมวัตถุดิบ มีเวลานี้นางตระหนักได้แล้วว่าวัตถุดิบเหล่านี้ต้องมีมูลค่าสูงอย่างแน่นอน
“ปรุงยาไง คิดว่าเอามากินหรืออย่างไร?”
ทันทีที่ถังเหล่ยกล่าวจบ เขาก็เริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบ ความจริงแล้วการปรุงยาตามตำรายาลับที่ได้มาจากหงเทียนเิในครั้งนี้คือครั้งแรกของเขา ดังนั้นเขาจึงให้ตี้เชียนเสวี่ยเตรียมวัตถุดิบไว้สำรองถึงห้าชุด
“เ้าปรุงยาเป็ด้วยหรือ?” ตี้เชียนเสวี่ยมองถังเหล่ยด้วยความสงสัย
นักปรุงยาทุกคนล้วนเป็สมบัติล้ำค่าของโลก ตระกูลตี้ของนางก็มีนักปรุงยาเป็ของตัวเอง แม้แต่บิดาของนางก็ยังต้องเกรงใจนักปรุงยาประจำตระกูล อีกทั้งในภาพจำของตี้เชียนเสวี่ยนักปรุงยาล้วนมีเครายาวสีขาว ท่าทางราวกับเทพเซียน แต่ชายที่อยู่เบื้องหน้าของนางช่างแตกต่างจากนักปรุงยาที่นางเคยพบเจอ
“เป็หรือไม่อีกเดี๋ยวเ้าก็รู้ ตอนนี้เ้าไปเฝ้าประตูให้ข้าและห้ามผู้ใดเข้าใกล้!” ถังเหล่ยกล่าวกับตี้เชียนเสวี่ยพร้อมกับโบกมือให้อีกฝ่ายออกไป
ตี้เชียนเสวี่ยทำหน้าบึ้ง นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนกล้าให้นางเฝ้าประตู แต่ตี้เชียนเสวี่ยก็ต้องทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย
“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเ้าคือยาประเภทไหนกันแน่!”
ในดวงตาของถังเหล่ยเผยความตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
……