"พวกเ้าไม่ต้องตาม"
หัวหน้าโจรสั่ง และนั่นทำให้คนที่เหลืออีกสองคนรู้สึกไม่ค่อยพอใจ พวกเขาเองก็อยากเห็นเงินที่ว่านั้นกับตาเช่นกัน
"พวกข้าไปด้วย"
หนึ่งในสองคนที่เหลือเอ่ยขึ้น
"ข้าจะไปดูเองกับตาเผื่อมีกับดัก"
สิ้นเสียงหัวหน้าโจรลูกน้องที่เหลือก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้เงียบ ๆ แล้วรอดูสถานการณ์ต่อ
ส่วนเฟิงซูเหยาได้แต่แอบยิ้มสะใจที่โจรพวกนี้กำลังเดิมตามหมากที่นางวางไว้
"นำไป!"
"คุณหนูระวังนะเ้าคะ"
อาถังมองแผ่นหลังบางด้วยใจกังวล นางชะเง้อคอมองจนสุดสายตาพร้อมกับโจรอีกสองคนที่ยืนไม่เป็สุขอยู่ใกล้ ๆ
ผ่านมาไม่กี่อึดใจเสียงดัง สวบ! เหมือนมีคนย่ำหยียบใบไม้แห้งก็ดังขึ้น
"หนี! หัวหน้าพวกเ้าเอาเงินหนีไปทางนู้นแล้ว"
เฟิงซูเหยาวิ่งหน้าตื่นมาบอกพวกโจรที่เหลือ ความโลภขึ้นหน้า โจรสองคนได้ฟังเช่นนั้นจึงเร่งมาดูที่ท้ายรถม้า เห็นร่องรอยฝีเท้าคนเหยียบกิ่งไม้หักวิ่งไปอีกทางตามคำบอกเล่ายิ่งรู้สึกกระวนกระวายและโมโหยิ่งนักที่ถูกหักหลัง
"ตามไป! มันกล้าหักหลังพวกเรา"
เสียงวิ่งบุกป่าของโจรสองคนเรียกเสียงหัวเราะอย่างสะใจของเฟิงซูเหยาได้เป็อย่างดี
"คุณหนูไม่าเ็ตรงไหนนะเ้าคะ"
อาถังเหงื่อตกเอาแต่ห่วงนายหญิง หากแต่คนถูกห่วงกลับไม่มีแม้แต่ความหวาดกลัวในสายตา แถมใบหน้ายังเอิบอิ่มเต็มไปด้วยความสุขอย่างย้อนแย้งกับเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอ
"เดินทางต่อเถอะ"
ร่างระหงเดินไปยังม้าตัวหนึ่ง จัดการปลดอุปกรณ์ที่พ่วงกับตัวรถลาก สตรีที่เคยอ่อนแอขึ้นคร่อมหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม ทำเอาอาถังถึงกับขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของคุณหนูนาง
"ค...คุณหนู ท่าน... ม้า"
"เร็วเข้า เดี๋ยวสองคนนั้นรู้ว่าถูกหลอกจะย้อนกลับมาก่อน"
ม้าน้ำดีร่างกายแข็งแกร่งเดินมาหยุดตรงหน้าอาถัง มือแน่งน้อยเอื้อมมาฉุดดึงสตรีที่จับต้นชนปลายไม่กระจ่างขึ้นมานั่งซ้อนท้าย
เสียงม้าส่งเสียงคึกคะน้องพร้อมกับควบไปตามทิศทางที่เฟิงซูเหยาคุมบังเหียน
"อาถัง! เ้ายังหายใจอยู่หรือไม่"
เห็นสาวใช้เงียบั้แ่นางขึ้นมาบนหลังม้าแล้วจึงถามไถ่เสียหน่อย อาถังไม่ตอบเพราะนี่คือการนั่งบนหลังม้าที่วิ่งเร็วดุจสายลมครั้งแรง ทว่าเพราะแรงสวมกอดเอวบางทำให้เฟิงซูเหยามั่นใจว่าคนด้านหลังยังมีลมหายใจอยู่
"โจรกระจอกกลุ่มนั้นเป็คนของฮูหยินรอง"
เสียงบอกเล่าของเฟิงซูเหยาทำให้อาถังเลิกกลัวการนั่งบนหลังม้าหันมามาสนใจประโยคนั้นแทน
"คุณหนูปรักปรำฮูหยินรองไม่ได้นะเ้าคะ"
"ข้าไม่ได้ใส่ร้าย พวกนั้นไม่ใช่คนของกองโจรเฟิงเสี้ยว"
"คุณหนูมั่นใจได้เช่นไร"
"ไม่มีสิ่งใดที่ข้ามั่นใจกว่านี้แล้ว"
แม้อาถังจะอยากถามต่อว่าอะไรทำให้คุณหนูนางมั่นใจเช่นนั้นแต่กลับมิกล้าถาม เปลี่ยนเป็ถามเื่ค้างคาใจอีกเื่แทน
"หัวหน้าโจรผู้นั้นหักหลังพวกเดียวกันจริงหรือเ้าคะ"
เฟิงซูเหยาหัวเราะในลำคอครั้งหนึ่งพร้อมเอ่ย
"เ้าคิดว่าเช่นไรล่ะ"
เป็การตอบคำถามแบบใดกันทำให้คนถามคิ้วยุ่งยิ่งกว่าเดิม
เฟิงซูเหยาจะพูดออกไปได้เช่นไรว่านางจัดการหัวหน้าโจรไปชดใช้กรรมที่ปรโลกแล้ว จากนั้นจึงใส่ความคนตายว่าเขาหนีไปพร้อมเงินที่ไม่มีจริง
"เื่ที่ข้าพูดเ้าห้ามบอกแก่ท่านพ่อ"
"เื่โจรหรือเื่ฮูหยินรองเ้าคะ"
"เื่ที่โจรเป็คนของฮูหยินรอง"
"ทำไมล่ะเ้าคะ?"
ไหนคุณหนูบอกว่าเป็คนของฮูหยินรอง เหตุใดถึงได้ห้ามตนเอ่ยบอกเื่นี้แก่แม่ทัพใหญ่ฟ่าง
"จะจับงูพิษเราต้องมีอุปกรณ์ครบไม่เช่นนั้นมันจะแว้งกัดให้าเ็แทน"
เฟิงซูเหยาบอกเป็นัยนัยว่า การจะจับผู้บ่งการให้ดิ้นไม่หลุดต้องมีหลักฐาน แม้ครั้งนี้จะไม่มีหลักฐานแต่โจรสามคนนั้นต้องเป็ฝีมือสองแม่ลูกนั่นแน่
สองแม่ลูกนั่นคงวางแผนคิดกำจัดนางระหว่างทางที่ไปค่ายทหารแล้วโยนความผิดให้กองโจรที่ใคร ๆ ต่างรู้จักชื่อเสียงเรียงนามด้านความโฉดชั่วเฟิงเสี้ยว ทำให้ตอนออกจากจวนคนพวกนั้นจึงไม่มาหาเื่นาง
"เ้าค่ะ อาถังจะเก็บเื่นี้ไว้เป็ความลับ"
เฟิงซูเหยาพยักหน้าให้หนึ่งครั้งพร้อมตบเท้าเพื่อเร่งความเร็วม้าตัวนี้ให้ถึงที่หมายโดยไว
คืนนี้เป็คืนพระจันทร์เต็มดวงเหมาะกับงานเฉลิมฉลองวันประสูติขององค์ชายสามอี้เฟยยิ่งนัก
"บุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่ช่างมีวาสนา ์เมตตาคุ้มครองเสียจริง กลับมาจากความตายไม่พอ ยังรอดพ้นเงื้อมมือกลุ่มโจรนั่นได้อีก"
ไป๋เจิ้นหยาง องค์ชายแห่งแคว้นไป๋พ่วงตำแหน่งศิษย์ร่วมสำนักที่กลายมาเป็สหายสนิทกับองค์ชายอี้เฟยกล่าวชื่นชมความโชคดีของคุณหนูสามตระกูลฟ่างหลังจากที่นางฝ่าความตายหนีจากโจรพวกนั้นมาถึงค่ายทหารได้อย่างปลอดภัย
"นับว่า์เมตตากระหม่อมมาก เซียนเอ๋อร์คือแก้วตาดวงใจของกระหม่อม หากสิ้นนางไป กระหม่อมคงไม่มีกำลังใจจะอยู่ต่อ"
นึกย้อนไปแล้วแม่ทัพใหญ่ฟ่างก็ใจหายใจคว่ำ บุตรสาวออกจากจวนเดินทางมาหาตนที่นี่หากแต่ไม่มีผู้ใดรายงาน ดฝโชคดีแค่ไหนที่ครั้ฃนี้โจรพวกนั้นไม่คร่าชีวิตนางไปอย่างไม่หวนกลับ
ส่วนเื่ที่ทั้งค่ายต่างรู้ดีคือเขานั้นรักใคร่บุตรสาวคนสุดท้องมากกว่าคนอื่น ต่อให้ถูกนินทาว่ารักลูกไม่เท่ากันเสวียนสวี่ก็มิเคยสนใจ เพราะรู้แก่ใจตนดีว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหาเป็เื่จริง
แต่ถึงแม้จะบอกว่าเขารักฟ่างเซียนเซียนมากกว่าผู้ใด เสวียนสวี่ก็มิเคยทอดทิ้งเจินเม่ยบุตรสาวคนรองให้ลำบากสักครั้ง แถมยังตามใจนางจนเสียผู้เสียคนถึงขั้นทำให้ข้ารับใช้ในจวนเอือมระอากับความเอาแต่ใจของนาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้