พรึบ
พรึบ
ฉันยืนมองขุนศึกที่ปิดประตูรถแลมโบกินี่ของเขาและเดินตรงดิ่งเข้าไปในบ้านของเขาเลยโดยที่ไม่ได้หันมาอัมลาและพูดคุยกับฉัน ฉันก็ปิดประตูรถเขาและเดินตามหลังเขาเข้าไปในบ้านของเขาแต่คนละทางเขาเข้าทางด้านหน้าประตูคฤหาสน์ส่วนฉันเข้าทางประตูด้านหลังของคฤหาสน์ที่อยู่ติดกับห้องครัว ฉันยิ้มกริ่มออกมาที่เจอเข้ากับแผ่นหลังของผู้หญิงที่อายุเกือบจะเข้าเลขห้าที่ยืนล้างจานอยู่ที่ซิงค์ ฉันจึงเดินย่องๆเข้าไปหาท่านและยกมือขึ้นไปสวมกอดท่านจากทางด้านหลังและเอนศีรษะซบลงไปบนแผ่นหลังของท่านอย่างเหนื่อยล้า เหนื่อยทั้งใจเหนื่อยทั้งกาย
พรึบ
“อ่ะ!”
“ทายสิคะ…ว่าใคร…”ฉันเอ่ยถามคุณป้าของฉันไปทันทีที่ท่านทำท่าจะขัดขืนฉัน เพราะท่านไม่รู้น่ะว่าเป็ฉัน
“เอริ…เอริ^_^”เสียงแหบแห้งของคุณป้าบัวเอ่ยออกมาอย่างดีใจที่ทันทีที่ท่านได้ยินเสียงฉัน ท่านก็จำได้ทันที
“หนูคิดถึงป้าที่สุดเลยค่ะ^_^”ฉันเอ่ยป้าบัวไปและผละหน้าและแขนออกมาจากร่างอ้วนท้วมของท่าน
พรึบ
“เอริ…เอริหลานป้า^_^”ทันทีที่ฉันปล่อยให้ร่างของป้าบัวเป็อิสระท่านก็หันมามองหน้าฉันและรีบยื่นมือมาจับโครงหน้าของฉันและมองสำรวจการแต่งกายเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่อยู่
“สบายดีใช่ไหม…”
“ค่ะป้า…หนูมีงานทำ…ถึงมันจะไม่ค่อยมั่นคงก็เถอะ..”
“ไม่ค่อยมั่นคง…เราทำงานเป็เลขาให้คุณขุนศึกไม่ใช่เหรอ…ทำไมถึงบอกว่าไม่มั่นคงล่ะ?”ป้าบัวมองหน้าฉันด้วยความสงสัย
“เปล่าหรอกค่ะ…หนูก็พูดไปแบบนั้นแหละ^_^”ฉันพูดเสียงใสพลางยิ้มกว้างกลบเกลื่อนไปเพื่อให้ป้าบัวสบายใจและไม่เป็กังวล
ตึกๆๆๆ
“ป้าบัว!”เสียงหวานแหลมเอ่ยเรียกป้าบัวดังมาแต่ไกลพร้อมๆกับแรงกระแทกเท้าของเ้าของเสียงที่วิ่งมาด้วยความรีบร้อน
“มีอะไรใบข้าว?”ป้าบัวหันไปมองหน้าสาวรับใช้ที่ฉันรู้ได้เพราะว่าเธอสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มของแม่บ้านหลังนี้ ที่เหมือนกันกับชุดของป้าบัว
“คุณหญิงท่านให้มาบอกป้าบัวว่าให้ยกอาหารออกไปได้แล้วจ๊ะ…คุณขุนศึกมาแล้ว…”สาวใช้ใบข้าวเอ่ยบอกป้าบัวพลางหันมายิ้มและก้มศีรษะให้ฉันเพื่อทำการทักทายฉันก็ยิ้มให้เธอและก้มศีรษะตอบเธอไปเพื่อเป็การทักทายเธอกลับเช่นกัน
“อืมๆอยู่บนโต๊ะ…แกยกออกไปก่อนได้…เดี๋ยวที่เหลือฉันจะยกตามไปเอง…”ป้าบัวเอ่ยสั่งใบข้าวพลางชี้นิ้วไปบนโต๊ะตัวยาวและใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางห้องครัวหรูหรานี้ที่ใหญ่กว่าห้องนอนของฉันอีกนะ
พรึบ
ใบข้าวเดินไปยกจานเต็มสองมือเธอ ฉันก็หันมามองหน้าป้าบัว
“เดี๋ยวเอริยกไปให้เองค่ะ…ป้าบัวไม่ต้องยกหรอก^_^”ฉันบอกป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มและพยักหน้ารับคำฉัน
“^_^”ฉันก็ยิ้มบางๆให้ป้าบัวและเดินไปยกถาดอาหารที่เหลือซึ่งมีฝาครอบสแตนเลสปิดอาหารด้านในอยู่ ฉันเดินถือถาดอาหารออกมาโดยมีป้าบัวเดินตามแผ่นหลังของฉันมาติดๆเพื่อคอยไปยืนรับใช้คุณหญิงนฤมิตร
พรึบ
พรึบ
“วันนี้มีแต่อาหารที่คุณขุนศึกชอบทั้งนั้นเลยค่ะ^_^”ป้าบัวเอ่ยขึ้นอย่างเอาอกเอาใจขุนศึก
“ขอบคุณครับ….ป้าบัว^_^”ขุนศึกตอบป้าบัวไปพลางชำเลืองหางตามามองหน้าฉันที่วางอาหารลงตรงหน้าเขาทั้งสองถาดก่อนจะเดินถอยห่างออกมาและกำลังจะเดินกลับเข้าไปในครัวตามเดิมแต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้าลง
“ยังไม่ต้องไป….ฐิติมน…”เสียงเหี้ยมทรงอำนาจของคุณหญิงนฤมิตรเอ่ยขึ้น
“ค่ะ…”ฉันตอบรับคำของท่านทันทีอย่างไม่มีลังเล
“อยู่รับใช้ฉันก่อน…เผื่อลูกชายฉันกับแขกคนพิเศษของฉัน้าอะไรเพิ่ม”
“ได้ค่ะ….คุณหญิง”ฉันก้มศีรษะลงเพื่อรับคำสั่งจากคุณหญิงและเดินถอยหลังไปติดกำแพงเพื่อรอคำสั่งจากผู้เป็นายของบ้านนี้
“ใครเหรอครับ….คนที่คุณแม่อยากให้ผมเจอ?”ขุนศึกที่นั่งอยู่ด้านข้างของโต๊ะอาหารยาวโดยมีคุณหญิงนฤมิตรนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะเอ่ยถามคุณแม่ของเขาไปอย่างอยากรู้
“คนที่ลูก….อยากจะเจอ…”
“ใครเหรอครับ?”ขุนศึกขมวดคิ้วมองหน้าคุณหญิงนฤมิตรที่ท่านกำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย
“คุณหญิงนวลปรางกับคุณหนูนามิมาแล้วค่ะ^_^”เสียงแจ้วของคนรับใช้คนสนิทของคุณหญิงนฤมิตรเดินมาเอ่ยรายงานให้คุณหญิงทราบ ท่านก็กระตุกยิ้มก่อนจะหันไปมองทางด้านประตูใหญ่โดยมีขุนศึกและรวมไปถึงฉันเองก็ด้วยที่หันไปมองหน้าประตูทางเข้าของห้องอาหารแห่งนี้ และก็ปรากฏร่างของคุณหญิงนวลปรางที่แต่งตัวสวยงามเนื้อตัวประดับไปด้วยเครื่องเพชรพลอยเต็มตัวด้วยบ่งบอกสถานะทางการเงินของเธอได้เป็อย่างดีเพชรน้ำงามที่สาดส่องกระทบกับแสงไฟนีออนในห้องอาหารและผู้หญิงผิวขาวหน้าตาสะสวยที่เดินขนาบข้างเธอที่มีเรือนร่างสุดจะเพอร์เฟคเสื้อผ้าที่เธอใส่ถึงจะไม่ใช่ชุดโป๊เปลือยแต่ก็รัดสัดส่วนของเธอได้ดีทำให้ขุนศึกมองเธอคนนั้นตาค้างก่อนจะกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมา ท่าทีแบบนี้ของขุนศึกกำลังบ่งบอกว่าเขากำลังพึงพอใจเธอคนนั้นเป็อย่างมาก ทำให้คุณหญิงนฤมิตรที่แอบมองขุนศึกอยู่ก็ต้องยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเช่นกันที่ขุนศึกสนใจในตัวของนามิลูกสาวเพื่อนสนิทของคุณหญิง
“คุณหญิงนฤมิตร^_^”
“คุณหญิงนวลปราง^_^”
พรึบ
และคุณหญิงทั้งสองคนก็โผ่เข้ากอดกันเหมือนคนที่ไม่ได้เจอะไม่ได้เจอกันมาเนิ่นนานทั้งๆที่พวกท่านก็ออกงานสังคมคู่กันออกจะบ่อยเพราะเป็สาวแม่หม้ายด้วยกันทั้งคู่เพราะสามีของพวกท่านเสียชีวิต
“สวัสดีค่ะ….คุณหญิงป้า^_^”หญิงสาวหน้าตาสะสวยการแต่งกายแบบพวกแนวเด็กนักเรียกนอกยกมือไหว้สวัสดีคุณหญิงนฤมิตร
“ว๊าย….นามิหลานป้า….โตเป็สาวแล้วสวยมากเลยจ๊ะ^_^”
“ขอบพระคุณค่ะ^_^”
“นี่..ขุนศึกสวัสดีคุณหญิงนวลปรางซะสิลูก”คุณหญิงนฤมิตรหันมาเอ่ยบอกขุนศึกที่เขามัวแต่มองลูกสาวของคุณหญิงนวลปรางตาไม่กระพริบอยู่
พรึบ
“อ้อครับคุณแม่….”ขุนศึกรับคำและลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหยุดยืนข้างๆคุณหญิงนฤมิตร
“สวัสดีครับ….คุณหญิงนวลปราง^_^”ขุนศึกยกมือไหว้คุณหญิงนวลปรางอย่างอ่อนโยน
“สวัสดีจ๊ะ….หลานขุนศึก^_^”คุณหญิงนวลปรางยกมือรับไหว้ขุนศึกและยิ้มบางๆอย่างผู้ดีให้ขุนศึก
“อ้อนี่….ลูกสาวของน้าจ๊ะ…”คุณหญิงนวลปรางเอ่ยขึ้นอย่างเพิ่งนึกได้ว่าลืมแนะนำผู้หญิงหน้าสวยที่ทำหน้าเขินอายอยู่ข้างๆท่าน
“สวัสดีพี่เขาสิลูก….”คุณหญิงนวลปรางว่าพลางหันมามองหน้าขุนศึกที่ยิ้มละมุนให้กับลูกสาวของท่านอยู่
“ค่ะ…คุณแม่^_^”ลูกสาวคุณหญิงนวลปรางรับคำก่อนหันมองมาที่ขุนศึกด้วยหน้าตาเขินอายเธอเม้มปากเป็เส้นตรง
พรึบ
“สวัสดีค่ะ…พี่ขุนศึก…”
“สวัสดีครับ…น้อง…?”ขุนศึกยกมือรับไหว้ลูกสาวของคุณหญิงนวลปรางพลางเอ่ยขึ้นอย่างรอคำตอบว่าเธอคนนี้ชื่ออะไร
“นามิลูก…น้องนามิ”เป็คุณหญิงนฤมิตรเองที่ตอบ
“อ้อครับ…น้องนามิ^_^”ขุนศึกว่าพลางทำแววตาเเพรวพราวใส่นามิ นามิเองก็บิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
“เรามาทานข้าวกันก่อนดีกว่าจ๊ะ…เดี๋ยวเราจะได้แนะนำให้เด็กทั้งสองคนได้รู้จักกันนะคะ…”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยขึ้น
“จ๊ะเพื่อนรัก^_^”คุณหญิงนวลปรางก็รับคำ
“ขยับเก้าอี้ให้น้องสิลูก….”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยขึ้น ขุนศึกที่กำลังจะเดินกลับมาก็ต้องหันไปมองหน้าคุณแม่ของเขา
“ครับ…คุณแม่…”เขารับคำก่อนจะผายมือเชื้อเชิญให้นามิเดินตามเขามา นั่นคือที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
พรึบ
“ขอบคุณค่ะ”นามิยิ้มบางๆให้ขุนศึกในขณะที่ขุนศึกขยับเก้าอี้ออกให้เธอเพื่อให้เธอจะได้เข้าไปนั่งได้สะดวกขึ้น คุณหญิงทั้งสองก็หันมองหน้ากันพลางยิ้มกริ่มออกมาทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่านี้คือการจับคู่ของคนใหญ่นั่นเองทำให้หัวใจของฉันเต้นรัวเเรงกับภาพของขุนศึกที่ยิ้มให้นามิอยู่ตอนนี้ เขาเดินกลับมานั่งที่นั่งตามเดิมของเขาโดยฝั่งตรงข้ามกับเขาเป็คุณหญิงนวลปรางข้างคุณหญิงนวลปรางเป็นามิและหัวโต๊ะเป็คุณหญิงนฤมิตรเหมือนเดิม ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว เหมือนฉันเป็ส่วนเกิน….