ไท้หยูถูกพลังไร้รูปขุมหนึ่งคล้ายมือมหึมามือหนึ่งจับตัวเขาเอาไว้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย ลมหายใจถี่กระชั้นบรรยากาศในห้องกว้างราวกับฤดูเหมันต์มาเยือน เย็นเยียบจนสะท้านไปทั่วร่าง เขาลอยเข้าหาหนอนที่ดวงตาเรืองแสงเล็กราวกับเม็ดทราย หนอนที่ตัวเล็กกระจ้อยร่อยยามนี้กลับให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ราวัในยุคา
“เ้าบอกว่าเป็ตนเองเทพ? เทพอันใดเหตุใดจึงมาอยู่ในห้องลับพยุหะของสำนักข้า”
เขาระงับความแตกตื่นในใจจ้องมองหนอนที่ลอยอยู่ด้วยความนิ่งเฉยไม่แสดงออกทางสีหน้า เขาสังเกตว่าหนอนตัวนี้คล้ายสนใจเขาอย่างยิ่ง และจากคำพูดที่ได้ยินสองสามรอบคล้ายกับว่าตัวเขามีบางสิ่งที่พิเศษแตกต่างจากคนปกติ
อืม เื่นี้ย่อมต้องแตกต่างจะอย่างไรเขาก็เป็ิญญาของคนต่างภพที่ทะลุมายังร่างคนที่ตายไปแล้วรอบหนึ่ง
เขาไม่สามารถสังเกตเห็นอากัปกิริยาของหนอนได้ เื่นี้ไม่แปลกเท่าใดจะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็หนอนตัวหนึ่งย่อมไม่สามารถแสดงสีหน้าใดๆ
เขาเพียงเห็นแสงสองจุดที่แทนดวงตานั้นสว่างวาบเล็กน้อยได้ยินเสียงที่แ่เบาแต่คล้ายดังข้างหูแว่วขึ้นมาว่า
“วิถีโคจรแห่งฟ้าของเ้ากล้าแข็งยิ่งนัก เป็บุคคลในรอบร้อยพันปีที่ข้าพบเห็น”
น้ำเสียงแบ่งไม่ออกว่าเป็ชายหรือหญิง แต่ไท้หยูสามารถััได้ว่าเ้าหนอนตัวนี้กำลังวางท่าเป็ผู้เฒ่าที่ช่ำชองประสบการณ์ คล้ายกับเห็นร่างมายาของผู้เฒ่าคนหนึ่งกำลังยืนเชิดหน้าสอนสั่ง
“อันใดคือวิถีโคจรแห่งฟ้า ข้ากลับไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน เ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้า ข้าถามเ้าเป็ตัวอะไรกันแน่” ไม่ว่าจะในโลกนี้หรือโลกเก่า คำว่าวิถีโคจรแห่งฟ้าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ชื่อกลับคล้ายวิชาพยากรณ์ยิ่งนัก วิถีโคจรแห่งฟ้า ไท้หยูขบคิดอยู่ในใจ
“วิถีโคจรแห่งฟ้าเ้าไม่รู้จัก เฮอะ ข้าไม่แปลกใจ มนุษย์อย่างพวกเ้ามีน้อยยิ่งกว่าที่รู้จักวิถีโคจรแห่งฟ้า ผู้ที่เข้าใจมันยิ่งมีน้อยจนสามารถใช้นิ้วมือนิ้วเท้านับได้”
นิ้วมือนิ้วเท้าของมนุษย์หรือหนอนเช่นเ้า ไท้หยูแขวะเ้าหนอนวางท่ายโสนี้ในใจ
“วิถีโคจรแห่งฟ้า หากจะอธิบายให้เ้าเข้าใจได้ง่าย ๆ มันก็คือสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า “พลังชะตา”
หนอนลอยเข้ามาใกล้กับใบหน้าของไท้หยู เขาััได้ถึงพลังบริสุทธิ์ที่สูงส่งแผ่ซ่านออกมาจากมัน นี่เป็พลังที่ไม่สามารถพบได้บ่อยนัก แข็งแกร่งแต่กลับมิได้ให้ความรู้สึกกดดันดุร้ายเลยสักนิด
“ที่แท้ก็คือดวงชะตา ของเช่นดวงชะตาผู้ใดจะไม่รู้จัก เป็หนอนก็คือหนอน ช่างวางก้ามนัก” เขาไม่ยอมรับ
“อา เ้านี่เองที่ดูดพลังเส้นปฐีจนพลังิญญาเบาบางลงทำให้สำนักของข้าแทบล่มสลาย ลูกศิษย์หลีกหนีกันไปหมด ถล่มมารดาเ้า” เขาพึ่งนึกได้ถึงข้อนี้โทสะที่ถูกลดพลังฝึกตนจึงคุกรุ่นขึ้นมา ทว่าเพียงชั่วครู่เดียวก็ความโกรธก็ลดลงเพราะเขาพลันนึกได้อีกว่าสิ่งที่สูญเสียไปทั้งหมดก่อนหน้านี้หาใช่ของเขาไม่ นั้นเป็ของไท้หยูคนเก่า
อีกด้านหนึ่งลอบสำรวจหนอนที่เข้ามาใกล้อีกรอบ ครั้งนี้จึงสามารถสังเกตเห็นได้อย่างเลือนรางว่าบนตัวหนอนมีลายเส้นบิดเบี้ยวมีมากมาย สับสนเปะปะจนมองไม่ออก
ได้ยินเสียงแค่นเ็าดังเฮอะของหนอนดังขึ้นจากนั้นกล่าวว่า
“ดวงชะตาที่พวกเ้ามนุษย์เรียกกันหาใช่สิ่งเดียวกับวิถีโคจรแห่งฟ้าไม่ ดวงชะตาที่มนุษย์พวกเ้าคิดคือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เื่ราวของความบังเอิญต่าง ๆ ทว่าวิถีโคจรแห่งฟ้านั้นคือพลังของโลกกฎเกณฑ์ของฟ้า ด้วยระดับของเ้าในตอนนี้บอกไปคงไม่เข้าใจ ข้าจะอธิบายให้เ้าเข้าใจสั้น ๆ ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกล้วนมีวิถีโคจรแห่งฟ้า เปรียบเสมือนพลังแฝง พวกเขาถูกกำหนดมาให้เป็ตัวตนที่แตกต่างจากปุถุชน นี่เป็สิ่งที่มีเฉพาะบุคคลยิ่งใหญ่เช่น ผู้บุกเบิกเส้นทางฝึกตน ฮ่องเต้ ผู้ครองอำนาจ ผู้บัญญัติกฎคิดค้นวิชา และอีกมากมาย”
ตัวหนอนเดี๋ยวลอยไปซ้ายเดี๋ยวลอยไปขวา ไท้หยูคล้ายมองเห็นภาพหลอนเป็ผู้เฒ่าเคราขาวที่กำลังเดินสอนหนังสือ หยุดไปครู่หนึ่งหนอนพลันกล่าวต่อว่า
“อ๋อ มีอีกเื่ ที่เ้าบอกว่าพลังิญญาของเส้นปฐีในสำนักลดลงและพลังฝึกตนของเ้าถดถอย สิ่งเ่าั้หาเกี่ยวกับข้าไม่ ด้วยพลังอันต่ำต้อยของพวกเ้ามนุษย์ ผู้สูงส่งเช่นข้าย่อมไม่เหลือบแล”
ไท้หยูที่กำลังกลั่นกรองความคิดที่หนอนกล่าวอยู่ พลันรู้สึกว่าเสียงกัมปนาทดังเปรี้ยงอยู่ข้างหู ศีรษะราวกับถูกกระบองเหล็กใหญ่แข็งฟาดใส่จนวิงเวียนแทบหมดสติ
“เ้าจะบอกว่าทุกอย่างนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเ้า? มารดามันเถอะ เช่นนี้หมายความว่าข้ายังมีศัตรูอื่นแฝงอยู่อีกงั้นรึ?”
เพียงแค่คิดก็เสียวสันหลังวาบ เขาแน่ใจได้แล้วการที่ิญญาของเขาข้ามภพมาในร่างนี้ไม่ใช่เื่ดีเลยสักนิด อย่างน้อยั้แ่ข้ามมามีชีวิตในร่างนี้ยังไม่ได้ยินเื่น่ายินดีเลยแม้แต่เื่เดียว
“เ้าจะบอกว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฝีมือของเ้า? การที่เ้าดูดพลังของเส้นปฐีนี้ย่อมเป็หลักฐานว่าพลังิญญาที่อ่อนทรามลงเป็เพราะเ้า” ไท้หยูเบิ่งตาโตจ้องหนอนตัวเท่านิ้วโป้ง
“ผู้ใดบอกเ้าว่าที่ข้าอยู่ที่นี่คือข้าดูดกลืนพลังของเส้นปฐี”
คำพูดของหนอนกลับอุดปากของไท้หยู ทำให้เขาพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็เขาคิดไปเอง จะอย่างไรพลังิญญาลดลงย่อมเกี่ยวข้องกับเส้นปฐี เมื่อมาดูเส้นปฐีพบเจอความผิดปกติจึงเข้าใจไปเองว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะหนอน เขาอยากยกมือนวดหัวคิ้วทว่าจนใจที่ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนจึงกล่าวว่า
“เ้าปล่อยข้าก่อนดีหรือไม่ ปวดตัวแทบตายแล้ว”
“อา ข้าลืมไปเ้าบอบเบาอย่างยิ่ง” ร่างของไท้หยูพลันหลุดจากมือที่มองไม่เห็น ร่วงตุบลงสู่พื้น
ไท้หยูยิ้มเ็าแค่นเสียงในลำคอคราหนึ่ง ช่างปากคอเราะรายยิ่งนัก หากเ้าหนอนบอกว่า เ้าอ่อนแอเขายังรู้สึกเจ็บใจน้อยกว่า บอบบาง.... เขาลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ติดกับอาภรณ์นิ้วมือนวดหว่างคิ้วปากพ่นลมหายใจอบอุ่นออกมา เขามีเื่ให้คิดเพิ่มขึ้นอีกแล้ว และดู ๆ แล้วเื่นี้คล้ายจะไม่ธรรมดาดั่งที่คิด
“เ้า้าอะไร เป็ตัวอะไร มาทำอะไร เ้ามีเจตนาอะไรกับสำนักของข้า”
ไท้หยูพ่นคำถามออกรัว ๆ เพราะยามนี้ในใจเขาเริ่มร้อนรนขึ้นแล้ว
ไท้หยูคล้ายได้ยินเสียงจุปากของหนอนดังอยู่ข้างหูจากนั้นได้ยินมันกล่าวว่า
“อย่าได้สำคัญตนเกินไป สำนักของเ้าหามีอะไรให้ข้าเก็บเกี่ยวไม่ ข้าจะทำอะไรงั้นรึ ข้าเพียงแค่อาศัยเส้นปฐีชุบตัวหล่อเลี้ยงร่าง ส่วนข้าเป็ใคร เ้ายังไม่มีสิทธิ์รู้ ระดับของเ้าต่ำเกินไป”
ช่างเป็หนอนที่หยิ่งยโสนัก ไท้หยูถล่มด่ามันอยู่ในใจร้อยรอบเปลือกนอกแสร้งเป็เ็ากล่าวว่า
“เ้าจะบอกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็เพราะเ้า มารดามันเถอะข้าปวดเศียรยิ่งนัก”
มิทราบเพราะมีเื่มากมายโจมตีจิตใจหรือเพราะิญญาที่ย้ายมาอยู่ในร่างนี้ยังไม่สมบูรณ์ดี พอยิ่งรับฟังก็ยิ่งรู้สึกปวดศีรษะจนคล้ายสมองจะะเิ
“เอาเถอะ ข้าเชื่อเ้า จะทำอะไรก็เื่ของเ้า ขอลาก่อน จากนี้ไม่พบกันอีก”
ในเมื่อไม่ใช่ต้นเหตุเขาก็คร้านจะอยู่เถียงกับหนอนยโสตัวนี้ อีกอย่างเขารู้สึกกริ่งเกรงเ้าหนอนตัวนี้อยู่ไม่น้อย แม้ว่าพลังฝึกตนของเขาบัดนี้จะถดถอยเหลือขั้นหลอมจิตแต่นี่ก็เป็ร่างของผู้ฝึกยุทธขั้นจิตไร้ขอบ ทว่าเมื่อครู่ถูกเ้าหนอนนี้จ้องมองก็แทบตายแล้ว
นี่ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าแรงกดดันมหาศาลเมื่อตอนก้าวเท้าเข้าสู่ใจกลางห้องลับเป็เพราะเ้าหนอนนี่หรือไม่ แต่เขาสรุปอย่างรวดเร็วว่า หนอนตัวนี้อันตราย!
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเขาจึงคิดหนีออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด ไปจากเ้าหนอนตัวนี้
ไท้หยูพึ่งหันหลังกลับขาก็ไม่สามารถยกขึ้นได้ ร่างคล้ายถูกตรึงไว้โดยโซ่ที่มองไม่เห็นออกแรงเท่าใดก็ไม่สามารถสลัดหลุดจากพันธนาการไปได้
“เ้า้าสิ่งใด ไยไม่ปล่อยให้ข้าออกไป” แม้เปลือกนอกจะปั้นสีหน้าเฉยชาทว่าในใจร้อนรุ่มอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าหนอนตัวนี้คิดอะไร แต่ที่รู้แน่ชัดคืออิทธิฤทธิ์ของมันร้ายกาจอย่างยิ่ง
“หันกลับมา” ร่างของไท้หยูพลันหันกลับมาอยู่จุดเดิม หนอนลอยมาอยู่ด้านหน้าของเขา
“ข้ามีข้อเสนอหนึ่งให้เ้า อืม ไม่ ไม่ใช่ข้อเสนอ เรียกว่าแลกเปลี่ยนแต่เ้าห้ามปฏิเสธไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารเ้าทิ้งที่นี่”
ไท้หยูเบิกตากลมโตปากอ้าตาค้างคิดไม่ออกจะใช้คำใดมาด่าหนอนตัวนี้
“เ้าบอกว่าข้อแลกเปลี่ยนแต่ไม่ให้ข้าปฏิเสธ มารดาเ้าสิ นี่เรียกว่าบังคับกันชัด ๆ” ไท้หยูถล่มมารดาเ้าหนอนในใจหนึ่งร้อยรอบ ภายนอกแสร้งเฉยชากล่าวว่า
“ข้อแลกเปลี่ยนอันใด เ้าลองเอ่ยมา หากไม่เลวร้ายเกินไป ข้าสามารถยอมรับได้”
“ต่อให้เ้าไม่ยอมรับ ข้าก็จะบีบให้เ้ายอมรับ” หนอนเอ่ยอย่างยโส
ไท้หยูคล้ายภาพหลอนเป็แม่ทัพยิ่งใหญ่กำลังสอบสวนเฉลยศึกพ่ายา เ้าไม่มีสิทธิ์พูดอำนาจชีวิตเ้าอยู่ในมือข้า หึหึ ทั้งหมดนี้เขาคิดอยู่ในใจไม่ให้แสดงออกทางสีหน้าแม้แต่นิดเดียว
“ข้าจะไม่ใช้เส้นปฐีของเ้าชุบตัวอีก”
“อืม นี่เป็เื่ดี” ไท้หยูเอ่ยออกมา
“ทว่าข้าจะอาศัยร่างของเ้าชุบตัว ข้าจะฝังตัวเองลงไปในร่างเ้าอาศัยร่างกายของเ้าหล่อเลี้ยงตัวข้า”
ไท้หยูขอถอนคำพูดเมื่อครู่ นี่จึงเป็เื่เลวร้ายขั้นสูงสุด เขามองเห็นภาพสยดสยอง หนอนชอนไชตัวเขา ร่างกายเหือดแห้งกลายเป็คนชราแต่มีชีวิตอยู่ไม่สามารถตายได้ ไท้หยูพลันเย็นวาบที่หลังหยาดเหงื่อเย็นหลั่งจนอาภรณ์เปียกชุ่ม
“อ๊ะ ข้าไม่ให้เ้าปฏิเสธ อย่าให้คำนั้นหลุดออกมาจากปาก ไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารเ้าทิ้ง” หนอนเอ่ยอย่างเ็า
ไท้หยูจนปัญญาครานี้เขาปั้นสีหน้าเฉยชาไม่ไหวแล้ว
“นี่ไหนเลยเรียกว่าข้อแลกเปลี่ยน อา จริงสิข้าคิดว่าเ้าหล่อเลี้ยงตัวเองด้วยเส้นปฐีเหมาะสมแล้ว ตัวข้านั้นทั้งอ่อนแอและไร้ค่าอย่างยิ่งไม่มีพลังพอให้เ้าชุบตัวหรอก อืม ข้าจะไม่ถือสาเอาความ ข้าให้เ้ายืมเส้นปฐีของสำนัก ใช่ เ้าทำตามใจเลย”
ให้สิ่งใดล้วนสามารถรับได้หากสามารถหนีรอดจากสถานการณ์นี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้