เสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังดังออกมาจากห้องเล็กในเรือนที่ใกล้ผุพังท้ายจวนตระกูลซ่ง ดวงตาปูดโปนของเถียนสวี่หลันจ้องมองเดรัจฉานมนุษย์ทั้งห้า ที่กำลังย่ำยีร่างกายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ ตอนนี้นางสิ้นไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนต่อไปแล้ว
กว่าสองปีที่ถูกขังเอาไว้ในห้องที่เล็กแคบและเหม็นอับแห่งนี้ กว่าสองปีที่นางถูกทรมานและย่ำยีจากบุรุษมากหน้าหลายตา พวกที่มีจิตใจวิปริตชมชอบร่างกายที่พิการของสตรี ต่างก็จ่ายเงินให้สามีนางเพื่อที่จะได้สำเร็จความใคร่กับร่างกายที่ไร้แขนขาของเถียนสวี่หลัน
ย้อนกลับไปในตอนที่นางยังคงอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหนานซาน เถียนสวี่หลันนับว่าเป็สตรีที่งดงามที่สุดในอำเภอก็ว่าได้ ต่อมาแม้นางจะติดตามสามีย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวง ใบหน้าของเถียนสวี่หลันก็ยังนับว่าโดดเด่นในหมู่สตรีอยู่ดี
จนกระทั่งซ่งหยางเฉิง แต่งงานใหม่กับบุตรสาวของขุนนางตระกูลใหญ่ ความสุขที่นางเคยได้รับจากสามีก็ค่อยๆ หายไป
มันคงเป็เวรกรรมที่นางเคยทำเอาไว้กับเว่ยเจ๋อิสามีคนแรกของนาง นางถึงได้ถูกจ้าวจื่ออิงภรรยาคนใหม่ของซ่งหยางเฉิงทรมานให้ตายทั้งเป็เช่นนี้ ตลอดสองปีที่ผ่านมาจ้าวจื่ออิงขังนางเอาไว้ในห้องเก็บของที่เรือนท้ายจวน โดยที่ซ่งหยางเฉิงเองก็รู้เห็นทุกอย่าง
เื่ที่นางทรมานและตัดแขนขาของเถียนสวี่หลันซ่งหยางเฉิงเองก็ไม่ได้เอ่ยห้าม เพราะสำหรับเขาแล้วเถียนสวี่หลันถือว่าหมดประโยชน์ั้แ่ที่เขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของขุนนางตระกูลจ้าวแล้ว
ร่างกายเปลือยเปล่าที่ไร้แขนขาของเถียนสวี่หลัน นอนหงายอยู่บนพื้น ดวงตาของนางเลื่อนลอยเหมือนร่างกายเปล่าที่ไร้จิติญญา ทุกส่วนของร่างกายล้วนมีแต่ร่องรอยของการถูกเฆี่ยนตีจากแส้ม้าและถูกเผาไฟ ทั้งแผลเก่าและแผลที่พึ่งได้มาต่างก็ผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก
เดรัจฉานมนุษย์เ่าั้ได้จากไปนานแล้ว สาวใช้ที่เฝ้าทางเข้าเรือนหลังนี้ ยกถังน้ำที่เย็นเฉียบสาดไปที่ร่างของเถียนสวี่หลันอย่างไม่ไยดี แม้ยามนี้จะยังไม่ถึงฤดูเหมันต์แต่อากาศก็เริ่มหนาวเย็นแล้ว ร่างผอมแห้งของนางสั่นเทาขึ้นมาอย่างรุนแรง
“น่าสะอิดสะเอียนเสียจริง เป็ข้าคงกัดลิ้นตายไปนานแล้ว ไม่รู้ว่านางทนมาได้อย่างไรตั้งสองปี”
สาวใช้ร่างท้วมเอ่ยกับสาวใช้อีกคน สายตาของพวกนางมองมายังร่างเปลือยเปล่าของเถียนสวี่หลันด้วยความดูถูก
“นางจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายได้อย่างไร ก็ฮูหยินถอนฟันของนางออกจนหมดปากแล้ว รีบล้างตัวเสนียดจัญไรนี่เถอะ จะได้รีบไปเสียที อัปมงคลยิ่งนัก”
สาวใช้อีกคนเอ่ยสำทับขึ้น ด้วยเห็นเป็เื่สนุก เถียนสวี่หลันไม่สนใจเื่ที่พวกนางสนทนากัน นางค่อยๆ ใช้ข้อศอกคลานไปยังกองฟางที่อยู่ตรงมุมห้อง ร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทำให้นางปวดแสบปวดร้อนที่าแ แต่เถียสวี่หลันก็อดทนไม่ร้องออกมา นางหวังเพียงว่าสักวัน์จะเมตตาให้นางได้ตายไปจากสถานที่ที่เหมือนนรกขุมแห่งนี้เสียที
เสียงประตูเปิดออกอีกครั้งหลังจากสาวใช้ทั้งสองจากไป เถียนสวี่หลันไม่แม้แต่จะเผยอเปลือกตาขึ้นมอง ต่อให้เวลานี้เป็พญามัจจุราชมาเอาชีวิตนางนางก็ไม่กลัวแม้สักนิด บางทีนางอาจจะขอบคุณเขาเสียด้วยซ้ำ ที่เขาเมตตามาปลดปล่อยนางให้หลุดพ้นจากที่นี่เสียที
“เ้ายังหายใจอยู่หรือไม่ เถียนสวี่หลัน”
เสียงหวานดังขึ้นที่หน้าประตู สตรีใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มด้วยชาดอย่างประณีต ชุดผ้าไหมปักเลื่อมลายดอกเหมยสะบัดพลิ้วไปตามแรงลม นิ้วมือเรียวขาวผ่องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดจมูกด้วยความรังเกียจ ใบหน้างามแสดงท่าทางขยะแขยงออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“เหตุใดพวกเ้าไม่ล้างตัวนางให้สะอาดกว่านี้ เหม็นเสียยิ่งกว่าเล้าหมูเสียอีก”
นางหันไปดุสาวใช้ร่างท้วมอย่างไม่จริงจังนัก รองเท้าราคาแพงเหยียบเข้าไปภายในห้องเล็กแคบนั้นเพื่อดูว่าเถียนสวี่หลันตายไปแล้วจริงๆ หรือไม่ เพราะนางไม่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้