เป็เวลาหกโมงเช้า กัวไฮว่ออกมาจากห้องนอนที่เมื่อคืนเขาวุ่นวายมาทั้งคืนก็ไม่ได้เสียเปล่าพลังเซียนในร่างกายของเขามีเต็มเปี่ยมและมีอารมณ์ดีแปลกๆ
“ตาบ้า เมื่อวานวุ่นวายทั้งคืน ไม่รู้จักเงียบเสียงหน่อยเหรอเ้าไม่รู้หรือไงว่าในบ้านนี้มีเด็กอยู่ ตาม้าพ่อพันธุ์ ตาบ้า” กัวไฮว่เพิ่งจะเดินออกมาจากคฤหาสน์ก็เห็นอวี้เอ๋อร์เดินมุ่งหน้ามาทางตนตอนแรกเขาคิดจะพูดหยอกอวี้เอ๋อร์เสียหน่อยแต่ดันถูกอวี้เอ๋อร์ด่ายกใหญ่ั้แ่เช้า
“แค่กๆๆ เมื่อวานไม่ทันได้ระวัง ครั้งหน้าจะระวังนะ” กัวไฮว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
“ไม่คิดเลยว่าท่านเทพแห่งจิตจะหน้าแดงเป็กับเขาด้วย เ้าว่าถ้าเง็กเซียนรู้ว่าเ้าอยู่ที่แดนมนุษย์แล้วโอบซ้ายคนกอดขวาคนจะมีท่าทางอย่างไร” อวี้เอ๋อร์มองกัวไฮว่แล้วพูดขึ้น
“อวี้เอ๋อร์ เ้ายกโทษให้ข้าเถอะ ตอนนี้เ้าเรียกข้าว่าท่านเทพข้าถึงกับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในเมื่อข้าลงมาแล้ว เช่นนั้นก็ใช้ชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ของแดนมนุษย์เถอะแม่น้ำเทียนเหอ[1] รั่วไหลไปแล้วพวกเราจะไปทำอันใดได้เล่า” กัวไฮว่พูดขึ้น “เ้า เ้าหึงหรือ เื่นี้ต้องโทษข้าเอง รอให้ถึงฤกษ์งามยามดีแล้วเรามาจัดการเื่ของเรากัน”
“ไอ้ตาบ้า ไอ้ม้าพ่อพันธุ์” เมื่ออวี้เอ๋อร์ด่าเสร็จก็หมุนตัวเดินไปหาหนานกงหลิงโม่ที่กำลังฝึกยามเช้า
“ยังจะบอกว่าไม่หึงอีก ข้าไม่ต้องใช้วิชาอ่านจิตก็รู้ว่าเ้าหึง” กัวไฮว่มองแผ่นหลังของอวี้เอ๋อร์แล้วพูดยิ้มๆ
“คุณย่า ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะครับเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลยใช่ไหมล่ะ” ผ่านไปประมาณเจ็ดนาทีกัวไฮว่ก็เห็นคุณย่าของตนเองแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“เด็กบ้า กลางค่ำกลางคืนยังจะทำแบบนั้นอีก” นายหญิงกัวพูดยิ้มๆ “แล้วเมื่อไหร่ย่าจะได้อุ้มเหลนล่ะ”
“แค่กๆๆ ย่าครับ ดึกดื่นขนาดนั้นย่ายังไม่นอน ดูอะไรอยู่เหรอครับ” เมื่อวานกัวไฮว่รู้สึกเหมือนมีคนมองตนเองอยู่แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็ย่าของตนเอง จึงพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“เด็กบ้า ไปเรียกสาวๆ มากินข้าวเช้าด้วยกันสิกินข้าวเสร็จแล้วพวกเธออยากทำอะไรก็ไปทำ ย่าว่าแกอยู่ที่บ้านไปก็อยู่ได้ไม่นานหรอก” นายหญิงกัวพูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ พี่หลิงหลิงล่ะ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ เดี๋ยวฉันไปตามเธอ” ถังซีเห็นว่าหลิงหลิงยังไม่ได้ตื่นเลยพูดขึ้นยิ้มๆ
“ไม่ต้องหรอก เมื่อวานหลิงหลิงบอกว่าเธอไม่สบายน่ะ น่าจะต้องนอนต่ออีกหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“งั้นพวกเราก็ยิ่งต้องไปดูเธอหน่อยละ” ครั้งนี้คนที่พูดคืออวี้เอ๋อร์เธอลากถังซีกับซูเยี่ยวิ่งไปยังห้องของซุนหลิงหลิงโดยไม่ทันรอให้กัวไฮว่มีปฏิกิริยาตอบกลับ
“อวี้เอ๋อร์ตัวดีดูทรงแล้วถ้าอยากให้วังหลังสงบสุขก็คงต้องจัดการยายเด็กนี่ก่อนเป็อันดับแรก” กัวไฮว่มองสาวๆ ที่วิ่งไปยังห้องของหลิงหลิงพลางส่ายศีรษะเบาๆ
“พี่หลิงหลิง พี่ไฮว่บอกว่าพี่ป่วย ไม่มีอะไรใช่ไหม” ประตูถูกล็อกเอาไว้ แต่เพียงแค่อวี้เอ๋อร์ลูบประตูเบาๆประตูบานนี้ก็ถูกผลักออก โดยถังซีเข้าไปคนแรกและถามขึ้นเบาๆ
“ป่วยเหรอ ก็ไม่นี่ ฉะ...ฉันไม่เป็อะไร พวกเธอออกไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะออกไป” ซุนหลิงหลิงพุดขึ้นด้วยความเขินอายจะไม่อายได้อย่างไรก็ในเมื่อตนเองภายใต้ผ้าห่มเปลือยเปล่า โทษตาบ้านั่นเลยดึกดื่นแล้วยังจะมาวุ่นวายให้ได้ ตอนเช้าเธอเองก็ไม่ได้ตื่นมาเลยขายหน้าสาวๆพวกนี้
“พี่หลิงหลิง นี่อะไรเหรอ พี่นี่ก็เปิดกว้างดีเหมือนกันนะ นอนเปลือยซะด้วย” โหยวโยวโยวเห็นชุดชั้นในตัวน้อยที่อยู่บนพื้นเลยพูดยิ้มๆ กับหลิงหลิง
“อะแฮ่มๆๆ พวกเธอออกไปเร็วๆ เลย ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบออกไปเร็ว” แม้ซุนหลิงหลิงอายุมากกว่าพวกเธอสองปี แต่เด็กๆ พวกนี้เห็นของส่วนตัวของตนเธอก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นไม่ได้
“ฮ่าๆ พี่หลิงหลิงอายซะแล้ว พวกเราออกไปกันเถอะ” โหยวโยวโยวพูดยิ้มๆ
“พี่หลิงหลิง เมื่อคืนตาบ้ามาหาพี่เหรอ พี่เปลี่ยนชุดเถอะพวกเราเป็ผู้หญิงกันทั้งนั้น พี่ไม่ต้องกลัวหรอก” อวี้เอ๋อร์พูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวฟ้าดิน
“น้องอวี้เอ๋อร์ พี่ขอร้องเธอล่ะ หยุดพูดได้แล้ว พวกเธอออกไปกันเถอะ” ซุนหลิงหลิงพูดขึ้นเบาๆ ด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“พวกเราออกไปกันเถอะ พี่หลิงหลิงอายแล้วล่ะ ฮ่าๆ” พูดเสร็จ อวี้เอ๋อร์ก็พาสาวๆ เดินออกจากห้องของหลิงหลิง “ตาบ้า ตอนกลางคืนยังจะทำเื่แย่ๆ อีก แดนมนุษย์นี่สนุกจริงๆ เลย ฮ่าๆ”
“เสี่ยวซี เธอคงไม่ได้ปวดใจหรอกใช่ไหม” ซูเยี่ยมองถังซีที่มีสีหน้ายิ้มแย้มแล้วถามขึ้นเบาๆ
“ปวดใจอะไรกันล่ะ เสี่ยวเยี่ยจื่อเธออย่าเดามั่วซั่วสิ ไปกันพวกเราไปกินข้าวกัน” ถังซีลากซูเยี่ยไปยังห้องรับแขกโดยบนโต๊ะมีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็ม
“เสี่ยวไฮว่ แกมานี่หน่อยสิ” ในขณะที่ทุกคนกินข้าวกันอยู่นั้นนายหญิงกัวก็โบกมือพร้อมกับพูดกับกัวไฮว่อยู่อีกฟากของห้องรับแขก
“พวกเธอดูสิ คุณย่าดูเด็กลงกว่าเมื่อกี้เยอะเลยใช่ไหม” ซุนหลิงหลิงเพิ่งจะนั่งบนม้านั่งแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“แน่นอนสิ ก็กัวไฮว่ให้คุณย่าทานยากันแก่ พวกเธอก็เคยกินแล้วใช่ไหมล่ะ” ใน่ขณะที่นายหญิงกัวปรากฏตัวขึ้น เธอก็ััได้ถึงพลังเซียนมีเพียงยาลูกกลอนบน์เท่านั้นจึงจะมีความรู้สึกแบบนี้ต้องเป็เพราะกินยาลูกกลอนที่กัวไฮว่ทำขึ้นแน่ๆ เลยเด็กลงไปเยอะต้องเป็ยากันแก่อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อสาวๆ ได้ยินที่อวี้เอ๋อร์พูดก็ผงกศีรษะกันเกรียวกราวมีเพียงหนานกงหลิงโม่ที่มองอวี้เอ๋อร์ด้วยสีหน้าใ
“พี่คะ มียากันแก่ของแบบนี้จริงๆ เหรอ ตาพี่บ้าทำยาเองเลยเหรอให้ฉันเม็ดหนึ่งด้วยได้ไหม” หนานกงหลิงโม่พูดเบาๆ
“เสี่ยวหลิงโม่ เธอยังเด็กไป จะกินยากันแก่ตอนนี้ไม่ได้แต่หมอนั่นน่าจะมียาลูกกลอนที่เหมาะกับเธอ แต่ตามกฎของสำนักเราแล้วจะมาให้เธอมั่วซั่วไม่ได้” อวี้เอ๋อร์พูดยิ้มๆ
“หรือว่าขอแค่ฉันเป็เมียกับตาพี่บ้านั่นถึงจะให้ฉันงั้นฉันก็ตกลงเป็เมียเขา” หนานกงหลิงโม่พูดเสียงดังไม่นาน สาวๆ ก็ขำออกมา
“พวกพี่ขำอะไรกัน ฉันจริงจังนะ ฉันเองก็อยากกินยาลูกกลอนดีๆ” หนานกงหลิงโม่พูดเสียงดัง
“คุณย่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำตัวลึกลับซับซ้อน” กัวไฮว่เห็นนายหญิงกัวพูดยิ้มๆ เขาก็รู้โดยทันทีว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกับนายหญิงเธอกินยากันแก่ไป ไม่นายร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ คงเป็เพราะเธอใอึ้งไป
“ยาลูกกลอนที่แกให้ตาแก่กับย่ากินคือยาอะไรเหรอ แกดูย่าสิแปบเดียวก็เด็กลงไปหลายปี ย่าจะออกไปข้างนอกยังไงเนี่ย เพื่อนเก่าจำย่าไม่ได้แน่เลย” นายหญิงกัวพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ยานี่มีอาการข้างเคียงไหมจะโยโย่ไหม พรุ่งนี้ย่าจะกลับมาเป็แบบเมื่อก่อนอีกไหม”
“แล้วย่าอยากเป็แบบตอนนี้หรือจะกลับเป็แบบเดิมล่ะครับ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ
“แน่นอนว่าแบบตอนนี้สิ ผู้หญิงเขาก็รักสวยรักงามกันตลอดเวลาแหละ” นายหญิงกัวพูดยิ้มๆ
“งั้นเกรงว่าย่าจะผิดหวังแล้วล่ะครับ” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เพราะยานี่ช่วยให้ย่าเป็แบบนี้ได้แค่ห้าสิบปีห้าสิบปีหลังจากนี้ก็จะค่อยๆ แก่ลง”
“อ้อ แบบนี้นี่เอง ฉันก็ว่าจะเป็แบบนี้ไปตลอดไม่ได้ ห้าสิบปี ปีนี้ฉันอายุเจ็ดสิบแปดห้าสิบปี เด็กบ้า แกอยากตายหรือไง” นายหญิงพูดพลางหัวเราะเมื่อพูดเสร็จเธอก็วิ่งแจ้นเข้าไปในห้อง
“ตาแก่ เดี๋ยวออกไปเป็เพื่อนฉันซื้อชุดหน่อยนะ ฉันอยากซื้อชุดใหม่ๆเมื่อก่อนไม่ค่อยรู้เื่การแต่งตัวเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันอยากแต่งตัวให้สวยๆไม่จะขายหน้างั้นหลานสะใภ้เอา” ในขณะที่สาวๆรับประทานอาหารกันอยู่นั่นเอง จู่ๆพวกเธอก็ได้ยินเสียงนายหญิงกัวพูดขึ้นด้วยเสียงดังลั่นไม่นานทุกคนก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
[1] ในที่นี้หมายถึงทางช้างเผือก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้