บทที่ 61 หกล้มหัวทิ่ม
การได้ขับรถไถในประชาคมในยุคสมัยนี้ ถือเป็เื่ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะใน่ฤดูเก็บเกี่ยว ไม่ว่าจะไถนา ลากข้าวสาลี นวดข้าว หรือทำอะไรก็ตาม หากหมู่บ้านไหนมีคนขับรถไถสักคน คนทั้งหมู่บ้านก็จะรู้สึกภาคภูมิใจไปด้วย เพราะคนขับรถไถคนนั้นจะเร่งทำงานในไร่นาของหมู่บ้านตัวเองก่อน
ส่วนหมู่บ้านที่ไม่มีคนขับรถไถ ขอโทษที รอไปก่อนเถอะ รอให้คนเขาทำงานเสร็จแล้วค่อยถึงตาพวกคุณ
แต่พืชผลที่ปลูกอยู่ในดินจะรอได้เหรอ? ดังนั้นหมู่บ้านที่ไม่มีก็ทำได้แค่ต้องใช้แรงคน
แต่คนกับเครื่องจักรนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ไม่เพียงแต่เหนื่อย ประสิทธิภาพยังไม่สูงอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้พ่อของจ้าวเจี้ยนเซ่อซึ่งเป็หัวหน้าหมู่บ้าน จึงทุ่มเทกำลังอย่างมากในการพาเขาไปทำงานเป็คนขับรถไถในหน่วยงานส่วนรวม
ยิ่งไปกว่านั้น เงินเดือนเดือนละยี่สิบหยวนของเขา หากเขาหย่ากับลู่ซือหยวน สาวบริสุทธิ์ก็มีให้เลือกอีกมากมาย
ลู่ซือหยวนรู้บ้างไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?
“อย่าโวยวายเลย” จ้าวเจี้ยนเซ่อกล่าว “รีบกลับบ้านกับฉันเถอะ”
การหย่าเป็เพียงแค่สิ่งที่เธอใช้ขู่เขาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นหากเขากล้าหย่ากับลู่ซือหยวน บ้านตระกูลลู่ในเมืองหรือหน่วยงานส่วนรวม พูดอะไรออกมาสักคำ งานขับรถไถของเขาก็คงจะหายไป
“กลับบ้าน ฉันจะบอกแม่ให้ หลังจากนี้ไปทุกเดือนจะให้เงินเธอสามหยวน ดีไหม?” นี่คือสิ่งที่เขาสามารถทำได้มากที่สุดแล้ว
“สามหยวน?” ลู่ซือหยวนเช็ดน้ำตาที่หางตาแล้วกล่าว
ดังนั้นเธอกับลูกสาวจึงมีค่าแค่สามหยวนเท่านั้นเหรอ?
“นายฟังให้ดีนะ ฉันจะหย่ากับนาย” เธอพูดอย่างดื้อรั้น “หย่า!”
“คุณย่า” จ้าวเจี้ยนเซ่อเม้มปากพูดกับคุณนายลู่ “คุณย่าช่วยเกลี้ยกล่อมซือหยวนหน่อยเถอะครับ ผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้อย่างเธอ ถ้าหย่าไปแล้วจะใช้ชีวิตยังไง?”
“ผมอาจจะให้เงินที่บ้านน้อยไปหน่อย แต่ผมก็เป็ลูกชายคนโต ตอนแรกที่บ้านก็ทุ่มเทกำลังอย่างมากเพื่อให้ผมได้เป็คนขับรถไถ”
“ผมเป็ลูกชายคนโต ได้งานดีแล้วจะไม่เอาพ่อแม่และพี่น้องได้ยังไง?”
“จิ่งซาน นายว่าใช่ไหม?”
เหตุผลที่จ้าวเจี้ยนเซ่อถามลู่จิ่งซาน เป็เพราะคิดว่าลู่จิ่งซานจะเห็นอกเห็นใจเขาเหมือนกัน
แต่กลับได้ยินลู่จิ่งซานกล่าว “เื่น่าเบื่อของบ้านตระกูลจ้าว ฉันไม่อยากฟัง นายก็อย่าคิดว่าบ้านนายเป็แบบนี้แล้วคนทั้งโลกจะต้องเป็เหมือนบ้านนายไปด้วย”
“คำพูดของพี่สาวฉันเมื่อกี้ นายก็คงจะได้ยินชัดเจนแล้ว”
“ตอนนี้รีบกลับไปเอาหนังสือรับรองจากทะเบียนบ้านมา หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ฉันกับพี่สาวจะรอนายอยู่ที่หน้าประตูประชาคมจิ่วชวี” ลู่จิ่งซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
“จิ่งซาน นายกำลังก่อเื่ไม่ใช่เหรอ” จ้าวเจี้ยนเซ่อร้อนใจ “มันเป็แค่ความเข้าใจผิด ฉันรับประกันได้เลยว่าต่อไปนี้จะไม่ทำร้ายใครอีกแล้ว ได้ไหม?”
พรืด!
สวี่จือจือหัวเราะออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
รับประกัน? การรับประกันที่ไม่มีความจริงใจแบบนี้ หลอกเด็กยังไม่ได้เลย
การให้ลู่จิ่งซานไปด้วยกันที่ประชาคมจิ่วชวีเพื่อทำเื่หย่า หากเขาไปพูดเื่ไม่ดีของเขาให้คนทางนั้นฟัง งานขับรถไถของเขาคงจะทำได้ไม่นาน ดังนั้นจ้าวเจี้ยนเซ่อถึงได้ร้อนใจ
ถึงแม้ว่าในใจของเขาจริงๆ แล้วก็อยากจะหย่ามากก็ตาม
“ไม่ต้องห่วง” ลู่จิ่งซานกล่าวอย่างเยาะเย้ย “ตราบใดที่บ้านนายทำเื่หย่าให้เรียบร้อย หลังจากนี้ไปสองบ้านก็จะไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง”
“หากพวกนายคิดจะเล่นตุกติกอะไร ให้ฉันได้ยินคำพูดที่ไม่ดีเกี่ยวกับพี่สาวฉันสักคำ” ลู่จิ่งซานยิ้มอย่างเ็า “บ้านตระกูลลู่ของฉันก็ไม่ใช่ว่าจะรังแกกันง่ายๆ”
สีหน้าของจ้าวเจี้ยนเซ่อเปลี่ยนไป จนถึงตอนนี้เขาถึงได้ตระหนักว่า ลู่ซือหยวนไม่ได้กำลังงอนเขา ไม่ได้กำลังขู่เข็ญเพื่อเจรจาต่อรอง แต่เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะหย่า สีหน้าของเขาก็ไม่สู้ดี
ใช่ เขาอยากจะหย่ากับลู่ซือหยวน แต่ไม่ใช่เป็การถูกผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้อย่างเธอเขี่ยทิ้งแบบนี้ ถ้าเื่นี้แพร่งพรายออกไป เื่การแต่งงานของเขาคงจะไม่ดีเหมือนที่แม่เขาคิดไว้
แต่คนที่พูดอยู่นี้ ถ้าเป็คุณนายลู่เขายังไม่กลัวขนาดนี้ แต่นั่นคือลู่จิ่งซาน เพราะ่สองสามปีนี้ไปเป็ทหาร คนเลยลืมไปว่าเมื่อก่อนเขาเป็จอมมารชื่อดัง ถึงจะไม่มีคุณนายลู่ ทั้งอำเภอโจวสุ่ยก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุเขา
ในตอนนั้นที่เขาแต่งงานกับลู่ซือหยวนก็เพราะเห็นแก่ปัจจัยต่างๆ ของบ้านเธอ แต่กลับไม่คิดว่าปัจจัยเ่าั้วันหนึ่งก็เหมือนกับดาบสองคมที่หันมาจ่อเขา
จ้าวเจี้ยนเซ่อใจสั่น แอบคิดว่า แย่แล้ว วันนี้คงจะหนีการหย่าไม่พ้นแล้ว
พอสบกับดวงตาลุ่มลึกและสงบนิ่งของลู่จิ่งซาน ราวกับว่าความคิดที่สกปรกทั้งหมดในใจของเขาถูกเขามองทะลุปรุโปร่ง จ้าวเจี้ยนเซ่อกดความสั่นแล้วกล่าว “ซือหยวน หนึ่งวันเป็สามีภรรยา ร้อยวันมีความผูกพัน หากต่อไปเธอเจอเื่อะไร...”
“ไปให้พ้น” ลู่จิ่งซานขัดคำพูดของเขาอย่างรังเกียจ “หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ถ้าไม่เห็นทะเบียนบ้านของบ้านพวกนาย...”
เขายังพูดไม่ทันจบ จ้าวเจี้ยนเซ่อก็วิ่งออกไปอย่างร้อนรนแล้ว
โครม...
วิ่งเร็วเกินไป เท้าสะดุดล้ม หัวทิ่มลงไปอย่างงดงาม หน้าผากกระแทกเข้ากับธรณีประตูบ้านพอดี เืไหลเป็ทางยาว
ตอนที่จ้าวเจี้ยนเซ่อลุกขึ้นมาก็เอามือกุมหน้าผากอย่างงุนงง “เื...ฉันเืออกแล้ว...”
ถ้าเป็เมื่อก่อน หากเขาแค่สะกิดโดนอะไรนิดหน่อย ลู่ซือหยวนก็จะเสียใจเป็อย่างมาก และรีบหายามาให้เขาห้ามเื แต่ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นกลับยืนอยู่ในลานบ้านอย่างสงบ ไม่มีความสะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น
ช่างเป็ผู้หญิงที่ใจร้ายเสียจริง!
จ้าวเจี้ยนเซ่อแค้นในใจ กัดฟันลุกขึ้นมาขี่จักรยานเก่าๆ หนีไป
บ้านตระกูลลู่ สวี่จือจือเอามือปิดปาก เมื่อกี้เธอแค่บ่นเบาๆ ว่า “ทำไมไม่ล้มตายไปเลย” แล้วจ้าวเจี้ยนเซ่อก็หกล้มหัวทิ่ม
จ้าวเจี้ยนเซ่อไปแล้ว ในลานบ้านเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เป็เสียงโกรธของลู่หวยเหริน “ลู่จิ่งซาน แกรู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
“แล้วก็แกด้วย ลู่ซือหยวน” ลู่หวยเหรินโกรธจนแทบตาย ชี้ไปที่ลูกสาวคนโตแล้วด่า “รีบกลับไปบ้านตระกูลจ้าวกับฉัน ไปคุยกับบ้านตระกูลจ้าวว่าจะแยกบ้านให้พวกแกสองคน”
“แยกบ้าน?” ลู่จิ่งซานพูดอย่างโกรธเคือง “คุณพ่อจะให้พี่สาวผมเป็วัวเป็ม้าให้คนสารเลวแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยหรือไง?”
ตอนที่ลู่ซือหยวนแต่งงาน เขาไปเป็ทหารแล้ว ไม่ได้ติดต่อกับจ้าวเจี้ยนเซ่อมากนัก เมื่อก่อนไม่ค่อยเข้าใจคนคนนี้ แต่สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ทำให้ลู่จิ่งซานรู้สึกขยะแขยง
ถ้าก่อนหน้านี้ลู่หวยเหรินไม่ได้เห็นหน้ากากของจ้าวเจี้ยนเซ่อแล้วพูดอะไรออกไปก็คงจะไม่ว่าอะไร แต่เมื่อกี้อีกฝ่ายก็อยู่ในเหตุการณ์ จ้าวเจี้ยนเซ่อทำตัวแบบนั้น อีกฝ่ายตาบอดหูหนวกมองไม่เห็นไม่ได้ยินหรือไง? ยังกล้ามาด่าพวกเขาอีก!
“ไม่ต้องห่วง” ลู่จิ่งซานกล่าว “พี่สาวผมไม่ต้องให้คุณพ่อดูแล พี่สาวกับลูกผมดูแลเอง”
“แกดูแล?” ลู่หวยเหรินกระทืบเท้าด้วยความโมโห “แกจะเอาอะไรมาดูแล? ตอนนี้แกก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ถ้าแกรับปาก เมียแกจะยอมเหรอ?”
ทุกคนเลย เห็นการแต่งงานเป็เื่เล่นๆ หรือไง? อยากจะหย่าก็หย่า!
“ไม่มีอะไรที่ไม่ย่อมนี่คะ” สวี่จือจือกล่าว “พี่สาวฉันมีมือมีเท้า เมื่อก่อนปรนนิบัติคนทั้งบ้านตระกูลจ้าว ตอนนี้ไม่มีคนพวกนั้นมาผลาญ เธอก็จะใช้ชีวิตได้ดีขึ้นเท่านั้น!”
“แล้วพวกแกจะต้องเลี้ยงดูเธอไปตลอดชีวิตหรือไง!” ลู่หวยเหรินะโ
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้