เย่เฟิงไม่ได้ใช้ทักษะล่องหนกับตัวเองและจื่อเจี้ยนหลาน ย่อมมีเหตุผล หลี่เสวียนและศิษย์คนอื่นของตำหนักไท่จี๋กำลังไล่ตามเขามา ถ้าพวกมันหาร่องรอยของเขาไม่เจอย่อมกระตุ้นความสงสัยของอีกฝ่าย หลี่เสวียนมีพลังวรยุทธ์ถึงเก้าสิบห้าปี หากชายชราเข้ามาใกล้ก็มีความเป็ไปได้ว่าอาจค้นพบชายหนุ่มและพวกของเขาที่กำลังใช้ทักษะล่องหน แต่หากเย่เฟิงคอยดึงดูดความสนใจอยู่ด้านนอก ฝ่ายตรงข้ามคงไม่มีเวลาว่างไปสำราจโดยรอบบริเวณที่หลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานอยู่
“ฉันไม่ได้คิดจะหนี” เย่เฟิงตอบคำถามหลี่เสวียนก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ตามที่ตกลงกันไว้ ฉันจะให้นายเจอหลิงเฉินลูกศิษย์ของนาย แต่นายกลับระดมกำลังคนมาเช่นนี้ ทั้งยังมีเ้านั่น...”
เย่เฟิงเหล่ตามองเฉินฮุยที่ยืนอยู่ข้างหลี่เสวียน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจมาก
“หึ นายจะบอกว่าหลิงเฉินลูกศิษย์ของฉันยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ เฮอะ มันจะเป็ไปได้ยังไง!”
หลี่เสวียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ร่างที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาวอยู่ห่างจากเย่เฟิงเพียงสองก้าว “การตายของหลิงเฉิน คนทั้งยุทธจักรล้วนทราบกันดี ภายใต้คมกระบี่ของหลงโม่หรานเขาจะสามารถรอดไปได้ยังไง?”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็เพราะถูกนายใช้เป็เกราะกำบังอย่างไรล่ะ เขาถึงได้ตาย...
ประโยคหลังหลี่เสวียนไม่ได้พูดออกไป แต่ในใจก็คิดเช่นนี้ ทำให้เขายิ่งเกลียดเย่เฟิงมากขึ้นไปอีก
พูดตามตรง หลี่เสวียนไม่ได้คาดหวังอะไรกับหลิงเฉินมากนัก ตอนอยู่ที่ตำหนักไท่จี๋ก็ไม่ได้มอบทรัพยากรเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์แก่เขา แต่ถึงอย่างไรหลิงเฉินก็ถือเป็คนของตำหนักไท่จี๋ ทั้งยังเป็เขาที่เก็บอีกฝ่ายมาจากกองไฟั้แ่แรก หากไม่ให้เขาเรียกร้องความยุติธรรมแทนหลิงเฉินคงเป็เื่ที่น่าอายเกินไป
“ใช่” เมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่เสวียน เฉินฮุยก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยาม “แกฆ่าคนของตำไท่จี๋เรา ที่ผ่านมาสองเดือนนี่ก็ถือว่าให้ค่าแกมามากพอแล้ว ถึงวันนี้แกคิดจะหนีก็ทำไม่ได้หรอก!”
เฉินฮุยพูดพลางมองจื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ในอ้อมแขนเย่เฟิง ดวงตาฉายแววหลงใหลและกระหายอยาก
ต้องบอกว่าเฉินฮุยยังคงคะนึงถึงจื่อเจี้ยนหลานมาตลอด ได้ยินว่าตอนที่อยู่เมืองเยี่ยนจิง เย่เฟิงก็มีหญิงสาวถึงสองคนแล้วจึงยังไม่ได้ทำอะไรจื่อเจี้ยนหลาน เฉินฮุยรู้สึกว่าช่างเป็การเสียของ หากเปลี่ยนเป็เขา เขาจะยอมปล่อยจื่อเจี้ยนหลานไปได้อย่างไร? ได้พบสาวสวยเช่นนี้ หากเธอสามารถลุกจากเตียงได้ในวันรุ่งขึ้น คงเป็เื่ผิดที่ต่อความเป็ชายอกสามศอกแล้ว!
เมื่อเห็นเย่เฟิงโอบกอดจื่อเจี้ยนหลานอยู่ตรงหน้า ความโกรธของเฉินฮุยก็แทบจะปะทุออกมา การที่ผู้หญิงของเขาถูกเย่เฟิงโอบกอดเช่นนี้ มันไร้เหตุผลสิ้นดี! คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องจับตัวเย่เฟิงกลับไป ไม่เพียงเล่นสนุกกับจื่อเจี้ยนหลานเท่านั้น แต่ยังจะจับตัวหญิงสาวทั้งสองคนของเย่เฟิงเพื่อเล่นสนุกกับพวกเธอด้วย... ในใจเฉินฮุยจินตนาการว่าเขาควรทรมานผู้หญิงของเย่เฟิงอย่างไรเพื่อให้อีกฝ่ายเ็ปทรมานใจที่สุด
ทันใดนั้นก็เกิดกระแสลมพัดจากป่าด้านข้างอย่างแรง ทำให้หลี่เสวียน เฉินฮุย และลูกศิษย์คนอื่นของตำนักไท่จี๋ตื่นตัวขึ้นมา นี่มันอะไรกัน หรือว่ามีคนแอบซุ่มโจมตีงั้นเหรอ?
เพียงไม่นานด้านข้างของพวกเขาก็ปรากฏร่างเงาของใครบางคน ซึ่งทำให้คนทั้งหมดตื่นตะลึง
หลิงเฉิน?
เป็ไปได้อย่างไร!
ชายหนุ่มสวมหน้ากาก บนตัวของเขาสวมเสื้อยืดแขนสั้น กำลังก้าวออกมาจากป่าที่อยู่ด้านข้าง รูปลักษณ์เหมือนหลิงเฉินเมื่อก่อน
หลิงเฉินเดินมาทางหลี่เสวียนทีละก้าว มองผ่านหน้ากากมายังชายชราที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตเขาออกมาจากกองเพลิง ในใจเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและรู้สึกขอบคุณ หากหลี่เสวียนไม่ช่วยเขาในวันนั้นก็คงไม่มีเขาในวันนี้ มิตรภาพในครั้งนี้เขาจะจดจำมันไว้ในใจตลอดไป
นี่เป็ร่างที่หลิงเฉินสร้างมันขึ้นมาให้เหมือนกับตอนที่ยังมีชีวิต ก่อนที่เย่เฟิงจะรักษารอยไหม้บนใบหน้าของเขา ทว่ามันสามารถคงอยู่ได้เพียงห้านาทีเท่านั้น
“ท่านอาจารย์”
หลิงเฉินหยุดยืนห่างจากหลี่เสวียนสิบเมตร กลุ่มคนของตำหนักไท่จี๋ยังไม่สามารถเรียกสติตัวเองกลับมาได้ เื่นี้ทำให้พวกเขาใมากเกินไปแล้ว
หลิงเฉินที่ตายภายใต้คมกระบี่ของหลงโม่หรานไปเมื่อสองเดือนก่อนที่แถบทะเลตะวันออกปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้ เป็เื่น่าเหลือเชื่อ หรือว่าเย่เฟิงจะสามารถชุบชีวิตคนตายได้? แต่ถึงจะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ หลิงเฉินก็ไม่ควรที่ยืนอยู่ข้างเย่เฟิง เพราะเย่เฟิงใช้เขาเป็เกราะกำบังจนทำให้เขาเสียชีวิต— คนของตำหนักไท่จี๋ล้วนคิดเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าข่าวลือเป็สิ่งที่น่ากลัว แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงเฉินและเย่เฟิง หลิงเฉินยอมปรากฏตัวเพื่อ้าอธิบายเื่ราวทั้งหมดแก่หลี่เสวียน
แน่นอนว่าหลิงเฉินจะไม่พูดถึงการสมานิญญา เื่วิถีเซียน เป็เื่ที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เขา้าบอกหลี่เสวียนถึงสาเหตุการตายของเขาว่าไม่ได้เป็เพราะเย่เฟิง มันคงจะดีหากหลังจากนี้เขาได้ทำหน้าที่อยู่เคียงข้างเย่เฟิง
“ท่านอาจารย์ คือ—”
หลิงเฉินเอ่ยปาก ้าจะอธิบายทุกอย่างให้ชัดเจน
ทว่าในเวลานั้นเอง เฉินฮุยที่อยู่ด้านข้างก็โพล่งออกมาก่อน “ช่างกล้านัก แกเป็ใครกันแน่ถึงกล้าปลอมตัวเป็คนของตำหนักไท่จี๋! ศิษย์น้องหลิงเฉินตายไปนานแล้ว แกยังจะทำให้เขาตายไม่สงบ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!”
ทันทีที่เฉินฮุยพูดคำเหล่านี้ออกมา ศิษย์คนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบของตำหนักไท่จี๋ต่างก็ได้สติ
จริงสิ หลิงเฉินจะสามารถฟื้นกลับมามีชีวิตได้อย่างไร เ้าคนตรงหน้าต้องเป็หลิงเฉินตัวปลอมแน่นอน ไม่เช่นนั้นมันจะสวมหน้ากากไปทำไม? เพียงหาคนที่รูปร่างใกล้เคียงกันก็สามารถปลอมแปลงเป็อีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว!
หลี่เสวียนสีหน้าเ็า “แกเป็ใคร!”
หลิงเฉินที่เป็เพียงเด็กหนุ่มเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ก็ถึงกับผงะด้วยความใ “ท่านอาจารย์ ผมเอง...”
“หุบปาก! ผู้าุโหลี่โปรดกระชากหน้ากากมันออกก่อนเถอะครับ!” เฉินฮุยะโเสียงดัง
หลี่เสวียนเองก็ไม่รีรอ ยกมือปล่อยพลังภายในออกมาทันที ปรากฏเป็หมัดวายุที่ดูราวกับลมพายุคลั่งซัดไปยังทิศทางที่หลิงเฉินยืนอยู่ เป้าหมายก็คือหน้ากากบนใบหน้าของเขา
หลิงเฉินเองก็นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะลงมืออย่างไร้ความลังเลเช่นนี้ ความตกตะลึงทำให้เขาปล่อยให้หมัดวายุของหลี่เสวียนปลด ‘หน้ากาก’ ออกไปพร้อมกับแผดเผาจนหน้ากากกลายเป็ฝุ่นผง
เดิมทีหน้ากากนั่นก็เป็สิ่งที่เขาใช้พลังิญญาในการสร้างมันขึ้นมา เมื่อต้องปะทะกับพลังอันแข็งแกร่งจากหมัดวายุของหลี่เสวียนก็พลันแหลกสลาย ไม่เพียงเท่านั้นใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งก็ถูกหมัดของหลี่เสวียนทำลายไปด้วย
ทุกอย่างแหลกสลายเป็ฝุ่นผงเมื่อปะทะกับหมัดของหลี่เสวียน!
“ของปลอมจริงๆ ด้วย!” เฉินฮุยหัวเราะเสียงดัง ก่อนชี้เย่เฟิง “ตอนนี้มาดูสิว่าแกยังจะมีลูกไม้อะไรอีก!”
“ลงมือ” เย่เฟิงสั่งหลิงเฉิงด้วยสีหน้าเยียบเย็น
ในเมื่อพวกเขาเป็ฝ่ายสะบั้นความสัมพันธ์เองเช่นนี้ เย่เฟิงก็ไม่จำเป็ต้องเห็นแก่หน้าพวกเขาอีก เพียงแต่ตอนนี้หลิงเฉินยังไม่เหมาะที่จะใช้พลังสร้างร่างขึ้นใหม่อีก ไม่เช่นนั้นวิชาการผสานิญญาอาจถูกเปิดเผยต่อหน้าฝ่ายตรงข้าม
เมื่อการเจรจายุติลง ต่อไปคงต้องใช้กำลังกันแล้วล่ะ!
ที่เขานิ่งสงบไม่ใช่เพราะกลัวหรือคิดหนี แต่หากเขาลงมือก็เกรงจะทำให้ผู้คนตื่นตระหนกต่างหาก!
เวลาจู่โจมเย่เฟิงมักลงมือปลิดชีพอีกฝ่ายในครั้งเดียวเสมอ แต่ไหนแต่ไรในการต่อสู้เขาก็มักจะปิดฉากชีวิตของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาไม่รีรอที่จะสื่อจิตไปถึงหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานที่กำลังใช้ทักษะล่องหนซ่อนตัวอยู่ รวมทั้งให้จ้าวอี้เป้ยและหลิงเฉินพุ่งเป้าโจมตีไปที่หลี่เสวียน!
ในบรรดาคนของตำหนักไท่จี๋นอกจากหลี่เสวียนที่มีพลังวรยุทธ์เก้าสิบห้าปีแล้ว คนอื่นๆ ก็มีระดับวรยุทธ์เพียงสามสิบสี่สิบปีไม่ต่างจากเฉินฮุย หรืออาจจะต่ำกว่านั้น เพียงจัดการหลี่เสวียนได้ คนอื่นที่เหลือก็ไม่มีใครพอจะเป็ภัยคุกคามพวกเขาได้
สิ่งเดียวที่ทำให้เย่เฟิงเป็กังวล คือการที่หลี่เสวียนเป็อาจารย์ของหลิงเฉิน ทั้งยังเคยช่วยชีวิตเขาจากกองไฟั้แ่ยังเด็ก และอาจเป็เหตุให้หลิงเฉินตัดใจทำร้ายหลี่เสวียนไม่ลง