“ข้าขอมาพบเ้าบ่อย ๆ ได้หรือไม่” คำขอของเข้าทำให้หญิงสาวหลุดยิ้ม
“ท่านจะขอตอบแทน ที่ข้าช่วยชีวิตท่านน่ะเหรอ” นางคล้ายจะรู้ทัน
“จะคิดแบบนั้นก็ได้” หญิงสาวเลื่อนสายตากลับไปยังดวงจันทร์กลมโตนั้นด้วยความอ่อนโยน พร้อมสายลมอ่อนพัดมาปะทะกายเป็ระยะ
“ท่านรู้หรือไม่ ว่านับจากเด็กจนโต ไม่เคยมีใคร ดีกับข้าเท่าท่านมาก่อน!” คำพูดของนางทำให้เขาชะงักนิ่ง พลันหันกลับมายังใบหน้าจริงใจของอีกฝ่าย ภายใต้รอยยิ้มของนางคล้ายซ่อนความเ็ปบางอย่างไว้ตลอดเวลา
“ท่านดีต่อข้าเช่นนี้ เหตุใดท่านจะมาพบข้าบ่อย ๆ ไม่ได้ล่ะ” คำอนุญาตของนางทำให้เขามีความสุข ทุกครั้งที่ได้พบหน้านาง เสมือนหัวใจได้เติมเต็มและอิ่มเอม ความรักความผูกพันได้ก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่ายังไม่ทันได้ ชีวิตของนางก็ถูกลอบสังหารอย่างไม่รู้สาเหตุ คล้ายใบไม้ที่ปลิดขั้ว ทิ้งลงสู่พื้นดิน ปล่อยให้เขาค้างคาใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมความเ็ป
องค์ชายสามหวนนึกถึงภาพของหยางเซียว พร้อมก้มมองปิ่นปักผมของนางในมือ พร้อมหัวใจโดดเดี่ยวอ้างว้างไร้ที่พึ่ง ก่อนสายตาจะพาดไปเห็นแสงสว่าง จากเรือนนอนของพระชายาที่ยังส่องสว่างอยู่ ต้าเหรินซีเก็บปิ่นปักผมชิ้นนั้น แล้วจับจ้องไปยังเรือนนอนของพระชายา ก่อนจะละสายตาแล้วเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
จางเหม่ยนั่งจดบันทึกรายการบางอย่าง ด้วยใจจดจ่อ ภายใต้แสงของตะเกียงที่สั่นไหวไปมา รายละเอียดต่าง ๆ ถูกนางบันทึกไว้พร้อมสายตามุ่งมั่น
“ข้ามีประสงค์อยู่สามข้อที่ต้องทำให้สำเร็จ ประสงค์ข้อที่หนึ่ง ข้าต้องเอาคืนหลิวเหมยและเยว่ฮูหยิน ในฐานะที่พวกนางข่มเหงรังแกข้าอย่างไร้เมตตาปรานีมาั้แ่เด็ก ประสงค์ข้อที่สองข้าต้องสืบให้ได้ ว่าการตายของข้าเป็ฝีมือของชายสามหรือไม่ ประสงค์ข้อที่สาม เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ข้า้าละทิ้งทุกอย่างในวังหลวง ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ณ สถานที่อันสงบ’ ” นางตั้งมั่นด้วยสายตาแน่วแน่ ก่อนพับกระดาษเก็บไว้ใต้หมอนแล้วเดินไปดับไฟ เอนกายนอนพักในทันที
เช้าวันรุ่งขึ้นเยว่จางเหม่ย เดินทางไปจวนสกุลเยว่ พร้อมนางกำนัลและทหารรับใช้อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อสองเท้าก้าวเข้ามาในจวน เยว่ฮูหยินก็เดินออกมาต้อนรับลูกสาวคนโต ด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุด
“พระชายาเสด็จมาถึงจวน นั่งก่อน” หยางเซียวในร่างของจางเหม่ยเลื่อนสายตามอง แล้วย่อตัวลงนั่งตามคำเชิญ พลันรินน้ำชาขึ้นดื่ม กิริยาเ็าผิดแปลกจากเดิม ทำให้เยว่ฮูหยินนึกแปลกใจ
“เหตุใดจึงกลับมาที่จวนเพคะ เพิ่งจะอภิเษกไปได้ไม่นาน ควรอยู่รับใช้องค์ชายสามให้มากกว่านี้”
“เื่ปรนนิบัติองค์ชายสาม ตอนไหนก็ได้ อย่าลืมว่าข้าเป็พระชายาของเขาแล้ว” นางตอบด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนเยว่ฮูหยินจะรีบย่อตัวลงนั่ง แล้วพูดเื่สำคัญในทันที
“มีอีกเื่หนึ่งที่เ้าควรรู้ ตอนนี้หยางเซียวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!” พระชายาที่กำลังยกชาขึ้นดื่มชะงักนิ่ง แล้วฟังคำพูดของเยว่ฮูหยินอย่างเงียบ ๆ
“ก่อนที่นางจะหายตัวไป ข้าลงโทษนางด้วยการเฆี่ยนตีอย่างหนัก แต่ไหนแต่ไรก็ทนได้ ไม่คิดว่าวันสุดท้ายนางจะเก็บข้าวของแล้วหนีหายออกจากจวนไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน จวนของเราไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูนาง นี่แม่ก็ส่งจดหมายไปบอกท่านพ่อแล้ว แต่พระชายาไม่ต้องเป็ห่วง นางไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากนัก นางหายไปแล้วก็ถือจบสิ้นกัน ติดตรงที่เดิมที แม่จะให้นางเข้าไปรับใช้ดูแลพระชายาที่วังหลวง มันก็เท่านั้น”
ก่อนเสียงกระแทกถ้วยชาจะดังขึ้น จางเหม่ยทอดสายตามองเยว่ฮูหยิน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เื่การหายตัวของน้องสาม ข้ารู้แล้วล่ะ” มารดาเบิกตากว้างเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ
“พระชายารู้ได้อย่างไรเพคะ”
“หลิวเหมยไม่ได้บอกท่านเหรอ ว่านางเอาเื่นี้ไปกราบทูลฮองเฮาและฮ่องเต้ เมื่อวานทั้งวังหลวงปั่นป่วนก็เพราะนาง!”
“พระชายาว่าอะไรนะเพคะ!” เยว่ฮูหยินขมวดคิ้วทำท่าใ จางเหม่ยค่อย ๆ หันไปยังคนติดตาม แล้วไล่ให้พวกเขาออกไปรอหน้าจวน ก่อนจะหันกลับมายังเยว่ฮูหยิน
“หลิวเหมยนำข่าวเื่การหายตัวไปของน้องสาม ไปทูลให้ฮ่องเต้และฮองเฮาทรงทราบ เพื่อป้ายสีข้า ว่าการหายตัวไปของน้องสามข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง!”
“ที่พระชายาพูดเป็ความจริงเหรอเพคะ?” เยว่ฮูหยินอึกอักพร้อมสายตาสั่นไหวไปมา ด้วยความใ แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ก่อนจ่างเหม่ยจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ที่ข้ามาวันนี้ ก็เพื่อมาจัดการนาง ให้รู้ว่า สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ! และท่านแม่! ต้องให้ความเป็ธรรมกับข้าด้วย” เยว่ฮูหยินได้ยินดังนั้น จึงให้บ่าวไปตามหลิวเหมยออกมา พร้อมเตรียมแส้ที่ทำจากหางสัตว์ไว้ในมือ เตรียมพร้อมเพื่อการลงโทษ
ไม่นานนักเสียงกรีดร้องของเยว่หลิวเหมยก็ดังขึ้นเป็ระยะ เสียงแส้กระทบกับร่างกายซ้ำ ๆ ทำให้จางเหม่ยยืนมองด้วยความพอใจ ภาพที่นางเคยถูกกระทำวนกลับมาให้ปมในอดีตค่อย ๆ ถูกบรรเทาไปพร้อมกับร่างของหลิวเหมย ถูกแส้ของเยว่ฮูหยินฟาดไปมาซ้ำ ๆ ไม่ต่างจากนางในอดีตเช่นกัน
“เหตุใดเ้าจึงนำเื่บ้า ๆ เช่นนั้นไปกราบทูลฮองเต้กับฮองเฮา เ้าคิดใส่ความพี่สาวเ้าอย่างนั้นรึ? ตอนนี้นางไม่ได้เป็คนธรรมดาสามัญ แต่นางเป็ถึงพระชายาขององค์ชายสาม เ้าคิดจะทำอันใดกันแน่!”